ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.เร่งปั๊มรายได้เที่ยวไทย-ตลาดโลกปี’65-66 งัดCenimaticทุ่มทำหนังสั้นโฆษณา6สไตล์VisitThailandYear

ททท.จัดชุดใหญ่ปั๊มรายได้เที่ยวไทย-ตลาดโลกครึ่งหลังปี’65-66

งัดCenimaticลุยเปิดเทรนด์ใหม่ทุ่มทุนทำหนังสั้นโฆษณา6สไตล์

โชว์สูตร5F4Mบวกซอฟท์เพาเวอร์กระหึ่มโลก2ปีVisitThailandYear

ลงทะเบียนช้อปคิงเพาเวอร์รับฟรีเพียบซื้อแคชการ์ดได้ฟรีอีก7พัน

“สมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์” รับเบิ้มๆช้อป3 โปรสุดปังตลอดพ.ค.65

โรงแรมพูลแมนคิงเพาเวอร์จัดแฟลชเซลเท็นชิโนะเหลือ800บาท

ททท.งัดเทศกาลไฟสวยเที่ยว”ภูเก็ต-กระบี่-พังงา”ยาวถึง12มิ.ย.65

กลุ่มบางจากเฮไตรมาส1ปี65รายได้EBITDAฉลุยทะลุ1.3หมื่นล้าน

“สงขลา”เที่ยวไม่ตกเทรนด์เมืองเก่า-พิชิตเขาคูหา-ชมวิถีผ้าเกาะยอ

8ข้อดูแลสุขภาพตัวเองช่วงหน้าฝนอย่างปลอดโรคปลอดภัยไร้โรค

บขส.จับมือฟาร์มโคนมเดนมาร์กจัดทัวร์สระบุรีแค่429บาท28พ.ค.

เปิดอลังการ!อันดามันดาภูเก็ต4.5พันล้านแหล่งเที่ยวใหม่ล้านคน/ปี

การบินไทยกอดคอปตท.รุกคาร์โก้โกยรายได้ผงาดผู้นำตลาดอาเซียน

 

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร 

รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

 วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #Cenimaticเทรนด์หนังสั้นท่องเที่ยว  #ลงทะเบียนช้อปคิงเพาเวอร์ #เที่ยวเมืองเก่าสงขลา

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/c_V_MFVkvD/

ช่วงที่ 1 ใส่เกียร์ลุยกับ “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดชุดใหญ่เต็มสูตรครึ่งปีหลัง65 ถึงปี’66 ทุ่มใช้ “Cinematic” เทงบสร้างหนังสั้นโฆษณา ปลุกกระแสในประเทศและทั่วโลก ต่อยอด “เที่ยวไทยแบบใหม่สไตล์คุณ”หลังคนดูพุ่ง 80 ล้านคน ชูคอนเซ็ปต์ “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจ กว่าที่เคย” ลุยไม่ยั้ง “ตลาดโลก” โหมโปรโมท “Visit Thailand Year” ขานรับรัฐบาลสั่งลุยต่อ 2 ปี 2565-2566 ติดเทอร์โบทำหนัง 6 สไตล์ “NFT+LFENature/ธรรมชาติ-Food/อาหาร-Thainess/วิถีไทย-Love/ความรัก-Fun/ความสนุก-Experience/ประสบการณ์แปลกใหม่ ตอบโจทย์ 3 เป้าหมาย “สร้างสรรค์ดีมานต์-ออกแบบซัพพลาย-ร่วมใจขับเคลื่อน” พร้อมเปิดเกมรุก SPOT ซอฟท์เพาเวอร์ด้วย 5F-Food/อาหาร-Fashion/แฟชั่น-Film/ภาพยนตร์-Fight/กีฬาต่อสู้-Festival/เทศกาล ร้อยคอนเทนท์เข้ากับ 4 M-Music/ดนตรี+พิพิธภัณฑ์/Museum+Master/การแข่งขันรายการใหญ่+Metaverse/โลกเสมือนจริง

 

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนสื่อสารตลาดท่องเที่ยวตลอด 6 เดือนหลังปี 2565 เริ่มตั้งแต่พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ทั้งคนไทยและทั่วโลกเกิดความเชื่อเรื่องสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงมากแล้ว ททท.กับกระทรวงสาธารณสุขหารือกันใกล้ชิดอยู่ตลอด ควบคู่การเดินหน้าแผนสื่อสาร “ตลาดในประเทศ” ในธีม “เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม” แตกแท็กไลน์ “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจ กว่าที่เคย” ความหมายคือ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ก็เป็นการให้ “โอกาส” ตัวเอง ชุมชน ชาวบ้าน ที่รอคอยคนกลับไปเที่ยว ซึ่งจะเพิ่มความสุขให้คนเดินทาง 

พร้อมกับจะดึงอัตลักษณ์กลับมาบูมขายให้ครบทั้ง 5 ภูมิภาค “ภาคใต้”-หรอยแรงแหล่งใต้ อาหารอร่อย สถานที่น่าเที่ยว “ภาคเหนือ-เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ วัฒนธรรมเด่นงดงามผสมผสานความทันสมัย “ภาคอีสาน”-หลังรักแผ่นดินถิ่นอีสาน มีมากมายให้หลงรักทั้งศิลปวัฒนธรรม อาหาร ธรรมชาติต่าง ๆ นานา “ภาคกลาง” -Trendy C2 ภาคกลาง Central+Chic สวยแบบชิคสไตล์เก๋ไก๋ “ตะวันออก” สบ๊าย...สบายสไตล์ตะวันออก

ผนวกเข้ากับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” ปัจจุบันที่จองหมดแล้ว 2 ล้านสิทธิ์ แล้วนำมาใช้ให้ครบจนถึง 31 พฤษภาคม นี้ เพิ่มอีก เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนต่อขยายว เพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ เปิดจอง 1 มิถุนายน – 30 กันยายน นี้ หลังจากนั้นก็จะมีโครงการต่าง ๆ ออกมากระตุ้นในประเทศ

 

ล่าสุดตั้งแต่เมษายน 2565 เป็นต้นมา มีโฆษณาสื่อสารการตลาด “เที่ยวแบบใหม่” กับดาราดัง “ใหม่-ดาวิกา ฮาโกเน่” ปล่อยคลิปโฆษณาท่องเที่ยวออกไปเกือบเดือนพบสถิติดังนี้ 1.มีคนเข้าไปดูเต็ม ๆ  8 ล้านคน ซึ่งมีความน่าสนใจ เป็น engagement กดไลท์ กดแชร์ ประมาณ 4 ล้านคน 2.คนเข้าถึง 80 ล้านคน เป็นสิ่งที่ ททท.ต้องการการสื่อสารสองทาง เป็นกลยุทธ์ตอกย้ำไม่ให้คนลืม

จากนั้นช่วงเดือนพฤษภาคม นี้ จะต่อยอดโฆษณาชุดนี้เป็น “เที่ยวแบบใหม่ ในสไตล์ของคุณ” หากย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน จะมีอินฟลูเอนเซอร์เข้าร่วมประกวดแข่งขันชวนเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ททท.มีเท็มเพลตให้คนเข้ามาส่วนร่วมเที่ยวแบบใหม่ของคุณคือ 1.แต่ละคนออกเดินทางท่องเที่ยว 2.มีใบปิดหนังคล้ายโปสเตอร์ ส่งเข้ามาขยายผลชวนคนเที่ยว รับรางวัลต่าง ๆ หรือ ททท.จะคัดเลือกนักท่องเที่ยวให้มาเป็น “พรีเซนเตอร์” ลงอนุสาร อสท.

อนาคตจะเพิ่มสีสันในเรื่อง F-Film :ภาพยนตร์ในแหล่งท่องเที่ยว ถือเป็นคอนเซ็ปต์ที่การเชิญชวนให้ “คุณเป็นบุคคสำคัญ” ที่จะเดินทางท่องเที่ยวอย่างที่คุ้นเคยมีเรื่องราวบอกเล่า คอนเซ็ปต์นี้จะนำไปใช้ในต่างประเทศด้วย

 


“ตลาดต่างประเทศ” ททท.เสนอไปยัง “ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 “ศบศ.” อนุมัติให้ขยายการประกาศปีท่องเที่ยว Visit Thailand Year 2022-2023 เพิ่มเป็น 2 ปี คือ ปี 2565-2566 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Amazing New Chapters โดยมีแท็กไลน์ from A to Z Thailand as it All ททท.มาใส่ความเป็นเมืองไทยที่คุณคุ้นเคยกับประสบการณ์เที่ยวเมืองไทยจาก A ถึง Z

ไฮไลต์จะนำแนวทางโฆษณาสไตล์ Cinematic Film” เข้ามาใช้ เพราะช่วงโควิด-19 คนส่วนใหญ่หยุดไปสำนักงานแล้วทำงานอยู่กับบ้าน (work from home) โดยดูหนังไปด้วยเยอะมาก ททท.จึงได้นำกลยุทธ์สร้างอารมณ์แนวใหม่ผลิตโฆษณาในอารมณ์เดียวกันกับ “การดูหนังสั้น” เข้าถึงกลุ่มเซกเมนท์ที่ต้องการ เช่น กลุ่มครอบครัว กลุ่มคู่รัก กลุ่มมิลเลนเนียล และกลุ่มเจนซี กลุ่มทำงานเที่ยวได้ด้วย (workation) และกลุ่มอื่น ๆ 

โดยถ่ายทอดผ่านประสบการณ์นำเสนอเป็นหนังโฆษณาท่องเที่ยว 6 ชนิด เริ่มจากสิ่งที่คุ้นเคย ได้แก่ NFT -ในโลกของการท่องเที่ยว 3 ชนิดแรก คือ Nature/ธรรมชาติ-Food/อาหาร-Thainess/ความเป็นไทย (พ้องกันแต่แตกต่างจาก NFT :Non Fungible Token ในโลกสกุลเงินดิจิทัลโทเค่น) เดินหน้าผลิตหนังโฆษณาดังนี้ 1.Nature มุ่งเรื่องสะอาดหรือ Clean 2.Food เน้นเรื่องร้านอาหารหรือ Restaurant 3.Thainess เน้นเรื่องประสบการณ์ หรือ Experience บวกกับอีก 3 ชนิด คือ LFE -Love/ความรัก+Fun/ความสนุก-Experience/ประสบการณ์

ททท.จะผลิตหนังสั้นสไตล์นี้ออกสู่ตลาด ควบคู่กับการสร้างประสบการณ์หลัก ความสนุกสนาน/FUN ความรักโรแมนติก และประสบการณ์อันหลากหลาย เพื่อให้ทุกคนเกิดแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทย

จากนั้นจะให้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยกันทำคอนเทนท์แล้ว ททท.ดึงออกมาใช้งาน ซึ่งจะได้เห็น “พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว” ด้วยว่า ชอบอะไรต้องการประสบการณ์เที่ยวแบบไหนในเมืองไทย

 


นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ททท.การทำหนังโฆษณาอย่างเป็นรูปธรรม ยังคงชูคอนเซ็ปต์ “Ease of Travelling -การผ่อนคลายให้เกิดการเดินทางควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุข”  ขณะนี้รัฐบาลไทยได้ผ่อนคลายมาเกือบสุดทางแล้ว เพื่อจะเข้าสู่โหมดปกติเปิดประเทศได้แล้วยกเลิก Test &Go ให้ทั่วโลกเข้ามาโดยมีเงื่อนไขน้อยที่สุดเริ่มตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา สถิติปริมาณเข้ามา 50-70 % ของเมื่อปี 2562

ดังนั้น ททท.ด้านสื่อสารตลาดจึงวางแผนในช่วง 1 ปี 6 เดือน การเดินหน้าปีท่องเที่ยวไทย -Visit Thailand Year 2022-2023 ตั้งแต่มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จะเผยแพร่โฆษณาในทั่วโลกพร้อมกัน

สำหรับ “ตลาดในประเทศ” มีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันต่อขยายเฟส 41 มิถุนายน – 30 กันยายน นี้ จากนั้นเดือนตุลาคมก็จะเป็นมีโครงการต่าง ๆ เพิ่มเติม ส่วน “ตลาดต่างประเทศ” เป็นช่วงฤดูเดินทางหนาแน่นหรือไฮซีซันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าไทย ก็จะมีโครงการเสริมทันทีด้วย

นายศิริปกรณ์กล่าวว่าแผนขยายสื่อสารตลาดการท่องเที่ยวภายใต้โมเดล BCG-การท่องเที่ยวชีวภาพหมุนเวียนสีเขียว เป็นไฮไลต์สำคัญมากในการขับเคลื่อนตลาดสอดคล้องกับ Amazing New Chapters การส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2565 ด้วย 3 วัตถุประสงค์หลัก คือ

1.Create Demand กระตุ้นประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยว ส่งมอบความสุข ความปลอดภัย สิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นนโจทย์ตอบนักท่องเที่ยวมองหาอย่างมีความสุข ปลอดภัย รักษาสิ่งแวดล้อมด้วย A to Z ตัวอย่าง Zero Waste สร้างขยะเป็นศูนย์ตลอดการท่องเที่ยว สอดคล้องกัน

2.Shape Supply สำคัญมาก การออกแบบสินค้าท่องเที่ยวจะต้องนำไปสู่ความยั่งยืน ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ต้องดูแลเรื่อง RT-Responsible Tourism กับ DT-Digital Tourism ท่องเที่ยวในโลกยุคดิจิทัล โดยให้เอ็กคลูซีฟกับผู้คน

3.Drive Collaboration ร่วมใจขับเคลื่อนท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน “เอกชน” จะต้องไม่แข่งขันกันตัดราคา จะต้องร่วมกันเพิ่มคุณภาพการท่องเที่ยว เพื่อจะพยุงราคาให้เป็นไปตามกลไกตลาด

 


ตัวอย่าง สิ่งที่จะขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมได้ปีนี้คือ Soft Power ใช้คำย่อว่า SPOT : Soft Power of Thailand โดยมีตัวย่อซ้อนอยู่ด้วย ได้แก่ 5 F คือ 1.Food/อาหารมาจากท้องถิ่นปลอดภัย + 2.Fashion/แฟชั่น นำวัสถุธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ +3.Fight/กีฬาต่อสู้มวยไทยที่ไม่ได้ใช้สิ่งที่เป็นมลพิษ + 4.Film/ภาพยนตร์ ที่ถ่ายทอดความแปลกใหม่ + Festival/เทศกาลงานท่องเที่ยวต่าง ๆ

 

ขณะเดียวกันก็ยังมีอีก 4 M ได้แก่ 1.Music/ดนตรีเสียงเพลง 2.Museum/พิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันเมืองไทยสถานที่ท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ปรับตัวไปได้ดีน่าสนใจ 3.Master/การแข่งขัน เช่น กีฬารายการใหญ่ ๆ ระดับนานาชาติที่แข่งแบบไวรัลในเมืองไทย 4.Metaverse/โลกเสมือนจริงแห่งการเดินทาง

 

เมื่อลงลึกไปอีกนิดถึงพันธมิตรของ ททท.มีใครบ้าง ก็จะมี 4G Model ททท.ร่วมกับพันธมิตรหลักชัดเจน เช่น สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย หรือ TOCA ซึ่งทำเรื่องคะแนนสะสมที่จะไปกระตุ้นการทำขยะเป็นศูนย์ Zero Waste หรือวัตถุดิบที่คัดสรรมาบริโภคจากเกษตรอินทรีย์ไม่มีสารพิษใด ๆ เมื่อนักท่องเที่ยวสมัครเข้าร่วมสะสมแต้มในลักษณะของ Earth Point แล้วแต้มที่นักท่องเที่ยวเก็บสะสมได้ สามารถนำไปบริจาคให้ชุมชน ชาวบ้าน ร้านอาหาร โรงแรม ชนมรม สมาคม ท่องเที่ยว ได้ทั้งหมด

 

อนาคตทุกอย่างของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองไทยจะมีทั้ง “คุณค่าและมูลค่า” ไม่ใช่เพียงแค่ “มีความสุข” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังได้กลายเป็น “ผู้ให้คนอื่น” ด้วยการบริจาคคะแนนสะสมให้เกิดมูลค่าได้ เป็นทิศทางการขับเคลื่อนท่องเที่ยวยุคอนาคตอันใกล้ในปี 2566 เป็นต้นไป

 

ส่วนแผนงานดึงนักท่องเที่ยวให้เข้าเป้าแต่ละปี ททท.แบ่งเป็น “ตลาดต่างประเทศ” ก่อนเกิดโควิด-19 ไทยมีนักท่องเที่ยวกลุ่มซ้ำ Re-Peaterเดินทางเข้ามา 60 % และกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่อีก 40 % ส่วนใหญ่ประทับใจ ความเป็นมิตร อาหาร บริการ และอื่น ๆ ซึ่ง ททท.ได้จัดไว้ในหมวด A to Z เพิ่มความอะเมซิ่งมาก ทุกตัวเป็น “เมนูประสบการณ์” ที่มีความหมายทั้งหมด ผ่านทางธรรมชาติ อาหาร สมุนไพร/สปา ความเป็นไทย ความสนุกสนาน ร้อยเรียงผ่านสื่อหนังโฆษณาสไตล์ Cenimatic

 

“ตลาดในประเทศ” ก็จะทำในลักษณะคล้ายกัน สื่อสารผ่านหนังโฆษณา “เที่ยวแบบใหม่” กับ “ใหม่-ดาวิกา” เป็นสตาริ่งหลากหลาย เช่น เที่ยวสไตล์ใหม่ ๆ ประสบการณ์ใหม่ ที่ทำงานใหม่ ๆ มีเรื่องราวมากมายที่สามารถใช้ได้ ตอนนี้ ททท.กำลังคุยกับทุกภาคส่วนกับรัฐ เอกชน และมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม แล้วจะนำเสนอออกมาอย่างเป็นรูปธรรมภายในเดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 ลงทะเบียนก่อนช้อปคิงเพาเวอร์รับฟรีเพียบซื้อแคชการ์ดได้ฟรีอีก7พัน

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดทัพช้อปคุ้มสุด ๆ กับศูนย์รวมโปรโมชั่นปัง ๆ ตลอดทั้งเดือนตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2565 เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมระดับอินเตอร์และแบรนด์ไทยคุณภาพสากล ไม่ต้องมีไฟลต์บินหรือมีไฟลต์บินก็ช้อปได้ ผ่านช่องทางออนไลน์และกราวนด์ผ่านหน้าร้านคิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ทั้งที่สาขา รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต เปิดทุกวัน และ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี เปิดเสาร์-อาทิตย์ แต่ละช่องทางมีแคมเปญสุดฮ็อตมาตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

 

แคมเปญแรก -ลงทะเบียนก่อนช้อป ได้ความคุ้มค่าเงินมากจริง ๆ ทั้งการช้อปให้ครบตามยอดแล้วรับคูปองช้อปเพิ่ม +ซื้อบัตรเงินสดรับเงินช้อปเพิ่มอย่างจุใจสูงสุดถึง 7,000 บาท

1.รับฟรี! คูปองส่วนลด 1,000 บาท เมื่อช้อป 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรี! CARAT REWARDS X 10 (รับรวมสูงสุด 800 กะรัต) เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 8,000 บาท (สุทธิ) ภายในวันเดียวกัน

 

2. ซื้อบัตรเงินสดหรือ CASH CARD รับ GIFT CARD สูงสุด 7,000 บาท เมื่อซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับ GIFT CARD 3,000 บาท หรือซื้อ CASH CARD 23,000 บาท รับ GIFT CARD 7,000 บาท และฟรีพวงกุญแจ DISNEY 1 ชิ้น เมื่อช้อปครบ 2,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) มีทั้งหมดถึง 20,000 สิทธิ์ ในแต่ละวันให้คนละสิทธิ์วันเท่านั้น

 

แคมเปญที่ 2  May Day May Deal Enjoy 20 % off  เลือกช้อปกระเป๋าคอมพลีทลุคสวยแบรนด์ LONGLAI รับโปรใหญ่ส่วนลด 20% ทันที ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้-31พฤษภาคม 2565  

 


ข่าวที่  2  “สมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์” รับเบิ้มๆช้อป3โปรสุดปังตลอด พ.ค.65

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้สิทธิ์ “ผู้ถือบัตรสมาชิก” รับประโยชน์ 3 โปรปัง

ปังแรก! Ready Go สมัครวันนี้ทาง LINE เพิ่มคิงเพาเวอร์เป็นเพื่อนได้ง่าย ๆ ที่ LINE Official Account @kingpower บัตรทุกสถานะรับสิทธิประโยชน์คุ้มกว่าอย่างแน่นอนด้วย 2 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1 แอด LINE @kingpower (มีเครื่องหมาย @) และพิมพ์ ‘สมัครสมาชิก’

ขั้นตอนที่ 2 เลือกสถานะสมาชิกที่ต้องการสมัคร ไม่ว่าจะเป็น SCARLET , ONYX หรือจะทดลองเป็นสมาชิก ก็รับสิทธิ์คุ้มได้เช่นกัน

เมื่อเป็นเพื่อนกันใน LINE กับ คิง เพาเวอร์ เรียบร้อยแล้ว  “สมาชิก” สมัครบัตร SCARLET 6,000 บาท รับทันทีเงินช้อปเพิ่ม 1,500 บาท ได้เงินช้อปจริงรวม 7,500 บาท หรือ สมัครบัตร ONYX 60,000 บาท รับเพิ่ม 18,000 บาท ได้เงินช้อปจริงรวม 78,000 บาท

ปังที่ 2 ! รับส่วนลดสูงสุด 10% จาก Hertz Chauffeur ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2565 ในการใช้บริการเช่ารถขับเอง Hertz Self-Drive Rental หรือรถเช่าพร้อมคนขับ  เพื่อเดินทางพักผ่อน ทำธุรกิจ หรือท่องเที่ยว ได้ตามที่ต้องการ

 

ปังที่ 3 ! โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) มอบส่วนลดมากสุด ๆ เมนูอาหารจานเดี่ยว ((A La Carteที่ห้องอาหาร ECLIPSE เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 21.00 น. ลูกค้าที่ต้องการเข้าร้าน Eclipse โทรศัพท์จองใช้สิทธิ์ก่อนที่ 0 2205 8888 ต่อ 57 เพื่อชวนเพื่อน ๆ มารับประทานเมนูจานเดียวอร่อย รับส่วนลดสบาย ๆ  30%  เมื่อสั่งอาหารจานเดี่ยว ที่เข้าร่วมรายการครบครั้งละ 500 บาทขึ้นไป

ตามกติกาสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ทั้ง  5 ประเภท คือ 1.VEGA 2.CROWN 3.ONYX 4.SCARLET 5.NAVY  สามารถใช้บัตร 1 ใบ ได้กับกลุ่มที่มาด้วยหรือผู้ติดตามรวมกันไม่เกิน 10 คน

 


ข่าวที่ 3 โรงแรมพูลแมนคิงเพาเวอร์จัดแฟลชเซลเท็นชิโนะเหลือ800บาท

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ จัดโปรโมชั่น FLASH SALE เสิร์ฟความอร่อยตั้งแต่วันนี้ -15 พฤษภาคม 2565 ที่ห้องอาหารเท็นชิโนะ  ชั้น 2 ของโรงแรม เพียงคลิกออนไลน์  https://bit.ly/3vjmG4b คูปองที่ซื้อเรียบร้อยแล้วสามารถนำสิทธิไปใช้บริการได้จนถึง 31 สิงหาคม 2565 โดยรับชุดอาหารญี่ปุ่น 3 คอร์ส ราคาเพียง 800 บาทสุทธิเท่านั้น จากปกติต้องจ่าย 999  บาทสุทธิ ทุกคนจะได้สัมผัสรสชาติอาหารจานเด่นสไตล์ญี่ปุ่นครบทั้ง เมนูเรียกน้ำย่อย (Appetizer) จานหลัก (Maincourse) และของหวาน (Dessert)

สำหรับชุดอาหารค่ำ 3 คอร์ส ห้องเท็นชิโนะ ใช้ได้ทุกวันพฤหัสบดี – วันเสาร์ เวลา 18.00 – 23.00 น. เพียงคลิกรับ E-Voucher แล้วนำไปใช้ได้เลยตั้งแต่วันนี้ -31 สิงหาคม 2565 ตามกติกาดังนี้ 1.สิทธิ์กับชุดอาหารค่ำ 3 คอร์ส ได้แก่ Appetizer อาหารจานหลัก+ของหวาน 2.ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ได้ที่โทร. 02 680 9999 และ Email: H6323-FB5@accor.com 3.ราคาข้างต้นเป็นราคาสกุลเงินบาทไม่รวมค่าบริการและภาษีต่าง ๆ

 


ข่าวที่ 4 ททท.งัดเทศกาลไฟสวยเที่ยว”ภูเก็ต-กระบี่-พังงา”ยาวถึง12มิ.ย.65

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.สนับสนุนท่องเที่ยวภาคใต้ปลุกกระแสด้วยเทรนด์การจัดมหกรรม “เทศกาลประดับไฟ มหัศจรรย์แสง เรืองรองจากท้องทะเล :The Aqua Illumination In Southern Thailand”  ในแหล่งท่องเที่ยวอันดามันภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ภูเก็ต และพังงา โดยจะหมุนเวียนจัดต่อเนื่อง 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม -12 มิถุนายน 2565

ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ ควบคู่การสร้างความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวคนไทย และต่างชาติ ทยอยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นตลอดงาน รวมทั้งปูพรมเปิด 3 เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกอย่าง ภูเก็ต กระบี่ พังงา ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เห็นโฉมใหม่หลังโควิด และรัฐบาลไทยประกาศยกเลิกใช้ Test & Go ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา

ดังนั้น ททท.จึงจะใช้การจัด “เทศกาลประดับไฟมหัศจรรย์แสง เรืองรองจากท้องทะเล” ครั้งนี้ ปูพรมปลุกกระแสให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเห็นแล้ว ตัดสินใจเดินทางกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้งในช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซันปลายปีตั้งแต่ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป


นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า การจัดท่องเที่ยว “เทศกาลประดับไฟมหัศจรรย์แสง เรืองรองจากท้องทะเล”   เริ่มพื้นที่แรก “จังหวัดกระบี่” ระหว่าง 14- 25 พฤษภาคม 2565 จัดที่พิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตา และลานพระอาทิตย์องค์การบริหารจังหวัดกระบี่  โดยมีธีมอลังการให้ชมความแปลกใหม่อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ดินแดนสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ " เช่น การแสดงโปรเจคชั่นแมพปิ้งลงบนเรือหลวงลันตา  การแสดงพิเศษโนราห์เรืองแสง และอีกหลากหลายความงดงามจากแสงไฟ

พื้นที่ 2 “จังหวัดภูเก็ต” ระหว่าง 20 - 31 พฤษภาคม 2565 จัดบริเวณชายหาดในหาน โชว์ท่องเที่ยวมิติใหม่ในคอนเซปต์ 'ดินแดนผู้พิทักษ์แห่งอันดามัน' ไฮไลต์คือ การแสดงโปรเจ็คชั่นแมฟปิ้ง บอกเล่าเรื่องราวความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลของแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก พร้อม ๆ กับการรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ RT -Resposible Tourism

ปิดท้ายพื้นที่ 3 “จังหวัดพังงา” ระหว่าง  27 พฤษภาคม - 12 มิถุนายน 2565 จัดบริเวณหาดเมมโมรี่ ชูคอนเซปต์ "ดินแดนคลื่นเต้นระบำ" ด้วยเทคนิค : MUSIC &ILLUMINATION นำเสนอการถ่ายภาพผ่านเกลียวคลื่นรูปทรงต่าง ๆ บวกกับเข้าแสงสีไฟประดับรูปทรงปะการังใต้ท้องทะเล สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ


ข่าวที่ 5 กลุ่มบางจากเฮไตรมาส1ปี65รายได้EBITDAฉลุย1.3หมื่นล้าน

 

กลุ่มบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2565 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 69,055 ล้านบาท EBITDA ทำสถิติทะยาน 13,714 ล้านบาทเป็นครั้งแรก บริษัทใหญ่มีกำไรสุทธิ 4,356 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.12 บาท มี Net Inventory Gain กว่า 2,900 ล้านบาท โดยการบริหารจัดการสำรองน้ำมันเพื่อสร้างสมดุลความมั่นคงด้านพลังงานจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนบวกกับการรับรู้รายได้ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ OKEA โดยสร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังการกลั่นเต็มศักยภาพกว่า 122,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานต่าง ๆ เริ่มต้นรับโอนกิจการระบบขนส่งน้ำมันทางท่อและโลจิสติกส์มาตั้งแต่ต้นปี 1 มกราคม 2565

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  เปิดเผย ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 ของบริษัทบางจากฯ และบริษัทย่อย เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2564 ปีนี้มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 69,055 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 67  คิดเป็น EBITDA 13,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189 % มีกำไรสุทธิในส่วนของบริษัทใหญ่ 4,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91 % ทำกำไรต่อหุ้น 3.12 บาท

ผลดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นในทิศทางที่เดียมาจากปัจจัยหลัก ได้แก่

1.เปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนใน OKEA เป็นบริษัทย่อยซึ่งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2564 เป็นต้นมา

2.กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นมาก

3.อุปทานพลังงานที่ตึงตัวหลังสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน

4.การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันหลังความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 

5.การทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดกิจกรรมทางสังคมในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยไตรมาสแรกปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 96.21 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 17.95 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 36.00 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

 

ทางกลุ่มบริษัทฯ ได้วางแผนทยอยเก็บสำรองน้ำมันล่วงหน้า ทำให้มี Net Inventory Gain (กำไรจากสต็อกน้ำมันสุทธิ ปรับด้วยผลต่างจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้าไตรมาสนี้กว่า 2,900 ล้านบาท

 

อีกทั้งปัจจัยหนุนดังกล่าวยังส่งผลให้ค่าการกลั่นพื้นฐานปรับตัวสูงขึ้น ทำให้โรงกลั่นบางจาก ปรับเพิ่มอัตรากำลังการผลิตจนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาธุรกิจใหม่ก็ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเปรียบเทียบกับปี 2564 ปรับเพิ่มขึ้นถึง 367 %

            ช่วงที่ 2 ไปเที่ยวกันได้แล้ว เช็คอินหรอยแรงแหล่งใต้ที่ “สงขลา” ชมความมหัศจรรย์ “เมืองเก่า” มีเรื่องเล่ามากมาย หรือจะไปพิชิต “ยอดเขาคูหา” ดื่มด่ำแสงแรกแสงสุดท้ายได้ทุกวันกับวิวทุ่งเกษตรเขียวขจี แล้วก็ตามไปดูวิถีชีวิต “ผ้าเกาะยอ” สวยสุดประทับใจ เมื่อเข้าหน้าฝนก็ต้องบอกให้รู้ “8ข้อป้องกันสุขภาพหน้าฝนอย่างปลอดภัย” และข่าวรู้ไว้ไม่ตกเทรนด์ ข่าวแรก “บขส.จัดทริปเที่ยวฟาร์มโคนมเดนมาร์ก” คนละแค่ 429 บาท ซื้อแพกเกจเลย 28 พ.ค.นี้ ข่าวที่สอง “เปิดอลังการ!! อันดามันดาภูเก็ต 4,500ล้าน” แหล่งท่องเที่ยวมิกยูสที่จะดึงคนได้ปีละ 1 ล้านคน ข่าวที่สาม –“การบินไทยควงปตท.”รุกใหญ่ธุรกิจคาร์โก้ตั้งเป้าขึ้นนำตลาดอาเซียน

 


พาเที่ยว -“สงขลา”เที่ยวไม่ตกเทรนด์เมืองเก่า-พิชิตเขาคูหา-ชมวิถีเกาะยอ

เที่ยวหรอยแรงแหล่งใต้ ปักหมุดใหญ่ไป “สงขลา” จังหวัดที่มากด้วยเรื่องราวทรงคุณค่า ที่กำลังเสนอยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก อันอุดมสมบูรณ์ด้วยประวัติศาสตร์ล้ำค่า ศูนย์รวมถิ่นอาศัยของพี่น้องหลายเชื้อชาติ เมื่อครั้งอดีตเคยเป็นเมืองท่าสำคัญทางเศรษฐกิจ จวบจนทุกวันนี้ยังคงมั่งคั่งด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารหรือ Gastronomy

ออกเดินทางไปเช็คอินเที่ยว “เมืองเก่าสงขลา” และแหล่งท่องเที่ยว “ไม่ตกเทรนด์” ในสงขลากันได้เลย

 


เช็คอินจุดที่ 1  เที่ยวเมืองเก่าสงขลา ในอำเภอเมือง Art Mill. Songkhla Art Center ถ.กำแพงเพชร ต.บ่อ ยาง ธีรพจน์ จรูญศรี นักธุรกิจผู้หลงใหลในศิลปะ ก่อตั้งพื้นที่แห่งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปิน นักเรียนมีพื้นที่แสดงงานศิลปะ ความฮิปของที่นี่คือการนำโกดังโรงไม้ริมทางรถไฟ มาเนรมิตให้เป็นหอศิลป์แบบธรรมชาติ เปิดให้นักเรียน นักศึกษา ศิลปิน ได้ใช้พื้นที่นำผลงานมาจัดนิทรรศการเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ส่งเสริมศิลปะเมืองให้เฟื่องฟูยาวนาน

จุดที่สอง -บ้านสงครามโลก ตั้งอยู่บน “ถนนนครนอก” ตัดกับถนนยะลา ของอาคารจีนคอนกรีตเสริมเหล็กรูปทรงสูงเก่า ๆ 3 ชั้น  ผนังก่อด้วยอิฐเผาโบราณผลิตจากเมืองสงขลา  มีเรื่องราวน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ จากภาพถ่ายทางอากาศของเครื่องบินกองทัพอากาศอังกฤษ ก่อนบินมาทิ้งระเบิดอาคารใหญ่ 3 ชั้น เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2488กล่าวกันว่าอาจเคยเป็นกองบัญชาการทหารญี่ปุ่นมาก่อน เป็นอีกแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจ

จุดที่สาม -ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สีแดงสดของประตูทางเข้าศาลดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวได้ดีมาก ด้วยสถาปัตยกรรมลายมังกร ส่องให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างสงขลากับความเป็ฯเมืองจีน ถือเป็นความงดงามทางวัฒนธรรมมาชมได้ทุกวัน กว่าหลายศตวรรษที่ชาวจีนเข้ามาแถบนี้สร้างความคึกคักทางการค้า กล่าวกันว่า พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) ชาวจีนเชื้อสายฮกเกี้ยน ย้ายเมืองมาจากฝั่งแหลมสนมาสร้างตรงบริเวณศาลหลักเมือง จุดเริ่มต้นของเมืองสงขลาบ่อยางเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน

 


เช็คอินจุดที่ 2 เขาคูหา อ.รัตภูมิ เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ดินแดนเที่ยวเชิงผจญภัย แหล่งเพาะปลูกด้านการเกษตร เดิมเป็นภูเขาห่างไกลอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมในอำเภอเล็ก ๆ ชื่อ “รัตภูมิ” รอยต่อติดกับพัทลุง เคยเป็นแหล่งสัมปทานเหมืองหินด้วยการระเบิดภูเขา เมื่อสัมปทานหมดอายุชาวท้องถิ่นกับกลุ่มอนุรักษ์เขาคูหาเริ่มเข้าไปสำรวจ พลิกให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้

ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของ “เขาคูหา” ตั้งสูงตระหง่านแปลกตา มีต้นไม้ ทิวสนเรียงรายรายต่างแดน ทางท้องถิ่นได้ทำเส้นทางขึ้นไปพิชิตบนยอดเขาปีนขึ้นไม่ยาก ใช้เวลาราว 20 นาที เมื่อไปถึงยอดเขามองลงมาจะเห็นทัศนียภาพพื้นที่เกษตรกรรมเขียวขจี และกลุ่มภูเขารอบด้าน ไฮไลต์คือการไปรอชมแสงแรกกับทะเลหมอกด้านบน หรือ “แสงสุดท้าย” ในแต่ละของวัน นักจะประทับใจไม่รู้ลืม

 


เช็คอินจุดที่ 3 “เกาะยอ” ตั้งอยู่ใน ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง ตรงทะเลสาบสงขลา เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน เป็นพื้นที่ของภูเขาสลับกับเนินสูง มีชุมชนอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน ส่วนใหญ่เชื้อสายจีน เป็นชุมชนผลิตสินค้ามีชื่อเสียงโด่งดังคือ “ผ้าทอเกาะยอ ลายราชวัตถ์” อันเป็นเอกลักษณ์วิถีถิ่น ที่ได้รับพระราชทานนามจากในหลวงรัชกาลที่ 7 เป็นชุมชนที่ยังคงวิถีชีวิตประเพณีในแบบดั้งเดิมเอาไว้ และมีที่เที่ยวหลายแห่งด้วยกัน พิกัด : https://goo.gl/maps/pqBr3tF5Gsn9D3U26 

 

ไม่ต้องรออีกแล้ว เดินทางไปชม “เมืองเก่าสงขลา” พิชิตยอดเขาคูหา และไปชมวิถีเมืองผ้าเกาะยอ ชวนกัน ท่องเที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม

 

สุขภาพ -8ข้อดูแลสุขภาพตัวเองช่วงหน้าฝนอย่างปลอดโรคปลอดภัย

ตอนนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว เป็นช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง แถมความชื้นเพิ่มขึ้นก็ทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ แพร่กระจายได้ง่ายกว่าเดิม เป็นสาเหตุให้หลายๆ คนป่วย วันนี้เลยอยากมาแชร์วิธีดูแลตัวเองในช่วงหน้าฝน เพื่อให้เราทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกัน 8 ข้อดังนี้

1.ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร รักษาสมดุลของร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และทำให้เซลล์ภายในร่างกายไม่ขาดน้ำ

2.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

3.พกร่ม และเสื้อกันฝน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเปียกฝน และลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นหวัด

4.รักษาร่างกายให้แห้งอยู่เสมอ เมื่อเปียกฝน ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น ลดความเสี่ยงต่ออาการปอดบวม หรือโรคผิวหนัง

5.ไม่เข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของเชื้อโรคนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นฉี่หนู หรือพยาธิต่างๆ

6.ระวังไม่ให้โดนยุงกัด เนื่องจากโรคไข้เลือดออกระบาดง่ายในช่วงหน้าฝน ควรทายากันยุง หรือนอนกางมุ้ง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่มืด และอับชื้น 

7.ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ เช่น ชาสมุนไพร เพราะนอกจากช่วยคลายความหนาวเย็นให้กับร่างกายแล้ว ยังมีคุณสมบัติต้านการเกิดการอักเสบ ป้องกันไม่ให้เป็นหวัดคัดจมูก ลดน้ำมูก และแก้เจ็บคอ

8.กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ เพื่อช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารและลำไส้ เช่น อาหารเป็นพิษ

                ทำง่าย ๆ ให้ครบทั้ง 8 ข้อ ชีวิตก็อยู่ดี มีสุข ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไปตลอดหน้าฝนนี้

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 


ข่าวแรก -บขส.จับมือฟาร์มโคนมเดนมาร์กจัดทัวร์สระบุรีแค่429บาท28พ.ค.65

 

ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. จับมือกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จัดโปรแกรมนำเที่ยวเชิงเกษตร ด้วยแพกเกจ “บขส. พาเพลิน เชิญชิมนม ชมฟาร์มไทยเดนมาร์ค @สระบุรี” วันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ที่ฟาร์มไทย-เดนมาร์ค จังหวัดสระบุรี  เพื่อร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรภายในประเทศ และสร้างการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น

ชวนประชาชนกับนักท่องเที่ยวที่สนใจ ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ซื้อแพกเกจ “บขส.พาเพลิน เชิญชิมนม ชมฟาร์มไทยเดนมาร์ค @สระบุรี” ค่าโดยสารไป-กลับตลอดทริปคนละ 429 บาท ส่วนสมาชิกที่ถือบัตร บขส.Card ลดเหลือคนละ 399 บาท รวมที่นั่งรถโดยสาร ประกันอุบัติเหตุทุกที่นั่งวงเงิน 300,000 บาท แต่ราคาแพกเกจนี้ ยัไม่ได้รวม ค่าเข้าชมกับอาหารกลางวันของฟาร์มไทยเดนมาร์ค อีกคนละ 299 บาท

สอบถามเพิ่มเติมสำรองที่นั่ง ได้ที่ งานการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ กองสื่อสารองค์กรและการตลาด โทร 02-5378737, 084-0180635 หรือ www.facebook.com/borkorsor99

นักท่องเที่ยวที่จะท่องเที่ยวทริปดังกล่าวนี้ ในวันเดินทางจะต้องแสดงหลักฐาน 1.ฉีดวัคซีนครบ  2 เข็ม ผ่านระบบ Digital Health Pass บน หมอพร้อม แอปพลิเคชัน หรือ 3.แสดงผลตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

 


ข่าวที่สอง -เปิดอลังการ!!อันดามันดาภูเก็ต4.5พันล้านแหล่งเที่ยวใหม่ล้านคน/ปี

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ร่วมเปิดโครงการ อันดามันดาภูเก็ต : Andamanda Phuket” สุดอลังการที่จังหวัดภูเก็ต มูลค่าการลงทุกว่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือ Man Made Attraction ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่มาเป็นประธานเปิดด้วยตนเอง เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งเป้าไว้ปีละ 1 ล้านคน เริ่มเปิดให้เข้าไปใช้บริการตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

โครงการ “อันดามันดาภูเก็ต” เป็นการลงทุนเทรนด์มิกซ์ยูส ภายในพื้นที่ 58 ไร่ใจกลางกรุง ได้หลอมรวมบริการอันหลากหลายไว้ในที่เดียวกันทั้งความบันเทิง แหล่งพักผ่อน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์ แบ่งพื้นที่พักผ่อนเป็น 3 โซน ได้แก่  โซนที่ 1 สวนน้ำ โซนที่ 2 โรงแรม และ โซนที่ 3 ร้านค้าปลีกเชิงไลฟ์สไตล์ มาพร้อมกับโชว์น้ำพุสุดอลังการ

ดีไซน์ให้เป็นศูนย์รวมความบันเทิงแบบครบวงจร โดยเฉพาะการรวมทุกความโดดเด่นของภูเก็ตมาไว้ในที่เดียวกัน ทั้งวัฒนธรรมและสถานที่น่าสนใจต่าง ๆ ทุกฝ่ายเชื่อมั่นจะ “อันดามันดาภูเก็ต” จะกลายเป็นหนึ่งในจดุหมายปลายทางสู่ภูเก็ตที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งตลาดคนไทยและนานาชาติทั่วโลก เป็นพลังสำคัญหลังโควิดที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูเก็ตให้กลับมาผงาดในเวทีโลกอีกครั้ง

                นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีตัวโครงการ “อันดามันดาภูเก็ต” พร้อมทายาทธุรกิจ นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทพราว  ณ สยามพารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 6โรงภาพยนตร์ 7 โดยมีผู้เกี่ยวข้องให้เกียรติเปิดงานด้วย คือ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการ ททท. นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเท่ียว จังหวัดภูเก็ต นายไบรอัน วอร์คเกอร์สมิท บริษัท ไวท์ วอเตอร์เวสต์ อินดัสทรี    

 


ข่าวที่สาม –การบินไทยกอดคอปตท.รุกคาร์โก้โกยรายได้ขึ้นผู้นำตลาดอาเซียน

 

นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  การบินไทย จำกัด ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือทางธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ หรือธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันขยายตัวและมีแนวโน้มเติบโตสูงแล้วในช่วงสถานการณ์โควิด-19  การบินไทยทำคาร์โก้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ตามปกติ 

 

รวมทั้งจะช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สร้างโอกาสให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรของอาเซียนต่อไป

 

ทางการบินไทยได้ทำคาร์โก้นำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม เช่น ผัก ผลไม้ อาหารแช่แข็ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ สินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีน 

 

รวมถึงมีมีบริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เต็มรูปแบบและครบวงจร ลูกค้าสามารถกำหนดเส้นทางตามจุดบินของการบินไทย เลือกเวลาการขนส่งสินค้าตามตารางบินและกำหนดแบบเครื่องบินได้ตามขนาดบรรทุกได้อย่างสะดวก

 

ส่วนการลงนามครั้งนี้ ระหว่างการบินไทย กับ ปตท.มุ่งจับมือกันการยกระดับขีดความสามารถการบูรณาการธุรกิจโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางอากาศในระดับประเทศและภูมิภาคอย่างครบวงจร ซึ่งการบินไทยมีความเชี่ยวชาญและความพร้อม ทั้งในด้านเที่ยวบินขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ (Freighter) กิจการคลังสินค้า (Cargo Warehouse) กิจการให้บริการระบบสนับสนุนการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ (Commercial Platform) และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 

 

โดยศักยภาพของ ปตท. เป็นองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพและขีดความสามารถสูง จึงสามารถเพิ่มโอกาสและต่อยอดทางธุรกิจร่วมกัน บวกกับช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นต่อการบินไทย ให้เกิดการพัฒนาทางธุรกิจ นำไปสู่การผสานความร่วมมือระหว่างองค์กร (Synergy) มิติด้านต่าง ๆ ในอนาคตได้ด้วย

 

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. มุ่งพัฒนา ต่อยอดนวัตกรรม และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้พร้อมรับการแข่งขันบนเวทีโลก ด้วยวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต”

 

ในด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ปตท. มีนโยบายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงการบริหารคลังสินค้า ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัล แพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์ประสบความสำเร็จได้

 

 ปตท. จึงมีเป้าหมายสู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (Third Party Logistics) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง การบินไทย 

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai