ททท.พลิกโฉมเที่ยวไทยไตรมาส3รุกขายเทรนด์ใหม่7กลุ่มโครงการ ชูโมเดล“สงกรานต์มิวสิคเฮอริเทจ”สงขลา+อยุธยา-เริ่มแม่บทตลาดเที่ยวไทย5ภาคลุย5เรื่องใหญ่ปี’66

ททท.พลิกโฉมเที่ยวไทยไตรมาส3รุกขายเทรนด์ใหม่7กลุ่มโครงการ

ชูโมเดล“สงกรานต์มิวสิคเฮอริเทจ”สงขลา+อยุธยาบูมทัวร์มรดกโลก

เริ่มแล้วแผนแม่บทตลาดเที่ยวไทย5ภาคเดินหน้าลุย5เรื่องใหญ่ปี’66

คิงเพาเวอร์เปิด!!เมืองดิวตี้ฟรี+ร้านพาณิชย์WorldJunctionสุวรรณภูมิ

คิงเพาเวอร์แจกดีลเม.ย.ท้าลมร้อนบัตรเงินสดช้อปเพิ่ม+บัตรScarlet

อิ่มอร่อย99บาทที่“ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์”สาทรทุกจันทร์-ศุกร์

ททท.ควงหนีกรุงดึงเคนนี่จี.จัดแจ๊สโลกหัวหินปลุกเที่ยวไทย7พ.ค.65

ททท.ชวนนั่งรถไฟเที่ยวงานแก่งคอยไหว้พระชิมอาหารอร่อยใกล้กรุง

บางจากนำอินทนิลรุกทำโปรเจ็กต์“แก้วเพาะกล้า#3”ปลูกป่า1ล้านใบ

ตะลอนทัวร์ภูเก็ต3ชุมชนสุดปัง“ท่าฉัตรไชย-เกาะโหลน-เชิงทะเล”

พร้อมสู้!!หน้าร้อน8วิธีปรับสมดุลร่างกายให้เย็นลงป้องกัน4โรคร้อน

TCEBจัดMICETecoMart2022แจกทุนน5ล้านปั้น100นวัตกรรมไมซ์

เที่ยวด่วนเทศกาลดนตรีโชคดีมีสุขระยองลุ้น700รางวัลถึง3เม.ย.65

 วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #คิงเพาเวอร์เปิดแล้วWorldJunctionสุวรรณภูมิ  #อินทนิลแก้วเพาะกล้า #เที่ยวท่าฉัตรไชยเกาะโหลนบางเทา

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...

 

ช่วงที่ 1 ลุยไตรมาส 3 อุตเที่ยวไทยกับ “นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พลิกโฉมครึ่งปีหลัง เม.ย.-ก.ย.65 โชว์พลังปลุก 7 กลุ่มโครงการ “สายมู-เวอร์เคชั่น-สปีเชียลดีล-โร้ดทริป-SHA-เมืองรอง+อันซีน” ไฮไลต์นำร่องสงกรานต์แนวใหม่ “ มิวสิค เฮอริเทจ” 2 จังหวัด สงขลา พระนครศรีอยุธยา ปูพรมแผนแม่บทตลาดในประเทศปี’66 ระดม 5 ภูมิภาคติดเทอร์โบ 5 โจทย์ใหญ่1.เพิ่มวันพักเที่ยววันธรรมดา 2.Thailand Premium เพิ่มยอดต่อคนต่อทริป 3.เที่ยวเมืองรองต้องชัด4.เทรนดี้ วิถีใหม่ 5.Workation Thailand +Festival Experience

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนเดินหน้าตลาดท่องเที่ยวครึ่งหลังปี 2565 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตอนนี้สัญญาณคนไทยยังคงออกเดินทางเที่ยวไทย เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาผ่านระบบ Test & Go ส่งผลทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรม (OR -Occupacy Rate) กับอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยของสายการบิน (Load Factor) ช่วงวันหยุดค่อนข้างดี ส่วน ททท.ก็ต้องกระตุ้นตลาดต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีงบประมาณช่วงเมษายน 2565 เป็นต้นไปควบคู่กันไปด้วย เป็นโครงการต่อเนื่องและขยายแนวรุกใหม่ 7 กลุ่มโครงการ   

 

โครงการกลุ่มที่ 1 การท่องเที่ยวศรัทธาเสริมมงคล กลุ่มสูงวัย (Silver Age) กับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีความเชื่อความศรัทธา เป็นอีกกลุ่มที่ ททท.ทุกภูมิภาคให้ความสนใจพร้อมกับนำเสนอแพกเกจเที่ยว เสริมสิริมงคลปีขาล กระตุ้นให้เกิดการพักค้างคืน รวมทั้งช่วงสงกรานต์จะกระตุ้นเที่ยวประเพณีวิถีถิ่นด้วย

โครงการกลุ่มที่ 2 Workation Thailand Season 2 -ทำงานเที่ยวได้ เห็นความสำเร็จจากกระแสตอบรับของลูกค้ากลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ (Corporate) ไปใช้บริการโรงแรมที่พัก ช่วยผู้ประกอบการให้อยู่รอดได้ หลังจากนี้ไปเข้าสู่ปีที่ 3 จะเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ชอบเดินทางอิสระโดยลำพัง (F.I.T.-Free Individual Travel )

อีกทั้ง ททท.จับมือกับพันธมิตรใหญ่อย่าง True Corporation นำเสนอบริการ “ปรึกษาหมอฟรี” เมื่อซื้อแพกเกจแล้วสามารถโหลดแอพลิเคชั่นเพื่อคุยกับทีมหมอที่ทางทรูจัดเตรียมไว้ให้ได้ทันที เป็นเรื่องของการเดินทางวิถีใหม่

รวมทั้งต้องการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันสร้างแฮชแท็กซ์ (#) #WorkationThailand #WorkationParadise เมื่อทุกประเทศเปิดท่องเที่ยวแล้ว รวมถึงประเทศไทย คนส่วนใหญ่อยากสร้างสมดุลระหว่างการทำงานกับท่องเที่ยวหรือ Work Balance โดยเลือกทำงานตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะ “ประเทศไทย” เป็นอีกประเทศที่ได้รับการร้องขอที่คนทั่วโลกสนใจเดินทางเข้ามาใช้บริการ

โครงการกลุ่มที่ 3 Special Deal ททท.ร่วมกับสถานประกอบการท่องเที่ยว 450 แห่ง ให้ดีลพิเศษ ท่องเที่ยวซีเอสอาร์ การท่องเที่ยวตามธีม ท่องเที่ยวหรูหรา การท่องเที่ยวเชิงอาหาร

สำหรับ Special Deal ได้นำแพกเกจวางตลาดเรียบร้อยแล้ว ทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพกับแทรเวล แพลตฟอร์ม รวมทั้ง Utility Token จัดกิจกรรมต่าง ๆ ทำยอดขายได้ดี และเมื่อ 29 มีนาคม 2565 ก็เปิดขายแพกเกจ Workation Paradise ส่วน แคมเปญ FlashSale วันที่ 4 เดือน 4 (4เมษายน 2565) ให้รอได้เลย “ราคาพิเศษดึงดูดใจ” มาก ๆ เข้าไปดูได้ทาง www.tourismthailand.org/workationthailand    และ www.thailandholideal มีแพกเกจกับสินค้าท่องเที่ยวตามสนใจ ททท.ต้องการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว โดยจะมีผู้ประกอบการร้านค้ารับเงินจากนักท่องเที่ยวโดยตรง

โครงการกลุ่มที่ 4 สินค้าสุขภาพและผ่อนคลายต่าง ๆ ททท.ได้ทำร่วมกับฝ่ายสินค้า เปิดเส้นทาง “อาบป่า” เช่น ผืนป่าฮาลาบารา จ.ยะลา “อาบทะเล”

โครงการกลุ่มที่ 5 ขับรถท่องเที่ยวหรือ Road Trip ตอนนี้คนหันมาเดินทางขับรถส่วนตัวเที่ยวกับครอบครัว เพื่อนฝูง ททท.จึงได้จัดเส้นทางขับรถเที่ยว ทั้งรถประหยัดพลังงาน รถไฮบริด นำเสนอขายผ่านช่องทาง Special Deal โดยใช้เกณฑ์คาร์บอนเครดิตมาเป็นตัวกำหนด ททท.ร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TETA) จัดทำแพกเกจ “ท่องเที่ยวสมดุลการลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์” โครงการ Amazing New Chapters Amazing New Balance Tourism วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ สามารถแวะมาชมงานและซื้อแพกเกจได้ กับเส้นทางโร้ดทริป

โครงการกลุ่มที่ 6 สินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA, SHA PLUS ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการทำผ่านแทรเวลออนไลน์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึง Start Up ตอนนี้เริ่มคุยกันแล้วกับ Travelloka, Lasada หรือแม้แต่ส่งเสริมการขายร่วมกับ Travel and Leisure เมื่อทุกอย่างปรากฏบนโลกออนไลน์แล้วก็สามารถจะโน้มน้าวให้คนเข้ามาซื้อท่องเที่ยวได้ทั้งตลาดในประเทศและทั่วโลก เป็นองค์กรประกอบที่ต้องการย้ำเน้นช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 เป็นต้นไป

 

โครงการกลุ่มที่ 7 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ทำคอนเทนท์เพิ่มมากขึ้น +บวกเข้ากับ Unseen New Series ททท.ต้องการจะ 1.เพิ่มความถี่การเดินทางของนักท่องเที่ยว 2.เพิ่มวันพักค้างคืนตามสถานประกอบการ โดย ททท.จะต้องเร่งเติมเรื่องเทศกาลเดินทางเพิ่มประสการณ์ท่องเที่ยวหรือ Festival Experience เน้นทำการตลาดที่จะกระตุ้นได้ เช่น ท่องเที่ยวยามค่ำคืน การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism)

 

ในระยะเวลาอันใกล้นี้จะได้เห็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่เรียกว่า Big Trail จัดการแข่งขันวิ่งเทรลรูปแบบต่าง ๆ ตามนโยบายหลักของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องการบูรณาการทำงานระหว่าง ททท.กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ใช้ Sport Tourism เข้ามาช่วยเพิ่มวันพักค้าง และเพิ่มการใช้จ่ายของนักเดินทางแต่ละครั้ง

 

จากนี้เป็นต้นไปจะได้เห็นการวิ่งเทรลแปลก ๆ ในหลายจังหวัดของเมืองไทย  เช่น วิ่งเทรล 3 ขุนเขา นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว วิ่งเทรลพญานาค จังหวัดอุดรธานี ส่วนงานใหญ่มากกำลังเกิดขึ้นคือ “อะเมซิ่ง จังเกิ้ล เทรล เบตง” จังหวัดยะลา 6-8 เมษายน 2565 จะมีนักวิ่งจากทั่วโลกเข้ามาร่วมมากมาย

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า “การท่องเที่ยวสงกรานต์ปีขาล 2565” ทั้ง 5 ภูมิภาค ททท.หวัง 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 ไม่ต้องการทำให้สงกรานต์เป็นเทศกาลทำให้เกิดการแพร่ระบาดหรือเกิดแรงกระเพื่อมโควิด-19 ตามที่รัฐบาลบอกขอให้จัดได้อย่างมีกฎเกณฑ์ ต้องระมัดระวัง เคร่งครัดมาตรการสาธารณสุข เพราะไทยได้ประกาศให้เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ให้ “โควิด-19” เป็นโรคประจำถิ่น สงกรานต์จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ เรื่องที่ 2 การฟื้นและกระจายรายได้จากนักเดินทางทั่วประเทศเข้าไปฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น

 

ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค จะเน้นการนำมรดกวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย ไฮไลต์เด่น 2 พื้นที่ ได้แก่

 

พื้นที่แรก  “ภาคใต้” จะจัด “สงกรานต์ มิวสิค เฮอริเทจ เฟสติวัล” จังหวัดสงขลา กำลังเสนอทางยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลก ดังนั้น ททท.จึงมุ่งนำเสนอมรดกวัฒนธรรมผสมผสานกับดนตรี ส่งเสริมการขายช่วงสงกรานต์ เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และเป็นช่วงที่ทางทีมงานจากยูเนสโก้เดินทางเข้ามาตรวจข้อมูลในสงขลาพอดี

 

การจัดจะโชว์ถึงประเพณีอันดีงาม สรงน้ำพระ และมรดกต่าง ๆ งดเล่นสาดน้ำเพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หันมาทำ Light Mapping สร้างแลนด์มาร์กสวย ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปแชร์เผยแพร่สู่สาธารณะ

 

พื้นที่ 2 “สงกรานต์ มิวสิค เฮอริเทจ เฟสติวัล” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีอัตลักษณ์เป็นเมืองมรดกอยู่ก่อนแล้ว

สำหรับภาคอื่น ๆ คือ “ภาคเหนือ” จัดใน 12 จังหวัด จัดสงกรานต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวอัตลักษณ์ไทย วัฒนธรรมพื้นถิ่น มีไฮไลต์ที่ “สงกรานต์น้ำทิพย์เมืองเชียงใหม่” ในโอกาสเฉลิมฉลองครบ 726 ปี สอดคล้องกับธีม “วันวาน...เมืองเหนือ” รื้อฟื้นวัฒนธรรมปรุงน้ำทิพย์สงกรานต์ตามความเชื่อโบราณ “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” จัด 14 จังหวัด ชูธีมชัด “อีสาน หมู่ยามบ้าน เยือนมหาสงกรานต์  20 จังหวัด” ทุกพื้นที่เน้นวัฒนธรรม ประเพณี กิจกรรมสะเดาะเคราะห์รับปีใหม่ไทย ภายใต้อีสาน สะดวก สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

 

“ภาคกลาง” มีอยุธยา กับ อุทยานไทย ณ สัทธา ราชบุรี หรือ สงกรานต์มอญสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี “ภาคตะวันออก” จัดสงกรานต์ชลบุรีอย่างยิ่งใหญ่ ส่วน “กรุงเทพฯ” แบ่ง 2 กิจกรรม ได้แก่ 1.เทศกาลเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2 แห่ง วัดสระเกศกับวัดราชบพิตร วันที่ 13-15 เมษายน ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. และ 2.เทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ วัดทั่วกรุงเทพฯ อีก 8 แห่ง เริ่ม 9-17 เมษายน นี้ ททท.จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยออกท่องเที่ยวสงกรานต์อย่างมีความสุขและอย่าประมาทในการป้องกันโควิด โอมิครอน

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.เริ่มจัดประชุมการจัดทำแผนการตลาดปี 2566 ในลักษณะ Pre-Regional ของภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศ ซึ่งได้โจทย์ชัดไปทำข้อมูลเรียบร้อยแล้วที่จะขับเคลื่อนท่องเที่ยวในประเทศปีหน้า โดยการเน้นย้ำ 5 โจทย์หลัก ดังนี้

1.ตอบโจทย์เที่ยววันธรรมดาด้วยกลยุทธ์เพิ่มวันพักเฉลี่ยเติบโตมากขึ้น

2.Thailand Premium ที่จะต้อบโจทย์การเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยจากนักท่องเที่ยวต่อคนต่อทริป

3.การท่องเที่ยวเมืองรอง ยังต้องเดินหน้าผลักดันโดยใส่เนื้อหาเรื่องราวการท่องเที่ยวสอดรับกับพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย  

4.การท่องเที่ยวเทรนดี้ วิถีใหม่ ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ปี 2566

5.การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ Workation Thailand + Festival Experience การท่องเที่ยวตอบประสบการณ์ผ่านกิจกรรมอัตลักษณ์ วิถีประเพณีท้องถิ่น ต้องทำให้ปังและดังพอที่จะปลุกคนออกมาเที่ยวอย่างคึกคัก 

ส่วนสุดท้าย ททท.ขอฝากนักเดินทางในประเทศการท่องเที่ยวสงกรานต์ที่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมบ้าน พ่อแม่ และเที่ยววันหยุด ก็ขอให้ร่วมมือกันดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเป็นเทศกาลแพร่ระบาดของโควิด รวมทั้งกลับไปใช้จ่ายเงินอุดหนุนสินค้าชุมชน ร้านอาหาร ที่พัก ซึ่งทุกแห่งก็พยายามที่จะเข้ามาตรฐาน SHA ความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมที่จะนำการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวของประเทศให้กลับสู่ปกติได้รวดเร็ว

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์เปิด!!เมืองดิวตี้ฟรี+ร้านพาณิชย์WorldJunctionสุวรรณภูมิ 

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้บริหารร้านค้าดิวตี้ ฟรี และพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิพร้อมเปิดบริการร้านต่าง ๆ ครบวงจร ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเข้าออก และร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์สุวรรณภูมิสนามบินชั้นนำของประเทศเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค 

โดยได้ลงทุนตกแต่งร้านค้าโฉมใหม่เป็น “World Junction” ด้วยไฮไลต์เด่น ๆ 3 เวิลด์โซน ประกอบด้วย  1. World Fashion 2.World Beauty และ 3. World Duty Free  สร้างปรากฏการณ์ ‘ดิวตี้ ฟรี เวิล์ดคลาส ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น’ (Duty Free World Class Shopping Destination)  โดยได้รับการสนับสนุนจากคู่ค้าระดับโลกยกระดับพื้นที่ช้อปปิ้งในสุวรรณภูมิเป็นเรือธงหรือ Flagship “สโตร์ของแบรนด์เนมระดับโลก”

 

  เริ่มต้นจากพื้นที่ “ส่วนแรก World Fashion” ได้รับเกียรติจากแบรนด์แฟชั่นปารีสระดับตำนานอย่าง ‘หลุยส์ วิตตอง’ (Louis Vuitton) ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ พลิกโฉมหน้าใหม่แห่งประวัติศาสตร์ ลงทุนเปิดแฟล็กชิพสโตร์ครั้งแรกในสุวรรณภูมิสนามบินแถวหน้าของประเทศไทย อีกทั้งยังมีแบรนด์อินเตอร์หลั่งไหลเข้ามาร่วมสร้างปรากฏการณ์การเดินทางครั้งใหม่ ได้แก่

‘กุชชี่’ (Gucci) แบรนด์แฟชั่นระดับตำนานสัญชาติอิตาลี ได้นำนวัตกรรมใหม่ทางเทคโนโลยี LED video wall display มาสร้างสีสันให้ ‘กุชชี่’ ให้กลายเป็น LED Boutique ในสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรกของเอเชียด้วยเช่นกัน 

เรื่อยไปจนถึงแฟลกซ์ชิพสโตร์ลักชัวรี่แบรนด์ชั้นนำระดับโลกอีกกว่า 20  แบรนด์  ได้แก่ คาร์เทียร์ (Cartier), ชาแนล (Chanel), แอร์เมส (Hermes), เฟอร์รากาโม (Ferragamo), โบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta), แซงต์ โลรองต์ (Saint Laurent), Balenciaga (บาเลนเซียกา), เซลีน (CELINE),  โลเอเว่ (LOEWE) และริโมวา (Rimowa) 

 

การปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ พันธมิตรคิง เพาเวอร์ รวมพลังกันยกระดับให้สุวรรณภูมิเป็นสนามบินนานาชาติตามคอนเซ็ปต์ World Junction ของ World Fashion ที่มีบริการครบทุกแบรนด์ระดับโลกที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักช้อปทั่วโลกนำเงินเข้ามาใช้จ่ายนำรายได้เข้าประเทศฟื้นเศรษฐกิจชาติได้โดยเร็ว

 

พื้นที่ส่วนที่ 2  “World Beauty” นำโดย 5 แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ ชาแนล (Chanel)  เอสเคทู (SKII) ลังโคม (Lancôme) เอสเต้ ลอเดอร์ (ESTÉE LAUDER) และ ดิออร์ (DIOR)  เปิดแฟล็กชิพสโตร์เครื่องสำอางและน้ำหอม หนุนความเป็น Beauty Gate Way ระดับลักชัวรี่ 

 

พื้นที่ส่วนที่ 3 “World Duty Free” ตกแต่งปรับปรุงใหม่ โดยได้รวบรวมสินค้ายอดนิยมที่นักเดินทางชื่นชอบช้อป มีทั้ง ร้านจำหน่ายสุรา ขนมและของฝากที่ระลึกทั้งไทยและต่างประเทศ สินค้าอัตลักษณ์ไทยพื้นบ้าน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระจายรายได้สู่ชุมชน

 

ขณะเดียวกันคิง เพาเวอร์ ยังได้ปรับปรุง The Atlas Club และ King Power Space เพื่อำนวยความสะดวกสบายพร้อมให้บริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ ภายใต้มาตรการสุขอนามัยระดับสากล  สามารถตรวจสอบสิทธิการเข้าใช้บริการล่วงหน้าที่ http://member.kingpower.com

 

นายอัยยวัฒน์กล่าวว่ การปรับโฉม “พื้นที่เชิงพาณิชย์” (commercial area) ได้ทำควบคู่กันไปด้วย เพื่อรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวระหว่างเดินทาง ประกอบด้วย ร้านอาหารชั้นนำ พร้อมทั้งเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ   อย่างครบครัน

 

รวมทั้งมี‘บริการใหม่ในสนามบิน เรียกว่า “KING POWER CLICK & COLLECT”  ช้อปออนไลน์ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่ที่ไหนก็ช้อปสินค้าคิง เพาเวอร์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  ช่วยตอบโจทย์การท่องเที่ยวและการช้อปปิ้งยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ด้วยบริการเหนือชั้นไม่แพ้ ดิวตี้ ฟรี แห่งอื่นในภูมิภาคเอเชีย  

 

สำหรับ “KING POWER CLICK & COLLECT”  เริ่มเปิดบริการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 มาจนถึงปัจจุบัน สร้างความสะดวกด้านการช้อปปิ้งสินค้า ดิวตี้ ฟรี กับ คิง เพาเวอร์ ทางออนไลน์ ประการสำคัญ “รับสินค้าที่ช้อปแล้วได้ง่ายขึ้น” ที่สนามบินทั้งขาเข้า-ขาออก  เนื่องจากนักเดินทางสามารถช้อปปิ้งได้จนนาทีสุดท้ายก่อขึ้นเครื่อง 2 ชั่วโมง

 

ขณะเดียวกันก็มีแบรนด์ดังเพิ่มเพื่อให้เลือกช้อปได้มากกว่าเดิม ไปพร้อม ๆ กับสินค้า Travel-Exclusive ซึ่งเปิดมาแล้ว 3 เดือน นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศตอบรับบริการดังกล่าวมากพอสมควร โดยมีกลุ่มสินค้ายอดนิยม ได้แก่ เครื่องสำอาง และน้ำหอม

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์แจกดีลเมษาท้าลมร้อนบัตรเงินสดช้อปเพิ่ม+บัตรScarletได้คุ้ม

เมษายน 2565 ช้อปคุ้มค่า ท้าลมร้อนด้วย CASH CARD1-30 เมษายน 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต (คิง เพาเวอร์ ศรีวารี เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์) ซื้อ CASH CARD รับฟรี GIFT CARD ไปช้อปเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท

1.รับฟรี GIFT CARD 10,000 บาท* เมื่อซื้อ CASH CARD มูลค่า 25,000 บาท

2.รับฟรี GIFT CARD 3,000 บาท* เมื่อซื้อ CASH CARD มูลค่า 10,000 บาท

บัตร “SCARLET” ใหม่ ได้อีกสามารถเข้าบัญชีสมาชิก 6,000 บาท สามารถค้นหาได้ 10%เพิ่มเพิ่ม! โพในบัญชีสมาชิก 1,500 บาท วันนี้- 30 เมษายน 2565 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต รับเพิ่ม 1,500 บาท ได้ถึง6 พฤษภาคม 2565

ส่วนลดสมาชิก10% - ใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา รวมการขอออนไลน์ สามารถช้อปได้เต็มจำนวน ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ( ยกเว้น  ออนไลน์)

 

ข่าวที่ 3 อิ่มอร่อย99บาทที่ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์ทุกจันทร์-ศุกร์

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญรับประทานอาหาร “อร่อยราคาเดียว 99 บาท” ได้ที่ศูนย์รวมสตรีทฟู้ด “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ : THAI TASTE HUB MAHANAKHON CUBE อิ่มได้ทุกวันระหว่างสัปดาห์หรือวันธรรมดา ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ จากกว่า 30 ร้านสตรีทฟู้ดดังและระดับมิชลินไกด์ เลือกได้หลากหลายเมนู ทั้งของคาว ของหวาน  ข้าวหมูย่าง เกาเหลาเนื้อใบพายสไลด์ ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกเนื้อ ข้าวเหนียวมะม่วง วุ้นกะทิใบเตยและอีกมากมาย

ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ อยุ่บริเวณชั้น 1 หน้าอาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ติดกับสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ทางออกช่องหมายเลข 3  เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 - 20:30 น. โทร. 02-677-8721

 

ข่าวที่ 4 ททท.ควงหนีกรุงดึงเคนนี่จี.จัดแจ๊สโลกหัวหินปลุกเที่ยวไทย7พ.ค.65

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.สนับสนุนธุรกิจภาคเอกชน หนีกรุง คอนเน็ค และ บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จัดอีเวนต์ดนตรีระดับโลก งาน “เทศกาลดนตรี International Jazz & Blues Festival 2022” ในวันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม  2565 ณ สนามฟุตบอลของ ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ “เคนเนธ บรูซ กอลีลิกซ์ (Kenneth Bruce Gorelick)” หรือ “Kenny G” ศิลปินแจ๊สชาวอเมริกันระดับตำนาน ผู้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการดนตรีแจ๊สของโลก

อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมขานรับนโยบายรัฐบาลการเปิดประเทศ Reopen Thailand ของรัฐบาล เรื่อยไปจนถึงการเพิ่มส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ และการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ควบคู่ไปกับเดินหน้าพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย มุ่งผลักดันจุดขายสินค้าหมวด Soft Power of Thailand ภายใต้แนวคิด 5F : 4M ประกอบด้วย 5 F ได้แก่ Food-Film-Fashion- Festival-Fight และ 4M ได้แก่ Music-Museum-Master-Meta   

ความร่วมมือจัดเทศกาลดนตรีแจ๊สครั้งนี้มีความสำคัญที่จะได้นำงานอีเวนท์ระดับโลก หรือ World Class Event มาตอกย้ำด้านการผนึกพลังกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน ช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย  คาดการณ์จะสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่กว่า 20 ล้านบาท

 

โดยเลือก “หัวหิน” ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการท่องเที่ยวและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวเขต Blue Zone ที่มีศักยภาพความพร้อมด้านการบริหารจัดการ ผนวกกับมีทรัพยากรท่องเที่ยวครบ สามารถจัดกิจกรรม
ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง ดนตรี กีฬา ธรรมชาติ สุขภาพ และวัฒนธรรมด้านอาหารการกิน และครองความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง

 

นายรัฐรงค์ ศรีเลิศ กรรมการบริหาร บริษัท หนีกรุง คอนเน็ค จำกัด กล่าวว่า การจัดมหกรรมเทศกาลดนตรี International Jazz & Blues Festival 2022 ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพันธมิตรททท. เทศบาลเมืองหัวหิน บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ขนมอบกรอบตราโฮมมี บริษัท กรังปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ตคลับ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล  หัวหิน รีสอร์ท  โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน และ สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน 

 

 

โดยจะมีไฮไลต์การแสดงจาก “เคนเนธ บรูซ กอลีลิกซ์ (Kenneth Bruce Gorelick)” หรือ “Kenny G” เจ้าของผลงานทำยอดขายสูงที่สุดในโลก เจ้าของรางวัล  American Music Awards และ Grammy Awards การแสดงไฮไลต์ Wonderful Night Kenny G เต็มอิ่มตลอด 90 นาที

พร้อมทั้งจะได้พบกับการรวมตัวเฉพาะกิจของสุดยอดฝีมือดนตรีแนวฟิวชั่นแจ๊สนานาชาติ วง DRAGONFLY ประกอบด้วย Julian Cary, Willard Dyson, Denny Euprasert, Polwit Opapant และ Tontrakul Kewyong   และ การแสดงจาก Melodic Corner ค่ายเพลงแจ๊สคนรุ่นใหม่จาก Muzik Move นำโดย PAE SAX มือแซกโซโฟนระดับแถวหน้าของเมืองไทย กับ Nutty Natchaya

ร่วมด้วยแขกรับเชิญพิเศษมากความสามารถอีกหลายคน เช่น  โซ่ แมนลักษณ์ ทุมกานนท์ โสตถินันท์ ไชยลังการณ์ หรือ บี ETC.  วง​ Mellow​ Motif​  (เมลโลว์​ โมทีฟ)​ วงแจ๊ส/บอซซ่าดีกรีระดับสากล​

ส่งท้ายด้วยเทพแห่งวงการบลูส์ Yamin & The SOS (The Symbolic Of  Star) จะขึ้นเวทีโชว์เทคนิคการประชันฝีมือผ่านบทเพลงแจ๊ส เติมมนต์เสน่ห์แห่งค่ำคืนสุดประทับใจกับนักท่องเที่ยวและแฟนคลับดนตรีแจ๊สให้มีความสุขไปด้วยกัน

นายรัฐรงค์ ย้ำว่า ผู้จัดมีความเชื่อมั่นดนตรีแจ๊สจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยผลักดันและกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ อีกทั้งได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สร้างรายได้กระจายลงสู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง พร้อม ๆ กับได้ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้อำเภอหัวหิน ปราณบุรีชะอำ และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นในอนาคต

นักท่องเที่ยวที่ต้องการร่วมมหกรรมความสุขในเทศกาล International Jazz & Blues Festival 2022 และชมปรากฏการณ์ เคนนี่ จี สามารถซื้อบัตรได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“ราคาบัตร” มีให้เลือก 3 ราคา คือ  1.ราคา 2,000 บาท  2.ราคา 3,500 บาท และ 3.ราคา 5,000 บาท

พิเศษสุด!! สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรเข้าร่วมงานจะได้รับส่วนลดพิเศษเข้าพักโรงแรมและที่พักชั้นนำในหัวหินที่เข้าร่วมสนับสนุนโครงการจัดงานครั้งนี้

“ช่องทางซื้อบัตรเข้าชม” THAITICKET  MAJOR  โทร.0 2262 3456 หรือ https://bit.ly/KENNYGTH

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามผ่านทาง Facebook : Neekrung, Neekrung to go Line : @neekrungtogo หรือ Call Center : 08-4714-0000

 

ข่าวที่ 5 ททท.ชวนนั่งรถไฟเที่ยวงานแก่งคอยฯไหว้พระชิมอาหารอร่อยใกล้กรุง

นายอภิวัฒน์ ทับทิมโต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับพันธมิตรชวนนักท่องเที่ยวร่วม “งานแก่งคอย ย้อนรอยสงครามโลก ครั้งที่ 2”  ร่วมย้อนอดีตและเรื่องราวประวัติศาสตร์ เมืองแก่งคอย จากเหตุการณ์สมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ระหว่าง 1– 3 เมษายน 2565 ณ วัดแก่งคอย ตลาดแก่งคอย และบริเวณถนนเลียบสันติสุข อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

 

โดย ททท.ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริการเที่ยวรถไฟพิเศษ จากกรุงเทพฯ ถึงแก่งคอย 1 - 3 เมษายน 2565 ด้วยขบวน "นั่งรถไฟเที่ยวแก่งคอย ย้อนรอยสงครามโลก" ซึ่งทางการรถไฟเชิญชวนแต่งกายย้อนยุคนั่งรถไฟเพื่อเที่ยวงานแก่งคอย ย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 และ 2 เมษายน 2565 เปิดให้บริการเพียง 2 วันเท่านั้น

 

ค่าโดยสารรถไฟปรับอากาศ ไป-กลับ กรุงเทพฯ-แก่งคอย คนละ 799 บาท ขึ้นที่สระบุรี เพียงคนละ 150 บาท รวมตั๋วพร้อมอาหารว่างและเครื่องดื่มจากกรุงเทพฯ ถึงชุมทางแก่งคอย ระหว่างทางจะพาเที่ยวชมโรงรถจักรแก่งคอย บรรยายดูรอยระเบิดและร่วมถ่ายรูปก่อนเดินชมตลาดชุมชนแก่งคอย

 

ภายในงานมี“กิจกรรม” เชิญชวน นักท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน จะมีพิธีรำลึกผู้ประสบภัยทางอากาศสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 2 เมษายน 2565 ร่วมพิธีรำลึกผู้ประสบภัยทางอากาศสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และกิจกรรมการแสดงแสง  เสียงสื่อผสม เรื่อง “เมืองแก่งคอย ย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2” บ่งบอกถึงความรุ่งเรือง ความรัก ความพลัดพราก ความเศร้าโศก ซึ่งกลายเป็นโศกนาฏกรรมของชาวแก่งคอย

 

ตลอดงานท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์มากมาย รวมทั้งแวะนมัสการหลวงพ่อลา พระธาตุเจดีย์ศรีป่าสัก และเที่ยวชมถ้ำนาคา ชมการแสดงดนตรี ศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม ชม ชิม ช้อป ณ ซุ้มอาหาร ถนนคนเดิน หอการค้าแก่งคอย ร้านจำหน่ายที่มาจัดจำหน่ายสินค้า OTOP สินค้าพื้นเมืองที่น่าสนใจต่าง ๆ

 

ข่าวที่ 6 บางจากนำอินทนิลรุกทำ“แก้วเพาะกล้า#3”ปลูกป่า1ล้านใบ

นายเสรี อนุพันธนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า นำแบรนด์อินทนิลร่วมกับพันธมิตร สร้าง ECO Value Chain เปลี่ยนกาแฟเป็นต้นไม้สู่ผืนป่า ภายใต้โครงการ “แก้วเพาะกล้า” จัดส่งต่อแก้วย่อยสลาย 1 ล้านใบ ให้กรมป่าไม้นำไปปลูกป่า เนื่องในวันป่าไม้โลก 21 มีนาคม และเปิดตัว ECOLIFE พันธมิตรสีเขียวรายใหม่ ปี 2565

“โครงการแก้วเพาะกล้า ถือเป็นความภูมิใจของชาวอินทนิล เป็นโครงการที่ช่วยให้ความตั้งใจในการลดใช้พลาสติก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดหลักของแบรนด์ เกิดความสมบูรณ์ครบทุกมิติ เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งต้องขอขอบคุณพันธมิตรทุกคน ทำให้วันนี้ อินทนิลสามารถชวนลูกค้าส่งต่อแก้วย่อยสลายให้กรมป่าไม้นำไปเพาะกล้า ได้ครบ 1 ล้านใบ

 

บางจากฯ ยังคงเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปด้วยความมุ่งมั่นเป็นผู้นำร้านกาแฟสีเขียวให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเจ้าของรางวัลบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นผู้ใช้แก้วย่อยสลายรายใหญ่ อับดับ 1 ของอาเซียน

 

จากกลไกขับเคลื่อนของโครงการ ‘แก้วเพาะกล้า’ ที่มีความจำเป็นต้องใช้แก้วพลาสติกชีวภาพมาก อินทนิล ได้รับความร่วมมือจากลูกค้า (Customer) ในการสะสมแก้วใช้แล้วนำมาแลกเป็นส่วนลด รวมถึงกระบวนการจัดส่งแก้ว ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง ทั้งจาก โรงงานผู้ผลิตแก้ว (Vandapac Co., Ltd) ที่สนับสนุนชุดจัดเก็บ เพื่อส่งต่อให้คลังสินค้า และ คลังสินค้า (Integrated Logistics Services Co., Ltd หรือ ILS) ที่สนับสนุนระบบการขนส่งจากร้านอินทนิลทุกสาขาทั่วประเทศ

 

ทุกฝ่ายจัดเก็บก่อนส่งต่อให้กรมป่าไม้ รวมถึง กรมป่าไม้ (ส่วนผลิตกล้าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่า) ที่สนับสนุนการนำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง กลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ ในการส่งต่อกล้าไม้ผ่านแก้วย่อยสลายของอินทนิล เพื่อคืนสู่ผืนดินต่อไป

และสุดท้าย ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ (Franchisee) โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาการลงทุน หรือสำหรับเจ้าของอาคารสถานที่ (Landlord) ในการพิจารณาเปิดร้านกาแฟ แบรนด์ที่เลือกใช้วัสดุย่อยสลายและมีโครงการนำวัสดุไปใช้ประโยชน์ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ โครงการ ‘แก้วเพาะกล้า’ของอินทนิล เป็นโครงการที่สร้าง Circular Economy จากความร่วมมือของ Value Chain อย่างแท้จริง

                ช่วงที่ 2 ลงใต้ไป "ภูเก็ต" เที่ยว 3 ชุมชนริมทะเลอันดามัน "ชุมชนท่าฉัตรไชย-เกาะโหลน-เชิงทะเล/บางเทา" ชมธรรมชาติ ตะลอนตามเกาะ ทั้งผืนป่า การเกษตร อาหาร  ครบทุกประสบการณ์ แล้ว "เตรียมพร้อม 8 วิธีรับมืออากาศร้อนป้องกัน4โรค" ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก "TCEBจัดMICETecoMart2022" แจกทุนน5ล้านปั้น100นวัตกรรมไมซ์ ข่าวที่สอง "เที่ยวด่วนเทศกาลดนตรีโชคดีมีสุขระยอง" ลุ้น700รางวัลถึง3เม.ย.65

 

พาเที่ยว –ตะลอนทัวร์ภูเก็ต3ชุมชนสุดปัง“ท่าฉัตรไชย-เกาะโหลน-เชิงทะเล”

ทริปนี้จะชวนลงใต้ไปดับร้อนเมืองดังระดับโลก “ภูเก็ต” เลาะเที่ยว 3 ชุมชนติดทะเลอันดามัน

ชุมชนแรก “ท่าฉัตรไชย” เป็นจุดเชื่อมต่อเกาะภูเก็ตกับแผ่นดินใหญ่ ไฮไลต์อยู่ตรง “สะพานสารสิน” สร้างมากว่า 50 ปี เป็นปอดใหญ่ของเมืองบริเวณข้างสะพานเต็มไปด้วยป่าโกงกางเขียวชอุ่มสมบูรณ์ ที่ยังคงเต็มไปด้วย วิถีประมง และชาวมอแกน เป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารชั้นเยี่ยมของประเทศทั้งกุ้งมังกร 7 สี จักจั่นทะเล หอยติ๊บ ผักลิ้นห่าน กุ้งมังกร เพรียงทะเล หอยแครงป้าเหนียว

เป็นชุมชนที่มีเรื่องราวมากมายให้ศึกษาหาประสบการณ์ดี ๆ ตามคำขวัญที่ว่า “เมืองหน้าด่าน ตำนานรักสารสิน ถิ่นมอแกล็น ดินแดนวัฒนธรรม” และไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อย่างหาดทรายแก้ว หาดหินลูกเดียว หาดปากพระ อุโมงค์ต้นสน

 

ชุมชนที่ 2  “เกาะโหลน” ตำบลราไวย์  อำเภอเมือง เป็นแหล่งให้ใช้ชีวิตหนีความวุ่นวายมาติดเกาะ หรือIsland Escape อยู่อย่างสบาย นั่งเรือจากอ่าวฉลองไม่เกิน 20 นาที ก็ถึงแล้ว ได้ชื่อว่าเป็น “สันหลังมังกรกลางทะเล” นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีดั้งเดิมการทำประมงพื้นบ้าน ตกปลา เลี้ยงกุ้ง ไฮไลต์คือ “กิจกรรมตกหมึกสาย”

ในชุมชนมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมสนุกได้ เช่น นั่งเรือไปดูการทำประมงพื้นบ้าน เลี้ยงกุ้งมังกรในกระชัง หากอยากทำกิจกรรมเพิ่มต้องแจ้งล่วงหน้า คือ จับหมึกสาย ทำผ้าบาติกมัดย้อม ทำขนมพื้นเมือง สอบถามเพิ่มโทร : 081-2726665

 

ชุมชนที่ 3 "ชุมชนบางเทา-เชิงทะเล" ฝั่งตะวันตกของเกาะติดทะเล หาดทรายสวย น้ำทะเลใส แหล่งดำน้ำ โอบล้อมด้วยโรงแรม 5 ดาว มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าพักตลอดปี ไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวแถบนี้คือ “จุดชมวิวบางเทาภูผาวิว” เป็นจุดชมวิว 3 หาด ได้แก่ หาดสุรินทร์ หาดลายัน หาดในทอน และเดินเท้าไป “น้ำตกเหนือโตน” แล้วลองนั่งเรือหัวโทงของชาวบ้านเที่ยว “เกาะแวว” เป็นเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลมีหินแร่ที่แสงแดดตกกระทบจะวาวขึ้นทันที บริเวณนี้นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูปะการัง หรือว่ายน้ำเล่นได้

 

ส่วนสองข้างทางในชุมชนมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรหลากหลาย ปัง ๆ ก็มี“ฟาร์มเลี้ยงแพะ” ของบังโหด-มาโนช กับนายมานิตย์ งานแข็ง ฟาร์มรางวัลระดับประเทศเลี้ยงครบวงจรทั้งแพะเนื้อและแพะนม นักท่องเที่ยวลองรีดนมแพะได้ หรือจะลงมือ “กรีดยาง” สวนยางพาราของชาวบ้านก็ได้ ในสวนยางจะฟาร์มเลี้ยงนิ้ง หรือเป็ดเทศธรรมชาติด้วย ชมแปลงเกษตรอินทรีย์  เกษตรผสมผสาน เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ชมไร่สัปปะรดภูเก็ต สวนผลไม้หลากชนิดที่มีให้เห็นตลอดเส้นสองข้างทาง หรือจะไปเที่ยว “มัสยิดการ์ร่ม” เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในภูเก็ตศูนย์รวมทางศาสนาของชุมชนบางเทา เชิงทะเล

ชุมชนเชิงทะเล-บางเทา มีศูนย์บริการการท่องเที่ยวชุมชนของกลุ่มแม่บ้าน จะสาธิตทำ “ข้าวยำใบพาโหม” เมนูเด็ดของท้องถิ่น “ขนมอาโป๊ง” ขนมพื้นเมือง สอนการทำสบู่จากวัตถุดิบธรรมชาติในชุมชน  

                ถึงภูเก็ตแล้วกางแผนที่ตลุยเที่ยว 3 ชุมชนดัง สถานที่ท่องเที่ยวปัง ๆ ได้ทุกเวลา ได้เห็นเมืองไทยมุมใหม่ ๆ แน่นอน

 

สุขภาพ -พร้อมสู้!!หน้าร้อน 8 วิธีปรับสมดุลร่างกายให้เย็น ลด 4 โรค

อากาศร้อนเดือนเมษายน ปีนี้ ทุกคนจะต้องเตรียมตัวรับมือให้พร้อม ด้วย 8 วิธีปรับสมดุลในร่างกาย ไปพร้อม ๆ กับทำให้ตัวเองห่างไกลจาก 4 โรคหน้าร้อน ด้วยสร้างสมดุลร่างกายรับมือหน้าร้อน -ด้วยการทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป อย่างถูกวิธีดังนี้

1.ดื่มน้ำมาก ๆ – ในระหว่างหน้าร้อนที่ร่างกายจะเสียเหงื่อในปริมาณการดื่มน้ำมาก ๆ และบ่อย ๆ จะช่วยปรับสมดุลของร่างกายได้

2.ไม่ยืนตากแดดนาน ๆ – หากต้องออกไปข้างนอกไม่ควรปล่อยให้ความร้อนถูกตัวนานจนเกินไป ควรหาที่ร่มในการบังแดด

3.ควรพักจากกิจกรรมกลางแจ้ง – ไม่จำเป็นต้องงดจากการทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ควรมีเวลาหยุดพักจากการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน ๆ

4.จำกัดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงอุณหภูมิสูงของวัน – เวลาที่อุณหภูมิสูงระหว่างวันมักอยู่ในช่วง 11 โมงเช้า ถึง บ่าย 2 โมง

5.แบ่งมื้ออาหารให้มากขึ้น – เพิ่มมื้ออาหารให้มากขึ้นแต่ลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้น้อยลงเพื่อเป็นการควบคุมการเผาผลาญไม่ให้ร่างกายร้อนจนเกินไป

6.ลดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ – เพราะแอลกอฮอล์นั้นจะยิ่งทำให้เลือดสูบฉีด และเพิ่มความร้อนให้กับร่างกายมากจนเกินไป

7.สังเกตสัญญาณและอาการเจ็บป่วย – ในช่วงหน้าร้อนนั้นคุณควรหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ ของร่างกายที่เกิดขึ้นจากความร้อน

8.ต้องรู้จักลิมิตของร่างกาย – ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้นหากร่างกายเริ่มส่งสัญญาณของความอ่อนเพลียหรือผิดปกติควรหยุดพักทันทีไม่ควรฝืน

ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ต้องป้องกัน “ 4โรคหน้าร้อน”

1.อาหารเป็นพิษ (Food-Poisoning) -ความร้อนทำให้อาหารเสียหรือบูดอย่างรวดเร็ว หากเป็นพิษรุนแรงก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

2.ปวดร้อนตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือ Heat cramps -มักจะนำไปสู่อาการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม อย่างอ่อนเพลียจากการขาดน้ำอย่างหนักนำไปสู่ฮีทสโตรก การปวดร้อนตามส่วนต่าง ๆ มักจะเกิดแถวบริเวณหน้าท้องและขา

3.อ่อนเพลียจากความร้อน หรือ Heat exhaustion โดยจะมีสัญญาณเตือน คือ ปวดหัว คลื่นไส้ เวียนหัว อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย กระหายน้ำ เหงื่อออกมาก อุณหภูมิร่างกายสูง, ปัสสาวะลดลงและผิวหนังเย็น ชื้น ซีดหรือแดง หากปล่อยทิ้งไว้อาการอ่อนเพลียจากความร้อนจะนำไปสู่การเกิดฮีทสโตรก

 

4.ฮีทสโตรก -ไข้ขึ้นสูงจากความร้อนเฉียบพลันที่ร่างกายไม่สามารถปรับอุณหภูมิให้เย็นลงได้ ถือเป็นโรคหน้าร้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำและเกลืออย่างหนักในปริมาณที่มากเกินไป และร่างกายถูกครอบคลุมด้วยความร้อน หากเกิดอาการลักษณะนี้ต้องไปพบแพทย์ทันที

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –TCEBจัดMICETecoMart2022แจกทุนน5ล้านปั้น100นวัตกรรมไมซ์

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้จัดงาน MICE Techno Mart 2022 ภายใต้โครงการ MICE Winnovation ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เมื่อ 1 เมษายน 2565 ณ โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เดินหน้าผลักดันและเปิดกว้างให้ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์ นวัตกรรมสุขภาพ เทคโนโลยี AR/VR และอื่นๆ กว่า 10 หมวดเทคโนโลยี

 

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะกับอุตสาหกรรมไมซ์เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มดังกล่าว 70 นวัตกรรม จาก 60 บริษัท ดังนั้นในปี 2565 คาดจะมีบริษัทให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าร่วมเพิ่มเป็น 100 นวัตกรรม จาก 70-80 บริษัท

 

ส่วนการจัดงาน MICE Techno Mart 2022 ครั้งนี้ มีกิจกรรมไฮไลท์สำคัญคือ การนำเสนอไอเดียประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการจัดงาน (Pitching) เพื่อชิงทุนที่ทีเส็บจะให้สนับสนุนในรูปแบบ “คูปองนวัตกรรม MICE Inno-Voucher” มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

 

ประเภทแรก - คูปองนวัตกรรมสำหรับผู้จัดงาน หรือ Inno-Voucher เป็นเงินทุนสนับสนุน แบ่ง 3 แบบ ได้แก่

 

แบบที่ 1 Inno-Voucher L งานที่ใช้นวัตกรรมจัดงานไม่น้อยกว่า 3 วัน โดยใช้เทคโนโลยีผสมผสาน และต้องมีผู้ได้รับประโยชน์นวัตกรรมไม่น้อยกว่า 1,000 คน รับทุนสูงสุด 500,000 บาท

 

แบบที่ 2 Inno-Voucher M เป็นงานที่ใช้นวัตกรรมจัดงานไม่น้อยกว่า 1 วัน และต้องมีผู้ได้รับประโยชน์นวัตกรรมไม่น้อยกว่า 300 คน รับทุนสูงสุด 200,000 บาท

 

แบบที่ 3  Contactless Voucher เป็นงานที่ใช้นวัตกรรมส่งเสริมความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักเดินทางไมซ์ รับทุนสูงสุด 200,000 บาท

 

ประเภทที่สอง -คูปองนวัตกรรมสำหรับสถานที่จัดงาน หรือ Inno-Venue Voucher ให้ทุนสนับสนุน 2 แบบ ได้แก่

 

แบบที่ 1  Innovative Convention Center Voucher มีพื้นที่ใช้นวัตกรรม 3,000 ตารางเมตรขึ้นไป และใช้เทคโนโลยีจัดงานไม่น้อยกว่า 3 งาน รับทุนสูงสุด 1 ล้านบาท

 

แบบที่ 2  Smart Venue Voucher มีพื้นที่ใช้นวัตกรรมไม่เกิน 3,000 ตารางเมตร และใช้เทคโนโลยีในการจัดงานไม่น้อยกว่า 2 งาน รับทุนสูงสุด 500,000 บาท

 

ภายในงาน MICE Techno Mart 2022 ทีเส็บยังได้จัดกิจกรรม “เจรจาจับคู่ธุรกิจ หรือ Business Matching” ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองและต่อยอดธุรกิจร่วมกันระหว่างตัวแทนที่เข้าร่วม คือ 1.กลุ่มผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้ประกอบการไมซ์ 150 ราย 2.กลุ่มผู้ขายซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี 30 ราย คาดปีนี้จะเจรจาจับคู่ธุรกิจได้ 150 คู่ ต่างจากปีที่ผ่านมาจับคู่ธุรกิจได้ 312 คู่ แล้วนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีไปใช้จัดงานมากถึง 21 งาน 

           

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า การเดินหน้าโครงการ MICE Winnovation ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ด้วยการผลักดันให้หันมาใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมไมซ์หรือ MICE Techno Mart และการให้ทุนสนับสนุนในรูปแบบ MICE Inno-Voucher แล้ว ทีเส็บยังเร่งพัฒนาระบบฐานข้อมูลและตลาดออนไลน์ให้ผู้ประกอบการไมซ์ และบริษัทผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีผ่านแพลตฟอร์ม MICE Innovation Catalog ต่อเนื่องอีกด้วย

 

            ทางทีเส็บยังคงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ในหัวข้อที่น่าสนใจร่วมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญผ่าน MICE Digital Literacy of MICE ด้วย 2 กิจกรรมหลักด้วย คือ

 

1.กิจกรรม MICE Intelligence Talk จัดในรูปแบบไฮบริด 8 ครั้ง เพื่อให้ผู้ประกอบการไมซ์ทั้งในกรุงเทพฯ และในภูมิภาคได้เพิ่มพูนทักษะความรู้อย่างต่อเนื่อง

 

2.กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพผู้ให้บริการนวัตกรรมไมซ์และเครือข่าย ภายใต้แนวคิด Talk Trick Touch ในรูปแบบการจัดงานจริง (On-Site) 2 ครั้ง เพื่อให้บริษัทผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีได้เพิ่มพูนทักษะความรู้และมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมไมซ์ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการไมซ์แบบตัวต่อตัว

 

ข่าวที่สอง –เที่ยวด่วนเทศกาลดนตรีโชคดีมีสุขระยองลุ้น700รางวัลถึง3เม.ย.

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ได้ร่วมกับทางจังหวัดระยอง จัดเทศาล  “เทศกาลดนตรี โชคดีมีสุข : Lucky day Music Festival” ระหว่าง 1 - 3 เมษายน 2565 ณ สนามกีฬาประจำจังหวัดระยอง ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ตั้งแต่16.00-22.00 น. โดยมีเหล่าศิลปินขวัญใจชาวไทยเดินทางขึ้นเวทีสร้างความสนุกสนานอย่างคับคั่ง

 

เที่ยวสบ๊าย สบาย สไตล์ ททท.ตะวันออก อย่างปลอดภัย ในงาน “เทศกาลดนตรี โชคดีมีสุข” กับ  สิงโต นำโชค - ตู่ภพธร - มาเรียม B5 พร้อมทั้งลุ้นรับโชคกลับบ้านกับ 3 โซนกิจกรรมความสขุ ..สนุกได้ทุกวัน  

 

นักท่องเที่ยวที่ไประยองสัปดาห์นี้ 1-3 เมษายน 2565 ห้ามพลาดแวะเข้าชมงาน “ดนตรี โชคดีมีสุข : Lucky day Music Festival” แล้วร่วมกิจกรรมมากมาย ไฮไลต์หลัก ๆ ถ่ายรูปเช็คอิน การออกร้าน ของกิน ของใช้ และการแสดงดนตรีจากนักร้องชื่อดังมากมาย พร้อมลุ้นโชคกลับบ้าน  

 

กิจกรรมแรก -สุขยิ้มกว้าง : ชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินหน้าตาดีที่สุดในประเทศไทย “สิงโต นำโชค” เจ้าของเพลงฮิต โด่ดิดง และเพลงดังอื่นๆ อีกมากมาย ตามมาด้วย “ตู่ ภพธร” เจ้าพ่อเพลงรักที่หล่อละมุนทั้งเสียงร้องและหน้าตา และ “มาเรียม B5” ดีว่าตัวแม่เสียงทรงพลังที่มีแบ็คกราวน์อยู่ในระยองบ้านเรา

 

กิจกรรมที่ 2 - สุขเที่ยวไทย : สนุกไปกับการช็อปของดี ชิมของอร่อย ขึ้นชื่อของจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 50 บูธ

 

กิจกรรมที่ 3 - สุขลุ้นโชค : ได้เที่ยวได้โชคกลับบ้าน..กับกิจกรรมสอยดาว ทุก 100 บาท จากการใช้จ่ายภายในงานต่อครั้ง รับคูปองสอยดาว ลุ้นรับมอเตอร์ไซค์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายกว่า 700 รางวัล

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Neekrung To Go และ Facebook: เขาเล่าว่า

 

 

เทศกาลดนตรีโชคดีมีสุขฯ จัดขึ้นตามแนวคิด “เที่ยวปลอดภัยรับโชค”  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ให้ออกเดินทางได้อย่างมั่นใจภายหลังช่วงการฉีดวัคซีนอีกด้วย โดยภายในงานได้คำนึงถึงความปลอดภัยภายใต้มาตรการ Safe & Fun Covid Free Setting ของสาธารณสุขจังหวัดฯ มีการเว้นระยะห่างทางสังคม และควบคุมปริมาณผู้เข้าร่วมงาน ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมงานเพียงแสดงผลการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม หรือผลการตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง 

 

1 - 3 เมษายนนี้ ชมฟรีตลอดงาน ไม่เสียค่าใช้จ่าย มาแล้วมีแต่ได้ พกความสุขลุ้นโชคกลับบ้านไปกับ “เทศกาลดนตรีโชคดีมีสุข: Lucky day Music Festival” ณ สนามกีฬาประจำจังหวัดระยอง ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Neekrung To Go และ Facebook: เขาเล่าว่า

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.