ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.เคลื่อนทัพใหญ่ตลาดปลายปี’65“เที่ยวไทย-ทัวร์ต่างชาติ”ยอดพุ่ง -แผนตลาดปี’66ดันท่องเที่ยว5ปีหน้าขายซอฟท์เพาเวอร์6Fกระหึ่มโลก

ผู้นำททท.เคลื่อนทัพใหญ่ตลาดปลายปี’65“เที่ยวไทย-ทัวร์ต่างชาติ”ยอดพุ่ง

ถกโรงแรมทั่วไทยพลิกเกมใหม่ลุยทำเองโปรลด40%เราเที่ยวด้วยกันเฟส5

ผ่าแผนตลาดปี’66ดันท่องเที่ยว5ปีหน้าขายซอฟท์เพาเวอร์6Fกระหึ่มโลก

Ready Go Summerคิงเพาเวอร์แรงต่อช้อปเติมสุข-คุ้มค่า-สมัครสมาชิก”

คิงเพาเวอร์จัดเต็มไทยเทสต์ฮับรางน้ำกับ3เมนูช่วยดับร้อนเพิ่มความสดชื่น

ช้อป Click & Collectคิงเพาเวอร์ออนไลน์หลังสงกรานต์3ขั้นตอนง่ายสบาย

ททท.ผนึกนีโอจัดGolf&Dive+OutdoorExpoดึง500บูธปั๊มยอด150ล้านบาท

กลุ่มบางจากเปิดแล้วBFPLรุกธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อโลจิสติกส์เต็มสูบ

เที่ยวทะเลตรัง!!ร้อนนี้อย่ารอช้าตลุยเช็คอินสวรรค์อันดามัน5เกาะสวยสุดๆ

ทิ้ง“ATKชุดตรวจโควิด”อย่างถูกวิธีช่วยกันกำจัดขยะติดเชื้อทำชีวิตปลอดภัย

ศบค.สั่งเลิกTest&Go1พ.ค.65ดึงตลาดทั่วโลกเฮเที่ยวปลุกธุรกิจปลายปี65

“สุวรรณภูมิ”ผนึกททท.+EOCคุม700โรงแรมลดผู้โดยสารแออัดในสนามบิน

 


                วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #ท่องเที่ยวพลิกเกมตลาดปี65  #ReadyGoSummer  #เที่ยวทะเลตรัง5เกาะ

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://fb.watch/cziocazRWa/

            ช่วงที่ 1 ผู้นำทัพการตลาด “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดสัญญาณ “ท่องเที่ยว” พุ่งสูงเกินคาด “เที่ยวไทย” หลังสงกรานต์ต่อยอด“เราเที่ยวด้วยกัน” จ่อหารือโรงแรมทั่วไทยคัดห้องระดมทำโปรโมชั่นลด 40 % ส่วน “ตลาดต่างประเทศ” หลังปลดล็อก Test & Go ครึ่งหลังปี’65 รายได้กระฉูดดีกว่าปีก่อนแน่ ไฮไลต์ปี 2566 ททท.ลุยประชุมแผนแม่บทการตลาดท่องเที่ยว TATAP2023 จุดเริ่มแผน 5ปีหน้าพลิกโฉมกลยุทธ์ครั้งใหญ่ชู“การเปลี่ยน” จาก “Product Catalog” ให้กลายเป็น “เมนูประสบการณ์” งัดจุดขายพลังซอฟท์เพาเวอร์บุกตลาดโลกด้วย6F  “F1:Food+F2:Film+F3:Fashion+F4:Fighting+F5 :Festival +F6 :Friendship

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศในภาพรวม ต่อเนื่องเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ททท.ตั้งเป้าไว้ 3-4 ล้านคน-ครั้ง รายได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท มีอัตรากระจายเข้าพัก (OR-Occupacy Rate) เกิน 40 % ปรากฏว่าจากรายงานสรุปเบื้องต้นคึกคักกว่าที่ ททท.คาดการณ์ไว้มาก สะท้อนถึงตลาดท่องเที่ยวในประเทศกลับมาแล้ว หลังจากช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนระบาด แต่ครึ่งปีหลัง 2565 มีสัญญาณคึกคักมากกว่าเดิม

 

โดยมีดัชนีชี้วัดสถานการณ์ “ตลาดท่องเที่ยวในประเทศ” กลับมาคึกคักจาก “การจองใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 จำนวนห้องพักถูกจองหมดแล้ว 2 ล้านคืนพัก เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2565 จากนี้ไป ททท.กำลังรอนโยบายจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเดินหน้าเราเที่ยวด้วยกันเฟสต่อไป

 

“ตลาดต่างประเทศ” สถานการณ์ดีขึ้นหลังจากชะลอการเดินทางไปเพราะระงับ Test & Go เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 แล้วกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาดีขึ้นตามลำดับ ตัวเลขไต่ขึ้นไปประมาณเดือนละ 189,000 คน


ดังนั้นถึงไทยจะเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายใต้ความวิตกกังวลของหลายคน ททท.ยังคงจะสามารถผลักดัน “ตัวเลข” นักท่องเที่ยวตลาดในประเทศและต่างประเทศช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ตั้งแต่พฤษภาคม-มิถุนายน นี้ และก่อนเข้าฤดูเดินทางหรือไฮซีซันปลายปีนี้ ประเมินแล้วจำนวนและรายได้ท่องเที่ยวภาพรวมจะต้องดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ส่วน “ผลลัพธ์” จากการประเมินหลังสงกรานต์ บวกกับการเปิดประเทศอีกครั้งตามแผน Test & Go ที่เหนือความคาดหมายนั้นอาจจะบอกเป็นตัวเลขได้ยากอยู่บ้าง เนื่องจากยังต้องกระตุ้นตลาดภายใต้สถานการณ์โควิด-19 บวกกับเกิดภาวะสงครามรัสเซียกับยูเครนเข้ามาด้วย ส่งผลทำให้ เกิดตัวแปรเพิ่มเข้าใหม่ อีก 2 ปัจจัย คือ  

ปัจจัยที่ 1 “ราคาน้ำมัน/พลังงาน” ปรับขึ้นราคา กระทบไปถึง “ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน” สูงขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังมี ปัจจัยที่ 2 “เงินเฟ้อพุ่ง” กระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลก

ถึงกระนั้นก็ตามทั้ง 2 ปัจจัยที่เกิดขึ้น ก็ยังทำให้การท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ในเมืองไทย ได้เห็นสถานการณ์ที่ดีขึ้น สะท้อนถึงยังมีปัจจัยที่ทำให้ตลาดในประเทศและต่างประเทศ ยังคงเดินทางอยู่ต่อไป เพียงแต่ขอให้ไทยอำนวยความสะดวก 1.พิธีการเดินทางเข้าประเทศ 2.มาตรการกระตุ้นต่าง ๆ น่าจะทำให้ผลลัพธ์ด้านรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2565 “ดีกว่า” ปี 2564 อย่างแน่นอน

 


ขณะเดียวกันการ “เพิ่มน้ำหนัก” ให้ความสำคัญ ททท.จะต้องทำคู่ขนานกันทั้ง 2 ส่วน คือ “ตลาดในประเทศ” ตั้งเป้าให้เกิดการเดินทางเพิ่มขึ้น ใช้จ่ายเงินแต่ละครั้ง/ทริปมากขึ้น และพักค้างคืนนานวันขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมายาวนานกว่า 2 ปีแล้ว อย่างน้อยที่สุด “พยุงการจ้างงาน” รอเศรษฐกิจฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว

“ตลาดต่างประเทศ” ทางรัฐบาลมุ่งอำนวยความสะดวกการเข้าเมือง ดังนั้นแนวโน้ม “มาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ” จะมีมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน เพราะตอนนี้หลายประเทศที่อยู่ติดบ้านเราหรือประเทศที่พึ่งพารายได้การท่องเที่ยว หลายประเทศก็ออกมาลดข้อจำกัดต่าง ๆ อนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศโดยมีเงื่อนไขน้อยที่สุด ซึ่งไทยเองก็จะต้องแข่งขันกันต่อไป

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.จะเสนอมาตรการเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้นในการให้ต่างชาติเดินทางเข้ามานั้น จะต้องดู “ข้อมูลด้านสาธารณสุข” โดยอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยเป็นสำคัญ หากการติดเชื้อโควิดของผู้เดินทางจากต่างประเทศไม่ได้สูงมากนัก เช่น Test & Go พบผู้ติดเชื้อเพียง 0.5 % ก็ต้องดูอัตราการเพิ่มหรือไม่อย่างไร เป็นอัตราที่รับได้หรือไม่ หากเป็นอัตรายอมรับได้ติดเชื้อน้อยก็จะทำให้การผ่อนคลายมาตรการเพิ่มมีความเป็นไปได้สูง

แนวโน้มสถานการณ์การท่องเที่ยวที่จะกลับตัวเข้าสู่ “ภาวะปกติ” นั้นจะต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่น่าจะเห็นสัญญาณบ้างแล้วตอนนี้ดีขึ้น มีเสียงตอบการเดินทางตามรายงานจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง คือ 1.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เห็นถึงสายการบินขอเพิ่มเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 2.ททท.สำนักงานทั่วโลก 29 แห่ง ยืนยันมีผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่เริ่มสอบถามข้อมูลอัพเดทท่องเที่ยวเมืองไทยเข้ามามากขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่การท่องเที่ยวจะกลับมา

แต่อย่างไรก็จะต้องขึ้นอยู่กับ “การบริหารความเสี่ยง ความไม่แน่นอน” เมื่อดูตัวอย่างหลายประเทศที่ผ่านการติดเชื้อเป็นจำนวนมากไปแล้ว ก็เริ่มกลับสู่ปกติ ส่วนประเทศไทยเมื่อผ่านช่วงมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากตามความกังวลของหลายฝ่าย ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น นักท่องเที่ยว สายการบิน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็น่าจะกลับมาปกติ ซึ่งน่าจะเห็นความเป็นไปได้การท่องเที่ยวทุกส่วนเข้าสู่ปกติได้ในปี 2566


ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.เตรียมจัดประชุม “แผนแม่บทตลาดการท่องเที่ยวประจำปี 2566 :TATAP 2023 ซึ่งถือเป็นปีแรกตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะใช้ในอีก 5 ปีหน้า คือ พ.ศ. 2566-2570 แล้ว “สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ” คือ ททท.ได้กำหนดทิศทางและบทบาทการตลาดหลักๆ

โดยเน้น “การท่องเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ”  แทนการประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว ในอดีตจะชู “ประเทศไทยเป็นแหล่งประเทศยอดนิยมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” แต่นับจากปี 2566 เป็นต้นไป จะต้องไม่ใช่เน้นเรื่อง “แหล่งท่องเที่ยว” เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องได้รับ “ประสบการณ์ที่มีคุณค่าเรื่องต่าง ๆ” แล้ว “คำนึงถึงความยั่งยืน” จะทำได้อย่างไร

ฉนั้นทุกภูมิภาค ทุกฝ่าย ในส่วนของ “ตลาดในประเทศ” ทั้ง 5 ภูมิภาค และ “ตลาดต่างประเทศ” ทุกสำนักงาน ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล จะต้องนำวิสัยทัศน์ดังกล่าวแปรเปลี่ยนให้เป็น “แนวทางปฏิบัติได้จริง” แล้วขับเคลื่อนไป เพื่อเป็น “จุดเริ่มต้นของการทำแผน TATAP 2023 เพราะสุดท้ายแล้วประเทศไทยก็จะต้องเป็น “แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน” โดยบวก “การท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าและประสบการณ์ที่ดี” ที่จะให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกและคนไทย


สำหรับการกำหนดการขับเคลื่อนท่องเที่ยวประเทศไทยช่วงปี 2566 ททท.ย้ำเน้น “ประสบการณ์” เป็นหลัก โดยมี Theme/ธีม อยู่กับปีที่ให้ความสำคัญการนำแต่ละเรื่องมาเล่น เช่น เรื่องอาหาร เรื่องสุขภาพ และเรื่องอื่น ๆ แต่สิ่งที่เน้นย้ำคือ “การเปลี่ยน” จาก “Product Catalog” ให้กลายเป็น “เมนูประสบการณ์” จากเมนูประสบการณ์ก็ต้องนำไป “จับกับกลุ่มเป้าหมาย” ของแต่ละประเทศ รวมทั้ง “ประสบการณ์” ที่จะให้กับนักท่องเที่ยวเหล่านั้นต้องคำนึงถึง “ความยั่งยืน” และ “การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล” ด้วย นี่คือ ธีมหลักการทำแผนแม่บทการตลาดท่องเที่ยวปีหน้า

ดร.ยุทธศักดิ์ อธิบายถึงกระแสการขาย “Soft Power” ของไทยในเวทีโลก นั้น ททท.ทำต่อเนื่องมาตลอดกับทางกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานนวัตกรรมต่าง ๆ โดยได้นิยาม “ซอฟท์ เพาเวอร์” การท่องเที่ยวของประเทศไทยที่จะดึงดูดคนเดินทางเข้ามาใช้บริการ ได้กำหนดเป็น 5 F ประกอบด้วย

F 1-Food ทุกคนรู้จักกันดี ตามที่ล่าสุดศิลปินแร็ปเปอร์สาวชาวไทย “มิลลิ” นำเสนอข้าวเหนียวมะม่วงที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาเสิร์ชหาเต็มไปหมด แต่ความจริงแล้วเมืองไทยมีชื่อเสียงด้านอาหารมานานแล้ว ทั้งแกงมัสมั่น ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ส้มตำ ล้วนแล้วแต่เป็นที่รู้จักกันของคนทั้งโลกอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรเพื่อต่อยอด คิดเมนูใหม่ ๆ หรือ นำไปสู่เรื่องอาหารถิ่นให้มากขึ้น หรือแม้กระทั่งการยกระดับอาหารไทยสู่สากล ททท.ก็ทำมาแล้ว

F 2-Film เป็นเรื่องของฟิล์ม จะเห็นได้ว่าหนังไทยก็มีชื่อเสียงระดับโลก จากการเข้าร่วมประกวดชนะรางวัลนานาชาติหลายแห่ง ล่าสุด หนังเรื่อง “ร่างทรง” ชนะในเวทีการประกวดที่เกาหลี

F 3-Fashion เป็นเรื่องของแฟชั่น ตามที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีมีนโยบายต้องการส่งเสริม “ผ้าไทย” สู่เวทีสากลมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะแค่ผ้าอย่างเดียว แต่จะต้องสวมใส่แล้วผ้าไทยยังคงอัตลักษณ์ที่ดีไว้

F 4-Fighting เป็นเรื่องการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มวยไทย” ซึ่งมีน้อง ๆ เยาวชนผู้หญิงก็หันมาเรียนมวยไทยเพิ่มมากขึ้น คนที่เรียนมวยไทยจึงขอให้มองว่าต่อไปจะเป็นนักท่องเที่ยวในอนาคต ที่มีศักยภาพต่อไป

F 5-Festival เป็นเรื่องความพยายามยกระดับงานเทศกาลทางวัฒนธรรมให้เป็นสากลมากขึ้น ททท.พูดกันเล่น ๆ ถึง “เทศกาลตรุษจีน” มีความสำคัญอย่างไร เทศกาลนี้เป็นพลังที่ทำให้คนทั้งโลกสามารถจะใส่ “เสื้อสีแดง” พร้อมกันในวันเดียวกัน ฉนั้น ททท.จะยกระดับแต่ละเทศกาลได้อย่างไร เช่น เทศกาลงานสงกรานต์ เป็นตัวอย่างที่อนุญาตให้ “สาดน้ำได้โดยไม่มีใครว่ากัน” สาดน้ำได้ในวันสงกรานต์  ลองนึกภาพตามถ้าวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี คนทั้งโลกพากันเล่นน้ำพร้อมกัน น่าจะเป็นความงดงามหรือซอฟท์ เพาเวอร์ หนึ่งที่จะเกิดขึ้น

 

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า จะเพิ่มขึ้นมาอีก 1 F เป็น “F 6 -Frieindshipหรือมิตรภาพ”  ตามความคิดของผมที่ว่าน่าจะมาร้อยทั้ง 5 F เข้าด้วยกัน แล้วนำไปสู่ความยั่งยืน แล้วประเทศอื่นก็ไม่มีเหมือนไทยด้วย ทั้งการเป็นเจ้าบ้านที่ดี การมีรอยยิ้ม อย่าลืมว่าชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยเพราะชอบนิสัยคนไทย แล้วบางคนก็มานาน ๆ ความมีอัธยาศรัยไมตรีเป็นเรื่องสำคัญ และมิตรภาพที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าจะเป็นอีก 1 ซอฟท์เพาเวอร์ที่สามารถนำมาดึงดูดคนเข้าไทยมากขึ้นได้อย่างแน่นอน

ส่วนการนำ F 6-Friendship มาเสนอเป็นอีก 1 ซอฟท์เพาเวอร์นั้น ททท.อาจจะใช้สถานการณ์หลังโควิด สร้างอีเวนต์ให้คนทั้งโลกจะต้องมาประเทศไทย รูปแบบอาจจะไม่ต้องเป็น On site ก็ได้ แต่อาจจะเป็น Online Event บางอย่าง ที่เราสามารถพูดถึงเฟรนชิพที่เรามีให้กัน เพราะทุกวันนี้ผมเห็นว่า การเกิดขึ้นต่าง ๆ เป็นเรื่องร่วมทุกข์ร่วมสุขร่วมกัน เช่น เรื่องสภาพภูมิอากาศ หรือเรื่องใดก็แล้วแต่

 

“การท่องเที่ยว” ก็เหมือนกันพอเกิดโควิดระบาด ก็ต้องห้ามเดินทาง ห้ามพบปะ คนทั้งโลกทุกข์ไปด้วยกัน จึงถึงเวลาที่จะนำ “Friendship” มาเป็นซอฟท์ เพาเวอร์ สร้างความสวยงามให้โลก แล้วเชิญชวนคนกลับมาเดินทางอีกครั้ง น่าจะใช้สื่อ “รอยยิ้ม” เพราะคนรู้จักสยามเมืองยิ้มกันดีอยู่แล้ว ซึ่ง ททท.น่าจะทำได้ในไม่ช้านี้ ถ้าในหลักการแล้วทุกฝ่ายเห็นด้วย ททท.ก็จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์ F ตัวที่ 6 ต่อไป

 

สำหรับ “ความช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย” เมื่อหมดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งรัฐบาลใช้มาตรการช่วยเหลือด้วยงบประมาณมากพอสมควร ขณะเดียวกัน ททท.ก็มองไปข้างหน้าถึงการขยายทำโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” แต่ปรับรูปแบบดำเนินการใหม่ โดยให้ “ภาคเอกชน” เข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างไร ?

 

พูดง่าย ๆ คือ “ผู้ประกอบการลดราคาให้กับนักท่องเที่ยว” อยู่แล้วในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 1-4 เพราะรัฐบาลจ่ายสมทบให้ 40 %  ถ้าสมมุติเฟสต่อไปเปลี่ยนให้ “เอกชน” ลดทันทีเลย “ค่าห้องพัก” 40 % จะเป็นไปได้หรือไม่ ด้วยการจัดสรรห้องพักในช่วง “เวลา” ที่เลือกมาแล้ว เพื่อให้เกิดการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ แนวทางนี้ ททท.เตรียมจะหารือกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่อไป

 

เนื่องจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” จะสิ้นสุดภายในพฤษภาคม 2565 จำเป็นจะต้องมี “มาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง” เพื่อเป็นโมเมนตั้มรักษาตลาดไว้ โดยเฉพาะหลังเทศกาลสงกรานต์ซึ่งมีสัญญาณดีเกินคาด จึงจะกระตุ้นต่ออย่างไรได้บ้าง ททท.คงต้องคุยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร็ว ๆ นี้ รวมทั้งจะต้องหารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อไป

 

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อถึงเรื่องปี 2566 ตามแผนงานจะต้องวางกลไกช่วยเหลือเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ควบคู่กับบทบาทหลักการทำตลาดท่องเที่ยวของประเทศ โดยเปิดรับฟังความเห็น นำเอกชนไปร่วมงานเทรดท่องเที่ยวหลังโควิด แต่ก็ได้รับการเรียกร้องอีกอย่างคือ ขอให้ ททท.เข้าไปช่วยเอกชนทำโครงการ Re-Up Skill เพราะช่วงเกิดโควิดนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปมาก ดังนั้นการปรับ mindset ของผู้ประกอบการให้ทันต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ซึ่งคงจะต้องมุ่งเรื่อง Up-Re Skill การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจหมุนเวียน BCG :Bio-Circular-Green

ผู้ประกอบการหลายแห่งสูญเสียพนักงานลาออก กลับไปทำงานที่บ้านต่างจังหวัด หรือขาดทักษะการกลับเข้ามาทำงานใหม่ ททท.คงต้องพิจารณาเรื่องเหล่านี้ แล้วนำไปพิจารณาเพื่อให้ความช่วยเหลือตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป

สุดท้ายนี้ ททท.ขอรณรงค์ให้คนออกมาเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศแบบการ์ดไม่ตก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขย้ำเน้นมาตลอด คือเที่ยวได้ภายใต้ 2 U คือ “U แรก-Universal Prevention ต้องระมัดระวัง ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง ถึงแม้โควิดจะจางลงแต่มาตรการที่ดีก็ต้องรักษาไว้ “U ที่สอง-Universal Vaccination” ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้รางวัลกับตนเองและคนที่รักโดยพากันไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิดด้วยเข็มกระตุ้นเพิ่ม ถ้าหากทุกคนสามารถทำได้ทั้ง 2 U นี้ไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ปลอดภัยอย่างแน่นอน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 


ข่าวที่ 1  คิงเพาเวอร์แรงต่อReady Go Summer “ช้อปเติมสุข-คุ้มค่า-สมัครสมาชิก”

คิง เพาเวอร์ เดินหน้าเพิ่มความแรงอย่างต่อเนื่องแคมเปญรับลมร้อน Ready Go Summer ในช่วงสัปดาห์ก่อนอำลาเมษายน 2565 ช้อปเติมสุข ช้อปคุ้มค่า สมัครสมาชิกใหม่

ช้อปเติมสุขได้ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ - 29 เมษายน 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

1.ช้อปเติมสุข -เพิ่มองศาความสนุกได้ทุกวัน ด้วยการลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรี คูปองส่วนลด 1,200 บาท สำหรับช้อป 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ช้อปทุกช่องทาง รับได้เลยคนละ 1 สิทธิ์/วัน

2.ช้อปคุ้มค่า -ท้าลมร้อนด้วย Cash Card คลิกกดซื้อ ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2565 โดย

2.1 ซื้อ Cash Card 10,000 บาท รับฟรีกิฟการ์ด 3,000 บาท

2.2 ซื้อ Cash Card 25,000 บาท รับฟรีกิฟการ์ด 10,000 บาท

3.สมัครสมาชิกใหม่ รับเพิ่มสูงสุด 18,000 บาท ระหว่างวันนี้ -29 เมษายน 2565

3.1 บัตร SCARLET เติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก 6,000 บาท รับเงินเพิ่มในบัญชีสมาชิกได้เลย 1,500 บาท

3.2 บัตร ONYX เติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก 60,000 บาท รับเงินเพิ่มคุ้มสุดอีก 18,000 บาท

 


ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์จัดเต็มไทยเทสต์ฮับรางน้ำกับ3เมนูช่วยดับร้อนเพิ่มความสดชื่น

คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มีเมนูคลายร้อนมาชวนไปลองที่ “ไทย เทสต์ ฮับ รางน้ำ และ ไทย เทสต์ ฮับ เอ็กซ์เพรส ศูนย์รวมความอร่อยจากสตรีตฟู้ดร้านเด็ดเจ้าดัง ชวนคุณมาหลบร้อนในบรรยากาศสบายๆ ไปกับหลากหลายเมนูเย็นชื่นใจ ให้คุณอร่อยคลายร้อนได้ทุกวันที่ ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. รวมไปถึงสามารถเลือกสั่งความสดชื่นส่งตรงถึงบ้าน ในรูปแบบเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN, GrabFood และ Robinhood ได้เช่นกัน

เมนูแรก -เอี๊ยงออเฮ่าชือ ร้านของหวานต้นตำรับชื่อดังจากเยาวราช กับเอกลักษณ์ความอร่อยของขนมหวานในสไตล์จีนร่วมสมัย โดยเฉพาะเมนู “รังนก” และ “เช็งทึง” สูตรเด็ดจากฮ่องกงที่ผ่านการปรับรสชาติให้กลายเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านจนถูกปากคนไทย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เป็นต้องติดใจในรสชาติของน้ำเชื่อมจากน้ำผลไม้ตุ๋นกับเครื่องยาจีนสูตรพิเศษ ที่ยิ่งกินกับเมนูใส่น้ำแข็งยิ่งชื่นใจในหน้าร้อนแบบนี้

เมนูต้องลอง : เช็งทึงต้นตำรับ เต้าทึงโบ๊ยเกี้ย ทับทิมกรอบทรงเครื่อง และเฉาก๊วยโบราณ

เมนูที่ 2 TOKYO BEAN - เพราะของหวานก็ดีต่อสุขภาพได้ แถมยังอร่อยสดชื่นสุดๆ และหนึ่งในเมนูที่เหมาะกับหน้าร้อนแบบนี้ก็คือ เต้าหู้ อาหารโปรตีนสูง ไขมันน้อย ย่อยง่าย รวมไปถึงยังมีสรรพคุณในการช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย แน่นอนว่าเต้าหู้สามารถทำเป็นเมนูเย็นอร่อยๆ ได้มากมาย อย่างที่ TOKYO BEAN ได้รังสรรค์น้ำเต้าหู้ให้กลายเป็นขนมหวานกินเล่นหลากหลายเมนู โดยเน้นคุณประโยชน์เรื่องสุขภาพ รสชาติอร่อย น่ารักน่ากิน และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย

 

เมนูที่ 3 ต้องลอง : น้ำเต้าหู้เย็นรสชาติออริจินัล ไอศกรีมน้ำเต้าหู้ ไอศกรีมโยเกิร์ต พุดดิ้งน้ำเต้าหู้ และชาไทยน้ำเต้าหู้

 

เติมความสดชื่นไปกับความหอมหวานของมะพร้าวน้ำหอม หลากหลายเมนูคลายร้อนจาก All Coco ด้วยความที่มะพร้าวน้ำหอมมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยลดอาการกระหายน้ำได้ดี สามารถเป็นเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่เสียเหงื่อได้ เพราะมีแร่ธาตุที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ที่สำคัญยังสามารถนำไปมิกซ์กับเมนูอื่นๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแช่มะพร้าวน้ำหอม ชาเขียวมะพร้าวน้ำหอม หรือทาร์ตมะพร้าวน้ำหอม

 

เมนูต้องลอง : น้ำมะพร้าวน้ำหอม 100% น้ำมะพร้าวน้ำหอมเกล็ดหิมะ น้ำมะพร้าวน้ำหอมเกล็ดหิมะ Charcoal และมะพร้าวน้ำหอมสโนว์บอล

สอบถามเพิ่มได้ที่ King Power Contact Centre 1631


ข่าวที่ 3 ช้อป Click & Collectคิงเพาเวอร์ออนไลน์หลังสงกรานต์3ขั้นตอนง่ายสบาย

หลังสงกรานต์ได้หยุดยาว ตอนนี้ก็กลับมาช้อป “คิง เพาเวอาร์” ให้คุ้มกับบริการ Click & Collect ทางออนไลน์และแอพลิเคชั่นแบบชิลสบาย ไม่ต้องหิ้วพะรุงพะรัง แถมเปรียบเทียบราคาได้เรียลไทม์ เลือกได้ตามใจ รวมทั้งคนมีไฟลต์บินต่างประเทศ ต้องห้ามพลาด! การช้อปก็ง่ายเเสนง่าย แค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น

STEP 1 คลิกเพื่อช้อป - คลิกเข้าที่เว็บไซต์ www.kingpower.com หรือ King Power Application มีสินค้า ให้ช้อปกว่า 10,000 รายการ! ทั้งสินค้าดิวตี้ ฟรี แบรนด์ดังมากกว่าเดิม และสินค้า Travel-Exclusive หาได้ที่นี่ที่เดียว

STEP 2 ช้อปสะดวก -นำสินค้าที่ต้องการใส่ลงตะกร้า แล้วเลือกจุดรับได้ทั้งในส่วน “ขาเข้า” หรือ “ขาออก” จากนั้นก็ออกเดินทางไปเที่ยวให้สบายใจได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องจะต้องฝากของหรือต้องถือไปให้หนัก ผู้โดยสารขาเข้าช้อปได้สูงสุดถึง 20,000 บาท

STEP 3 ชำระเงิน - รับสินค้าได้ที่จุด Collection Point ที่สนามบินที่เลือกไว้ได้เลย ยกเว้นสินค้าบางรายการ อาจไม่สามารถจัดส่งได้ ณ สนามบินที่ลูกค้าเดินทางได้


ข่าวที่ 4 ททท.ผนึกนีโอจัดGolf&Dive+OutdoorExpoดึง500รายปั๊มยอด150ล้าน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จับมือกับทางบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ)  NCC สนับสนุนการจัดงาน Thailand Golf & Dive Expo plus Traveler & Outdoor Expo 2022   ระหว่าง  5-8 พฤษภาคม 2565 บริเวณฮอลล์ 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ที่จะมีภาคธุรกิจท่องเที่ยวมาร่วมขายกว่า 500 บูธ

ตั้งเป้ารุกเจาะนักท่องเที่ยวตลาดกลุ่มพรีเมี่ยม ปี 2565 ได้ปรับแนวคิดทำเป็น Thailand Premium Travel Fair 2022 เน้นตอกย้ำความพร้อมและศักยภาพทั้งสินค้า บริการ กิจกรรมท่องเที่ยวพรีเมียมสุด ๆ ในเมืองไทย พร้อมกับใช้งานนี้ช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังวิกฤติโควิด-19 

และการจัดงานครั้งนี้ ททท. ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คัดเลือกผู้ประกอบการกว่า 100 ราย นำสินค้าและบริการท่องเที่ยวมาขายในโซน Traveler & Outdoor Expo  อีกทั้งการจัดงาน Thailand Golf & Dive Expo plus Traveler & Outdoor Expo 2022 กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ปี 2565 ททท.ตั้งเป้าให้กลับมามีรายได้อย่างน้อย 50% ของปี 2562 ซึ่งเดิมเคยทำไว้ถึง 1 ล้านล้านบาท


นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) เปิดเผยว่า ได้กลับมาจัดงาน Thailand Golf & Dive Expo plus Traveler & Outdoor Expo 2022   คาดตลอดการจัดงานครั้งนี้จะทำเงินสะพัดกว่า 150 ล้านบาท จะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 50,000 คน

           

ปัจจุบันตลาดการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอลฟ์และดำน้ำเติบโตเพิ่มขึ้น ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ กับดาราดังสนใจเข้ามาทำกิจกรรม จนเกิดกระแสไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวด้วยประสบการณ์ใหม่ ๆ ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่าง การท่องเที่ยวแคมป์ปิ้งกลางแจ้ง ขยายตัวสูงที่สุดอย่างก้าวกระโดด ปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตเกินกว่า 100% จากตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว คือ กลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน นิยมเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ ทำให้ธุรกิจลานกางเต็นท์เอกชนเพิ่มขึ้นหลายเท่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมามีลานกางเต็นท์เอกชนเปิดบริการเพิ่มขึ้นกว่า 500 แห่ง

ภายในงานได้รวบรวมผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธกว่า 500 ราย พร้อมนำเสนอเเพ็คเกจท่องเที่ยว Voucher ที่พักและโรงแรม อุปกรณ์เดินป่า แคมป์ปิ้ง แพ็กเกจกรีนฟี ที่พักในสนามกอล์ฟ อุปกรณ์กอล์ฟ ทริปดำน้ำ อุปกรณ์ดำน้ำ โรงเรียนสอนดำน้ำ อุปกรณ์ถ่ายภาพ พร้อมส่วนลดกว่า 80%

พิเศษ !!! ยิ่งไปกว่านั้นทางนีโอจับมือกับ Lazada จัดเเคมเปญ "Lazada 5.5 x GOLF • DIVE • TRAVELER • OUTDOOR EXPO" ให้ผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่าน Lazada ระหว่างวันงานได้ตลอด 24 ชม. พร้อมรับส่วนลดต่อที่ 2 อีกกว่า 1,000 บาท

ภายในงาน "Thailand Golf & Dive Expo plus Traveler & Outdoor Expo 2022" ผู้เข้าชมงานจะสนุกกับกิจกรรม 3 ไฮไลต์เด่น ๆ ประกอบด้วย

กิจกรรมที่ 1 Thailand Golf Expo 2022 กับ 2 ความสนุก คือ

-1 พัตต์ 1 แสนบาท เพียงซื้อสินค้าภายในงานครบทุก 2,000 บาท ก็มีสิทธิ์พัตต์ลุ้นแสนในทันที

-Golf Simulator และกิจกรรม "Quick Fix" พัฒนาขีดความสามารถนักกอล์ฟด้วยเวลา 15 นาที จะได้รับคำแนะนำจากผู้ฝึกสอนและระบบประมวลผลวงสวิงของคุณแบบเรียลไทม์

กิจกรรมที่ 2 Thailand Dive Expo 2022 แชร์ความรู้แบบมีสาระ 3 มุมใหม่

-เสวนาแชร์ประสบการณ์ด้านการดำน้ำ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และกูรูวงการดำน้ำ เช่น คุณคารีสา สปริงเก็ตต์ นางแบบและนักแสดงสาวที่หลงใหลการดำน้ำและเสน่ห์ใต้ท้องทะเล จะมาแชร์ประสบการณ์ในหัวข้อ “Dive responsibility: how divers can become environmentalists”

-ฟังความประทับใจจากผู้พิการนั่ง Wheel Chair และพิการทางสายตา ได้ลงไปสัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำ ในเสวนาหัวข้อ “Disability to DiveAbility เดินไม่ได้ มองไม่เห็น แต่ฉันทำ (ดำ) ได้”

-กิจกรรมรับบริจาคชุดและอุปกรณ์ดำน้ำมือสองเพื่อส่งต่อให้กับมูลนิธิอาสาสมัครหน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล และมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร จังหวัดยะลา ที่ต้องการนำอุปกรณ์ดำน้ำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ

กิจกรรมที่  3 Traveler & Outdoor Expo 2022 ท้าให้ลองทำ 3 กิจกรรมเด่น ๆ

-กิจกรรมการประมูลแพคเก็จท่องเที่ยวในราคาพิเศษ โดย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

-ลานสเก็ตในร่มเอาใจสายเอ็กซ์ตรีม พร้อมท้าประลองความเร็วสำหรับคนรักกีฬา SURF SKATE, SKATEBOARD, INLINE SKATE จัดร่วมกับ Decathlon Sports Thailand

-แข่งขันปีนหน้าผาจำลอง และอื่น ๆ


ข่าวที่ 5 กลุ่มบางจากเปิดBFPLรุกธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อโลจิสติกส์เต็มสูบ

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้บริหารและพนักงานกลุ่มบางจาก พร้อมผู้บริหารและพนักงาน BFPL ร่วมพิธีทำบุญในโอกาสการจัดตั้งบริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ จำกัด (Bangkok Fuel Pipeline and Logistics Company Limited – BFPL) ที่อาคารสำนักงาน BFPL ศูนย์จ่ายน้ำมันบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขณะนี้กลุ่มบางจากได้ขยายธุรกิจสู่เครือข่ายขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,600 ล้านบาท เพื่อเสริมความมั่นคงและต่อยอดความยั่งยืนทางธุรกิจ ที่มีโอกาสเติบโตสูงและมีศักยภาพที่สามารถรองรับการขนส่งน้ำมันทางท่อได้อีกมาก ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งทางรถประมาณ 10,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

บริษัท BFPL จัดตั้งขึ้นโดยมีบางจากฯ ถือหุ้น 100% ทำธุรกิจบริหารระบบขนส่งน้ำมันทางท่อความยาวท่อรวม 99 กิโลเมตร ครอบคลุมระบบท่อส่งน้ำมันเบนซินและดีเซลระหว่างโรงกลั่นน้ำมันบางจาก คลังน้ำมันอื่น ๆ และคลังน้ำมันบางปะอิน ระบบท่อส่งน้ำมันอากาศยานเข้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง รวมถึงท่อก๊าซธรรมชาติ เข้าสู่บริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด บางปะอิน นับเป็นอีกหนึ่งการลงทุนครั้งสำคัญตอบโจทย์การสร้างความยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียวและประเภทของธุรกิจที่หลากหลาย มุ่งสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เพื่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ปี 2593 (ค.ศ.2050) มีเป้าหมายแรกมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ปี 2573 (ค.ศ.2030)

                ช่วงที่ 2 อากาศแบบนี้ต้องดับร้อนชวนกันไปเช็คอิน “เที่ยวทะเลตรัง 5 เกาะ” สวรรค์อันดามันของสาวกที่หลงรักโลกใต้น้ำ ที่ “เกาะกระดาน-เกาะเหลาเลียง-เกาะเชือก-เกาะลิบง-เกาะมุก” ชิลทุกเกาะ ควบคู่กับ “วิธีทิ้งATKชุดตรวจโควิด” ให้ถูกวิธีลดความเสี่ยงเรื่องขยะติดเชื้อ และตามติดข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “ศบค.สั่งเลิก Test &Go ท่องเที่ยวไทยและทั่วโลกตีปีก” เศรษฐกิจคึกคักแน่ปลายปี’65 ข่าวที่สอง “สุวรรณภูมิ” กอดคอ ททท.+EOC จัดแถว700 โรงแรมลดผู้โดยสารแออัดดึงนักเดินทางไหลเข้าไทย

 


พาเที่ยว-เที่ยวทะเลตรัง!!ร้อนนี้รีบไปเช็คอินสวรรค์อันดามัน5เกาะสวยสุดๆ 

ร้อนนี้!! มีฤดูท่องเที่ยวลดอุณหภูมิลองไป “ทะเลตรัง” ทุกปีสามารถเดินทางไปสัมผัสน้ำทะเลใสโลกใต้ทะเลสวย ๆ ได้ตั้งแต่พฤศจิกายน – พฤษภาคม แต่พอเข้าหน้ามรสุมอุทยานที่ดูแลเกาะต่าง ๆ ก็จะทยอยประกาศปิดบริการมิถุนายน-ตุลาคม เพื่อความปลอดภัย

ทริปนี้ แนะนำ ไปเช็คอินเที่ยวเกาะกลางอันดามันได้ตามที่ชอบ 5 เกาะเด่น  ๆ ได้เลย

 


เกาะแรก “กระดาน”สัมผัสบรรยากาศอันน่าหลงใหลเกาะที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งท้องทะเลตรัง  มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังน้ำตื้นได้อย่างชัดเจน  ตลอดจนฝูงปลาหลากสี สวรรค์ของเหล่าสาวกที่หลงรักการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ

 


เกาะที่ 2 “เหลาเลียง” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา นั่งเรือจากฝั่งใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง เลือกวันอากาศดี ๆ จะมองเห็นทะเลใสสวยงามมาก แบ่งเกาะให้เที่ยว2 โซน  คือ “เกาะเหลาเหลียงน้อง” สามารถท่องเที่ยวและพักค้างแรมได้ มีที่พักให้เลือกหลายแห่ง กับ “เกาะเหลาเหลียงพี่” เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับเพราะเป็นพื้นที่สัมปทานรังนกให้ขึ้นไปเที่ยวได้ แต่ไม่อนุญาตให้พักค้างคืน

เกาะที่ 3 “เกาะเชือก” สวรรค์ของนักดำน้ำที่เหล่าสาวกท่องโลกใต้ทะเลมักจะได้พบเจอกับทั้งดอกไม้ทะเลสีสันสดใส ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อนหลากสี ทั้ง สีขาว เหลือง ส้ม แดง ปลาน่ารัก ๆ มากมาย


เกาะที่ 4 “เกาะลิบง” ได้ชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์กลางทะเล มีขนาดใหญ่ที่สุดและแหล่งหญ้าทะเลอาหารพะยูนมากสุดในตรัง ตั้งอยู่ในเขตตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง มีทิวทัศน์สวยงาม และเป็นแหล่งดูนกทะเลชนิดต่าง ๆ อยากรู้ว่ามีนกสวย


เกาะที่ 5 “เกาะมุก” อยู่ในอำเภอกันตรัง ใหญ่เป็นอันดับ3 ของทะเลเมืองตรัง และยังคงเงียบสงบ คงความเป็นธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวเกาะ ชาวประมง ชาวสวนยางพารา ชาวสวนมะพร้าว บนเกาะมุกมีหาดสวย ๆ ถึง 2 หาด คือ “หาดฝรั่ง” มีที่พักเรียงกันอยู่หลายหลัง อยู่บนหาดทรายสีขาวกว้าง และจะมีบริการทางการท่องเที่ยวต่าง ๆ  ต่อด้วย “หาดสบาย” หาดทรายสีนวลละเอียดดังผงแป้ง นักท่องเที่ยวมาจอดเรือแวะพักเล่นน้ำ อาบแดดสบาย ๆ เป็นหาดที่เน้นความชิลมาก ๆ

มาท่องทะเลตรังกันเถอะ !! เช็คอินเพิ่มประสบการณ์ได้แบบไร้ขีดจำกัดตลอดฤดูร้อนนี้ในทั้ง 5 เกาะ มาแล้วจะรู้ว่าสวรรค์อันดามันจับต้องได้จริง ๆ


สุขภาพ - ทิ้งATKชุดตรวจโควิดอย่างถูกวิธีกำจัดขยะติดเชื้อทำชีวิตปลอดภัย

ตอนนี้การใช้ชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit (ATK) ก่อให้เกิดขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ความเสี่ยงในการแพร่กระจายโควดิ-19 ได้ ดังนั้น การทิ้งชุดตรวจ ATK ให้ถูกวิธีและปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ดร.พรธิดา เทพประสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ให้คำแนะนำ “การทิ้งชุดตรวจ ATKอย่างถูกวิธี”  อันเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอให้ช่วยกันคัดแยกชุดตรวจ ATK ออกเป็น 2 ส่วน

1.ส่วนที่ไม่ได้สัมผัสกับน้ำลายหรือสารคัดหลั่งในจมูก ได้แก่ กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ คู่มือ/เอกสารกำกับชุดทดสอบ ทิ้งเป็นขยะรีไซเคิล และซองพลาสติกใส่ตลับทดสอบ ไม้ Swab (ไม้แหย่จมูก) ไม้กวาดลิ้น/ช่องปาก ทิ้งเป็นขยะทั่วไป

2.ส่วนที่สัมผัสกับน้ำลายหรือสารคัดหลั่งในจมูก ได้แก่ ตลับทดสอบ หลอดดูดน้ำลาย ไม้ Swab (ไม้แหย่จมูก) ไม้กวาดลิ้น/ช่องปาก หลอดใส่น้ำยา ทิ้งเป็นขยะติดชื้อโดยบรรจุลงในซองพลาสติกซิปล็อกที่ให้มาหรือถุงพลาสติก และฉีดพ่นฆ่าเชื้อหรือราดด้วยน้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์ผสมน้ำอัตราส่วน 1 : 10 หรือแอลกอฮอล์ 70% เพื่อทำลายเชื้อก่อนปิดถุงให้สนิท จากนั้นซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น มัดปากถุงชั้นนอกให้แน่น ฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณปากถุง อีกครั้ง

“ก่อนนำไปทิ้ง” ต้องเขียนบนถุงว่า "ขยะติดเชื้อ" ทิ้งให้ถูกที่โดยแยกทิ้งในถังขยะสำหรับขยะติดเชื้อ และหากพื้นที่ใดไม่มีถังขยะติดเชื้อ ต้องนำแยกใส่ถุงและเขียนกำกับให้เห็นชัดเจนว่าขยะติดเชื้อŽ และแยกทิ้งจากถังขยะทั่วไป โดยต้องทิ้งให้รถเก็บขนขยะของสำนักงานเขต หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่นำไปกำจัด โดยหลังจัดการขยะติดเชื้อแล้วต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ทันที

ข่าวท้ายชั่วโมง



ข่าวแรก ศบค.สั่งเลิกTest&Go1พ.ค.65ดึงตลาดทั่วโลกเฮเที่ยวปลุกธุรกิจปลายปี65

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ผอ.ศบค.) ชุดใหญ่ เปิดเผยว่า มติที่ประชุม ศบค.เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เรื่องปลดล็อกการเดินทางจากต่างประเทศเข้าไทย ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป 1.เลิกระบบ Test & Go 2.ลดวงเงินประกันสุขภาพเหลือ 10,000 เหรียญสหรัฐ จากเดิม 20,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ประจำวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 ว่า ศบค.มีเห็นชอบให้ปลดล็อกมาตรการเดินทางจากต่างประเทศเข้าไทยด้วยระบบ Test & Go ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 สาเหตุที่ไม่ประกาศข่าวดีให้มีผลทันทีแต่ต้องทอดเวลาไปอีกสัปดาห์เศษเพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องได้เตรียมแผนดำเนินการอย่างเป็นระบบที่ดี

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ไม่ถึง 4 เดือนนี้ ระหว่างมกราคม-เมษายน 2565 มีต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยแล้วกว่า 640,000 คน เพราะฉนั้นการปรับมาตรการเข้าประเทศให้สะดวกยิ่งขึ้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ “เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ” ทางที่ประชุม ศบค.จึงเห็นชอบให้เลิกมาตรการดังกล่าว

พร้อม ๆ กับคณะกรรมการ ศบค.ได้นำชุดข้อมูลมาดูพบว่ามีนักเดินทางผ่านระบบ Test & Go และยื่นคำขอผ่าน THAILAND PASS แล้วเข้ามาจริงสอดคล้องกัน จึงสะท้อนถึงคนต้องการเข้ามาไทยส่วนใหญ่มาตามนัดจริง ฉนั้นจะทำอย่างไรให้คนเข้ามาได้มากขึ้น ทาง ศปก.ศบค.ได้ไปดูข้อห่วงใยเพิ่มเติม 1.คนจากต่างประเทศเข้ามาแล้วนำโรคเข้ามาเยอะหรือไม่ สถิติกุมภาพันธ์ 2565 เข้ามา 230,000 คน ติดเชื้อ 4,500 คน คิดเป็น 2.25 % มีนาคม เข้ามา 270,000 คน ติดเชื้อ 1,500 คน คิดเป็น 0.58 % เมษายน นี้ จำนวนผู้ติดเชื้อลดเหลือ 0.49 % และจาก Test & Go เพียงแค่ 0.46 %

เพราะฉนั้นสิ่งที่เราวางแผนไว้กับสิ่งที่เป็นจริงไม่ได้มีผู้ติดเชื้อเยอะขึ้นเลย ตัวเลขคนมาจากต่างประเทศน้อยกว่าในประเทศ ทำให้ความกังวลเรื่องดังกล่าวผ่อนคลายลง จากตัวเลขที่ยืนยันข้างต้น

 

ครั้งนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จึงเห็นชอบเรื่องมาตรการใหม่การอนุญาตให้ต่างชาติเข้าไทยได้ ดังนี้

เรื่องที่ 1 เลิก Test & Go ไม่ต้องมีอีกต่อไป แล้วเปลี่ยนเกณฑ์การเข้าประเทศใหม่โดยใช้วัคซีนเป็นตัวหลัก คือ พิจารณาจากนักเดินทางแต่ละคน “ได้รับการฉีดหรือไม่ไม่ฉีดวัคซีน”

1.1 ได้รับวัคซีน แล้วเข้ามาตามระบบ “THAILAND PASS แต่ละคนต้องโชว์หลักฐานการฉีดวัคซีน กับ หลักฐานการทำประกันสุขภาพ ลดเหลือแค่เพียง 10,000 เหรียญสหรัฐ แทนของเดิมต้อง 20,000 เหรียญสหรัฐ แล้วพอมาถึงไม่ต้องตรวจอะไรอีกแล้ว ให้ตรวจแค่ Self ATK ช่วงที่พำนักอยู่เมืองไทย

 

-ถ้าพบเชื้อโควิดก็ให้ไปรักษาตามที่มีประกันสุขภาพ หากไม่มีประกันสุขภาพก็ไปได้ทุกที่ในประเทศไทย

-ถ้าเป็นผู้เสี่ยงสูงต้องกักตัว ตามเกณฑ์ของสาธารณสุข 5+5

 

1.2 กลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน Undestinated Travellers จะให้ไปจองสถานที่พักเพื่อกักตัวทางเลือกในระบบ AQ :Alternative Quarantine  ประมาณ 5 วัน แล้วสามารถเดินทางไปยังสถานที่อื่น ๆ ได้

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้มากขึ้น ถ้าตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง แล้วเดินทางมาถึงประเทศไทย ทางที่ประชุม ศบค. หารือกันว่าตอนนี้ต่างประเทศให้เดินทางได้แล้ว ปัจจุบันเรื่องสิทธิมนุษยชน มีกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับวัคซีนมีสิทธิที่จะเดินทางไปไหนได้ และหากพวกเขาไม่มีเชื้อโควิด และไม่ได้รับวัค ตอนนี้ประเทศไทยยอมให้เดินทางเข้ามาได้แล้วตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

ตามที่ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มาร่วมสรุปด้วยกันในการประชุมวันนี้ (22เมษายน 2565) สุดท้ายจะได้เปิดให้คนกลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนสามารถมาเมืองไทยได้ สุดท้ายหากตรวจพบเชื้อในคนดังกล่าวก็ให้นำเข้าระบบการรักษาเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นความเสี่ยงก็ให้กักตัว

นายแพทย์ทวีศิลป์ย้ำว่า ศบค.มีภาพแผนภูมิแสดงชัดเจน ระหว่างนักเดินทางจากต่างประเทศที่เป็นกลุ่ม “ได้รับวัคซีน” กับ “กลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน” ถ้าตรวจ 1. RT-PCR แล้วผลออกมาเป็นลบ ก็ทำตัวแบบคนที่รับวัคซีนแล้วได้เลย 2.ถ้าไม่มีผลตรวจ RT-PCR มาเลยจะต้องจัดให้ไปอยู่ในกลุ่มที่จะต้องเข้าระบบ AQ เพื่อเอื้อต่อคนที่เข้ามาเมืองไทยให้ได้มากขึ้น

                เรื่องที่ 2 การเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาไทยทางบก ที่ประชุมเห็นชอบให้ “เปิดเข้าได้เฉพาะผ่านจุดผ่านแดนถาวร” เท่านั้น  โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้

                “คนไทย” แบ่งกลุ่มนักเดินทางคล้ายกันเป็น 2 กลุ่ม 1.กลุ่มฉีดวัคซีนครบตามกำหนด ลงทะเบียนผ่าน COE ถ้ามีเอกสารการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดก็เข้าไทยได้เลย แล้วไปตรวจ Self ATK ถ้าตรวจเจอเชื้อก็รักษาเหมือนปกติ 2.กลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ ต้องกักตัวในระบบ AQ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

                “คนต่างชาติ/ไม่มีสัญชาติไทย” เป็นกลุ่มคนเดินทางโดยใช้ Broader Pass ข้ามผ่านแดนเข้ามาไทย แบ่งเป็น

             กลุ่มที่ 1 เดินทางมาเพียง 2-3 วัน แล้วไม่ต้องการจ่ายเงินแพง ไม่ต้องลงทะเบียนผ่าน THAILAND PASS ไม่ต้องมีประกันสุขภาพ ถ้าฉีดวัคซีนครบตามกำหนดก็เข้าเมืองไทยได้ 

กลุ่มที่ 2 พำนักอยู่ในเมืองไทยระยะยาว จะมีทั้งฉีดวัคซีนครบกับฉีดไม่ครบ จะใช้เกณฑ์คล้ายคลึงกับการเดินทางจากต่างประเทศเข้าเมืองไทย

รายละเอียดดังกล่าวนี้ ก็เพื่อให้สิทธิ์คนจากต่างประเทศได้เข้ามาไทยด้วย ข้อเสนอเหล่านี้จะเน้นในเนื้อหาหลัก ๆ คือ “ผู้ว่าราชการจังหวัด” จะต้องเป็นผู้พิจารณาในการเปิดให้ “ผู้ผ่านแดนทางบกจุดผ่านด่านถาวร” พิจารณาเป็นรายไป ซึ่งทาง ศบค.ชุดใหญ่ให้ทาง “คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด” เป็นผู้จะพิจารณาเปิดหากพื้นที่ตรงนั้นมีความพร้อม เพื่อทำให้ท่องเที่ยวเป็นพลังฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาคึกคักอย่างรวดเร็ว และปลอดภัยทั้งคนในชาติและนักเดินทาง

 


ข่าวที่สอง “สุวรรณภูมิ”ผนึกททท.+EOCคุม700โรงแรมลดผู้โดยสารแออัดในสนามบิน

 

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า ทางสนามบินสุวรรณภูมิวางแผนแก้ไขปัญหาความแออัดตรงบริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสาร Test & Go กับโรงแรม บริเวณพื้นที่โถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศอย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับพันธมิตร ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยว ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 700 โรงแรม

 

โดยได้ใช้วิธี “เปิดช่องทางออกและติดตั้งเคาน์เตอร์ให้บริการ” กับโรงแรมเพิ่มขึ้น โดยทาง ททท. จัดทำ QR Code ให้ผู้โดยสารสแกน ณ จุดรับกระเป๋าเพื่อตรวจสอบหมายเลขเคาน์เตอร์ให้บริการของโรงแรมที่ได้สำรองห้องพักไว้ เพื่อลดเวลาการค้นหาระหว่างผู้โดยสารกับตัวแทนโรงแรมที่จะต้องมารอผู้โดยสาร 700 โรงแรม ทดลองทำแล้วพบว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารกับตัวแทนโรงแรมค้นหากันเจอได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น

 

ส่วนที่ยังต้องแก้ไขต่อไปคือ “ปัญหาผู้โดยสารหาตัวแทนโรงแรมไม่พบ” 1.ตามหมายเลขเคาน์เตอร์ที่ระบุใน QR Code 2.บางโรงแรมไม่จัดรถมารับผู้โดยสารได้ตามเวลาที่กำหนด ทำให้ผู้โดยสารต้องรอรถนาน

 

ขณะนี้ทาง สนามบินสุวรรณภูมิ ศูนย์ EOC และ ททท. ใช้วิธีร่วมกันกำหนดมาตรการการกำกับดูแลโรงแรมให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด ทางโรงแรมจะต้องจัดตัวแทนและรถมารับผู้โดยสารให้เพียงพอ นำผู้โดยสารออกจากให้เรียบร้อยภายใน 15 นาที นับตั้งแต่นักท่องเที่ยวมาถึงหน้าเคาน์เตอร์โรงแรมไปจนถึงขึ้นรถออกจากอาคารผู้โดยสาร

กรณีรถโรงแรมไม่สามารถเข้ารับผู้โดยสารได้ภายในเวลาที่กำหนด โรงแรมต้องใช้รถ AOT Limousine ที่ทางสนามบินเตรียมไว้ หรือรถแท็กซี่ที่ได้รับอนุญาตให้บริการอย่างถูกต้อง

               

ขณะที่ ททท. เองได้ประสานขอความร่วมมือจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC : Tourist Assistance Center) และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเข้าช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวบริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ( Exit B และ C ) ร่วมกับสุวรรณภูมิและศูนย์ EOC เป็นอย่างดี

 

นายกิตติพงศ์ ย้ำว่า ทุกหน่วยงานพร้อมความร่วมมือกันเพื่อลดปัญหาการให้บริการและระบายผู้โดยสารในสนามบินให้ทำเกิดทุกฝ่ายสะดวกสบาย และอยากเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยในระยะยาว

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai