“รมว.พิพัฒน์”จ่อประชุมเอเปคท่องเที่ยว’65ถกภาพหลังโควิด+6เรื่อง ททท.โหมเจ้าบ้านที่ดี-หารือเที่ยวยั่งยืน-สมาชิกมีจีดีพี1.7พันล้านล้าน
“รมว.พิพัฒน์”จ่อประชุมเอเปคท่องเที่ยว’65ถกภาพหลังโควิด+6เรื่อง
ททท.โหมเจ้าบ้านที่ดี-หารือเที่ยวยั่งยืน-สมาชิกมีจีดีพี1.7พันล้านล้าน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เจ้าภาพเอเปคท่องเที่ยวครั้งแรกในไทย
“รมว.พิพัฒน์” นำทีมประชุมเอเปคท่องเที่ยว 2565 ในไทยครั้งแรก 14-20 ส.ค.นี้ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ถกสมาชิกทิศทางท่องเที่ยวหลังโควิดพร้อมฉายภาพยุทธศาสตร์ไทย 6 เรื่อง “ททท.” ลุยรณรงค์คนไทยเป็นเจ้าภาพที่ดีต้อนรับรัฐมนตรีเอเชีย แปซิฟิก กลุ่มทวีปจีดีพีและมูลค่าการค้าครึ่งโลกกว่า 1,700 ล้านล้านบาท ร่วมผลักดัน Regenerative Tourism -การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน ควบ3 ประเด็นหลัก “การเดินทางข้ามพรมแดน-อำนวยความสะดวกเดินทางระยะยาว-ขยายขอบเขตของ APEC Business Traveler Card”
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ครั้งแรก ระหว่าง 14 - 20 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ จะแสดงให้เห็นทิศทางการท่องเที่ยวภายหลังวิกฤตโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค นำไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคให้ดีกว่าเดิม อันจะเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมด้านการท่องเที่ยว ในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ซึ่งจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยมีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเช่นกัน
ทางด้าน “การท่องเที่ยวไทย” จะสะท้อนยุทธศาสตร์การฟื้นฟูเขตเศรษฐกิจไทย ภายหลังวิกฤตการณ์โควิด-19ให้ความสำคัญกับ 6 เรื่อง ประกอบด้วย
1.การกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ
2.การสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
3.การส่งเสริมการกระจายรายได้แก่ผู้ประกอบการ
4.การจ้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกระดับ ทั้งโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร
บริษัทนำเที่ยว
5.การให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้ความปกติใหม่ หรือ New Normal ที่เน้นความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัย และการให้บริการที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
6.การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible
Tourism) ภายใต้นโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว 5 ประการ คือ
การท่องเที่ยวที่ปลอดภัย - สะอาด - รักษ์สิ่งแวดล้อม - เป็นธรรม – และยั่งยืน หรือ Safe –
Clean – Green – Fair - Sustainable
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัดประชุมเอเปคถือเป็นเวทีของความร่วมมือที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย 21 เขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคจะร่วมกันหารือเรื่อง 1.การเปิดเสรีทางการค้าการลงทุน 2.การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ 3.ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจวิชาการ และ 4.การท่องเที่ยว
สถิติสมาชิกเอเปคมีผลผลิตมวลรวมในประเทศหรือ GDP รวมกันทั้งสิ้นกว่า 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,700 ล้านล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวมกันเกือบครึ่งหนึ่งหรือ 50 % ของการค้าโลก
ในปี 2565 ประเทศไทยกำหนดหัวข้อหลักของการประชุม คือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยง สู่สมดุล” มีประเด็นสำคัญที่ประเทศไทยจะขับเคลื่อน 3 ประเด็น ได้แก่
1.การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน มุ่งหารือเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) E-Commerce เศรษฐกิจดิจิทัล
2.การฟื้นฟูความเชื่อมโยงในเอเปค โดยเฉพาะการเดินทางและการท่องเที่ยว มุ่งฟื้นการเดินทางข้ามพรมแดน อำนวยความสะดวกในการเดินทางระยะยาว รวมถึงการขยายขอบเขตของ APEC Business Traveler Card
3.
การส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม
โดยมีผลลัพธ์ในการจัดทำ Bangkok Goal ด้าน BCG ซึ่งจะเป็นเอกสารสำคัญที่จะได้รับการรับรองในการประชุมระดับผู้นำเอเปคเดือนพฤศจิกายน
2565
ในเวที “การประชุมระดับผู้นำ” จะย้ำเจตนารมณ์ที่จะผลักดันการฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่ยั่งยืน สมดุล และครอบคลุม บรรลุเป้าหมายทางด้านสิ่งแวดล้อม ภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ยั่งยืน
ส่วนเวที “ด้านการท่องเที่ยว” จะจัดประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปคและระดับคณะทำงาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ทีมงานและสื่อมวลชนต่างประเทศ กว่า 300 คน ซึ่งประเด็นหลักที่ประเทศไทยต้องการผลักดันในมิติการท่องเที่ยว ได้แก่ “Regenerative Tourism: การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน” เพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่นำไปสู่ความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกภาคส่วน โดยจะมีรูปแบบการจัดงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ใช้ผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อแสดงความสร้างสรรค์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสะท้อนแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) และกระจายรายได้การท่องเที่ยวให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่น
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปคและคณะทำงาน ยังมีกิจกรรมคู่ขนาน ได้แก่ การจัดสัมมนาวิชาการ ภายใต้หัวข้อ “Co–Creating Regenerative Tourism”กิจกรรมทัศนศึกษาสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมระดับคณะทำงาน และ นิทรรศการบริเวณด้านหน้าห้องประชุม
ในการประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยวปี 2565 ได้รับความร่วมมือจาก 5 โรงแรมคุณภาพในกรุงเทพฯ ที่ได้รับมาตรฐาน SHA ให้เป็นสถานที่จัดประชุมและที่พัก คือ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ โรงแรมเซนต์รีจิส โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ขณะที่ “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ได้ร่วมกับ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จัดการประชุม APEC Business Advisory Council (ABAC) ซึ่งเป็นเวทีของภาคเอกชนที่จะจัดประชุมควบคู่กันกับการประชุมกับเอเปคตลอดปี 2565
ดร.ยุทธศักดิ์ ยืนยันว่า ททท. จะสร้างการรับรู้การเป็นเจ้าภาพพร้อมเชิญชวนประชาชนคนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดีและต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นร่วมกัน โดยจะสื่อสารกับประชาชนและชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าระหว่างการจัดประชุมและหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปคท่องเที่ยว 2565 ครั้งนี้จะสามารถผลักดันกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งพลิกฟื้นประเทศจากโควิดไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
โดย
ททท.กำหนดจะจัดแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบ Hybrid (On
Site และ Live Streaming) ช่วง 3 - 4 สิงหาคม 2565 เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดประชุมต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น