ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.บุกชิงตลาด“อินเดีย+ออสเตรเลีย”โกย 1 ล้านคนผนึกแอร์ไลน์สกระหน่ำขายตั๋วทั่วโลกแถมทัวร์สุขภาพ-บินฟรีทั่วไทย

ททท.งัดหมัดเด็ด6เดือนหลังปี’65ชิงเค้กตลาดครึ่งโลกทั่ว“เอเชีย&แปซิฟิก”

เล็งเป้าใหญ่2ประเทศหลัก “อินเดีย+ออสเตรเลีย”ปลายปีขาลโกย 1 ล้านคน

กอดคอแอร์ไลน์สกระหน่ำขายตั๋วบินอินเตอร์แถมทัวร์สุขภาพ-บินฟรีทั่วไทย

คิงเพาเวอร์ปลุกช้อปOnline Summer Saleแบรนด์เนมลด65%ถึง18เม.ย.นี้

สงกรานต์คิงเพาเวอร์4อัศจรรย์”รางน้ำ+มหาคร-พัทยา-ภูเก็ต”13-17เม.ย.นี้

KING POWER CLICK&COLLECTจัดเต็มไอเท็มผิว+บิวตี้เคาเตอร์แบรนด์โลก

ททท.ทุ่มพลิกโฉมดึงใหม่ดาวิกาทำหนัง“เที่ยวแบบใหม่”ปลุกเที่ยวไทยปี65

บางจากฯ คว้ารางวัลแห่งปี Golden Heart Award 2021ฮีโร่ช่วยคนโควิด

สงกรานต์วิถีใหม่แต่งไทยเที่ยววัดใหญ่ในเมืองกรุง “ราชบพิตร-สระเกศ”

เที่ยวสงกรานต์วิถีใหม่แต่งไทยเที่ยววัดในกรุง “ราชบพิตร-สระเกศ”

“6 วิธีเที่ยวคนเดียว”อย่างไรถึงชีลสนุกปลอดภัยต่อสุขภาพและชีวิตวิถีใหม่

“สุวรรณภูมิ”จัดทัพบริการผู้โดยสารสงกรานต์5.5แสนคนร่วมสนุกจอดรถฟรี

บินไทยฮึดสู้!!ปรับแผนเช่าฝูงบินรายชั่วโมงบินข้ามทวีปหวังชิงรายได้ปี65

 

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ

รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

 วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #ชิงตลาดครึ่งโลกทั่วเอเชียแปซิฟิก  #เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ #แต่งไทยไปเที่ยววัดในกรุงเทพ

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้https://fb.watch/cgOY0-Y1m1/

                ช่วงที่ 1 เจาะทุกมิติ !! เกมรุกตลาดต่างประเทศกับ “นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โชว์หมัดเด็ดขานรับปัจจัยบวกทั่วโลกเปิดเดินทาง ททท.นำทัพชิงเค้กนักท่องเที่ยว “เอเชีย แปซิฟิกใต้“ 6 เดือนหลัง บุก 2 ประเทศ “อินเดีย+ออสเตรเลีย” ลุ้น 1 ล้านคน กอดคอแอร์ไลน์สงัดกลยุทธ์สุดฮ็อต “ซื้อตั๋วบินแถมแหลก” ทั้ง แพกเกจสุขภาพ+ตั๋วฟรีไม่อั้นบินในประเทศ+ฟรีค่าVISA On Arrival เล็งเป้าใหญ่กำลังซื้อคุณภาพเทรนด์ใหม่ “WorkationกับNomad” กับ “คอร์ปอเรตอินเซนทีฟ” ชงรัฐขยับในประเทศ หนุนเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกับทุกชาติด้วย 3ปัจจัย 1.ปลดล็อกความสะดวกการเดินทางเข้าประเทศ  2.แก้ราคามาตรฐานค่าตรวจ RT-PCR 3.บูมเที่ยวรอยต่อไทย-มาเลเซีย

 


นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางเกมรุกตลาดต่างประเทศในเอเชียและแปซิฟิกกับคู่ค้าหลัก ๆ มีปัจจัยบวกให้ชาวต่างชาติหันมาเที่ยวเมืองไทย

 

ปัจจัยที่ 1 จากภายนอก ตอนนี้ท่าทีทุกประเทศซึ่งเป็นคู่ค้าหลักผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น โดยทยอยเปิดให้คนเดินทางได้แล้ว ทั้งออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนาม กัมพูชา ฐานใหญ่ของไทย ทางเอเชียใต้พื้นที่หลักคืออินเดีย ตอนนี้ไทยสามารถข้อตกลงทางการบินเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว (Air Travel Bubble)  

ส่วนเอเชียตะวันออก ประกอบด้วย 1.สาธารณรัฐประชาชนจีน ตอนนี้ต้องรอสัญญาณความชัดเจนจากรัฐบาลจีน ถึงแม้จะไม่ถึงขนาดปิดกั้นการเดินทางเพราะทุกวันนี้ยังคงมีนักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ มาไทยเฉลี่ยวันละประมาณ 1,000 คน แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปยังจะต้องรอประกาศอีกครั้ง  2. ญี่ปุ่น ตั้งแต่เมษายนนี้เป็นต้นไป ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางต่างประเทศเมื่อกลับเข้าไปไม่ต้องโดนกักตัวอีกต่อไปแล้ว 3.เกาหลี เปิดก่อนหลายประเทศแต่พอโอมิครอนระบาดกลับไปล็อกอีกครั้ง ล่าสุดประกาศให้ VISA 90 วัน นักท่องเที่ยวคนไทย เป็นกฎเกณฑ์ผ่อนคลายขึ้นมาก

ปัจจัยที่ 2 ภายในประเทศ คือกลไกการอนุญาตให้ทั่วโลกเข้าไทย อย่างน้อยที่สุดเมื่อรัฐบาลไทยประกาศยกเลิกมาตรการให้นานาประเทศ หลัก ๆ คือ ส่วนที่ 1 เลิกตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR จากต้นทางก่อนเข้ามาไทย ส่วนที่ 2 เปลี่ยนวิธีตรวจหาเชื้อโควิดด้วย RT-PCR ในวันที่ 5 ของการเดินทางเข้ามาถึงไทย เป็นตรวจโดยวิธี ATK แทน

ส่วนมาตรการที่ยังคงเหลืออยู่ให้นักเดินทางต่างประเทศต้องปฏิบัติ คือ 1.ยังต้องตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR ในวันแรกที่มาถึงเมืองไทย 2.ลงทะเบียนก่อนเข้าประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์ม THAILAND PASS สมัครเข้าประเทศ ซึ่งระบบเข้าที่แล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกคุ้นเคยยื่นขอและกรอกรายละเอียดแล้ว

ในทางปฏิบัติตามความคิดของผม หากสามารถเปิดให้เดินทางจากต่างประเทศเข้ามาได้ตามปกติ จะทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้น กรณีใดให้ VISA Free ได้ก็ทำไป แต่อาจจะต้องแสดงหลักฐานการตรวจฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบตามมาตรฐานสาธารณสุข แล้วสามารถเดินทางเข้าไปไทยได้เลย เพื่อจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศได้ 

มีข้อมูลยืนยันได้ว่าหลังรัฐบาลไทยประกาศมาตรการผ่อนคลาย ยกเลิกตรวจหาเชื้อโควิดจากประเทศต้นทางด้วยวิธี RT-PCR สถิติวันต่อมามียอดจองมาไทยจากนักท่องเที่ยวอินเดีย ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

กฎเกณฑ์เหล่านี้ล้วนมีผลในเชิงจิตวิทยาที่จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย

 


โดยสรุป ททท.ยังคงมั่นใจและพร้อมจะเดินเกมตลาดต่างประเทศเชิงรุกช่วง 6 เดือนหลังปี 2565 ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้ประชุมหารือกับ ททท.สำนักงานการตลาดทั่วโลก ถึงการจัดทำแผนแม่บทตลาดท่องเที่ยวของประเทศต่อเนื่องปี 2566 หรือ TATAP 2023 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เพื่อตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

นายธเนศวร์ กล่าวว่า กลยุทธ์เชิงรุกเพิ่มความสนใจให้ตลาดต่างประเทศเกิดการเดินทางเข้าเมืองไทยในนับจากนี้เป็นต้นไป หัวใจหลักคือ “ททท.ต้องจับมือกับสายการบิน” ซึ่งจะช่วยขนนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาได้ โดยในช่วงสถานการณ์โควิดสายการบินต่าง ๆ จำเป็นต้องลดทุกอย่าง ทั้ง จุดบิน-ความถี่-ฝูงบิน-พนักงาน เป็นจำนวนมาก  แต่ตอนนี้สายการบินเริ่มฟื้นกลับมาเปิดตลาดอีกครั้ง

 

เร็ว ๆ นี้ ททท.ได้ร่วมแล้วกับ 3 สายการบิน ได้แก่ 1.เวียดเจ็ท รุกตลาดเวียดนาม กัมพูชา 2.ไทยแอร์เอเชีย เปิดเส้นทางร่วมกัน 7 ประเทศ 18 เส้นทาง 3.การบินไทย ลงนามเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 ทำตลาดการขายด้วยกันในพื้นที่หลักเมืองต่าง  ๆ ในอินเดีย ปล่อยของที่ปล่อยของกระตุ้นตลาดสำคัญดังกล่าว ขณะนี้การบินไทยพร้อมเปิดบินหลากหลายเมืองในอินเดีย รวมทั้งภายในปี 2565 การบินไทยเตรียมเปิดบินออสเตรเลีย ต่อจากซิดนีย์ ก็มี เพิร์ธ เมลเบอร์น ซึ่งจะต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

 

นายธเนศวร์กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.กำหนดเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศปี 2565 ไว้แบบเปิดช่วงตัวเลขค่อนข้างกว้าง 5-15 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามท่าทีของคู่ค้าด้วย ช่วง 6 เดือนนี้อาจจะคุยกันโดยขยับเป็นปีละ 10 ล้านคน แล้วช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปีก็อาจจะหารือกันถึงตัวเลขชัด ๆ อีกครั้ง ถ้าหากโชคดีอาจจะทำได้ถึง 15 ล้านคนก็ได้ หากสถานการณ์ทั่วโลกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วนความมือระหว่าง ททท.กับ 3 สายการบิน จากนี้เป็นต้นไป “ตลาดที่จะเป็นพระเอก” ได้แก่

 


ประเทศแรก “อินเดีย” หลังจากอินเดียประกาศให้ไทยเป็นประเทศอันดับที่ 29 สามารถทำการบินเชิงพาณิชย์ (commercial flight) ได้ตั้งแต่เมษายน 2565 เป็นต้นไป ต่างจากเดิมทำได้แค่เที่ยวบินอพยพคนเท่านั้น ไม่สามารถขายตั๋วโดยสารได้

 

เมื่อสายการบินของไทยสามารถบินไป-กลับ เมืองต่าง ๆ ในอินเดีย แบบเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ ได้แล้ว ประเมินสถานการณ์บรรทุกผู้โดยสารประมาณ 70 % ภายในช่วงเมษายน-ปลายปี 2565 จะสามารถนำอินเดียมาไทยได้ถึง 500,000 คน  ททท.มั่นใจจะสามารถทำให้เข้าเป้าหมายได้

 

ประเทศที่ 2 ออสเตรเลีย ประเมินผลจากเมื่อเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มีเที่ยวบินตรง ไป-กลับ ซิดนีย์-ภูเก็ต มีออสเตรเลียสนใจมาไทยหลังล็อกดาวน์ประเทศไปกว่า 2 ปี ตอนนี้ยอดจองกลับมาพุ่งถึง 70 % แล้ว ดังนั้นสิ้นปีนี้ก็น่าจะทำได้ถึง 200,000 คน

 

เฉพาะ 2 ประเทศ อินเดีย 500,000 + ออสเตรเลีย 200,000 คน ก็ได้ไม่ต่ำกว่า 700,000 คนแล้ว ททท.พยายามเพิ่มอีกสักนิดอาจนำเข้านักท่องเที่ยวสองประเทศนี้รวมเฉียด ๆ  1 ล้านคน

ประเทศที่ 3 เวียดนาม กัมพูชา หลังจากทำความร่วมมือกับไทยเวียดเจ็ทไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีสัญญาณตลาดดีขึ้นตามลำดับ

นายธเนศวร์ย้ำว่า “พลังกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียเข้าไทย” จากความร่วมมือกับสายการบินต่าง ๆ โดยลงมือใช้แท็กติคตลาดการขายอย่างจริงจังหลายรูปแบบ” มีทั้ง 1.แพกเกจตรวจสุขภาพ ซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบิน 1 แถมฟรีโปรแกรมตรวจสุขภาพ 2.ซื้อตั๋วโดยสารระหว่างประเทศ 1 เที่ยว แถมตั๋วบินในประเทศไม่อั้น หรือต่อไปอาจจะมี 3.จองตั๋วโดยสารกับบางสายการบิน อาจจะได้รับฟรี VISA On Arrival อยู่ในช่วงการเจรจาเพื่อสร้างความร้อนแรงทางการขายให้เกิดการเดินทางจำนวนมากขึ้น

สำหรับการเจรจาความร่วมมือกับสายการบินอื่น ๆ ททท.กำลังเดินหน้าทำต่อเนื่อง เน้นหาข้อสรุปเรื่องแท็กติคการขายที่ดึงดูดนักเดินทางให้ได้ก่อน จึงจะลงนามข้อตกลงร่วมกัน เพราะไม่ต้องการลงนามเพียงแค่ทำในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เป้าหมายของ ททท.ต้องการเห็นผลทางการตลาดอย่างแท้จริงเป็นหลัก ขณะนี้ต้องทำควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์โควิดทั่วโลก ซึ่งอาจจะยังไม่ได้นิ่งเท่าที่ควร

โดย ททท.มีความมุ่งมั่นปี 2566 จะได้เห็นการเปิดประเทศต้อนรับทั่วโลกอย่างแท้จริง เพราะฉนั้นการที่ผมกล่าวในเบื้องต้น พร้อมกับได้ปูพรมพูดคุยกับ ททท.สำนักงานต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนตลาดเชิงรุกปี 2566 อย่างเต็มที่ โดยให้นโยบายแต่ละสำนักงานไม่ต้องนำปัจจัยและข้อจำกัดเรื่องโควิดเข้ามาเป็นเงื่อนไขตลาด เพราะปีหน้าจะต้องเดินหน้าอย่างเต็มที่ การคิดแผนการตลาดจะต้องเน้นเชิงบวก

 


สำหรับ “ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย” ให้เตรียมความพร้อมหลังจาก ททท.วางแผนทำตลาดเชิงรุกในเอเชีย แปซิฟิก ก่อนหน้านี้ ททท.ได้ส่งสัญญาณถึงภาคธุรกิจบ้างแล้ว ด้วยการทำโครงการนำร่องจัด “เมกะ แฟมทริป” ให้ ททท.สำนักงานต่างประเทศ และในประเทศ จัดเส้นทางสำรวจสินค้าท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ นำ “กลุ่มผู้ซื้อ” ซึ่งเป็นตัวแทนท่องเที่ยวหรือเอเย่นต์ต่างประเทศเกือบ 70 ราย สื่อมวลชนและผู้มีอิทธิพลวงการท่องเที่ยว (Influencers) รวมทั้งหมดกว่า 90-100 ราย

ที่น่าดีใจคือผู้ร่วมทริปครั้งนี้กว่า 90 % เพิ่งกลับมาเดินทางต่างประเทศครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ส่วน ททท.เลือก “เชียงใหม่” เพราะเห็นว่าช่วงเดือนมิถุนายนนี้ เอเย่นต์ก็จะได้ไปร่วมงาน TTM : Travel Mart 2022 ที่จังหวัดภูเก็ตอยู่แล้ว จึงพยายามเลือกเส้นทางประสบการณ์ใหม่ ๆ ในเชียงใหม่

ททท.ได้ให้ความสำคัญรุกเจาะเซ็กเมนต์ตลาดที่มีกำลังซื้อสูงเป็นเทรนด์มาแรง ได้แก่

กลุ่มที่ 1 Workation ทำงานเที่ยวได้ และ กลุ่ม Digital Nomad -ใช้ทุกสถานที่ทำงานผ่านโลกดิจิทัล นั่นหมายความว่า “เชียงใหม่” เป็นสถานที่รองรับตลาดนักเดินทางทั้ง 2 กลุ่มใหม่ ซึ่งจะต้องฟังเสียงสะท้อนจากผู้ซื้อ สื่อมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์ ว่า ตอนนี้เชียงใหม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอหรือยังทั้งการพัฒนา 1.โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 2.ระบบอินเตอร์ Wifi เสถียรพอหรือยัง

เพราะช่วงที่ผ่านมามีนักเดินทางตลาดต่างประเทศหลายกลุ่มไปเชียงใหม่ทั้งจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ได้เลือกไปใช้สถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็น Co-Working Space มีบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม สร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยวดังกล่าวอย่างมาก

 

กลุ่มที่ 2 ตลาดคอร์ปอเรตนานาชาติ มอบหมายให้ ททท.ที่อยู่ในความดูแลเอเชีย แปซิฟิกใต้ ทำงานใกล้ชิดกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” และ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด จำกัด เจ้าของบัตรอีลิตการ์ด ซึ่งเป็นบริษัทที่ ททท.ถือหุ้น 100 %

 

สาเหตุที่นำ ททท.ลงมาเล่นตลาดคอร์ปอเรต เนื่องจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา เอเย่นต์ท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็ล้มหายตายจากไปหลายแห่ง การจะดึงตลาดฟื้นกลับคืนมาคือการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลหรือ Incentive  มีสิ่งที่น่าสนใจคือช่วงก่อนหน้านี้สักประมาณ 10 วัน เป็นกลุ่มเสนาธิการทหารมาเลเซียเดินทางมาดูงานเมืองไทย (อาจจะเป็นผลพลอยได้จากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียมาเยือนไทย จึงทำให้มีคณะเดินทางมาดูงานด้านการศึกษา

 

ผมจึงได้จับจุดนี้โดยขอให้ ททท.ลองไปสำรวจกับท่านฑูตและผู้ช่วยฑูตทหารของประเทศต่าง ๆ มีโครงการเข้ามาดูงานในลักษณะดังกล่าวด้วยหรือไม่ เพื่อที่ ททท.จะได้เข้าไปช่วยดูแลอำนวยความสะดวก เป็นทริปผสมผสานสไตล์ Workation อยู่ด้วย คือทำงานกับพักผ่อนควบคู่กันไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองไทยได้ด้วย อาจจะทำพิธีต้อนรับ แนะนำสถานที่ต่าง ๆ ในการเดินทางไปพักผ่อน

 

หรือแม้แต่ออสเตรเลีย ผมเพิ่งจะกลับมาจากไปดูความพร้อมที่นั่น ก็มีโอกาสเข้าไปเจาะตลาด “ทหารผ่านศึก” ในออสเตรเลีย มีความผูกพันกับกาญจนบุรี ทุกปีจะเดินทางมาเยี่ยมสุสานทหารเมืองกาญจน์ แต่พอเกิดโควิดต้องห่างหายไปกว่า 2 ปี ทาง ททท.ได้รับความช่วยเหลือจากฑูตไทยประจำออสเตรเลียช่วยพาเข้าไปพบปะพูดคุยกับตัวแทนทหารผ่านศึกดังกล่าวด้วย

 

การทำงานแบบนี้โดย ททท.เข้าไปเจาะกลุ่ม “คอร์ปอเรต” ก็เป็นอีกแนวทางจะใช้เป็นนโยบายบุกทำตลาดเชิงรุกต่อไปอย่างเข้มแข็ง

 

นายธเนศวร์ ยืนยันว่า “หมัดเด็ด” ที่ ททท.จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันกับนานาประเทศที่ต่างก็เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว นั่นคือ

 

เรื่องแรก “การอำนวยความสะดวกการเดินทางของคนทั่วโลกเข้าประเทศไทย” ตัวอย่างออสเตรเลียประกาศเปิดประเทศหลังไทย ตอนนี้ยกเลิกการตรวจทั้งหมดเพื่อให้เดินทางได้ตามปกติแล้ว พอเพียงแต่ให้แต่ละคนเตรียมตัวก่อนเดินทางนิดหน่อยคือสแกนเอกสารการฉีดวัคซีน มีระบบคล้าย THAILAND PASS ไม่ได้ยุ่งยากมาก

 

เรื่องที่ 2 การแก้ไขค่าตรวจ RT-PCR ในไทยยังมีอัตราที่หลากหลายมากเกินไป นักท่องเที่ยวได้คอมเมนท์มายัง ททท.ทราบสถานการณ์ พร้อมทั้งรายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสื่อไปถึงผู้นำประเทศแล้วเช่นกัน

 

หมัดเด็ดเรื่อง “การทำตลาดเชิงรุก” นั้น ไม่น่าเป็นห่วง เพราะ ททท.มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือเรื่อง “ความสะดวกของนักท่องเที่ยวต่างประเทศในการเดินทางเข้าไทย”

 

เรื่องที่ 3 การกระตุ้นนักเดินทางหลังเปิดรอยต่อไทย-มาเลเซีย บริเวณด่านสะเดา จ.สงขลา ความจริงแล้วนักท่องเที่ยวมาเลเซียเคยมาเที่ยวเมืองไทยปีละถึง 4 ล้านคน แต่พอเปิดด่านการเดินทางแล้วเมื่อ 1 เมษายน 2565 แต่จำนวนคนเดินทางกลับมีเพียงวันละ 50 คน สาเหตุเพราะ 1.ความไม่สะดวกการเดินทา

งเข้าประเทศยังมีอุปสรรคอยู่ 2.ค่าตรวจ RT-PCR มีราคาหลากหลาย

 

หากสามารถทำความตกลงปลดล็อกข้อจำกัดทั้งหมดได้ก็จะเป็นผลดี ตอนนี้ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้สอบถามตรงมายังผม และท่านพร้อมจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เพื่อพิจารณาลดปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด

ปกติผู้ใช้บริการข้ามแดนเดิมจะเป็นนักธุรกิจ แต่ ททท.ต้องการเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวมาเลเซียมากกว่านี้ ททท.จึงพยายามเร่งทำงานร่วมกับสายการบินต่าง ๆ เพื่อเปิดตลาดการขนส่งทางอากาศให้ได้มากที่สุด

ขณะนี้ ททท.ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาล ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ปลดล็อกแต่ละอุปสรรคคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นไตรมาส 3-4 ปี 2565 น่าจะได้เห็น “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย” ขยับในทิศทางที่ดี โดยตั้งเป้าที่จะนำเข้านักท่องเที่ยวต่างประเทศมาใช้จ่ายเงินมากขึ้นตามสถานการณ์อย่างเหมาะสม เพื่อทำให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศอย่างเข้มแข็งอีกครั้ง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ปลุกช้อปOnline Summer Saleแบรนด์เนมลด65%ถึง18เม.ย.นี้

         คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ชวนช้อปรับลมร้อนกับแคมเปญพิเศษ ส่งความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กับการช้อปสินค้าแบรนด์เนม ราคาดิวตี้ฟรี เป็นของขวัญ ของฝาก ในแคมเปญ ONLINE SUMMER SALE รีบร้อนไปช้อป กับที่สุดของหน้าร้อน” ตั้งแต่วันที่ 8 - 18 เมษายนพบกับ 3 ดีลสุดคุ้ม พร้อมรับส่วนลดสูงสุดถึง 65% ช้อปได้ทันทีแบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน ช้อปเลยคลิก : https://bit.ly/3LkNJkK

         ดีลที่ 1 สินค้าแบรนด์เนมลดสูงสุด 45% เมื่อช้อปครบ 3,000.- เพียงใส่รหัส GOSUMMER

         ดีลที่ 2 แจก 500 โค้ดพิเศษ เฉพาะวันที่ 13-15 เมษายน รับส่วนลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 6,000.- รับรหัสส่วนลดได้ที่หน้าเว็บไซต์ www.kingpower.com

ดีลที่ 3 วันที่ 18 เมษายน พลาดไม่ได้กับ POWER DEAL ช้อปสินค้าที่ร่วมรายการได้จุใจแบบไม่ต้องมีขั้นต่ำ สูงสุด 65% ไม่ต้องใส่รหัสส่วนลด

         รับฟรียาดม PARTEL POCKET INHALER คละสี ทุกการสั่งซื้อและพลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งความพิเศษ! เฉพาะลูกค้า คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เมื่อใส่รหัส SV CODE ลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท

         พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาท เปิดประสบการณ์ช้อปออนไลน์เหนือขีดจำกัดได้แล้ว ที่ www.kingpower.com และ คิง เพาเวอร์ แอปพลิเคชัน


 

ข่าวที่ 2 สงกรานต์คิงเพาเวอร์4อัศจรรย์”รางน้ำ+มหาคร-พัทยา-ภูเก็ต”13-17เม.ย.นี้

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ชวนร่วมเที่ยวได้ช้อปง่ายในงาน “คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ไทยแลนด์ แดนอัศจรรย์” ภายใต้แนวคิด “อัศจรรย์รางน้ำนครา อัศจรรย์พัทยาวิถี อัศจรรย์นาวาศรีวารี อัศจรรย์นทีภูเก็ตไทย” ระหว่าง 13 – 17 เมษายน 2565 ได้ทางออนกราวนด์ตามร้านสาขาหลักในเมืองท่องเที่ยวของ คิง เพาเวอร์ ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต 

พิเศษ !! คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ระหว่าง 13 -15 เมษายน เวลา 17.00 น. ชวนนักท่องเที่ยว นักเดินทาง และนักช้อป มารวมตัวกันเพื่อชมกิจกรรมสุดพิเศษจาก 3 ศิลปินชื่อดัง ประกอบด้วย “โอม” ภวัต จิตต์สว่างดี , “เซ้นต์” ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา และ “คริส” พีรวัส แสงโพธิรัตน์ ที่จะมาสร้างสีสันและความสุขให้กับทุกคนพร้อมกันทั่วโลก

ชมการแสดงสดโชว์สุดพิเศษของเหล่าศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยพร้อมไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/Kingpowerofficial/  และ https://weibo.com/kingpowergroup

เริ่มตั้งแต่ 13 เมษายน นี้ “โอม” ภวัต จะมาโชว์รำกลองยาว วันที่ 14 เมษายน “เซ้นต์-ศุภพงษ์” แสดงรับขวัญข้าว วันที่ 15 เมษายน “คริส-พีรวัส จะมาขับร้องเพลงไทยร่วมสมัยให้ทุกคนได้ฟัง

แต่ละวันนอกจะได้ชมการแสดงจากศิลปินคนโปรดแล้ว จะได้สนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ

กิจกรรมที่ 1 ลุ้นเป็น “ผู้โชคดี” ร่วมเล่นเกมกับศิลปิน เพื่อรับของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

กิจกรรมที่ 2 เมื่อช้อปสินค้าภายในวันครบ 5,000 บาท คัด 20 คนแรก รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ถ่ายรูปคู่กับศิลปินในงาน  ส่วนชาวจีนที่ช้อปสินค้าใน TAIHAITAO ครบ 5,000 บาทขึ้นไป จะจัดให้วันละ 30 คน ลุ้นรับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นจากศิลปินประจำวัน 

พิเศษ!! ผู้ชมไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/Kingpowerofficial/  ได้จนถึง ได้ถึง17 เมษายน 2565 โดยสามารถร่วมเล่นเกมชิงรางวัลและร่วมกิจกรรมบันเทิงมากมาย อาทิ ขบวนแห่กลองยาวประกอบเพลงฉ่อยลำตัด,การแสดงระนาดเอกจาก FINO THE RANAD ดนตรีไทยร่วมสมัยวง ชื่นเอย ชื่นใจ”, การแสดงดนตรีจากแชมป์ THE POWER BAND 2021 วง ถุงเท้าแดงไม่แรงได้ไง และนักร้องคลื่นรุ่นใหม่สุนทราภรณ์  

ทางด้าน “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ชวนทุกคนเที่ยวสงกรานต์วิถีไทย  #ใกล้สวรรค์กว่าที่เคย ระหว่าง 12 – 17 เมษายน 2565 ร่วมสรงน้ำ “หลวงพ่อโสธรจำลอง” บนดาดฟ้าชั้น 78 หลังจากไหว้พรขอพรแล้วจะได้ดื่มด่ำชมวิวทิวทัศน์กรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา  

อีกทั้ง “คิง เพาเวอร์” ได้มีกิจกรรมดี ๆ มามอบให้ทุกคนได้ช้อปเติมสุข เพิ่มองศาความสนุกได้ทุกวัน กับแคมเปญ  “READY GO SUMMER ช้อปฉ่ำใจ รีบรับโปรคุ้ม สนุกทุกโปรร้อน” ช้อปได้ไม่อั้นกับสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ นักเดินทางที่มีแผนเที่ยวต่างประเทศอีกครั้งสามารถซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี แบบมีไฟลต์บินได้ หรือที่ยังไม่มีแผนเดินทางก็เลือกช้อปแบบไม่มีไฟลต์บินด้วยบริการโฮม เดลิเวอรี ได้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต ระหว่าง 6 – 17 เมษายน 2565  และศรีวารี ระหว่าง 9-10 และ 13 – 17 เมษายน 2565

“สมาชิก คิง เพาเวอร์ และลูกค้าคนไทย” เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรีทันที ให้สิทธิ์เลือกได้เลยดังต่อไปนี้

1.คูปองส่วนลดจากสินค้าที่เข้าร่วมรายการ คูปองแรกมูลค่า 1,200 บาท  เมื่อช้อปสินค้าตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ และ คูปองที่สองมูลค่า 2,000 บาท เมื่อช้อปสินค้าตั้งแต่ 8,000 บาทขึ้นไป/ ใบเสร็จ

2.รับสิทธิ์ช้อปฟรี เมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาท และรับสิทธิ์ลุ้นรางวัล GIFT CARD มูลค่า 10,000 บาท

3.รับคูปองลุ้นรางวัลเพิ่มสองเท่า ระหว่างวันที่ 13 – 17 เมษายน  และช้อปครบ 40,000 บาทขึ้นไปรับทันทีกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ

4.เพิ่มความคุ้มค่ามากขึ้นเมื่อซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 3,000 บาท หรือซื้อ CASH CARD 25,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 10,000 บาท 


ข่าวที่ 3 KING POWER CLICK&COLLECTจัดเต็มไอเท็มผิว+บิวตี้เคาเตอร์แบรนด์โลก

 

คิง เพาเวอร์ มอบความพิเศษให้นักเดินทางรีบมาใช้บริการใหม่ “KING POWER CLICK & COLLECT” ที่ช่วยให้การช้อปปิ้งสินค้า ดิวตี้ ฟรี ทางคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ สะดวกสบายอย่างเต็มที่ รับของง่ายที่สนามบินทั้งขาเข้า-ขาออก เมษายน 2565 พบกับสินค้าเทรนด์แรง 2 หมวด

1.ศูนย์รวมไอเทมดูแลผิวกายหน้าร้อน ช่วยให้ผิวสะอาดพร้อมการบำรุงผิวด้วยแล้ว เพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลายสบายตัว อย่ารอช้าเรารวมไอเทมดูแลผิวกาย ที่ช่วยให้สดชื่นทุกครั้งที่ได้ใช้มาช้อปผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากคิง เพาเวอร์

2.สายบิวตี้ห้ามพลาด!  นักช้อป นักเดินทาง ต้องห้ามพลาด พบกับโฉมใหม่ แฟล็กชิป บิวตี้ เคาน์เตอร์ “แบรนด์ชั้นนำระดับโลก” ทั้ง CHANEL, DIOR, LANCÔME, ESTÉE LAUDER, SK-II  และหลากหลายแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ 

สอบถามเพิ่มได้ที่ King Power Contact Centre 1631


ข่าวที่ 4 ททท.ทุ่มพลิกโฉมดึงใหม่ดาวิกาทำหนัง“เที่ยวแบบใหม่”ปลุกเที่ยวไทยปี65

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. วางกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศออกมาเดินทางท่องเที่ยวช่วยกันสร้างเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ภายใต้แนวคิด “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย” ท่องเที่ยวแบบใหม่ ชวนทุกคนมาเปลี่ยน (Change) การเดินทางต่างไปจากการท่องเที่ยวเมืองไทยในแบบเดิม ๆ

เพื่อร่วมมือกันนำท่องเที่ยวเข้ามาเป็นกลไกฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นไปตามเป้าหมายปี 2565 ตลาดท่องเที่ยวในประเทศ จะสามารถทำรายได้ท่องเที่ยว 6.56 แสนล้านบาท จากจำนวนรวม 160 ล้านคน/ครั้ง

ผู้ว่าฯยุทธศักดิ์ ชวนให้คนในประเทศหันมา “เดินทางท่องเที่ยวแบบใหม่” หรือ “Travel with Care” ซึ่งจะเน้นการออกเดินทางท่องเที่ยวที่ให้ความใส่ใจครอบคลุมทุกเรื่อง ทั้ง 1.การดูแลตัวเองตลอดการเดินทาง 2.การดูแลสังคม 3.การเลือกที่พัก สถานบริการที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA)

ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถทำไปพร้อม ๆ กัน แล้ววิน วิน ด้วยกันทุกฝ่าย คือ ตัวนักท่องเที่ยวเอง “ได้” รับความสนุก แล้วยังทำหน้าที่เป็น “ผู้ให้” ในการส่งต่อความสุข และมอบสิ่งที่ดีกับ “ผู้รับ” ในชุมชน สังคม และ ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว สร้างภาพรวมที่ดีทำให้เกิดการหมุนเวียนทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างดี

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท.ได้นำกลยุทธ์สื่อสารการตลาดในประเทศแบบบูรณาการ (Integrated Marketing Communication) 360 องศา ผ่านสื่อโฆษณาออนไลน์และออฟไลน์ เสนอชิ้นงานโฆษณาหลากหลายรูปแบบ สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย แล้วส่งต่อเรื่องราวการเดินทางแบบ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ทางภาพยนตร์โฆษณาชุด “เที่ยวแบบใหม่”

โดยมี “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราววิถีการท่องเที่ยวแบบใหม่ใน Travel With Care เพื่อชวนให้ทุกคนออกไปเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการ “ดูแลตัวเอง” เพิ่มขึ้นอีกนิด ก็ใกล้ชิดความสุขได้ยิ่งกว่าเดิม Care a Little More…Happy a Lot More

ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้กำกับภาพยนตร์โดยนายชยนพ บุญประกอบ (หมู) ผู้กำบมือดีจากค่าย GDH559

ททท.ใช้วิธีสื่อสารแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทยAmazing ยิ่งกว่าเดิม” ด้วยการนำเสนอรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเปลี่ยนแปลงใหม่ 3 มิติ ดังนี้

มิติที่ 1 แหล่งท่องเที่ยว - นำเสนอความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยอย่างหลากหลาย 5 ภูมิภาค หรือ Amazing Destinations ที่จะทำให้เราต้องรักเมืองไทยมากยิ่งขึ้น จนต้องบอกต่อและแบ่งปันให้คนที่เรารักออกเดินทางเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ

มิติที่ 2 วิถีชีวิตผู้คน - นำเสนอความน่ารักของมิตรภาพและหัวใจคนไทยในพื้นที่ หรือ Amazing People ไม่ว่าจะเป็นชุมชน ประเพณีต่างๆ สินค้าและบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ เพื่อพร้อมที่จะต้อนรับนักเดินทางทุกคนให้เข้ามาสัมผัสและได้เรียนรู้กับประสบการณ์ เมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม

มิติที่ 3 สังคมและสิ่งแวดล้อม - นำเสนอการเดินทางท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้นักท่องเที่ยวช่วยกันดูแลและรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมและยั่งยืน ตลอดไป หรือ Amazing Care โดยยึดหลัก BCG Model (Bio-Circular-Green Economy Model)  ผ่านการเดินทางท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ (Responsible Tourism)


ข่าวที่ 5 บางจากฯ คว้ารางวัลแห่งปี Golden Heart Award 2021ฮีโร่ช่วยคนโควิด

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ รับมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ องค์กรหัวใจทองคำ ประจำปี 2564 (Golden Heart Award 2021) จากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรหัวใจทองคำ (Golden Heart Award 2021) จากการร่วมดูแลช่วยเหลือประชาชนในการรับมือกับวิกฤติการณ์โรคโควิด-19 ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กด้อยโอกาส ผู้มีภาวะพึ่งพิงหรือผู้ที่ขาดแคลน การช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยจากโรคระบาดโควิด-19 การช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับการเยียวยาและป้องกันสาธารณภัยจากโรคโควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง จัดโดยสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (Health and Elderly Establishment Confederation : HEC) ณ โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ เมื่อเร็ว ๆ นี้

บริษัท บางจากฯ ได้จัดทำโครงการเพื่อดูแลสังคมและประชาชนที่ได้รับผลกระทบในช่วงการระบาดของโควิด-19 ครอบคลุมทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการและระดับประเทศ อาทิ โครงการบางจากชวนคนไทยสู้โควิด-19 The Series (คันละบาท/saveสาวนาเกลือ/ไข่ปันสุข)  ปันกันอิ่ม บางจากฯ ดีต่อใจ ส่งน้ำมันปันน้ำใจ ส่งท่อต่อลมหายใจ ล็อคดาวน์ไม่ล็อคน้ำใจ บางจาก x Fah First Aid สับปะรดปันสุข ดนตรีปันสุข สนับสนุนน้ำดื่มและเครื่องดื่มอินทนิลให้กับหน่วยงานด้านสาธารณสุขและผู้ที่เดือดร้อน และอื่น ๆ

                ช่วงที่ 2 ต้อนรับเทศกาลฉลองปีใหม่ไทย “สงกรานต์แต่งไทยไปเที่ยววัดในกรุง” 2 วัดใหญ่ “วัดราชบพิตรกับวัดสระเกศ” น้อมนำคติเสริมสิริมงคล พร้อมกับร่วมกิจกรรมความสุขวิถีไทยมากมาย ระหว่าง 13-17 เมษายน 2565 แล้วห้ามพลาด “6วิธีเที่ยวคนเดียว” ปลอดภัยต่อสุขภาพและวิธีใหม่ ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “สุวรรณภูมิจัดทัพรับสงกรานต์ ผู้โดยสาร 5.5 แสนคน 8-18 เม.ย.นี้ ร่วมสนุกกับกิจกรรมวัฒนธรรมในสนามบินและจอดรถฟรี ข่าวที่สอง “การบินไทยฮึดสู้!!” ปรับแผนเช่าฝูงบินใหม่รายชั่วโมง บินอินเตอร์หวังชิงรายได้ปี’65

 


พาเที่ยว -สงกรานต์วิถีใหม่แต่งไทยเที่ยววัดในกรุง “ราชบพิตร-สระเกศ”

              โปรแกรมแนะนำออกเดินทางท่องเที่ยว สัปดาห์นี้ ชวนออกเที่ยวภายใต้วิถีปกติใหม่ภายใต้มาตรฐานสาธารณสุขกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ “เทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ปีขาล 2565 ยัคงเน้นสร้างภาพลักษณ์รักษาประเพณีอันดีงามของไทย ที่สะท้อนความเป็นไทยได้ชัดเจน ส่งเสริมและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว

            ปีนี้ในกรุงเทพฯ การท่องเที่ยวทางบุญมาแรง จัดให้ร่วมกิจรรมตามวัฒนธรรมดั้งเดิม “สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด ระหว่าง 9-17 เมษายน 2565 ปักหมุดสรงน้ำพระตามคติความเชื่อเป็นสิริมงคล 2 วัดหลัก

 



วัดแรก “วัดราชบพิตรสถิตมหาเสมาราม ราชวรวิหาร” เป็นพระอารามหลวงสุดท้ายที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณี สร้างเป็นวัดประจำรัชกาล  มีพระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ และระเบียงแก้ว มีลายไทยลงรักประดับมุกที่วิจิตรสวยงาม โดดเด่นด้วย “คติ-ธุรกิจมั่นคง”



 

วัดที่สอง “วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร” มีต้นศรีมหาโพธิ์อายุ 209 ปี โดดเด่นด้วย “คติ-เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล”

         

              นักท่องเที่ยว มาร่วมได้ตลอดมหาสงกรานต์นี้ที่สองวัดหลักกับ 5 กิจกรรมดี ๆ ได้แก่


              กิจกรรมแรก ร่วมสืบสานประเพณีการสรงน้ำพระ ระหว่าง 9-17 เมษายน  ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม เช่น โขน ลำตัด หุ่นละครเล็ก ระหว่าง 13-15 เมษายน

              กิจกรรมที่ 2 ชมการสาธิต และ DIY เช่น การทำขนมไทย การแกะสลัก และออกร้านจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์ชุมชน ระหว่าง  13-15 เมษายน 2565)       

กิจกรรมที่ 3 ถ่ายภาพประชาสัมพันธ์เทศกาลสงกรานต์ และจุดถ่ายภาพ AR (Augmented Reality)

กิจกรรมที่ 4  ชมข้อมูลดีๆ  ได้ที่บูธประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่องเที่ยว

กิจกรรมที่ 5 ร่วมสนุก รับของที่ระลึก

            ส่วนอีก 8 วัด ก็จัดกิจกรรมด้วยเช่นกัน 9-17 เมษายน นี้ 1. กิจกรรมเทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2565 ได้แก่ การสรงน้ำพระ การตกแต่งบรรยากาศ/สถานที่ 2. จัดจุดถ่ายภาพประชาสัมพันธ์เทศกาลสงกรานต์ และจุดถ่ายภาพ AR (Augmented Reality)  3. บูธประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่องเที่ยว 4. กิจกรรมร่วมสนุก รับของที่ระลึก  

         ได้แก่ 1.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร คติ ราบรื่น ร่มเย็น  2.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร คติ ร่มเย็นเป็นสุข / สำเร็จสมหวัง 3.วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร คติ มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนนิยมชมชื่น  4.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร คติ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป

         5.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร คติ โชคดี มีมิตรที่ดี เดินทางปลอดภัย / ค้าขาย รุ่งเรือง 6.วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร คติ เสริมสิริมงคลให้ชีวิตและครอบครัว อายุยืนยาว  7.วัดราชนัดดารามวรวิหาร คติ พบเจอแต่ความสุข 8.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร คติ เสริมสร้างความคิด สติ ปัญญา

สุขภาพ -6 วิธีเที่ยวคนเดียวชีลสนุกปลอดภัยต่อสุขภาพและชีวิตวิถีใหม่

ใกล้เทศกาลวันหยุดยาวที่คนทั่วประเทศจะไปรวมตัวกันที่บ้านเกิด หรือตามสถานที่ท่องเที่ยว จึงมีข้อแนะนำอีกทางเลือก การเที่ยวคนเดียวอย่างปลอดภัยต่อสุขภาพ กับ 6 วิธี

1.วางแผนก่อนการเดินทาง -วางแผนให้ดีทุกครั้ง ทั้งเรื่องการเดินทาง ที่พัก อาหาร สภาพอากาศ การเงิน ตรวจสอบสถานที่จุดหมายปลายทางที่จะไปเหมาะเดินทางไปคนเดียวหรือไม่  เช่น ไม่มีรถสาธารณะ ต้องเหมารถ เหมาเรือเดินทางไปเองซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากกว่าการแชร์ค่าเดินทางกับคนอื่น การเข้าพักคนเดียว ต้องเสียค่าโรงแรมเพิ่มขึ้นหรือไม่

2.ห้ามประมาทเรื่องอาการเจ็บป่วย  จัดเตรียมยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลไปให้พร้อม หากต้องเดินทางไปต่างแดน แนะนำให้เขียนข้อมูลส่วนตัวพกติดตัวเอาไว้ เช่น ชื่อ นามสกุล สัญชาติ ช่องทางการติดต่อบุคคลที่ใกล้ชิด ชื่อและเบอร์ติดต่อโรงแรมที่เราพัก (ถ้ามี) เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน

3.เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัว  - ไปในต่างถิ่น พกอุปกรณ์ที่สามารถใช้ป้องกันตัวเอาไว้บ้าง เช่น มีดพับ นกหวีด สเปรย์ดับกลิ่นกายก็สามารถนำมาใช้พ่นใส่หน้าโจรเพื่อป้องกันตัวได้ แม้แต่รองเท้าที่สวมใส่สบาย กระฉับกระเฉง คล่องตัว ก็ช่วยให้รอดพ้นจากสถานที่ไม่น่าไว้วางใจได้

4.พกข้าวของไปในปริมาณที่สามารถดูแลตนเองได้  - ขนาดและปริมาณเหมาะสม ดูแล หอบหิ้วไปได้ด้วยตัวคนเดียวได้ง่าย เลือกใช้กระเป๋าแบบพกพาสะดวก เช่น มีสายสะพาย มีล้อลาก สามารถขนย้ายได้ด้วยตัวเอง เพียงเท่านี้ก็สามารถท่องเที่ยวได้อย่างคล่องตัว

5.ช่างสังเกตและมองหาทางหนีทีไล่อยู่เสมอ - คอยสังเกตว่ามีใครที่ไม่น่าไว้วางใจอยู่ใกล้คุณหรือไม่ สถานที่ไหนดูอันตราย รวมไปถึงมองหาป้ายทางออกฉุกเฉิน สำรวจดูบันไดหนีไฟ กริ่งเตือนเหตุฉุกเฉิน เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน โรงพยาบาล ร้านขายยา และสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้แต่ละแห่งด้วย

6.แจ้งให้คนใกล้ชิดทราบก่อนการเดินทาง - บางครั้งการเดินทางเที่ยวไปในที่ต่างๆ ด้วยตัวคนเดียวด้วยหลายเหตุผล แต่ก็ควรจะแจ้งให้เพื่อนสนิท ญาติ หรือคนรู้จักทราบล่วงหน้าว่าจะไปไหน กลับเมื่อไร หากเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย จะได้ช่วยแจ้งข่าวสาร หรือช่วยเหลือได้ทันเวลาอย่างปลอดภัย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง


ข่าวแรก “สุวรรณภูมิ”จัดทัพบริการผู้โดยสารสงกรานต์5.5แสนคนร่วมสนุกจอดรถฟรี

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์วันหยุดยาว คาดจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิจำนวนมาก ระหว่าง  9 – 18 เมษายน 2565

1.จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมประมาณ 551,665 คน หรือเฉลี่ยวันละ 55,167 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 195,484 คน และผู้โดยสารภายในประเทศ 356,181 คน เพิ่มขึ้น 106.59 %

จากการเปรียบเทียบกับเดียวกันของปีที่แล้ว (ระหว่างวันที่ 9 – 18 เมษายน 2564)    

2.เที่ยวบินคาดจtให้บริการรวมประมาณ 4,715 เที่ยว หรือเฉลี่ยวันละ 472 เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.68 %
มีสายการบินประจำและสายการบินเช่าเหมาลำ 7 สายการบินขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ รวมทั้งสิ้น 173 เที่ยวแบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 48 เที่ยว และเที่ยวบินภายในประเทศ 125 เที่ยว สายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษมากที่สุด คือ บางกอกแอร์เวย์ส 127 เที่ยว

นายกิตติพงศ์กล่าวว่า ทางสนามบินสุวรรณภูมิเตรียมช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยจะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565เวลา 00.01น. ถึง วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2565 เวลา 24.00 น. รวม 7 วัน ลานจอดรถโซนดังกล่าวสามารถรองรับรถยนต์ได้ 718 คัน รวมทั้งมีรถชัตเติลบัส สาย A วิ่งให้บริการรับ - ส่ง ผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้ใช้บริการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการอาคารจอดรถยนต์ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9511 ตลอด 24 ชั่วโมง

อีกทั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ  ได้จัดตกแต่งพื้นที่สำหรับถ่ายภาพ เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ และยังเป็นการร่วมอนุรักษ์ สืบสาน ส่งเสริมประเพณีของไทย ระหว่างวันที่ 1 - 20 เมษายน นี้  2 จุด  ได้แก่

จุดที่ 1 บริเวณประตู 5 ชั้น 4 โถงผู้โดยสารขาออก ซึ่งทางสนามบินสุวรรณภูมิได้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นประดิษฐาน ณ บริเวณพื้นที่จัดกิจกรรมฯ เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการได้สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล

จุดที่ 2 พื้นที่ถ่ายภาพบริเวณทางออกหรือ Exit A ประตู 1 ชั้น 2 ถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ที่สามารถมองเห็นความสวยงามได้ 360 องศา

นายกิตติพงศ์กล่าวว่า ทางสนามบินสุวรรณภูมิจึงได้จัดเตรียมบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานก่อนที่จะถึงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง และในระหว่างวันหยุดยาวดังกล่าว ได้เตรียมความพร้อมบุคลากรด้านบริการและด้านบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ พร้อมทั้งได้บูรณาการการทำงานร่วมกับ หน่วยงานราชการ สายการบิน ผู้ประกอบการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการในสุวรรณภูมิ เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ขอความร่วมมือ ให้ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ เชื่อมั่นและมั่นใจในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมาตลอด และผู้โดยสารต้องเผื่อเวลามาถึงสนามบินล่วงหน้าก่อนเครื่องบินออกตามเวลาในตั๋วโดยสาร ดังนี้

 1.ผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศควรเผื่อเวลาเดินทางมายังมาถึงสนามบินล่วงหน้าก่อนเที่ยวบินออกประมาณ 3 ชั่วโมง

2.เที่ยวบินภายในประเทศควรเผื่อเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง     ก่อนเที่ยวบินออก

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ AOT Contact Center โทร.1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

 


ข่าวที่สอง –บินไทยฮึดสู้!!ปรับแผนเช่าฝูงบินรายชั่วโมงบินข้ามทวีปหวังชิงรายได้ปี65

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้รับมอบฝูงบินใหม่โบอิ้ง777-300ER อีก 2 ลำ ภายในเดือนเมษายน 2565 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และรองรับความต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัว หลังระฐบาลไทยยกเลิกและผ่อนคลายมาตรการควบคุม กับข้อจำกัดการเดินทางของประเทศต่าง ๆ แล้ว

ฝูงบินใหม่โบอิ้ง 777-300ER ของการบินไทยล็อตใหม่ จะยกระดับห้องโดยสารชั้นหนึ่งหรือ Royal First Class เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้น

ตามแผนจะนำฝูงบินโบอิ้ง 777-300ER รวม 3 ลำ ให้บริการผู้โดยสารเส้นทาง  ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอน คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2565 เป็นต้นไป

ส่วนวิธีรับฝูงบินโบอิ้ง 777-300ER ทั้ง 3 ลำ ได้เจรจาสัญญาใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้วิธีจ่ายค่าเช่าดังนี้

1.ระยะแรก  "เช่ารายเดือนตามชั่วโมงการทำการบินจริง" หรือ Power-by-the-Hour

2.ระยะกลาง ต่อรองปรับลดค่าเช่ารายเดือน เพื่อให้เป็นไปตามกรอบแนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการของ บมจ.การบินไทย

สำหรับรูปแบบการจ่ายเงินตามสัญญาเดิม บมจ.การบินไทยใช้วิธี จัดหาโดย "เช่าดำเนินการ" มาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงก่อนการเปลี่ยนแปลงสัญญาใหม่ปีนี้

ส่วน "เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER" เป็นเครื่องลำตัวกว้าง มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประหยัดเชื้อเพลิงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีห้องโดยสารที่มีความสะดวกสบาย รวมทั้งหมด 303 ที่นั่ง แบ่งเป็น 1.ที่นั่งชั้นหนึ่ง 8 ที่นั่ง 2.ชั้นธุรกิจ 40 ที่นั่ง 3.ชั้นประหยัด 255 ที่นั่ง

พร้อมทั้งมีระบบสาระบันเทิงทันสมัย ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 4 แบบเครื่องบินหลักของแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย มุ่งเน้นบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฝูงบินเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนการซ่อมบำรุงและการบริหารจัดการอะไหล่คงคลัง ตลอดจนคุณภาพการให้บริการผู้โดยสาร

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง