เจริญ วังอนานนท์นายกใหม่TTAAพลิกท่องเที่ยวปลุกรัฐ+ธุรกิจถอดบทเรียนป้องปัจจัยเสี่ยง+เพิ่มกระเป๋าเงินทุน
เปิดมุมมอง“เจริญ วังอนานนท์”นายกใหม่TTAAพลิกท่องเที่ยว
ปลุกรัฐ+ธุรกิจถอดบทเรียนป้องปัจจัยเสี่ยง+เพิ่มกระเป๋าเงินทุน
ชี้3กลุ่มแรก“โรงแรม-ร้านอาหาร-บริษัททัวร์”ฟื้นชัวร์ปลายปี’65
ไทยเทสต์ฮับรางน้ำ+มหานครคิวบ์เสิร์ฟความอร่อย2ต่อพ.ค.65
คิงเพาเวอร์ชวนช้อป“ครามไทย”ปังในอินเตอร์5แบรนด์5สไตล์
ททท.อัดฉีดเที่ยวไทย5ภาคแจกไม่ยั้ง2แสนโพสต์แชร์ถึง6มิ.ย.65
บางจากบูมบัตรใหม่กรีนไมล์“คืนเงิน-ปันน้ำใจ-แลกได้เยอะ”
TCEBลุยสื่อแบรนด์ไมซ์ไทยในIMEXเยอรมันเข้าถึง25ล้านคน
“สมุย”เที่ยวทะเลใหม่เกาะราบ-ผาจันทร์จรัสชมหมู่เกาะอ่างทอง
6สมุนไพรพื้นบ้านกินป้องกันหรือบรรเทาโรคลมแดดได้ชะงัด
ไทยสมายล์”คึกเปิดบินอินเตอร์ใหม่2เมือง“โคลัมโบ+เวียดนาม”
เทวาศรมเขาหลักจ.พังงาโหมขายแพกเกจหรูจองได้ถึง31พ.ค.นี้
เอมเมอรัลด์เปิดห้องหยกขาย“เป็ดปักกิ่ง”ราคาพิเศษ”999บาท
นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#ไทยเทสต์ฮับรางน้ำมหานครคิวบ์ #บางจากกรีนไมล์ #เที่ยวสมุยเกาะราบผาจันทร์จรัส
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่ 1 เปิดมุมมอง “เจริญ วังอนานนท์”
นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA :Thai Travel Agents Association )กลับมาร่วมพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด
ชี้เป้า “ภาครัฐ-ภาคธุรกิจ-ภาคแรงงาน”
หันหน้าจับเข่าคุยกันสร้างเกราะความปลอดภัยรับมือ “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”
จากการถอดบทเรียน “ปัจจัยเสี่ยง” ร่วมมือ
“วางระบบทำแผนสนับสนุนบริหารจัดการท่องเที่ยว” เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างเข้มแข็งได้
บวกกับการระดมสมองอุดช่องทางภาคบริการกับแรงงานใหม่
ส่วนเอกชนต้อง“เพิ่มกระเป๋าเงินไว้หลาย ๆ ใบ” และ “เลิกแข่งกันตัดราคา” ปลายปี’65
เห็นผลธุรกิจ 3 กลุ่มแรก “โรงแรม-บริษัททัวร์-ร้านอาหาร”
จ่อฟื้นเร็วกว่ากลุ่มอื่น ขานรับตลาดเที่ยวไทยฉลุย ส่วน “คอร์ปอเรตเที่ยวนอก”
ยังต้องลุ้นอีกสักพักเพราะ 2
ปัจจัย “โควิดยังระบาด+กฎระเบียบ”
ยังไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซนต์
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA -Thai Travel Agent Association) เปิดเผยว่า ได้ประมวลผลการพลิกฟื้นของภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ที่เผชิญวิกฤตมากว่า 2 ปี จะต้องใช้เวลาอีกประมาณต้นปี 2566 จึงจะเห็นภาพชัด ระหว่างนี้ได้รับอานิสงจากโครงการของภาครัฐใส่งบประมาณผ่านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้น “ตลาดท่องเที่ยวในประเทศ” สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนผ่าน 2 โครงการหลัก คือ 1.เราเที่ยวด้วยกันเฟส 1-4 ที่อุดหนุนค่าใช้จ่ายห้องพักโรงแรม 2.ทัวร์เที่ยวไทย ให้เงินสนับสนุนบริษัทนำเที่ยวในประเทศจัดแพกเกจเที่ยวไทย
ตอนนี้ยอมรับสภาพภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวไม่มีกำลังมากพอจะยืนเองได้ ต้องอาศัยการอัดฉีดเม็ดเงินจากภาครัฐอีกสักระยะ เพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบของประเทศผ่านมรสุมลูกใหญ่โควิด-19 ไปให้ได้ ตามสภาพจริงมีบางส่วนได้อานิสงไป แต่ละเรื่องจะต้องใช้เวลาพลิกฟื้นได้พอสมควร
ทั้งโครงการ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 1-4 และทัวร์เที่ยวไทย ล้วนมีพลังมาก ๆ พอกัน ได้ช่วยพยุงธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไว้ เป็นประโยชน์แต่ละเซกเตอร์ คือ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้ช่วยกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและพันธมิตร ส่วน “ทัวร์เที่ยวไทย” บริษัทนำเที่ยวต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการได้อานิสงโดยตรง ถึงจะไม่มาก แต่ก็พอจะชุบชีวิตธุรกิจได้พอสมควร ตามวัตถุประสงค์ให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ
ส่วน “แรงส่งที่จะพยุงภาคธุรกิจท่องเที่ยวคนไทย” เดินต่อไปได้หลังโควิด นั้น “ภาครัฐ” น่าจะต้องพิจารณาจัดทำ “โครงการใหม่เพิ่ม” อีกระลอก เพราะเอกชนยังไม่แข็งแรงพอจะเดินด้วยตนเอง
นายเจริญกล่าวว่า “ตลาดคนไทยเตรียมเที่ยวต่างประเทศ” ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณการจะกลับมาเดินทางอีกครั้ง โดยเฉพาะลูกค้าคอร์ปอเรตกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ แต่ก็ยังมีตัวล็อกเป็นปัจจัยลบอยู่ระหว่างการเดินทางค่อนข้างคือ 1.โรคระบาดของโควิด 2.กฎระเบียบและมาตรการเข้าออกของแต่ละประเทศก็ยังทำไม่ได้ 100 % ช่วงนี้เพิ่งเปิดชิมรางสถานการณ์จริง เพราะการทำตลาดคอปอร์เรต บริษัทจัดนำเที่ยวจะต้องมั่นใจและควบคุมทุกอย่างได้ ทั้ง 2 ปัจจัยค่อนข้างเป็นตัวแปรสำคัญ
กลุ่มคอร์เปอเรตเกือบทุกธุรกิจในเมืองไทยส่วนใหญ่ต่างก็อยากเดินทาง ประเมินจากการตอบแบบสอบถามของสมาคม ปัจจัยที่ 1 ด้วยกฎระเบียบการเข้าไปยังประเทศจุดหมายปลายทางทั่วโลก ยังมีความไม่แน่นอนอยู่พอสมควร จึงเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างต่อการทำทริปเดินทางอีกครั้ง อาจจะต้องรออีกสักระยะ ปัจจัยที่ 2 จำนวนที่นั่งของสายการบินระหว่างประเทศ หลังปิดมานาน การจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยที่ 3 ราคาตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศตอนนี้ยังค่อนข้างสูง
โอกาสต้องจับตา “ปลายปี 2565” จะเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนถึงสถานการณ์ คนไทยกลับมาเดินทางเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ผ่านบริษัทนำเที่ยว ด้วยการจัดทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) อีกครั้ง
นายเจริญย้ำว่า
“การถอดบทเรียน” ในการทำธุรกิจท่องเที่ยวของไทยหลังโควิด
เพื่อดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างยั่งยืน เรื่องที่ 1 ไม่ควรทำหากมีความเสี่ยงสูง เรื่องที่ 2 การขายแพกเกจท่องเที่ยวจะต้องมีส่วนต่างกำไร (margin) ตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง
เพราะที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์ตัดราคากันจนเกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เรื่องที่ 3 จะต้องมีกระเป๋าเงินและถุงเงินหลายกระเป๋า
เพราะนับจากวันนี้เป็นต้นไป การทำธุรกิจท่องเที่ยวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะอดีตเคยได้อานิสงจากตลาดมายาวนานเกือบ
60 ปี
จึงทำให้ภาคธุรกิจใช้เงินกันโดยขาดความระมัดระวัง
ตอนนี้แทบทุกภาคส่วนได้เห็นแล้วว่า “ปัญหาการเงินและความเสี่ยง”
เป็นหัวใจสำคัญมากกับการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยว
“บทเรียนโควิด-19” อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย สามารถถอดบทเรียนชัด ๆ ที่ตอกย้ำถึงปัญหาที่ต้องร่วมมือกัน “เปลี่ยนแปลง” เพื่อป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ที่อาจขึ้นใหม่ในอนาคต นั่นก็คือ
1.ภาครัฐกับภาคเอกชนจะต้องกลับมานั่งจับเข่าคุยกันให้ชัดเจนว่า ปัจจัยความเสี่ยงนั้นมีอะไรบ้าง ต้องเพิ่ม Save Guard ให้รัดกุม เพราะความเสี่ยงมีอยู่ตลอดเวลา
2.การวางแผนสนับสนุนอย่างรอบคอบเป็นระบบเพื่อให้การบริหารจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศกลับมาพัฒนาให้ได้ดีกว่าเดิม
3.ทุกภาคส่วนจะต้องหันหน้ามาช่วยกันระดมสมอง อุดช่องว่างเพื่อนำมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ เดินต่อไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงอีกครั้ง เดินไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีอุปสรรค
รวมทั้งประเมินแล้วตามหน้าเสื่อ “ธุรกิจโรงแรม” จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่สามารถฟื้นรายได้กลับมาได้ก่อน เพราะสามารถทำการขายได้ทันทีที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการ ส่วน “บริษัทนำเที่ยว” จะตามมาเป็นอันดับต่อไป
ขณะที่ “กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร” ก็มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง แต่ด้วยในอดีตปี 2562 จำนวนร้านอาหารทั่วประเทศเปิดจำนวนมากจนล้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยถึงปีละ 40 ล้านคน พอเกิดวิกฤตโควิดร้านอาหารก็หายไปเกือบ 80 % ด้วยปริมาณลูกค้าหายไปแบบกระทันหัน แล้วการกลับมาเปิดใหม่ก็แข่งขันกันสูงท่ามกลางปริมาณลูกค้าที่ยังมีไม่มากพอ ยกเว้น “ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงติดตลาด” มีโอกาสพลิกฟื้นตัวได้เร็ว ปลายปีนี้ก็น่าจะเห็นสถานการณ์จริง
นายเจริญกล่าวว่า “อาวุธ” ที่จะมาเสริมทัพทำให้ภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยกลับมายืนได้อีกครั้ง คือ “เงินลงทุน” ควรจะต้องจัดหามาช่วยเอกชนบ้าง ผนวกกับ “พนักงานในตลาดบริการท่องเที่ยว” ก็หายไปเป็นจำนวนมากช่วงโควิด หากรัฐสนับสนุนบ้างด้านทักษะความรู้ เงินบวกกับการจ้างงานเป็นตัวแปรหลักที่รัฐจะต้องตัดสินใจช่วยตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
สภาพของผู้ประกอบการท่องเที่ยวปัจจุบันต้องนำเงินที่เก็บไว้มาใช้
ส่วนพนักงานก็กลับบ้านเกิดหายไปจากอุตสาหกรรมมากกว่า 60 % โดยเฉพาะการออกจากอาชีพ หันไปทำอาชีพใหม่ เพราะ
“งานบริการ” ขึ้นอยู่กับบุคลากรซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างเงินเข้าระบบ
ฉนั้นจึงอยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุน เพราะเอกชนแทบจะไม่มีเงินมาพัฒนาบุคลากร
หากจะดึง
“คนรุ่นใหม่” เข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในฐานะ “ผู้ประกอบการ” และ “แรงงาน”
ก็มีโอกาสเป็นไปได้หากเห็นโอกาสในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
คนเหล่านี้อาจหันเข้ามาสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็เป็นได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมในอนาคตด้วย
นายเจริญกล่าวว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เริ่มทำแผนแม่บทการตลาดท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2566 (TATAP 2023) ในฐานะตัวแทนสมาคมท่องเที่ยวเอกชน อย่างแรกมั่นใจศักยภาพการทำแผนตลาดของ ททท.ยังมีฝีมือที่จะทำแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดในประเทศ และต่างประเทศในอนาคตที่จะพลิกฟื้นท่องเที่ยวของไทยกลับมายืนหนึ่งได้
สิ่งที่ต้องการเสนอคือ
ททท.ควรจะเปิดโอกาสให้ ผู้ประกอบการนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร การบิน
เข้าไปมีส่วนช่วย”พัฒนาและพลิกฟื้น”
อย่างน้อยที่สุดก็อยากให้เอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมให้มากที่สุด
เพื่อเดินหน้าท่องเที่ยวต่อไป
รวมทั้งขอให้ธุรกิจท่องเที่ยวมีกำลังใจลุกขึ้นต่อสู้กับวิกฤตครั้งนี้ก้าวข้ามทุกปัญหาไปด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 ไทยเทสต์ฮับรางน้ำ+มหานครคิวบ์เสิร์ฟความอร่อย2ต่อพ.ค.65
คิง เพาเวอร์ จัดให้ “อิ่มอร่อยกับสตรีตฟู้ด” ที่ ไทย เทสต์ ฮับ รางน้ำ และ มหานคร คิวบ์ แบบไม่ต้องฝ่าร้อนฝ่าฝน ด้วยบริการฟู้ดเดลิเวอรีตอบโจทย์สายกินผู้หลงใหลในรสชาติของสตรีตฟู้ดได้ถึง 2 ต่อ
ต่อที่ 1
รวบรวมสตรีตฟู้ดเจ้าดังระดับตำนาน พร้อมเสิร์ฟทุกคนได้อิ่มอร่อยกันแบบหลากรสชาติในที่เดียวจบครบทุกอย่าง โดยไม่ต้องตระเวนไปหลายที่
ไม่ต้องวนหาที่จอดรถ ที่สำคัญไม่ต้องต่อคิวนานเป็นชั่วโมง พบกับเมนูเด็ดจากร้านดังอย่าว
ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี ห่านท่าดินแดง ข้าวขาหมูจุฬาสามย่าน นายอ้วนเย็นตาโฟ ละมัยหอยทอดเยาวราช สว่างบะหมี่ก้ามปู เจ็กเม้งข้าวมันไก่สองสี ก๋วยจั๊บฮ่องเต้ การิมโรตีมะตะบะ กะเพราหม่อมแม่, ธีรชัยไก่ย่าง กุ้งเผาอยุธยา เชียงการีลา Thai Street Food by Asian Corner เทพนคร ลามูน
ตบท้ายด้วยของหวาน ฮอทฟรายด์ บาย ดิเอมเมอรัลด์ 1992 เอี๊ยงออเฮ่าชือ ขนมครกประมวลมีศิลป์ออลโคโค และ Amatissimo Caffè
สายกินที่อยู่แถวโซนสาทร-นราธิวาส-สีลม ใช้บริการ “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์” ได้ง่ายมาก มีร้านดังเลือกได้เต็มที่ทั้ง ผัดไทยไฟทะลุ ก๋วยจั๊บนายเอ็ก สุกี้เมาเวอริค ยี่สับหลก บุญเลิศ เผ็ดเผ็ดเฮ่! 9 แสนล้านผิน ลิ้ม เหล่า ซา ครวญ ชุมพลปาท่องโก๋ และป้าหงษ์ขนมไทย
ต่อที่ 2 สะดวกสบายไปอีกขั้นด้วยบริการฟู้ดเดลิเวอรีที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยส่งตรงถึงบ้าน เพียงเปิดแพลตฟอร์มชั้นนำได้ทั้ง Robinhood LINE MAN หรือ GrabFood แล้วค้นบนแอปพลิเคชันหาคำว่า Thai Taste Hub King Power Rangnam หรือ Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็รอรับความอร่อยได้หมด
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ชวนช้อป“คราม”สินค้าไทยปังในอินเตอร์5แบรนด์5สไตล์
คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ชวนมารู้จักเทรนด์เก่าที่กลับมาเก๋าอีกครั้งกับ Indigo Dye หรือ สีย้อมคราม ที่ใส่ยังไงก็ยังไม่เอาต์ตลอดปี 2565 เสน่ห์แห่ง “สีคราม” มีความธรรมชาติ งดงาม และเรียบง่าย เลือกซื้อได้ที่ www.thaipowermarket.com ตลาดพลังคนไทย มีดีไซน์แฟชั่นให้เลือกมากมายทั้ง เสื้อ กระโปรง กางเกง และอีกหลากหลายอย่าง กับ 5 แบรนด์ 5 สไตล์
แบรนด์แรก อินไทย/ INTHAI -ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องลายครามในสมัยอดีต พิมพ์ลงไปบนผ้าพันคอไหมซาตินลายคราม และเพ้นต์ลงบนเซรามิกขนาดจิ๋ว กลายเป็นเครื่องประดับ ‘KRAM SCARF’ ตามไปซื้อได้ที่ https://bit.ly/3koiOJ3
แบรนด์ที่ 2 รพินพร/RAPINPORN -เสื้อคอปาดผ้าฝ้ายแกมลินิน ตัดต่อผ้าสองสี สีเทาตัดกับสีฟ้า ออกแบบเรียบง่ายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อผ้ามีความมนุ่มพริ้วออกแบบมาให้สวมใส่สบาย ไม่ร้อน สวมใส่ได้ทุกโอกาส และง่ายต่อการดูแลรักษา
แบรนด์ที่ 3 ทองสิริผ้าคราม/ THONGSIRI - ผ้าฝ้ายย้อมแบบเย็นด้วยสีครามธรรมชาติ ลายดั้งเดิมเก่าแก่ที่สืบทอดมาจาก “ชนเผ่าไทโย้ย” นำมาออกแบบและแปรรูปเป็นเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะกระเป๋าใส่เหรียญหรือของจุกจิก คลิก https://bit.ly/3vtMhHE
แบรนด์ที่ 4 จุฑาทิพ/JUTATIP - หมวกผ้าฝ้ายทอมือทรงบักเก็ต ย้อมสีครามสลับสีขาว ออกแบบให้เข้ากับทรงศีรษะ บังแดดได้ดี เหมาะกับวันสบาย ๆ สไตล์มินิมอล คลิก https://bit.ly/37SQQlO
แบรนด์ที่ 5 คุณแจ็ค/KHUNJACK - กางเกงกระโปรง KHUNJACK
ตัวผ้าดีไซน์ให้พริ้วไหวตามลม
รุ่นนี้ตัดเย็บปักด้วยมือจากผ้าฝ้ายสาลู 2 ชั้น
มาพร้อมกระเป๋าที่ใช้งานได้จริง 2 ข้าง แฟชั่นผ้าไทยแฮนด์เมด
ระดับอินเตอร์ คลิก https://bit.ly/3y0cVtv
ข่าวที่ 3 ททท.อัดฉีดเที่ยวไทย5ภาคแจกไม่ยั้ง2แสนโพสต์แชร์ถึง6มิ.ย.65
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานแถลงเปิดโครงการ “เที่ยวไทย 5 ภาค Amazing ยิ่งกว่าเดิม” กระตุ้นคนไทยออกเดินทางไปสัมผัสเมืองไทย พร้อมแจกรางวัลเข้าร่วมกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละภาครวมมูลค่าของรางวัลกว่า 200,000 บาท ได้ตั้งแต่วันนี้ – 6 มิถุนายน 2565 ลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่จะคว้ารางวัล วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ทาง Facebook Fanpage : Amazing Thailand
โดยเฉพาะรางวัลพิเศษ 1.บัตรมินิคอนเสิร์ต “ท่องเที่ยวสบ๊ายสบายภาคตะวันออก” จากศิลปินชื่อดัง นนท์ ธนนท์ 10 รางวัล รางวัลละ 2 คน รวม 20 รางวัล 2.รับแพ็กเกจท่องเที่ยวฟรี 23 รางวัล และ 3.รางวัล Gift-Voucher จากเซ็นทรัลมูลค่า 100 บาท 30 รางวัล
โครงการนี้
ททท.นำเสนอการท่องเที่ยวพิเศษด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณค่าเหนือราคากระจายทั่วประเทศครอบคลุมทั้ง
5 ภูมิภาค ตามธีมแนวคิดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจเด่น ของ
ททท.ในประเทศ 5 ภูมิภาค ดังนี้
ภาคเหนือ
: เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ - North Nostalgia
ภาคกลาง
: Trendy C2 ภาคกลาง (Create new Experience และ Charming of Central) - Chic Central
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ :
หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน - Isan in Love ภาคใต้ : หรอยแรงแหล่งใต้ - Savory
South และ
ภาคตะวันออก
: สบ๊าย สบายภาคตะวันออก - East at Ease จึงเป็นที่มาของโครงการ
“เที่ยวไทย 5 ภาค Amazingยิ่งกว่าเดิม”
ภาคใต้ : #หรอยแรงแหล่งใต้
ทาง ททท.
และ บริษัท ครองประทีป จำกัด เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศสร้างประสบการณ์แบบใหม่ให้
Amazing ยิ่งกว่าเดิม ด้วยการนำเสนอผ่านบทเพลงชื่อว่า
“เที่ยวไทย 5 ภาค Amazing ยิ่งกว่าเดิม”
ขับร้องโดย ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว)
เพื่อดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวไทย ออกมาร่วมสนุกกับกิจกรรมที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจากวิกฤตโควิด-19 และพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับ “เที่ยวไทย 5 ภาค Amazing ยิ่งกว่าเดิม” เป็นโครงการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1.เพิ่มขีดความสามารถการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย 2.เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูลตามพื้นที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ 3.เป็นเครื่องมือสำคัญสร้างการรับรู้และกระตุ้นเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นผ่านกิจกรรม“เที่ยวไทย 5 ภาค 5 สไตล์
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ได้เปิดโอกาสคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งออกเดินทางไปสัมผัสเมืองไทยให้ Amazing ยิ่งกว่าเดิม ด้วยกลยุทธ์เชิญชวน “ถ่ายวีดิโอคลิป” หรือ “รูปภาพสถานที่” ท่องเที่ยวไทย 5 ภาค ในสไตล์คุณเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนตัว พร้อมติดแฮชแท็กตามเงื่อนไขที่กำหนด จากนั้นตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ (Public) ตามวิธีดังนี้
1. ถ่ายวีดิโอคลิป หรือ รูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวไทย 5 ภาค ในสไตล์คุณแล้วเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนตัว อาทิ TikTok, Facebook, Instagram, Twitter
2. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง ติดแฮชแท็ก #เที่ยวไทย5ภาค
3. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง ติดแฮชแท็กตามภูมิภาคที่ไปท่องเที่ยว ได้แก่
3.1 แหล่งท่องเที่ยวภาคเหนือ #เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ
3.2 แหล่งท่องเที่ยวภาคกลาง #เทรนดี้C2ภาคกลาง
3.3 แหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ #หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน
3.4 แหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออก#สบ๊ายสบายภาคตะวันออก
3.5 แหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ #หรอยแรงแหล่งใต้
4. เมื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมโพสต์วีดิโอคลิป หรือ รูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวไทยพร้อมติดแฮชแท็กที่โครงการกำหนดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ (Public)
บริษัท บางจาก คอร์ปอรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดมิติบัตรสมาชิกเทรนด์ใหม่ “บางจาก กรีน ไมล์” สมัครด่วนตั้งแต่วันนี้ -31 ธันวาคม 2565 มากกว่า “ที่ให้คือความใส่ใจ่” ในทุกสถานการณ์ “น้ำมันขึ้นราคาเท่าไหร่คืนเท่านั้น-เติมน้ำมัน ปันน้ำใจ-ยิ่งสะสม ยิ่งแลกได้เยอะ” พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทุกไลฟ์สไตล์ รีบสมัครด่วนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร ทางออนไลน์ที่ member.bcpgreenmiles.com พร้อมกับโหลดแอพลิเคชั่นได้ทางมือถือทั้งระบบ andriod และ iOS สมัครบัตรสมาชิกวันนี้รับคะแนนสะสมทันที 100 คะแนน (มูลค่า 20 บาท) ตั้งแต่วันนี้- 31 ธ.ค. 65
1.สะสมง่าย แลกได้เร็ว - รับคะแนนสะสม เมื่อเติมน้ำมันหรือซื้อสินค้า ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ร้านกาแฟอินทนิล และธุรกิจเสริมในเครือบางจากที่ร่วมรายการ เพียงสมัครสมาชิกใหม่ได้คะแนนเพิ่มทันที เมื่อเติมน้ำมันในวันแรกที่ปรับราคาขึ้น โดยชำระค่าน้ำมันเต็มจำนวนตามราคาที่ปรับขึ้นใหม่ และรับส่วนต่างราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นคืนเป็นคะแนนพิเศษตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค 65 ส่วน “สมาชิกปัจจุบัน”สามารถตรวจสอบสถานะ และรับสิทธิพิเศษ “ขึ้นเท่าไร คืนเท่านั้น”
2.ยิ่งสะสม ยิ่งแลกได้เยอะ -บัตรสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพียงนำคะแนนสะสม แลกรับของรางวัล ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษ จากร้านค้าชั้นนำมากมาย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคคะแนน ให้องค์กรสาธารณประโยชน์ได้ด้วย
3.เติมน้ำมัน แล้วยังได้ปันน้ำใจ - เลือกบริจาคคะแนนสะสมให้แก่องค์กรสาธารณประโยชน์ได้บ่อยตามที่ต้องการ
ผ่าน Bangchak Mobile
Application ไม่ว่าจะเป็น
สภากาชาดไทย มูลนิธิรามาธิบดี มูลนิธิคุ้มครองเด็ก มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ฯลฯ
เช็ค แลก รับ ได้ง่ายๆกับบัตรบางจากกรีนไมลส์ แจ้งเตือนการปรับราคาน้ำมัน ค้นหาสถานีบริการน้ำมันบางจากและวางแผนการเดินทางตรวจสอบคะแนนสะสมและประวัติการใช้งานแลกส่วนลด
สิทธิประโยชน์ผ่าน E-Coupon
แลกของรางวัลโดนโจเลือกรับสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับช่วงคะแนนของคุณ บริจาคคะแนนผ่านแอปพลิเคชั่น เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินพร้อมโทรออก
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คอล เซนเตอร์ บางจาก 1651
กด 4
ข่าวที่ 5 TCEBลุยสื่อแบรนด์ไมซ์ไทยในIMEXเยอรมันเข้าถึง25ล้านคน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้นำเสนอเทรนด์ใหม่หลังรัฐบาลประกาศเลิกใช้ TEST & Go ให้นักเดินทางจากทั่วโลกเข้าไทยได้โดยลดเงื่อนไขให้เหลือน้อยที่สุด จึงได้ใช้โอกาสที่ดีวัน MICE DAY หรือเนื่องในวันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ เปิดมุมมองบนเวทีเสวนาพิเศษหัวข้อ “New Chapter of Thailand MICE” (MICE Day) โดยได้คาดการณ์ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 จะมีนักเดินทางต่างชาติเข้ามามากขึ้น ทีเส็บจึงได้นำผลวิจัยความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคหลังโควิด 19 มาเป็นกลไกหลักเร่งการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทยสู่อนาคต
ทีเส็บวางแผนสื่อสารแบรนด์อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยในตลาดต่างประเทศ เตรียมจะเปิดตัวครั้งแรกในงาน
IMEX Frankfurt 2022 วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 สร้างการรับรู้กลุ่มเป้าหมายต่างประเทศ 25 ล้านคน เพื่อกระตุ้นตลาดทั่วโลกถึงนโยบายรัฐบาลไทยพร้อมเปิดประเทศต้อนรับทุกคน
ส่วน “สถิตินักเดินทางไมซ์” 2 ไตรมาสแรกปี 2565 เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คือ “ตลาดภายในประเทศ” ทำได้ทั้งหมด 2.3 ล้านคน สร้างรายได้ 7,598 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ คาดจะมีนักเดินทางไมซ์ต่างชาติเข้ามาไทย 130,000 ราย ส่งผลให้ยอดรวมไมซ์ทั้งไทยและต่างชาติปีนี้จะมีถึง 6,130,000 ราย สร้างเป็นรายได้ 28,400 ล้านบาท สอดคล้องตามเป้าหมายระดับดีที่สุด (Best Case) ของทีเส็บในปีงบประมาณ 2565
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ผลศึกษาจากงานวิจัยในต่างประเทศระบุถึงเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) จะเกิดปรากฏการณ์ใหม่ที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์จะต้องเร่งพัฒนานำเทคโนโลยี กับแอพลิเคชั่น เข้ามาอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปใน 5 แบบ คือ
1. Phygital (Physical + Digital) ความคาดหวังของผู้เข้าร่วมงานที่ต้องการเชื่อมโยงการจัดงาน ณ สถานที่จริงและออนไลน์ทั้งสองรูปแบบเข้าด้วยกัน
2. A Safe Space ความคาดหวังด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่สูงขึ้นตลอดการเข้าร่วมงาน
เพราะถึงแม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
แต่ผู้คนก็ยังคงกังวลกับการกลับมาแพร่ระบาดของโรค
3. Embedded Wellness ความคาดหวังให้ผู้ประกอบการใส่ใจและตระหนักถึงสุขภาพกายและใจของผู้เข้าร่วมงานเป็นหลัก
4. Omnibility ความคาดหวังของผู้เข้าร่วมงานถึงความเสมอภาค โดยผู้ประกอบการควรต้องออกแบบด้วยแนวคิดอารยสถาปัตย์ เช่น สถานที่ที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้วีลแชร์
5. Brand Butlers ความคาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์ที่ตรงใจและดียิ่งขึ้น จากการเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดจากการเข้างานหรือใช้บริการในอดีต
“นายธานี แสงรัตน์” อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไมซ์ถือเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัด APEC เวทีสำคัญทางด้านการจัดประชุมหลัก ๆ คือ การประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานต่างๆ มากกว่า 60 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 20,000 คน แบ่งเป็นการประชุมที่สำคัญด้านต่าง ๆ ทั้งการพาณิชย์ อุตสาหกรรม การค้า การลงทุน ควบคู่กับการประชุมของภาคธุรกิจ และการประชุมผู้นำทางเศรษฐกิจทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ประเทศไทยจึงวางแผนจะจัดการประชุมตลอดทั้งปีให้สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศ และกระจายสถานที่จัดประชุมไปตามภูมิภาคต่าง ๆ
การประชุม APEC 2022 ถือเป็นงานจัดทางกายภาพเป็นครั้งแรกหลังโควิดเริ่มคลี่คลาย จึงทำให้ประเทศไทยเป็นจุดสนใจบนแผนที่โลกอยู่บนบนจอเรดาร์ของประเทศต่าง ๆ เนื่องจากการรวมตัวของเขตเศรษฐกิจแถวหน้ารวมกันแล้วมีGDP มากถึงครึ่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
อีกทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC ของไทย มีเป้าหมายเด่น ๆ ที่จะขับเคลื่อนภูมิภาค APEC สร้างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหลังโควิด 19 เน้นการเปิดกว้าง เชื่อมโยง สู่สมดุลยั่งยืน ด้วยแนวคิด BCG Economy Model เป็นพื้นฐาน ส่งเสริมการค้า การลงทุน เพื่อสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจพร้อมจะตัดสินใจเลือกเดินทางมาเมืองไทย
ช่วงที่ 2 การเดินทางเพื่อเพิ่มประสบการณ์ชีวิตทริปนี้ชวนลงใต้ไป “เกาะสมุย” สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวอะเมซิ่งใหม่
ที่ “เกาะราบ” กับ “ผาจันทร์จรัส” จุดชมวิวสวยที่สามารถมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองแบบพาโนรามาทั้งหมด
ต่อด้วย “6สมุนไพร” ป้องกันและบรรเทาโรคลมแดด
ข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “ไทยสมายล์” บินอินเตอร์เพิ่มพฤษภาคมนี้ 2 เส้นทาง โคลัมโบ กับฮานอย ข่าวที่สอง “เทวาศรมเขาหลัก”
โรงแรมหรูเทแพกเกจเด็ดถึง31 พ.ค.นี้ ข่าวที่สาม “โรงแรม ดิ
เมอรัลด์” งัดสูตรเด็ดเป็ดปักกิ่งราคาพิเศษเหลือแค่ 999 บาท
พาเที่ยว- “สมุย”เที่ยวทะเลวิถีใหม่ในเกาะราบ-ผาจันทร์จรัสชมหมู่เกาะอ่างทอง
ทริปนี้ชวนลงใต้ไป
“สมุย-เมืองร้อยเกาะ” สมุยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในสุราษฎร์ธานี ห่างจากท่าเรือดอนสักประมาณ 35 กิโลเมตร
และห่างจากจังหวัด 84 กิโลเมตร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ตและเกาะช้าง
ชื่อเสียงโด่งดังปังสุด ๆ นักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกนิยมมาพักผ่อน สัมผัสธรรมชาติ
หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส และยังมีน้ำตก จุดชมวิว ศาสนสถาน
และกิจกรรมหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้สนุกอีกมากมาย แถมสมุยยังมีสนามบินบนเกาะด้วย หลังโควิดมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่
ๆ มาชวนเที่ยวกันคือ
จุดแรก “เกาะราบ” ชวนไปลองพักกันนั่งเรือจากสมุยประมาณ 40 นาที สามารถเที่ยวเชื่อมโยงอีก 2 เกาะใกล้ได้ด้วย คือเกาะแตนกับเกาะมัดสุม บริเวณเกาะราบมีระบบนิเวศน์สมบูรณ์มาก ชายหาดสวย น้ำทะเลใส เมื่อปีก่อนโด่งดังมากเพราะเต่าตนุมาวางไข่จำนวนมาก
นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมให้ทำบนเกาะราบได้ตามชอบ จะนั่งชีล ๆ เดินเล่นชายหาด ดำน้ำดูปะการัง กางเต็นท์ค้างแรมฟรี ตกปลาหมึกมาย่างกิน พายเรือคายัก ก็ได้
“เกาะราบ” สามารถเลือกเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ โดยเหมาเรือมาได้จากฝั่ง
จะป็น เรือหางยาว สปีดโบ๊ท เรือคาตามารัน พอถึงก็จ่ายค่าขึ้นเกาะคนละ 50 บาท
ถ้าไม่รีบก็ให้รอชมพระอาทิตย์ตกน้ำยามเย็นแสงสีแดงแสดไล่โทนสีส้มค่อย ๆ
ลับลงสู่ทะเลสีคราม เป็นภาพสุดแสนโรแมนติกจริง ๆ
จุดที่
2 “จุดชมวิวผาจันทร์จรัส”
เที่ยวกึ่งผจญภัยเล็ก ๆ เพราะจะต้องเดินไปบนทางชันราว 500 เมตร
พอไปถึงขึ้นยอดเขาวัวตาหลับ จะมองเห็นวิวพาโนรามาของ “หมู่เกาะอ่างทอง” ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาว
รูปทรงแปลกตาสวยงาม
มาเถอะ
“สมุย” ตอนนี้ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ธรรมชาติสวยสงบ น้ำทะเลสดใส
และโลกบนดินกับใต้ทะเล เตรียมรอรับนักท่องเที่ยวทุกคนไปเยือนอีกสักครั้ง
สุขภาพ -6สมุนไพรพื้นบ้านกินป้องกันหรือบรรเทาโรคลมแดดได้ชะงัด
อากาศร้อนขึ้นทุกวัน เดือนพฤษภาคมนี้เมืองไทยบางวันก็ยังร้อนอบอ้าวอยู่บ้าง ฉนั้นต้องหาวิธีรับมือป้องกันโรค “ลมแดด” ไว้ก่อน “อาการที่พบ” คือ ร่างกายจะขาดน้ำและเกลือแร่ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออกมาก หน้าซีด หน้ามืด เป็นลม ตัวร้อนจัด เมื่อยล้า เกิดตะคริว วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ และหากรุนแรงอาจพบภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เพ้อ ชัก ช็อก ไม่รู้สึกตัว กล้ามเนื้อลายสลาย อวัยวะต่างๆ เกิดการล้มเหลว เช่น ไตล้มเหลว เซลล์ตับตาย กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจวาย เป็นต้น
มี “สูตรสมุนไพร” ช่วยป้องกันโรคลมแดดได้ หรือหากเกิดเป็นลมแดดขึ้นมา ภูมิปัญญาพื้นบ้านสามารถช่วยบรรเทาอาการลมแดด ช่วยทำให้ร่างกายเย็นขึ้น ดังนี้
ชนิดที่ 1 - หัวหอม นำมาบดหรือหั่นหัวหอมเป็นแผ่นๆ วางไว้ที่หน้าผากหรือต้นคอ เพื่อช่วยดูดซับความร้อน หรือรับประทานหัวหอม อาจรับประทานอยู่ในอาหารก็ได้ ช่วยป้องกันร่างกายจากความร้อนได้
ชนิดที่ 2 น้ำมะตูม ช่วยได้ –ดื่มน้ำมะตูม 1 แก้ว ก่อนออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ชนิดที่ 3 - นำเนื้อมะขาม 10-15 ฝัก มาบดต้มกับน้ำ 500 มิลลิลิตร แล้วกรองเหลือแต่ส่วนใส อาจปรับรสชาติด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 1-2 ครั้ง ช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้สมดุล และบรรเทาอาการลมแดดได้
ชนิดที่ 4 เม็ดแมงลัก – นำเม็ดแมงลัก 2-3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 250 มิลลิลิตร อาจผสมน้ำหวาน หรือเติมน้ำตาลปรุงรส
ชนิดที่ 5 – รากผักชี บดใบและราก 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำเย็น 1 แก้ว ดื่มวันละ 1 ครั้ง หรือ คั้นน้ำ “ใบโหระพาสด” รับประทาน 1 ช้อนชา ดื่มวันละ 1 ครั้ง
วิธีที่ 6 –วุ้นหางจระเข้ หั่นแล้วล้างให้สะอาด ประมาณ 1-2 ต้น ผสมกับน้ำเย็น หรือน้ำผลไม้ ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 1-2 ครั้ง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก -“ไทยสมายล์”คึกเปิดบินอินเตอร์ใหม่2เมือง“โคลัมโบ+เวียดนาม”พ.ค.65
นายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ไทยสมายล์ กลับมาให้บริการเส้นทางต่างประเทศ ปลายเดือนพฤษภาคม 2565 พร้อมเปิดเส้นทางบินใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.โคลัมโบ ศรีลังกา 2.ฮานอย เวียดนาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชื่อมโยงวัฒนธรรมทั้งไทยและชาติในเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมเจาะตลาดคนไทยและต่างชาติ กำลังเดินทางทั้งเข้าและออกเพิ่มขึ้นหลังมาตรการผ่อนปรนเดินทางระหว่างประเทศ
ไทยสมายล์จะให้บริการ 1. สุวรรณภูมิ-โคลัมโบ ศรีลังกา บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยว ราคาเริ่มต้นรวมทุกอย่างแล้ว 9,255 บาท/คน/เที่ยว 2.สุวรรณภูมิ – ฮานอย วันละ 2 เที่ยว ราคาเริ่มต้นรวมทุกอย่างแล้ว 7,235 บาท/คน/เที่ยว
รวมถึงกลับมาให้บริการเส้นทางบินต่างประเทศเพิ่ม 2 เส้นทาง ได้แก่ สุวรรณภูมิ-ปีนัง มาเลเซีย และสุวรรณภูมิ-เวียงจันทน์ สปป.ลาว ให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายวิเศรษฐ์ ย้ำว่าเมืองไทย 2 เส้นทางล้วนมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและโดดเด่นด้านการท่องเที่ยว อย่าง “โคลัมโบ” เมืองหลวงของศรีลังกา มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและเมืองแห่งมรดกโลกที่สำคัญ ตอบโจทย์นักเดินทางสายบุญ สายธรรมชาติ สายประวัติศาสตร์ และสายวัฒนธรรม
ขณะที่ “เมืองฮานอย” เป็นเมืองหลวงของเวียดนาม เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าด้านเหนือ มีตึกสูงระฟ้าในเขตเมืองใหม่ ในเขตเมืองเก่าเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมโบราณ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ไว้เป็นอย่างดี ในอดีตเคยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดในเอเชีย
ข่าวที่สอง -เทวาศรมเขาหลักจ.พังงาโหมขายแพกเกจหรูBeach Lifeเปิดจองถึง31พ.ค.นี้
โรงแรมเทวาศรม
เขาหลัก จ.พังงา นำเสนอ แพจกเกจ ENDLESS SUMMER จองเลย: วันนี้ – 31 พ.ค. 65 แล้วเข้าพักวันนี้ – 31 ต.ค. 65
ที่จะทำให้ทริปประทับใจไม่รู้จบ
ได้ที่เทวาศรม เขาหลัก ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็น Beach Life
Signature Set
กับเซตประสบการณ์ริมหาด พร้อมเครื่องดื่มและของว่าง สำหรับ 2 คน หรือ เซตอาหารกลางวันที่ห้องอาหารไทย ตะโกลา (Bib Gourmand MICHELIN Guide 2022) สำหรับ 2 คน หรือสปาเครดิต มูลค่า 1,200 บาท พัก 3 คืนขึ้นไปรับเพิ่ม Spa Credit มูลค่า 1,200 บาท/ห้อง/การเข้าพัก | พร้อมอาหารเช้าและสิทธิพิเศษมากมาย | แลกซื้อ บริการรถรับ/ส่งสนามบินภูเก็ต ได้ในราคาพิเศษ 1,250 บาทต่อเที่ยว
สำรองห้องพักได้ทาง bit.ly/DEVASOM_EL22 หรือ devasom.com/khaolak ใส่ Promo. Code EL22 Line OA @devasomkhaolak
ข่าวที่สาม
-โรงแรมเอมเมอรัลด์เปิดห้องหยกขาย“เป็ดปักกิ่ง”ราคาพิเศษ”999บาท
โรงแรม
ดิ เอมเมอรัลด์ เปิด ห้องอาหารจีนหยก ตลอดเดือนพฤษภาคม 2565 จัดเมนูราคาพิเศษ
“เป็ดปักกิ่ง” เพียง 999 บาทถ้วน จากปกติ 1,742 บาท
เสิร์ฟพร้อมแผ่นแป้งที่นุ่มกำลังดีสำหรับห่อ (สูตรดิเอมเมอรัลด์) แตงกวา
หอม และซอสราด
ทานกับส่วนหนังเป็ดที่กรอบ หอมกรุ่นจากเตาย่าง ส่วนเนื้อเป็ดสามารถสั่งทำเมนูได้
1 อย่าง เช่น ทอดกระเทียมพริกไทย เมี่ยงเป็ด หรือ เป็ดย่างจิ้มแจ่ว และอีกมากมาย
จองโต๊ะล่วงหน้าโทร.0-2276-4567 ต่อ 8429 ไลน์@theemeraldhotel
หรือ www.facebook.com/yoktheemerald
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น