หนุ่มสาวทัวร์”ผ่าธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นไตรมาส4ชี้มี4ตัวแปรหนุนรุกโกยเศรษฐี“อิสราเอล”เที่ยวไทย-เอาท์บาวนด์คอร์ปอเรตทัวร์นอกคึกคัก

“หนุ่มสาวทัวร์”ผ่าธุรกิจท่องเที่ยวคนไทย4ตัวแปรใน-นอกฟื้นไตรมาส4ปี65

ลุยทำตลาดต้นแบบโกยเศรษฐี“อิสราเอล”เที่ยวไทยพ.ค.65ยอดขายกระฉูด

“เราเที่ยวด้วยกัน+ทัวร์เที่ยวไทย”คึก-เอาท์บาวนด์คอร์ปอเรตทัวร์นอกฟื้น

คิงเพาเวอร์จัดช้อปแบรนด์เนมOnline Summer Saleลด65%ถึง18เม.ย.นี้

ช้อปโปรฉ่ำใจที่คิงเพาเวอร์4สาขาGoReadySummerรับเพียบถึง17เม.ย.65

ช้อปปีใหม่ไทยที่“คิงเพาเวอร์”กระหน่ำจัด4โปรมาแรงส่งท้ายสงกรานต์ปีนี้

ททท.บูมสงกรานต์แต่งไทยไปวัดในกทม.10วัดดังทำเงินสะพัด1.8พันล้าน

ททท.นำร่องจัดยาวสงกรานต์มิวสิคเฮอริเทจเฟสติวัลอยุธยาถึง21เม.ย.65

บางจากทำE-meetingประชุมผู้ถือหุ้นโชว์ไร้คาร์บอน-จ่ายปันผล22เม.ย.นี้

ทัวร์เมืองหิมะพัทยาเย็นทั้งปีเปิดโซนใหม่สนุกที่ Frost Wonderland Snow

“อาหารหน้าร้อน”!!กินฉลาดปลอดภัยลดความเสี่ยง10เรื่องเลือกกิน8ข้อ

AWCเปิดโรงแรมมีเลียเชียงใหม่ฟื้นเศรษฐกิจภาคเหนืออัดโปรWorkation

นกแอร์บินแล้วดอนเมือง-เบตง19เม.ย.65สัปดาห์ละ3เที่ยวตั๋ว8พันบาท

 

โชติช่วง ศูรากูร

รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด

 วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #ReadyGoSummer  #เย็นทั่วหน้ามหาสงกรานต์ #หนุ่มสาวทัวร์ #ท่องเที่ยวทั่วไทยฟื้นไตรมาส4

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/cp-7dhhuML/

ช่วงที่ 1 ผ่าธุรกิจท่องเที่ยวกับ “โชติช่วง ศูรากูร” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด ชี้ 4 ตัวแปรสัญญาณไตรมาส 4 ปีขาล ฉลุยทั้ง “เที่ยวในประเทศ-ต่างชาติเที่ยวไทย-ไทยเที่ยวนอก” ได้แรงหนุน รัฐบาลประกาศไทม์ไลน์เข้าประเทศชัด หนุ่มสาวทัวร์เคลื่อนทัพดึง “อิสราเอล” ลูกค้ากระเป๋าหนักเฮเข้าไทยเริ่ม พ.ค.นี้ กว่า 500 คน บูมขาย กรุงเทพฯ พัทยา กาญจนบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต ส่วนยุโรปเกาะติด ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม สหราชอาณาจักร แนะจับตามหาอำนาจโลกเปลี่ยนขั้ว เตือนธุรกิจทัวร์รับมือดี ๆ กับปรากฎการณ์ด้อยค่าเงินดอลลาร์ ส่วน “ตลาดในประเทศ” สงกรานต์และวันหยุดยาวได้อานิสง 2 โครงการรัฐ “เราเที่ยวด้วยกัน+ทัวร์เที่ยวไทย” โกยเงินได้พอควร ด้าน “เอาท์บาวนด์”ตลาดคอร์ปอเรตรายใหญ่เริ่มตื่นตัวขอราคาโปรแกรมเที่ยวนอก ย้ำถึงเวลา 2 สมาคมท่องเที่ยว “แอตต้า-ทีทีเอเอ”เล่นบทฟื้นท่องเที่ยวชาติ

 

นายโชติช่วง ศูรากูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า มีมุมมองต่อสถานการร์ท่องเที่ยวของไทยขณะนี้ได้ผ่านจุดวิกฤตโควิด-19 แล้ว “ภาพในประเทศ” ตัวแปรที่ 1 เรื่องการใช้ชีวิตของประชาชน” มีความรู้ความเข้าใจและการปรับตัว ฉีดวัคซีนป้องกันตามเกณฑ์ครบ 2-5 เข็ม สามารถปรับตัวเข้ากับชนิดของโควิดได้ ตัวแปรที่ 2 “มองในมุมเศรษฐกิจ” กำลังเผชิญปัญหาพอสมควร ซึ่งได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมา

 

ตัวแปรที่ 3 “ท่องเที่ยว” ไตรมาส 4 น่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเป็นฤดูเดินทางหรือไฮซีซัน ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ “ไตรมาส 3” เป็นช่วงนอกฤดูเดิทางหรือโลว์ซีซัน ภาพการฟื้นตัวจึงยังไม่ชัดถึงแม้โอมิครอนจะหายไปก็ตาม

สำหรับ “นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย -Inbound” ไตรมาส 4 ปี 2565 มีโอกาสที่จะมีตลาดยุโรปเดินทางเข้ามาเพราะเป็นไฮซีซันตรงกับซัมเมอร์ของยุโรปเลือกมาเที่ยวไทย บางบริษัทให้หยุดพักผ่อนได้ 1 เดือน – 1 เดือนครึ่ง

โดยมีปัจจัยเหนี่ยวนำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเลือกมาไทย ปัจจัยหลักคือ “ไทม์ไลน์” การเปิดประเทศที่ชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางได้ โดยเฉพาะตลาดยุโรป จะต้องวางแผนล่วงหน้า 8-12 เดือน เพื่อจองสถานที่แล้วจึงเดือนทาง หรือบางทีก็อาจจะขยับบ้าง ในจำนวนนี้ 95% จะเดินทางตามที่ได้วางแผนล่วงหน้าไว้

เมื่อไทยวางไทม์ไลน์ชัดเจนก็ทำให้ “บริษัทตัวแทนขายท่องเที่ยวในต่างประเทศ” กล้าที่จะนำข้อมูลเรื่องไทยเปิดประเทศไปเสนอนักท่องเที่ยวแต่ละเดือนจะตรวจ RT-PCR จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นการตรวจ ATK และจะยกเลิกการตรวจหาเชื้อนักเดินทางเข้าประเทศ

 

“คำถามที่นักท่องเที่ยวยุโรป” ให้ความสำคัญมากขณะนี้คือ กังวลเรื่องเมื่อ “ตรวจพบเชื้อตั้งแต่วันแรก” ที่มาถึงเมืองไทย ทางนักท่องเที่ยวสอบถามว่า 1.ต้องไปรักษาที่ไหน 2.ใครจะดูแล 3.เบิกประกันอย่างไร หรือ 4.ต้องรอเวลาหรือไม่ แต่ไม่ได้กังวลเรื่องการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR จากประเทศต้นทางก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง เพราะนักท่องเที่ยวสามารถอยู่กับที่เพื่อรักษาตัวเองให้หายก่อนจึงเดินทางอีกครั้งได้

ตัวแปรที่ 4 ตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยพยายามพูดคุยและผลักดัน “รัฐบาลไทย” ให้ปรับวิธีการตรวจหาเชื้อโควิดจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เปลี่ยนวิธีตรวจาก RT-PCR เป็น ATK เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอวันแรก เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย ยังมี “ค่าใช้จ่าย” 1.ค่าตรวจ RT-PCR 2.ค่าที่พัก หากพบเชื้อตั้งแต่วันแรกก็อาจจะทำกระทบกับแผนปฏิทินที่จะท่องเที่ยวในโปรแกรมที่วางไว้

นายโชติช่วงกล่าวว่า “การทำตลาดเชิงรุกนักท่องเที่ยวต่างประเทศ” (Inbound) ทาง บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด บุกเจาะ “อิสราเอล” ได้ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่อิสราเอล นักท่องเที่ยวไม่กลัวและพร้อมเดินทาง โดยเลือกมาเมืองไทย ยกเว้นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบางแห่งในไทยที่อิสราเอลต้องการมา แต่ยังไม่พร้อม เช่น “พัทยา” ซึ่งขาดสีสันเปิดบริการเอนเตอร์เทนเมนท์ อาจจะทำให้พัทยาไม่ได้รับการเลือกจากตลาดดังกล่าว

เส้นทางที่อิสราเอลเลือกก็จะเป็นเส้นทาง กรุงเทพฯ กับ “ภาคเหนือ” ชมธรรมชาติ วัฒนธรรม เช่น สุโขทัย เชียงใหม่ แล้วก็มีภาคใต้ในภูเก็ตบ้าง

“นักท่องเที่ยวอิสราเอล” แบ่งเป็น 1.วัยของนักเดินทางมี 2 กลุ่ม คือ  1.กลุ่มเดินทางอิสระด้วยตนเองตามลำพัง  หรือ F.I.T.-Free individual Travel) จะเป็นวัย 40 ปีขึ้นไป 2.กลุ่มซื้อโปรแกรมจากบริษัทนำเที่ยว หรือ G.I.T. Group individual Travel จะเป็นวัย 50 ปีขึ้นไป

2.กำลังการใช้จ่ายเงินท่องเที่ยว ถือเป็นกลุ่มคุณภาพสูง พร้อมใช้เงินท่องเที่ยว เพราะได้รับผลกระทบจากโควิดค่อนข้างน้อย การใช้ชีวิตจึงค่อนข้างปกติ บวกกับไม่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ และธุรกิจเอกชนได้รับเงินสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐบาลอิสราเอล ทำให้เป็นอีกประเทศที่มีความพร้อมท่องเที่ยว

3.สถานการณ์เดินทางของนักท่องเที่ยวอิสราเอลเข้าเมืองไทย เริ่มจะเพิ่มมากขึ้นหลังจากรัฐบาลไทยประกาศเปิดประเทศโดยใช้ Test & Go มีไทม์ไลน์ดีขึ้น สร้างความสะดวกและดึงดูดความสนใจได้มาก ช่วงตั้งแต่พฤษภาคม 2565 ทางหนุ่มสาว ทัวร์ จะนำเข้านักท่องเที่ยวอิสราเอลทยอยเข้ามาเมืองไทยประมาณ 500 คน ถือได้ว่าค่อนข้างมี Volumn ชัดเจน

4.พื้นที่หรือเส้นทางที่นักท่องเที่ยวอิสราเอลเลือกซื้อก็มี กรุงเทพฯ กาญจนบุรี พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต 

นายโชติช่วง กล่าวว่า ตอนนี้ตลาดที่หนุ่มสาวทัวร์ทำเชิงรุก ก็มียุโรป เช่น เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระตามลำพัง ส่วนสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจกระทบกับยุโรปบ้าง เนื่องจากปัจจัยเรื่อง 1.เงินเฟ้อ 2.ภาวะเศรษฐกิจถดถอย จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ช่วงระยะ 1-2 ปี ลูกค้าที่มีกำลังยังอาจจะเดินทางมาไทยอยู่บ้าง

แต่หลังจาก 2 ปีหน้าต้องประเมินอีกครั้งว่านักท่องเที่ยวยุโรป จะหันกลับไปท่องเที่ยวเส้นทางใกล้ ๆ ในประเทศแถบทะเลอุ่น ๆ สเปน กรีซ ตุรกี หรือข้ามทวีปมายังไทย

ประเมินเบื้องต้นตอนนี้สงครามรัสเซีย-ยูเครน นั้นไทยยังมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งตลาด “ยุโรป” อยู่ต่อไป ยกเว้นจะมีตัวแปรแรง ๆ ในระยะยาวเรื่องของ “การเปลี่ยนขั้วของมหาอำนาจ” จากสหรัฐอเมริกามาเป็นเอเชีย ก็จะกระทบกับตลาดอเมริกาที่มาเที่ยวเมืองไทย

 

ตอนนี้เราอาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับระบบการเงินโลก ตอนนี้ทางรัสเซียจะไม่ใช้ “สกุลเงินดอลลาร์” แล้ว ผนวกกับรัสเซีย อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย หรือประเทศเกินกว่าครึ่งโลก มารวมตัวกันเปลี่ยนการใช้สกุลสากล ก็อาจจะเกิดปรากฎการณ์ “ด้อยค่าเงินดอลลาร์” ลง

จะเห็นได้จากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงต้นเดือนเมษายน 2565 ทางธนาคารกลางสหรัฐ (FED -Federal Reserve) นำนโยบาย QT-Quantitative Tighttening ซึ่งเป็นการลดปริมาณสภาพคล่องต่อส่วนเกินที่อมีอยู่ในระบบเศรษฐกิจ เพื่อควบคุมหรือลดอุปสงค์สินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับระดับราคาจะต้องไม่เพิ่มสูงไปกว่านี้ จากนั้นก็จะตามมาด้วยนโยบาย QE – Quantitative Easing อัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการออกมาตรการต่าง ๆ

เป็นนโยบายควบคุมการ “ลดการเงินในระบบลง” เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด “เงินเฟ้อ” สูงจนเกินไป บวกกับสกุลเงิน US หรือดอลลาร์สหรัฐ เป็นเรื่องของความเชื่อ ที่คนทั่วโลกเชื่ออย่างนั้น แต่พอในระยะยาวเกิดการด้อยค่ากสุลเงินดอลลาร์

ในมุมมองส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเกิดปรากฎการณ์ “ด้อยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ” และระยะยาวมหาอำนาจน่าจะเปลี่ยนขั้วแน่ ๆ ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาเองก็รู้อยู่แล้ว 

นายโชติช่วงกล่าวว่า สถานการณ์ “ตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงสงกรานต์” ปี 2565 อาจจะดีน้อยกว่าสองปีแรก นั่นคือเปรียบเทียบกับปีแรก 2563 กับปีที่สอง 2564 เนื่องจาก หนุ่ม สาว ทัวร์ มีลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม “คอร์ปอเรต” จากบริษัทขนาดใหญ่ พอโควิดระบาดมาก ๆ อย่างโอมิครอนติดเชื้อได้เร็วและง่าย ทางบริษัท ก็ไม่สามารถจะทำตลาดคอร์ปอเรตได้ เพราะบริษัทขนาดใหญ่ก็ต้อระวังเรื่องการเป็นคลัสเตอร์โควิด

แนวโน้มตลาดคอร์ปอเรตของไทย น่าจะกลับมาเดินทางต่างประเทศ (Outbound) อีกครั้ง ช่วงไตรมาส 4 เริ่มจากเดือนกันยายน 2565 เป็นต้นไป เพราะทางบริษัทต่าง ๆ เริ่มให้บริษัทนำเที่ยวเสนอโปรแกรมกับราคาไปให้ดูบ้างแล้ว แต่พอถึงเวลาจะเดินทางจริงหรือไม่ต้องเป็นไปตามสถานการณ์

 

ประเทศหลักคือ “ญี่ปุ่น” แต่ก็มีข้อจำกัดคือยังไม่มีไทม์ไลน์การเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าญี่ปุ่นได้ตามปกติ  ส่วนเส้นทางอื่น ๆ ที่คอร์ปอเรตไทยให้ความสนใจก็จะมีโปรแกรมเที่ยวยุโรป  สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ตุรกี ด้วยข้อดีคือ 1.แหล่งท่องเที่ยวในยุโรปส่วนใหญ่เป็นพื้นที่กลางแจ้ง 2.ไม่บังคับให้นักท่องเที่ยวใส่หน้ากาก ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนหาโอกาสมานานแล้วที่จะไม่ใส่หน้ากากกลางแจ้ง ทำให้ชีวิตเป็นปกติมากขึ้น

 

ขยับมาแถบเอเชียก็มี เวียดนาม ส่วน “เกาหลี” ยังคงลำบากอยู่เพราะต้องตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR 2 รอบ

แต่ภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวโดยทั่วไป ปี 2565 จะได้อานิสงส์จากนโยบายรัฐบาลทำให้การเดินทางง่ายขึ้นแล้วคนส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในช่วงวันหยุดยาว 2 โครงการ คือ

 

1.เราเที่ยวด้วยกัน ที่ให้คนในประเทศซื้อห้องพักแล้วจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากรัฐบาลสมทบ 40 % บวกกับเงินค่าใช้จ่ายรายวันอีก 600 บาท/คน/วัน

 

2.ทัวร์เที่ยวไทย ให้บริษัทนำเที่ยวไทยจัดทำโปรแกรมเสนอขายนักท่องเที่ยวแล้วจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ 5,000 บาท/คน ส่วนใหญ่บริษัทนำเที่ยวจะรู้แนวทางเลือกทำโปรแกรมขายวันหยุดยาว

 

นายโชติช่วงวิเคราะห์ถึงกรณีเมื่อรัฐบาลไทยประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ก็จะส่งผลดีต่อ “ตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาไทย” จะกลับมาเดินทางอย่างรวดเร็ว หากทำให้เป็น Free Entry การเมืองแบบอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขมาก เชื่อว่าตลาดจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

ขณะที่ “รัสเซีย” ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ตลาดหลักของท่องเที่ยวเมืองไทย ต้องดูผลจากสงครามจบเร็วหรือไม่ แต่ก็ยังอยู่ในช่วงซัมเมอร์อาจจะยังเดินทางน้อย ต้องรอช่วงวินเทอร์จะมาเมืองไทยจำนวนมากอย่างแน่นอน

 

เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว บทบาทของ “สมาคมท่องเที่ยวของไทยที่ดูแลต่างประเทศ” คือ สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว -TTAA และสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว-ATTA นำเข้านักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทย ได้ห่างหายไปจากอุตสาหกรรมกว่า 2 ปี

 

หากทุกอย่างเริ่มกลับมาก็จะทำให้คู่ค้าในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จะหันกลับมาปัดฝุ่นฟื้นฟูความร่วมือกับ 2 สมาคมข้างต้นอีกครั้ง เพื่อเป็นประตูหรือ Gateway การทำ Re-Connect กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย

 

สำหรับบทบาทของทั้ง 2 สมาคมท่องเที่ยวที่ควรจะต้องทำเชิงรุกเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้กลับมาโดยเร็ว 3 เรื่องที่ควรจะทำเร่งด่วน ได้แก่

 

เรื่องที่ 1 นำคณะกรรมการสมาคมเข้าหารือกับรัฐบาลถึงนโยบายความพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมีกฎเกณฑ์การเข้าประเทศน้อยที่สุด ไม่เป็นแบริเออร์หรืออุปสรรคให้ชาวต่างชาติไม่อยากเดินทางเข้าไทย

 

เรื่องที่ 2 สายการบินนานาชาติ จะต้องมีการเข้าถึงผู้โดยสารที่ดี (accessibility) ช่วงโควิดทำให้เที่ยวบินลดน้อยลงไปเป็นจำนวนมากถึง 60-70 % จากบินวันละ 1 เที่ยว daily flight ก็เหลือแค่ สัปดาห์ละ 1 เที่ยว สร้างความลำบากในการจัดทำโปรแกรมขายการท่องเที่ยวเข้าและออกต่างประเทศ

 

เรื่องที่ 3 การทำวีซ่า บางประเทศ การเดินทางออกต่างประเทศ เช่น ยุโรป ต้องใช้เวลาทำวีซ่านานอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าจ่ายเงินไปก่อนแล้วรอนาน ก็จะกังวลว่าวีซ่าจะผ่านหรือเปล่า จะเดินทางได้หรือไม่ และทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนี้

 

ปัจจุบัน “ระยะเวลาการทำวีซ่า” ค่อนข้างใช้เวลายาวนานมาก ตัวอย่าง หนุ่มสาวทัวร์ ทำโปรแกรมไปเนเธอร์แลนด์ เริ่มจาก 1.ขอนัดคิวยื่นวีซ่าเพื่อขอ appointment แจ้งไว้เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เดือนมีนาคมถึงจะได้รับการยืนยันคิว 2.กระบวนการทำวีซ่า ปกติเคยใช้ขั้นตอน 7 วัน แต่ตอนนี้อาจจะต้องประมาณ 10 วัน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตหรือแปลกเหมือนกัน เพราะตอนนี้ความต้องการขอวีซ่าไม่ได้มีจำนวนคนมาก แต่กลับล่าช้า

 

หรือเหตุผลของบางประเทศส่วนหนึ่งอาจจะต้องคัดกรองคนที่จะเดินทางเข้าประเทศเข้มข้นมากขึ้น หรือหากมีความเสี่ยงก็อาจจะไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ หรือ VISA ของนักเดินทางอาจจะไม่ผ่านก็ได้

 

ดังนั้น “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” อาจจะต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพื่อกลับมาเปิดธุรกิจท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง นอกจากขั้นตอนที่ต้องใช้ระยะเวลาเพื่อทำเอกสารการเดินทางเข้าหรือออกต่างประเทศแล้ว ยังมีเรื่อง “บุคลากร” ในไทยและในต่างประเทศเองช่วงโควิดคนก็ออกจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไปเป็นจำนวนมาก พอเปิดใหม่การทำคอนแทร็กซ์เพื่อเชื่อมต่อเรื่องเหล่านี้อีกครั้งก็อาจจะยากด้วยเช่นกัน จึงขอให้ภาคธุรกิจปรับตัวให้พร้อมเพื่อลุกขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้ง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดช้อปแบรนด์เนมOnline Summer Saleลด65%ถึง18เม.ย.นี้

         “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” ชวนช้อปรับลมร้อนกับแคมเปญพิเศษ ส่งความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กับการช้อปสินค้าแบรนด์เนม ราคาดิวตี้ฟรี เป็นของขวัญ ของฝาก ในแคมเปญ “ONLINE SUMMER SALE รีบร้อนไปช้อป กับที่สุดของหน้าร้อน” ตั้งแต่วันที่ 8 - 18 เมษายนพบกับ 3 ดีลสุดคุ้ม พร้อมรับส่วนลดสูงสุดถึง 65% ช้อปได้ทันทีแบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน ช้อปเลยคลิก : https://bit.ly/3LkNJkK

         ดีลที่ 1 สินค้าแบรนด์เนมลดสูงสุด 45% เมื่อช้อปครบ 3,000.- เพียงใส่รหัส GOSUMMER

         ดีลที่ 2 แจก 500 โค้ดพิเศษ เฉพาะวันที่ 13-15 เมษายน รับส่วนลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 6,000.- รับรหัสส่วนลดได้ที่หน้าเว็บไซต์ www.kingpower.com

 

ดีลที่ 3 วันที่ 18 เมษายน พลาดไม่ได้กับ POWER DEAL ช้อปสินค้าที่ร่วมรายการได้จุใจแบบไม่ต้องมีขั้นต่ำ สูงสุด 65% ไม่ต้องใส่รหัสส่วนลด

 

         รับฟรียาดม PARTEL POCKET INHALER คละสี ทุกการสั่งซื้อและพลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งความพิเศษ! เฉพาะลูกค้า คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เมื่อใส่รหัส SV CODE ลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท

         พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาท เปิดประสบการณ์ช้อปออนไลน์เหนือขีดจำกัดได้แล้ว ที่ www.kingpower.com และ คิง เพาเวอร์ แอปพลิเคชัน’

ข่าวที่ 2 ช้อปโปรฉ่ำใจที่คิงเพาเวอร์4สาขาGoReadySummerรับเพียบถึง17เม.ย.65

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มีนัดกับนักช้อปตลอดสงกรานต์ 2565 เตรียมตัวให้พร้อม รีบออกมาช้อป “โปรฉ่ำใจ” ทางหน้าร้านหรือออฟไลน์หรือออนกราวนด์ มารับได้เลยทุกโปรร้อนได้ตั้งแต่วันนี้ - 17 เมษายน 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี

“ช้อปฉ่ำใจ” แจกฟรี! คูปองส่วนลด 2 ใบ มาทุกวัน รับส่วนลดได้ทุกวัน

ใบที่ 1 : รับส่วนลดทันที 1,200 บาท* ใช้ช้อป 6,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

ใบที่ 2 : รับส่วนลดทันที 2,000 บาท* ใช้ช้อป 8,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

(จำกัด 1 สิทธิ์ / คน / วัน เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)

            มาช้อปกันให้ชื่นฉ่ำ  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต ตั้งเเต่วันนี้ - 17 เมษายน 2565เพียงช้อปครบ 40,000 บาท (สุทธิ)รับเลย กระเป๋าเดินทางสีสันสดใส พร้อมออกไปเที่ยวได้เลย สินค้ามีจำนวนจำกัดหรือจนกว่าจะหมด จำกัด 1 สิทธิ์ /คน/ วัน) ดูรายละเอียดเพิ่มเติม > https://bit.ly/3hFhXS

 

“ช้อปสนุกอีกขั้น” เมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาทสุทธิ ลุ้นรับ GIFT CARD ฟรี 10,000 บาท

รับเพิ่มอีกต่อ เมื่อช้อปครบ 40,000 บาท รับกระเป๋าเดินทางฟรี 1 ใบ* (สินค้ามีจำนวนจำกัดหรือจนกว่าสินค้าจะหมด จำกัด 1 สิทธิ์ /คน/ วัน)

 

 

“ช้อปรับลมร้อน” เมื่อซื้อ CASH CARD  สูงสุด 25,000 บาท รับ GIFT CARD เพิ่มสูงสุด 10,000 บาท* ไปช้อปได้สูงสุด 35,000 บาท

 

ข่าวที่ 3 ช้อปปีใหม่ไทยที่คิงเพาเวอร์กระหน่ำ4โปรมาแรงส่งท้ายสงกรานต์2565

ช้อปรับปีใหม่ไทย ช้อปของใหม่ต้อนรับปีใหม่ไทย ช้อปของใหม่ ให้ตัวเองหรือคนที่คุณรัก สุขใจตลอดปี

1.ช้อปครบ ลุ้นช้อปฟรี! เมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ) ลุ้นรับ GIFT CARD ฟรี 10,000 บาท 2.รับเพิ่มอีกต่อ เมื่อช้อปครบ 40,000 บาท รับกระเป๋าเดินทางฟรี 1 ใบ* (สินค้ามีจำนวนจำกัดหรือจนกว่าสินค้าจะหมด จำกัด 1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน)

3.ช้อปมันส์กับ CASH CARD สูงสุด 25,000 บาท รับ GIFT CARD ฟรีสูงสุด 10,000 บาท*

สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ได้เพิ่มสุดคุ้ม*

 

4.เพียงสมัครสมาชิก “SCARLET” 6,000 บาท รับเพิ่ม 1,500 บาท และลงทะเบียนรับคูปองส่วนลดใบที่ 1 มูลค่า 1,200 บาท  หรือสมัครสมาชิก “ONYX”  60,000 บาท รับเพิ่ม 18,000 บาท และลงทะเบียนรับคูปองส่วนลดใบที่ 1 และ 2 มูลค่ารวม 3,200 บาท

 

พบกันที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต ส่วนที่คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ส่งท้ายสงกรานต์ ช้อปด่วน 16- 17 เมษายน 2565

 

ข่าวที่ 4 ททท.บูมแต่งไทยไปวัดในกทม.10วัดดังทำเงินสะพัด1.8พันล้าน

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับพันธมิตรจัดเทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด" เคร่งครัดใช้มาตรการ COVID Free Setting  ให้สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุข มุ่งรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวร่วมสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีสงกรานต์ กับอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านคุณค่าของวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงามของคนไทย

กิจกรรมหลัก ๆ ประกอบด้วย 1.รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ สรงน้ำพระ ทำบุญตักบาตร 2.การแสดงเชิงวัฒนธรรม เช่น โขน และดนตรีร่วมสมัย 3.โซนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและอาหารท้องถิ่นที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยววิถีปกติใหม่ หรือ New Normal อย่างปลอดภัย รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและส่งมอบความสุขปีใหม่ไทย 4.เปิดประสบการณ์มุมใหม่ปีท่องเที่ยวไทย 2565 หรือ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters

โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำผู้บริหาร ททท.และผู้เกี่ยวข้อง ทำพิธีเปิดสงกรานต์ กรุงเทพมหานคร ททท.  วัดพระอารามหลวง 10 แห่ง เมื่อ 13 เมษายน 2565 เณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

ททท. คาดเทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ในพื้นที่ไฮไลท์กรุงเทพฯ ตลอดการจัดงาน จะสร้างรายได้รวม 1,800 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวเดินทาง 458,907 คน-ครั้ง

และตลอดพิธีเปิดสงกรานต์กรุงเทพฯ 10 วัดพระอารามหลวงนั้น ททท.ได้จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายเทศกาลสงกรานต์ด้วยขบวนแห่ทางวัฒนธรรม โดยนักแสดงสังกัด ช่อง 7HD นาว-ทิสานาฏ ศรศึก พร้อมด้วยนางสงกรานต์ พิธีสรงน้ำพระพุทธรูปและพิธีรดน้ำดำหัวผู้อาวุโสตามประเพณีไทย

สำหรับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ มี 2 กิจกรรมหลัก ให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางตามความสนใจ ประกอบด้วย

“กิจกรรมหลัก” จัดในพื้นที่พระอารามหลวง 2 แห่ง ได้แก่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดย ททท. เนรมิตบรรยากาศปีใหม่ไทย เติมความสุขประทับใจกับสงกรานต์วิถีใหม่ ผ่านกิจกรรมการสรงน้ำพระเสริมมงคลมหาสงกรานต์ ตั้งแต่ 9-17 เมษายน 2565  พร้อมการแสดงทางวัฒนธรรม ระหว่าง 13-15 เมษายน 2565 เช่น โขน ลำตัด หุ่นละครเล็ก และการแสดงร่วมสมัย

พร้อมร่วมสนุกวิถีไทยกับ AR Activity “สวัสดีปีใหม่ไทย สุขใจมหาสงกรานต์” กับน้องสุขใจ เล่นเกม E-Stamp และถ่ายภาพกับแลนด์มาร์ก

พิเศษสุด ๆ !! หากนักท่องเที่ยวถ่ายภาพครบทั้ง 10 แห่ง ททท.จะมอบของที่ระลึกจาก เพียงส่งหลักฐานผ่าน Line Official : TATSONGKRANTEMPLE จำกัด 1 รายชื่อ 1 สิทธิ์

ตลอดระยะเวลาจัดงาน จากนั้นอิ่มอร่อยรับปีใหม่ไทยในโซนบูธร้านอาหารขึ้นชื่อของชุมชนต่าง ๆ  และเลือกชมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การสาธิตมรดก ภูมิปัญญาไทยและกิจกรรม DIY เช่น สาธิตการทำขนมไทย การแกะสลัก เกิดเป็นผลงานหนึ่งเดียวไม่ซ้ำใคร

 

“กิจกรรมที่สอง” สงกรานต์ในวัดพระอารามหลวงอีก 8 แห่ง ได้แก่ วัดอรุณราชวราราม  วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดราชนัดดาวรวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

ททท. เพิ่มบรรยากาศความสุขสงกรานต์วิถีใหม่แบบไทย ตั้งแต่วันนี้ – 17 เมษายน 2565 เวลา 09.00–18.00 น. เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สรงน้ำพระเสริมมงคล เช็กอินจุดถ่ายภาพแลนด์มาร์กของแต่ละพื้นที่ และร่วมสนุกไปกับ AR Activity ไปด้วยกัน

 

ข่าวที่ 5 ททท.นำร่องจัดยาวสงกรานต์มิวสิคเฮอริเทจเฟสติวัลอยุธยาถึง21เม.ย.65

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้นำร่องจัด Songkran Music Heritage Festival 2022  “เย็นฉ่ำวิถีไทย  รื่นเริงใจในเมืองเก่า” หน้าวัดพระราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ต่อเนื่องยาว ๆ  ตั้งแต่ 12-21 เมษายน 2565

 

นักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ตลอดงานทุกวันจะเริ่ม เวลา 16:00 น. จนถึง 21:00 น. ททท.และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้จัดให้มีกิจกรรมไฮไลต์ ให้เดินทางร่วมสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ มากมายได้แก่

 

1.ขบวนแห่เทพีสงกรานต์ ที่มี คุณปรางค์ กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล เป็นนางกิริณีเทวี เทพีสงกรานต์

 

2. การแสดง mapping นำเสนอเรื่องราวอยุธยาเมืองมรดกโลก เพื่อส่งต่อไปยังจังหวัดสงขลา ที่กำลังเสนอพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลกเป็นจังหวัดต่อไป

3.กิจกรรมอื่น ๆ  ที่น่าใจ อีกหลาหลาย ภายใต้สงกรานต์ตามประเพณี วิถีไทย  ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยด้านสุขอนามัย ที่  ททท.เชิญชวนมาร่วมสุขสันต์วันสงกรานต์ที่พระนครศรีอยุธยา ดังนี้

3.1.เชิญชวนแต่งกายใส่ชุดไทย สรงน้ำพระ ก่อเจดีย์ทราย สานปลาตะเพียน สืบสานประเพณีไทย

  3.2 พบกับศิลปินชั้นนำที่มาร่วมส่งความชื่นฉ่ำ เช่น แก้ม เดอะสตาร์, ป๊อบ ปองกูล,ลุลา และ เปาวลี รื่นเริงไปกับการแสดงโขน และ ระบำพื้นบ้าน

  3.3 ห้ามพลาด!! เช็คอินที่จุดถ่ายภาพแลนด์มาร์ค สุดพิเศษ  อุโมงค์ปลาตะเพียนใบลาน สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ,แสงสีสุดงดงามของโบราณสถาน, ชุ่มฉ่ำเย็นใจไปกับอุโมงค์น้ำ และ ชมความงดงามยามค่ำคืนกับ Mapping พร้อมแสงสีเสียง ศาลากลาง (เก่า)

 3.4 ชิมช้อปร้านอาหารประจำถิ่นและอุดหนุนสินค้า ของฝากคุณภาพของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

ข่าวที่ 6 บางจากทำE-meetingประชุมผู้ถือหุ้นโชว์ไร้คาร์บอน-จ่ายปันผล22เม.ย.นี้

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจาก เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการและผู้บริหาร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ร่วมกันจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 โดยเลือกใช้ช่องทาง “สื่ออิเล็กทรอนิกส์ - e-Meeting” เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 เพื่อชี้แจงถึงผลการดำเนินธุรกิจปี 2564  

การประชุมครั้งนี้ จัดเป็น carbon neutral meeting ที่สามารถชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการจัดการประชุมด้วยคาร์บอนเครดิตในโครงการกิจกรรมชดเชยคาร์บอนขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในปริมาณเท่ากัน ทำให้ถือว่ามีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

ส่วนการจัดประชุม E-Meeting เป็นไปตามพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ด้วยความห่วงใยในสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ถือหุ้น พนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงการตระหนักและให้ความสำคัญกับการดำเนินการเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด และด้วยความมุ่งมั่นร่วมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนของบริษัทฯ 

ตามมติที่ประชุม ได้พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 2 บาท คิดเป็นเงินรวมประมาณ 2,715 ล้านบาท โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดครึ่งปีแรกของ ปี 2564 ไปแล้วเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 อัตราหุ้นละ 1 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 1,358 ล้านบาท

ส่วนเงินปันผลของการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังปี 2564 กำหนดจ่ายอัตราหุ้นละ 1 บาท ในวันที่ 22 เมษายน 2565 แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามรายชื่อที่ปรากฏในบัญชีรายชื่อ ณ วันที่ 3 มีนาคม 2565

         ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยเย็นชุ่มฉ่ำตลอดปี มีสถานที่แห่งใหม่มาแนะนำ “เมืองหิมะพัทยา -Frost Magic Ice of Siam Pattaya” เมษายนนี้เปิดโซนใหม่สนุกกว่าเดิม Frost Wonderland Snow เล่นสไลเดอร์ บ้านเอสกีโม ชมประติมากรรมศิลปะไทยคล้ายปั้นจากหิมะ และอื่น ๆ ครบทุกรสชาติ ตามมาด้วย “สุขภาพ-หน้าร้อนกินอย่างฉลาด” ด้วยการลดเสี่ยง10ขั้นตอนเลือกกิน8เรื่อง และข่าวฮ็อต ๆ “AWCเปิดโรงแรมมีเลียเชียงใหม่อัดฉีดโปรWorkation” ฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวภาคเหนือ และ “นกแอร์” บินแล้ว ดอนเมือง-เบตง (ยะลา) ตั๋วราคาเบาะ ๆ 8,000 บาท/เที่ยว เริ่ม 29 เม.ย 2565 สัปดาห์ละ 3 เที่ยว

พาเที่ยว - เมืองหิมะพัทยาเย็นตลอดปีเปิดแล้วโซนใหม่ Frost Wonderland Snow

ซัมเมอร์ปีขาล อากาศค่อนข้างอบอ้าวอยู่บ่อย Summer ใน “พัทยา” มีสถานที่ท่องเที่ยวทะเลดับไอร้อนมาแนะนำลองแวะไปลองประสบการณ์ใหม่ใน “FROST Magical Ice of Siam Pattaya-เมืองหิมะพัทยา” ซื้ออบัตรใบเดียวเที่ยวได้ 3 โซน สุดคูลยกกำลัง 2  ทุกคนเดินเที่ยวทั้งวันไม่จำกัดเวลา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่  9 โมเช้า จนถึง 1 ทุ่มตรง

เมษายน 2565 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวจะได้พบความอลังการที่จะเเปิดให้เข้าชมโซนใหม่ “FROST Snow Wonderland” เย็นได้ตลอดทุกนาทีในอุณหภูมิ -15 องศา มาแล้วจะได้ลองสัมผัสหิมะของจริง สนุกกับการเล่นสไลเดอร์หิมะ เล่นสไลเดอร์เมืองน้ำแข็ง และถ่ายรูปชิค ๆ ได้ในโซนป่าหิมพานต์

 

ตื่นตา!! กับสไลเดอร์น้ำแข็ง บรรยากาศหิมะตกเสมือนจริง พร้อมกับมีบ้านเอสกีโม ใส่บูธลุยหิมะให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ กันทั้งครอบครัว สนุกสนานกันไป 

มาถึงแล้วห้ามพลาด เช่าอุปกรณ์ปั้นหิมะ ชุดละ 60 บาท มีให้เลือกหลายสี สนุกแบบยกครัว ทั้ง พ่อ แม่ และเด็ก ๆ

 

สำหรับ “โซนป่าหิมพานต์” อยู่ด้านนอก มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ละลานตาด้วยศิลปะ ประติมากรรมคล้ายงานนำแข็งแกะสลักชั้นเลิศ ด้วยรูปลักษณ์ ต่าง ๆ เช่น หนุมาน สัตว์ในวรรณคดี

แนะนำให้มาตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังทอแสงไล่เฉดสีแดงส้มทองช่วง 5 โมง แล้วทาง Frost Wonderland จะเปิดไฟแสงสีสวย ๆ ให้ชมแสงสีสวยสุดตระการตา

 

“บัตรเข้าชม” ผู้ใหญ่คนละ 350 บาท  เด็ก ความสูง 91-130 ซม. จ่ายคนละ 250 บาท

เมื่อซื้อบัตรแล้วจะรวม 1.ให้ยืมเสื้อกันหนาวใส่ท่องเมืองหิมะ 1 ตัว 2.เครื่องดื่มในแก้วน้ำแข็ง 1 ใบ

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 063 669 4559

สุขภาพ -“อาหารหน้าร้อน”กินฉลาดปลอดภัยลดความเสี่ยง10เรื่องเลือกกิน8ข้อ

      อากาศเมืองไทยตอนนี้ต้องบอกว่าร้อนจริงจัง ทำให้เสี่ยงเรื่องอาหารเน่าเสียหรือก่อโรคอาหารเป็นพิษได้งาน จึงควรระมัดระวัง ด้วยการ “ลดความเสี่ยง” ด้วย 10 ข้อ กับ “เลือกกิน” 8 ข้อ ดังนี้

1.เลือกซื้ออาหารที่สด สะอาด ไม่มีรอยแตกหรือรอยช้ำ 2.ล้างทำความสะอาดอาหารด้วยน้ำสะอาดทุกครั้ง 3. ปรุงอาหารโดยผ่านความร้อนในอุณหภูมิสูง และนานพอที่จะทำให้อาหารปลอดภัย 4. เลือกใช้ภาชนะปรุงอาหารที่สะอาด โดยเฉพาะเขียงที่ใช้หั่นเนื้อสัตว์ ควรทำความสะอาดอยู่เสมอ

 

5.หลีกเลี่ยงการจับต้องอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรืออาหารที่พร้อมรับประทานมากที่สุด 6.เตรียมอาหารให้เสร็จใกล้กับเวลาที่จะรับประทานมากที่สุด 7. อาหารที่ต้องเก็บในตู้เย็น ควรนำเก็บในตู้เย็นให้เร็วที่สุดไม่ควรวางทิ้งไว้ 8.ควรเก็บรักษาอาหารให้พ้นช่วงอุณหภูมิอันตรายคือระหว่าง 5-60 องศาเซลเซียส จึงไม่ควรวางอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง

 

9.ไม่ควรเก็บอาหารสุกและอาหารดิบไว้ด้วยกันเพราะเกิดการปนเปื้อนได้ง่าย 10.ไม่ควรนำอาหารออกจากตู้เย็นก่อนเตรียมอาหารเกิน 20 นาที

 

“การเลือกรับประทานอาหาร” แนะนำทำตาม 8 เรื่องดังนี้                                         

1.รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำไว้นาน                                                         

2.เลือกรับประทานอาหารที่ผ่านความร้อนอย่างทั่วถึง เช่น อาหารประเภทแกง ต้มจืด ต้มยำ

3.หลีกเลี่ยงอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ หรือผ่านความร้อนน้อย เช่น หอยแครงลวก

4.หลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่ต้องผ่านการสัมผัสหลังจากการทำสุก เช่น ลาบ พล่า ยำ สลัด

5.ควรทราบว่าอาหารประเภทใดบูดง่าย อาหารที่มีเครื่องเทศมากมีรสเผ็ด ได้แก่ แกงเผ็ด ผัดเผ็ด จะบูดเสียกว่าอาหารที่มีรสจืด โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์และกะทิ

6.ไม่ควรซื้ออาหารสำเร็จมาวางทิ้งไว้นาน ถ้ายังไม่รับประทานควรเก็บไว้ในตู้เย็น

7.ควรอุ่นอาหารที่ซื้อสำเร็จก่อนรับประทาน

8.ไม่ควรเก็บอาหารที่ซื้อสำเร็จที่เหลือจากการรับประทานไว้อีกเพราจะทำให้บูดเสียง่าย ถ้าต้องการเก็บไว้ ควรอุ่นอีกครั้งก่อนนำเข้าเก็บไว้ในตู้เย็น

ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –AWCเปิดโรงแรมมีเลียเชียงใหม่ฟื้นเศรษฐกิจภาคเหนืออัดโปรWorkation

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565 ได้เปิดโรงแรมบริการ “โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่” อย่างเป็นทางการ อยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่จะดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาชมความงดงามจังหวัดเชียงใหม่

ซึ่งทาง AWC เชื่อมั่นการเติบโตด้วยไปกันอย่างยั่งยืน จึงเน้นรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน จากอดีตถึงปัจจุบันมุ่งรักษาเสน่ห์ ด้วยการปรับคอนเซ็ปต์ ถึงแม้โครงสร้างอาคารจะมีเพดานต่ำ แต่ได้พยายามดีไซน์อย่างสวยงาม

 

โดยได้เปิดโครงการโรงแรม มีเลีย เป็นทางการตั้งแต่ 10 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ขนาด 260 ห้อง วางเป้าหมายเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยวิธีจับมือกับทุกภาคส่วนร่วมมือกัน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนเต็มที่ ทำให้ทาง AWC มุ่งมั่นรุกพัฒนาการตลาด จัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว อย่าง ตลาดตะวันออกกลาง เรื่องอาหารสุขภาพ

สำหรับ “โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่” เป็นโครงการขนาดใหญ่บนอาคารสูงใจกลางเมือง ที่มีห้องพักให้บริการมากถึง 260 ห้อง มีจุดชมวิวทิวทัศน์อันงดงามจากบาร์บนยอดอาคารที่สูงที่สุดในเมืองเชียงใหม่ ประกาศพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เมษายน 2565 เป็นต้นไป

 ขณะนี้มีโปรโมชั่น “มีเลีย เชียงใหม่” ทำแพกเกจแห่งแรกในประเทศไทย 1.All inclusive รวมหลากหลายไฟล์สไตล์ให้คนมาพักผ่อนอย่างเต็มที่  รวมทุกอย่าง ราคา 9,999 บาท/คน 2.โปรแกรมธรรมดา มี 2 วัน 1 คืน ห้องพัก รวมอาหาร +พิเศษ Workation Rooftop

 

พร้อมทั้งต้องการจะให้ทุกคนได้เห็นถึง “Before & After” ของโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ คอนเซ็ปต์ภาพรวม 1.พันธมิตรหลักคือมีเลียเชนใหญ่สุดในยุโรปสัญชาติสเปน มีความยั่งยืน กับจุดแข็งด้านนักท่องเที่ยว จึงได้ดึงวัฒนธรรมชุมชน ทั้งวัตถุดิบโครงการและออริจิ้น มาทำเป็น 360 องศา

จุดเด่น คือ 1. เชียงใหม่ได้อันดับ 9 ของโลกทางด้านท่องเที่ยว มีเสน่ห์ธรรมชาติ วิถีชีวิตคนมีความสุข มี Roof Top เป็นร้านอาหารวิวสูงสุดในเมืองเชียงใหม่ 2.ฐานลูกค้า AWC มีสมาชิก 400 ล้านสมาชิก จึงได้นำโมเดลดังกล่าวมาตอบโจทย์ด้านศักยภาพของที่พักโดยเปิด “มีเลีย เชียงใหม่” ต้อนรับสงกรานต์ให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมพื้นบ้านมีทั้งเสน่ห์และวิถีไทย

ปี 2565 AWC มี 3 โรงแรม ชูธงท่องเที่ยวภาคเหนือและเชียงใหม่ คือ เที่ยวยั่งยืน เที่ยวธรรมชาติ และเที่ยวศิลปวัฒนธรรม 3 แห่ง โดยจับมือกับพันธมิตรระดับโลก ประกอบด้วย

1.เครือมีเลีย (มีเลีย เชียงใหม่)

2.เครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิด เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่

3.เครืออินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป หรือ IHG เตรียมเปิดโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง จะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ เพื่อผลักดันเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่ของภูมิภาคและของประเทศต่อไป

เมื่อปี 2564 AWC ได้รางวัลมากมาย นับจากไตรมาส 4 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมเริ่มฟื้นตัวเมื่อการท่องเที่ยวเปิดประเทศ แล้วก็เห็นโมเมนตั้มกลับมาตั้งแต่ธันวาคม จากนั้นจึงได้เห็นต่างชาติโต 1.8 เท่า ภูเก็ต โต 8 เท่า เชียงใหม่ 1.8 เท่า

 

ข่าวที่สอง –นกแอร์บินแล้วดอนเมือง-เบตง19เม.ย.65สัปดาห์ละ3เที่ยวตั๋ว8พันบาท

 

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้นกแอร์ร่วมลงนามกับพันธมิตรภาครัฐ เอกชนท่องเที่ยว เพื่อกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงในประเทศใหม่อีกครั้ง เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง - เบตง (ยะลา) ตอนนี้ราคาตั๋ว 8,000 บาทขึ้นไป/เที่ยว เริ่มตั้งแต่ 29 เมษายน 2565 สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ทุกวันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์ ประกอบด้วย

 

1.เที่ยวบินขาไปจากดอนเมือง รหัสเที่ยวบิน  DD622 ออกจากกรุงเทพฯ  10.00 น. ถึงสนามบินเบตง 11.45 น.

 

2.เที่ยวบินขากลับ จากเบตง รหัสเที่ยวบิน DD623  ออกจากสนามบินเบตง 12.15 น. และถึงสนามบินดอนเมือง14.00 น.

 

ผู้โดยสารสำรองที่นั่ง และสอบถามเพิ่มได้ที่ Call Center 1318 หรือ www.nokair.com

 

พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นแคมเปญ “#เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์”  จัดแพ็คเกจท่องเที่ยว สัมผัสความงามของศิลปวัฒนธรรม ประเพณี เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา

            โดยได้ลงนามความร่วมมือจัดแคมเปญดังกล่าว ระหว่าง บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย นายวิชิต ประกอบโกศล ประธานบริษัท ซี.ซี.ที. เอ็กซ์เพรส จำกัด นายธนพล ชีวรัตนพร ประธาน บริษัท แตงโมทัวร์

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.