ผู้นำททท.ชิงฟื้นท่องเที่ยวนำเอกชนรุกเศรษฐี”ตะวันออกกลาง+MENA ข่าวดี!!ม.ค.-พ.ค.65ต่างชาติเข้าไทย1ล้านคนแล้ว-สัญญาณดีปี65แตะ10ล้านคน-ปี66ลุ้นรายได้รวมฟื้น2.4ล้านล้าน
ผู้นำททท.ชิงฟื้นท่องเที่ยวนำเอกชนรุกเศรษฐี”ตะวันออกกลาง+MENA
ข่าวดี!!ม.ค.-พ.ค.65ทุบสถิติต่างชาติเฮเข้าไทยฉลุยทะลุแล้ว1 ล้านคน
สัญญาณดีปลายปี65แตะ10ล้านคน-ปี66ลุ้นรายได้รวมฟื้น2.4ล้านล้าน
คิงเพาเวอร์แจกจัดหนักReady Go Summerคูปอง+กิฟการ์ดฟรึ 7 พัน
คลิกClick&Collectรช้อปคิงเพาเวอร์รับเปิดประเทศพ่วงชวนเที่ยวไทย
พูลแมนคิงเพาเวอร์โปรฟินStay&Dineพัก1คืนแถมมื้อค่ำ2คนถึง31พ.ค.
ททท.นำเอกชนรุกขายSATTE2022โกยอินเดียเที่ยวไทย5แสน5จังหวัด
บางจากจับมือนสพ.เดลินิวส์แจกส่วนคูปองนลดลิตรละบาท1.2ล้านใบ
บินเที่ยวสุดฟินทั่วไทยกับบางกอกแอร์สัมผัสวิถีธรรมชาติ5เมืองสวยๆ
7 ผลไม้หน้าฝนป้องกันไข้หวัดหาง่ายรับประทานกันไว้ก่อนดีกว่ารอป่วย
3แอร์ไลน์ “บินไทย-บางกอกแอร์-แอร์เอเชีย”Q1ปี65เร่งบินล้างขาดทุน
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม
2565 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0
MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#ReadyGoSummer #ClickandCollect
#บินเที่ยวฟินกับบางกอกแอร์เวย์ส
ช่วงที่
1 เริ่มทันทีการเคลื่อนทัพใหญ่ท่องเที่ยวกับ
“ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 5 เดือนแรก
ม.ค.-พ.ค.65
ต่างชาติทัวร์ไทยทะลุ 1ล้านคนแล้ว นำเอกชนลุยเจาะเศรษฐี “ตะวันออกกลาง”
ตลาด MENA ในงาน
“อาระเบียน แทรเวล มาร์ต” เดินสายโรดโชว์ควบสานสัมพันธ์ “ซาอุดิอาระเบีย”
ตามวิสัยทัศน์ KSA
2030 ทั้งท่องเที่ยว-การค้า-การลงทุน
เร่งผนึกแอร์ไลน์แถวหน้าของโลก เอมิเรตส์ เอทิฮัด ปลุกกำลังซื้อ
“สหรัฐอารับเอมิเรตส์-คูเวต-บาเรนห-กาตาร์” เที่ยวไทย 2-3ปีหน้าเกินปีละ
1 ล้านคน
อัพเดท TATAP
แผนท่องเที่ยว 5
ปีหน้า 2566-2570
เอกชนเสนอปรับ 3 ส่วนรับต่างชาติ
ลุ้นฟื้นรายได้ กลับมา 80% หรือ 2.4 ล้านล้านบาท
และขอคนไทยทำสถิติเที่ยวไทย 172 ล้านคน-ครั้ง
กอดคอกันฟื้นเศรษฐกิจชาติกลับมาสดใสให้เร็วที่สุด
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า แผนขับเคลื่อนตลาดต่างประเทศเชิงรุกในกลุ่มตะวันออกกลางและแอฟริกาที่เรียกว่า
MENA :Middle East North
Africa มีความสำคัญยิ่งในขณะที่ตลาดตะวันออกยังไม่ได้เปิดประเทศ
ดังนั้น ททท.จึงได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าไปร่วมงานขายท่องเที่ยวรายการใหญ่ ATM :Arabian Travel Mart 2022 ที่กรุงดูไบ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 47
ราย
แล้วต่อเนื่องทำโรดโชว์ไปยังซาอุดิอาระเบีย 2 เมืองทั้ง เจดาห์และริยาร์ดเพื่อจับคู่เจรจาธุรกิจกับคู่ค้าซึ่งเป็นผู้ซื้อกลุ่มบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวเด่น
ๆ ในแต่ละเมือง
สินค้าท่องเที่ยวหลัก
ๆ ของไทย เน้น 2 ประเภท
ได้แก่ 1.แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเดินทางพักผ่อนทั่วไปหรือ
Leisure 2.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม
Health & Wellness เล็งไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ได้แก่ 1.กลุ่มครอบครัว
ซึ่งนักเดินทางจากตะวันออกกลางและแอฟริกานิยมพาครอบครัวมาเที่ยวเมืองไทย 2.คนรุ่นใหม่มิลเลนเนียลส์
ต้องการจะเดินทางมาไทยช่วงหลังถือศีลอด
นักท่องเที่ยวกลุ่ม
MENA
หลังโควิด-19
พฤติกรรมการเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย
ประเมินจากสถานการณ์ภาพรวมมีต่างชาติเข้าไทยรวมวันละ 47,000-50,000 คน เทียบแล้วมีนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางรวมอยู่ด้วย
พำนักไม่ยาวมากแต่กลับใช้จ่ายเงินสูงมากเป็นลูกค้ากระเป๋าหนักจริง ๆ เฉลี่ย 80,000 บาท/คน/ทริป
ตามปกติก่อนเกิดสถานการณ์โควิดตลาดจากตะวันออกกลางอาจจะยังมีจำนวนไม่มากนัก
เพราะลูกค้าหลักของไทยคือ “เอเชียตะวันออก” โดยเฉพาะจีน เกาหลี ญี่ปุ่น
แต่จากนี้เป็นต้นไปหลังจากนายกรัฐมนตรีได้ไปฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2565 เป็นต้นมา ซาอุดิอาระเบียกลายเป็นประเทศไทยที่มีความสำคัญต่อไทยในระยะสั้น ซึ่งหมายถึง จะเป็นตลาดหลักที่จะเข้ามาเติมเต็มรายได้ช่วงหลังถือศีลอด รอมดอน ปิดเทอมฤดูร้อน แทนตลาดระยะไกลจากอเมริกา ยุโรป
ปี 2565 เฉพาะนักท่องเที่ยวจากซาอุดิอาระเบียประเทศเดียว นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าไว้ตลอดทั้งปีต้องทำให้ได้ 200,000 คน เติบโตมากกว่าปี 2562 อย่างแน่นอน แต่ในภาพรวมรัฐบาลกำหนดให้ ททท.เน้นการทำรายได้จากท่องเที่ยวให้ได้รวมทั้งหมด 50 % ของปี 2562 (สถิติ 3 ล้านล้านบาท) และปี 2566 จะเพิ่มรายได้ขยับเป็น 80 % ของปี 2562 หรือประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท นั่นเอง
ผู้ว่าฯ
ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า
ททท.นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไปทำโร้ดโชว์ขายการท่องเที่ยวในเจดาห์กับริยาร์ด
ซาอุดิอาระเบีย หลัก ๆ
จะต้องดูถึงกลุ่มบริษัทซึ่งมีทั้งผู้ให้บริการเฮลท์แอนด์เวลเนส
บริษัทท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน สิ่งที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ
แล้วหลายคนอาจไม่เคยมีประสบการณ์ ไทยเคยมียุครุ่งเรืองเมื่อ 30
ปีที่ผ่านมา พอมาถึงตอนนี้อาจเป็นการเปลี่ยนผ่านเจนเนอเรชั่น จึงน่าจะเป็น “โอกาสอันใหม่”
ผนวกกับ “ความตั้งใจเปิดประเทศ” ของซาอุดิอาระเบียเอง ตามวิสัยทัศน์ KSA 2030 (Kingdom of Saudi Arabia's Vision 2030) นั้นพูดถึงเรื่องการลงทุนมิติต่าง ๆ การพัฒนาธุรกิจ และการท่องเที่ยวด้วย
ดังนั้นประเทศไทยจะสามารถพัฒนาควบคู่ไปกับซาอุดิอาระเบียไม่เฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวแต่เป็นด้านอื่น
ๆ ด้วยตามวิสัยทัศน์ KSA
2030
ส่วนการเตรียมความพร้อมต้อนรับ
“ตลาดซาอุดิอาระเบีย” นั้น ททท.กับผู้ประกอบการจะต้องทำคือ เรื่องที่ 1
ต้องทำความเข้าใจเพิ่มขึ้น เรื่องที่ 2
ไทยต้องให้ความสำคัญกับการจะขายสินค้าท่องเที่ยวอะไร หลังสถานการณ์โควิด-19
อาจจะมุ่งขาย ธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อาหาร
จะต้องดูถึงนักเดินทางจากตะวันออกกลางและแอฟริกาจะมีพี่น้องชาวมุสลิมค่อนข้างมาก
ไทยก็ควรจะทำให้เป็น Muslim
Friendly Destination เหมือนที่เคยทำมาในอดีต
แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น
เพื่อทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเมื่อเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้วทุกอย่างปลอดภัย
เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติทางหลักศาสนาที่ทุกคนนับถืออย่างถูกต้อง
ไฮไลต์สุดท้าย เรื่องที่ 3 ขายซอฟท์ เพาเวอร์ ประเทศไทย ด้วย นอกจากเรื่องอาหารแล้ว ยังจะมีเรื่องใดที่เหมาะสม ตัวอย่าง ดนตรี และอื่น ๆ เพราะทุกภูมิภาคของประเทศต้องการนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาใช้จ่ายเงินกลับมาให้ได้
ขณะนี้ ททท.วางกลยุทธ์เพิ่มส่วนแบ่งรายได้จากการท่องเที่ยว “ตลาดตะวันออกกลาง” ซึ่งมีทั้งซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต บาเรนห์ ผมมีตัวเลขนักท่องเที่ยวภาพรวมของตลาดดังกล่าวปีละประมาณ 500,000 คน สร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 40,000 ล้านบาท หากสามารถเพิ่มพูนขยายต่อไปได้ โดยดูโลจิสติกส์ควบคู่กันด้วย เพราะที่ผ่านมาตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคเชื่อมโยงเครือข่ายเส้นทางบินจาก “ยุโรป” เข้าสู่ไทยเป็นจำนวนมาก
ตอนนี้
ททท.จึงให้น้ำหนักมากขึ้นโดยได้ปรับแผนเข้าไปทำใกล้ชิดกับ
บริษัทตัวแทนการขายท่องเที่ยวออนไลน์ OTA :Online Travel Agents เพราะไทยถือเป็นประเทศลำดับต้น
ๆ ที่เปิดประเทศแล้วก็มีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของชาวตะวันออกกลาง
ผู้ว่าฯ
ยุทธศักดิ์ ความร่วมมือกับสายการบินหลัก ๆ แล้ว ททท.มองถึง “จำนวนที่นั่ง”
ของเที่ยวบินทั้งหมดจากตะวันออกกลาง จากนั้นก็จะเดินหน้าทำกิจกรรมต่าง
ๆ ร่วมกัน เช่น ททท.ทำ MOC
-Memorandum of Coorperation กับทางสายการบินเอทิฮัด
เอมิเรตส์ เพื่อจะนำที่นั่งนำผู้โดยสารกลับเข้ามาเที่ยวเมืองไทยให้ได้ไม่น้อยกว่า 70 %
ส่วนเป้าหมายรายได้จะต้องไม่ต่ำกว่า 50 % ของปี 2562
ถ้าหากสามารถนำเข้านักท่องเที่ยวตามฐานลูกค้าเดิม
ปีละ 500,000 คน +ฐานลูกค้าใหม่จากซาอุดิอาระเบีย
อีกปีละ 200,000 คน อีก
2-3 ปีข้างหน้าจะได้เห็นนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางมาท่องเที่ยวเมืองไทยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ
1 ล้านคน
อย่างแน่นอน ปัจจุบันนักเดินทางเข้าไทยเรียงตามจำนวน 4 อันดับแรก
ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอเรตส์ คูเวต บาเรนห์ กาตาร์
ผู้ว่าฯ
ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.ได้พูดคุยกับทางสายการบินเพื่อเพิ่มกลยุทธ์
“นำนักท่องเที่ยวเข้ามาไทย” ทำแฟรมทริปร่วมกับสายการบินต่าง ๆ ต่อเนื่องตลอด
ไม่เฉพาะเส้นทางบินจากตะวันออกกลาง แต่รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลทั่วโลกด้วย
โดยได้เชิญชวน อินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์ เข้ามาสำรวจสินค้าท่องเที่ยวของไทย
ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมความเป็นไทย และซอฟท์ เพาเวอร์ อยู่ด้วย
เช่น
“อาหารไทย” ก็คิดถึงว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเสิร์ฟเมนูอาหารไทย
หรือเสิร์ฟข้าวเหนียวมะม่วง ที่ผู้คนกำลังพูดถึง
บริการบนเครื่องบินของแอร์ไลน์สตะวันออกกลาง
สำหรับกระแสนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทยหลังรัฐบาลเปิดประเทศเลิกใช้
Test & Go มาตรการตรวจหาเชื้อโควิดด้วย
RT-PCR คงการตรวจ
ATK ไว้
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
2565
เป็นต้นมาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ย้อนดูตัวเลขตั้งแต่เดือนเมษายน 2565
มีต่างชาติเข้ามาถึงวันละ 13,000
คน
แต่พอยกเลิกไม่ต้องตรวจตามระบบ Test & Go แล้ว ขยับขึ้นมาเป็นวันละเกือบ 20,000 คน
ซึ่งทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทยตั้งแต่
1
มกราคม -16 พฤษภาคม
2565 ทะลุเกิน
1 ล้านคน
รวมทั้งมากกว่าตัวเลขปีที่แล้วรวมกัน 7 เดือน ไปเรียบร้อยแล้ว
ตอกย้ำให้เห็นว่าเมื่อไทยลดข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศ ด้วยการยกเลิก Test & Go ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
ดังนั้น ททท.ได้ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยตลอดปี 2565 เริ่มจากก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณช่วงที่เหลืออีก 4 เดือน มิถุนายน-กันยายน นี้ ทำได้อีกเดือนละ 300,000-5000,000 คน จะทำได้อีกประมาณ 2 ล้านคน รวมกันกับฐานตัวเลข 5 เดือนแรก มกราคม-พฤษภาคม 1 ล้านคน ก็จะได้แล้ว 3 ล้านคน จากนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูเดินทางท่องเที่ยวของต่างชาติช่วงปลายปีอีก 3 เดือน ตุลาคม-ธันวาคม นี้ ทำได้อีกเดือนละ 1 ล้านคน รวมทั้งหมดตลอดปีนี้ มกราคม-ธันวาคม 2565 โอกาสจะได้เห็นตัวเลขตามนโยบายรัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ ตั้งไว้ 7-10 ล้านคน ก็มีความเป็นไปได้สูง
แต่หลักสำคัญ
ททท.ยังคงเน้น “ทำรายได้สูง” เป็นหลัก
แต่จำนวนคนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวก็เป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว
การจ้างงาน สร้างอาชีพ การใช้วัตถุดิบเพื่อกระจายการซื้อขายไปพร้อม ๆ กันได้
ผู้ว่าฯ ททท.
กล่าวถึงเรื่องการจัดทำแผนวิสาหกิจใหม่ 5 ปีหน้า พ.ศ.2566-2570 ปีหน้าจะเริ่มใช้แผนวิสาหกิจฉบับใหม่
ได้ปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มุ่งสู่ 1.การเพิ่มประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยว
2.ปรับให้เข้ากับระบบนิเวศน์ใหม่ทางเศรษฐกิจ
Ecosystem เน้นการใช้ข้อมูล
ประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว กับการทำงานร่วมกัน
ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในขั้นตอน
อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
เพื่อนำมาปรับปรุงให้ดีที่สุด รวมทั้งอยู่ระหว่างประชุมแผน TAT ACTION PLAN หรือ TATAP ในเดือนกรกฎาคมนี้เพื่อจะพูดถึงการดำเนินงานตามแผนของ
ททท.ในปี 2566
เป็นต้นไป
ก็หวังว่าทุกอย่างจะสามารถเดินหน้าได้ตามแผนด้วยการกลับมาทำการตลาดท่องเที่ยวตามปกติแบบวิถีใหม่
New Normal
ส่วนข้อเสนอจากภาคเอกชนท่องเที่ยวก็มีหลากหลายเนื่องจาก
ททท.เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการตลาด เช่นเสียงจากผู้ประกอบการโรงแรม และภาคส่วนอื่น
ๆ ต้องการให้เน้น 3 ส่วนหลัก
คือ
1.เน้นการเดินทางเข้าประเทศปรับปรุงมาตรการต่าง
ๆ ให้สะดวกมากขึ้น ลดข้อจำกัดลง
2.ตลาดเป้าหมาย
อาจจะต้องกระจายฐานมากขึ้น
แต่ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ตอนนี้มีบางประเทศเปิดและอีกประเทศยังไม่ได้เปิด
ดังนั้นจึงอาจจะต้องเลือกทำอย่างเหมาะสม
หรือบางอย่างวางแผนไว้แต่ต้องเผชิญความเสี่ยงก็ต้องหารือร่วมกับเอกชนอีกครั้ง
ซึ่งแต่ละฝ่ายพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
3.ทำให้ทุกคนไปในทิศทางเดียวกัน ขอให้มองไปข้างหน้าด้วยกัน จากการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี และการพัฒนาตลาดท่องเที่ยวไปสู่ความยั่งยืน
การทำการตลาดท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนให้เป็นรูปธรรม ตัวอย่าง พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างเกาะ จะทำอย่างไรเรื่องหลักการลดขยะจากการท่องเที่ยว การบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาไว้ ควบคู่กับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นให้มีคุณค่ามากที่สุด เช่น การขนส่งที่เรียกว่า Local Vehicle หันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น หรือการณรงค์ต่อเนื่องกับผู้ประกอบการเลิกใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง และเรื่องต่าง ๆ ที่ ททท.จะทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
หรือการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยที่สุดหรือ Low Carbon เพื่อให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิศาสตร์ให้น้อยสุด ททท.จะทำให้เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ปรากฎให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยไม่ต้องปีหน้าจะเริ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้ปี 2565 เป็นต้นไป
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ขอให้คนไทยทั้งประเทศร่วมกัน “เป็นเจ้าบ้านที่ดี” ซึ่งอยู่ในหัวใจคนไทยอยู่แล้ว โดย เตรียมหัวใจที่อบอุ่น รอยยิ้มที่เป็นมิตร เพื่อ ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะกลับมา ซึ่งห่างเหินกันไปถึง 2 ปี แล้วเราเองก็ดีใจกับนักท่องเที่ยว 5 เดือนแรกที่เข้ามาเกิน 1 ล้านคนแล้ว แต่นั่นหมายความว่าเรากำลังเปิดประเทศ “คนไทย” เองก็อาจจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศด้วย
ผมคิดว่าในสถานการณ์แบบต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศนั้น
จึงอยากเห็นไม่เฉพาะ “ต่างประเทศ” กลับเข้ามาเมืองไทยเท่านั้น ต้องการให้
“คนไทยเที่ยวในประเทศ” ที่ใกล้เคียงกับปี 2562 เคยทำไว้ถึง 172 ล้านคน-ครั้ง
คนไทยอาจจะไม่เที่ยวต่างประเทศได้แต่ก็อย่าลืมเที่ยวเมืองไทย
เพื่อเศรษฐกิจไทยด้วยเช่นกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์แจกจัดหนักReady Go Summerคูปอง+กิฟการ์ดฟรี7พันบาท
คิง เพาเวอร์ ลดจัดหนัก แคมเปญแรก EXCLUSIVE BRAND FESTIVAL ลดสูงสุด 30% เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ) วันนี้ - 31 พ.ค. 65 ช้อปสินค้าส่งตรงถึงบ้านทั่วประเทศ ซื้อในราคาดิวตี้ฟรี! ช้อปเลยที่ – https://bit.ly/3yOTXWW
แคมเปญที่ 2 Ready Go Summer เพียง 3 วันเท่านั้น ช้อปวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 20-22 พฤษภาคม 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และ วันเสาร์ 21- อาทิตย์ 22 พฤษภาคม นี้ ที่คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ทุกสาขาเตรียมความพิเศษไว้มอบให้ลูกค้าคู่กันถึง 2 แบบ คือ
แบบแรก ลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรี! คูปองส่วนลด 2 ใบ ดังนี้ ใบที่ 1 คูปองส่วนลด 1,000 บาท สำหรับช้อป 5,000 บาท/ใบเสร็จ ใบที่ 2 คูปองส่วนลด 2,000 บาท สำหรับช้อป 8,000 บาท/ใบเสร็จ รับได้วันละ 1 สิทธิ์/คน โดยนับสิทธิ์รวมกันทุกสาขาและช่องทาง CALL TO SHOP & CHAT TO SHOP รวมทั้งรับฟรี! CARAT REWARDS x10 คะแนนสะสมในบัตรสมาชิกทุก ๆ เมื่อมียอดช้อปสะสมครบ 8,000 บาท
แบบที่ 2 ซื้อ CASH CARD รับ GIFT CARD สูงสุด 7,000 บาท ได้แก่ 1.ซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 3,000 บาท และ 2.ซื้อ CASH CARD 23,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 7,000 บาท
คิง เพาเวอร์ เปิดโอกาสให้นักช้อปบริหารการใช้จ่ายเงินอย่างคล่องตัวแบบสบาย
ๆ เพราะสามารถแบ่งจ่าย 0% ได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน
ควบคู่กับการใช้สิทธิรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท
เลือกสมัครสมาชิกออนไลน์รับส่วนลด 200 บาท หรือรับสิทธิ์สมัครสมาชิก คิง
เพาเวอร์ ได้ด้วยยอดช้อปขั้นต่ำแค่ 1,000 บาทสุทธิ
ข่าวที่ 2 คลิกClick&Collectรช้อปคิงเพาเวอร์รับเปิดประเทศพ่วงชวนเที่ยวไทย
คิง เพาเวอร์ ขานรับนโยบายรัฐบาลและสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจกับ “HAVE AN EXOTIC TRIP” ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลังประกาศยกเลิกใช้ Test & Go การตรวจหาเชื้อโควิด-19 เดินทางเข้าเมืองไทยได้ด้วยมาตรการผ่อนคลายมากที่สุด เมื่อมาถึงไทยแล้วช้อปคิง เพาเวอร์ ด้วยบริการ Click & Collect เสร็จเรียบร้อย แนะนำให้ออกไปเที่ยวเสน่ห์เทศกาลงานประเพณีทั่วไทย 4 เดือนนี้ ระหว่างพฤษภาคม-สิงหาคม 2565
ตลอดการเดินทางสามารถเลือกช้อปสินค้า คิง เพาเวอร์ ผ่านทาง KING POWER CLICK & COLLECT โดยไม่ต้องแบกสินค้าใส่กระเป๋าเดินทางไปให้เป็นภาระ เพราะมีบริการรับสินค้าได้ที่สนามบินทั้งขาเข้าและขาออก จึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบายไปชมงานประเพณีต่าง ๆ ต่อเนื่อง ที่จะแนะนำได้ตลอด 4 เดือน ระหว่างพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 ดังนี้
เดือนพฤษภาคม 2565 ปักหมุดเที่ยวประเพณีไทย 3 งาน ได้แก่ บวชนาคบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ เวียนเทียนทางน้ำกลางกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา และสืบสานงานนมัสการหลวงพ่อพระสุก จังหวัดยโสธร
เดือนมิถุนายน 2565 สัมผัสเสน่ห์งาน เทศกาลเสน่ห์ชุมชน ยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” จังหวัดภูเก็ต กับมหกรรมสืบสานตำนานวันสุนทรภู่ กวีเอกของโลก
เดือนกรกฎาคม 2565 ร่วมงานประเพณีเที่ยวเติมบุญทั่วไทย ได้แก่ แห่ผ้าพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ห่มพระบรมธาตุสวี จังหวัดชุมพร บูชาพระธาตุ ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองคนดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสืบสานวัฒนธรรมสี่เผ่าไทศรีสะเกษ ห่มผ้าพระนอน จังหวัดอ่างทอง
เดือนสิงหาคม 2565 ห้ามพลาด !!
ชมเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี หรือจะไปสนุกสนานในมหกรรมงานทิ้งกระจาด
จังหวัดสุพรรณบุรี แล้วล่องใต้ไปงาน สืบสานพหุวัฒนธรรม งานของดีเมืองนราฯ
จังหวัดนราธิวาส
ข่าวที่ 3 พูลแมนคิงเพาเวอร์โปรฟินStay&Dineพัก1คืนแถมมื้อค่ำ2คนถึง31พ.ค.
โรงแรมพูลแมน
คิง เพาเวอร์ มีโปรโมชั่นแพกเกจองหรู “Stay and Dine” ราคา 3,199 บาทสุทธิ/ห้อง/คืน ห้องพักแบบซูพีเรีย 1 คืน รวมอาหารเช้าพร้อมชุดอาหารค่ำ
2 คอร์ส ให้ 2 คน เช็คเอาท์ได้ถึง 16.00 น. จองเลย https://bit.ly/3khntMQ
ถึง 31 พฤษภาคม 2565 แพ็กเกจนี้รวมความคุ้มค่าจุใจทุกคน
1.ชุดอาหารญี่ปุ่นมื้อค่ำ 2 คอร์ส ที่ห้องอาหารเท็นชิโนะ
เมื่อเช็คอินเข้าพักวันพฤหัสบดี – วันเสาร์ หรือชุดอาหารเวสเทิร์นมื้อค่ำ 2 คอร์ส ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก เมื่อเช็คอินเข้าพักวันอาทิตย์ –
วันพุธ
2.เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักฟรี
ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มในกรณีที่ไม่ขอเตียงเสริม ชำระเพิ่มเฉพาะค่า- อาหารเช้า
เด็กอายุ 6-11 ปี ราคา 350
บาทสุทธิต่อคน
3.ลดเพิ่ม 10% สมาชิก คิง เพาเวอร์
สอบถามเพิ่มเติมโทร 02 680 9999 หรือ H6323-RE2@ACCOR.COM
ข่าวที่ 4 ททท.นำเอกชนรุกขายSATTE2022โกยอินเดียเที่ยวไทย5แสน5จังหวัด
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 22 ราย 4 กลุ่มหลัก บริษัทนำเที่ยว โรงแรม สายการบิน แหล่งท่องเที่ยว/บริการการแพทย์ เข้าร่วมงาน South Asia Travel and Tourism Exchange : SATTE 2022 ระหว่าง 18-20 พฤษภาคม 2565 ที่ อินเดีย เอ็กซโป มาร์ต เกรเตอร์ โนเดีย (India Expo Mart, Greater Nodia) กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เร่งรุกตลาดหลักของไทยมุ่งทำเทรดโชว์ส่งเสริมการขายมหกรรมท่องเที่ยวรายการใหญ่และสำคัญที่สุดที่จะเจรจาจับคู่ธุรกิจขายท่องเที่ยวกับคู่ค้าอินเดีย ตลอดปี 2565 ตั้งเป้าจะกระตุ้นอินเดียเที่ยวไทยให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 คน
ระหว่างพิธีเปิดคูหาไทยแลนด์ สแตนด์ ในงาน SATTE 2022 ททท.ได้รับเกียรติจาก นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี นายนิธี สีแพร
รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ททท.และผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้า
ผนึกกำลังกันสร้างภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นจุดหมายปลายการท่องเที่ยวของโลกหรือ Preferred Destination ขานรับปีท่องเที่ยวไทย 2565 ด้วยแคมเปญ Amazing Thailand : Amazing New Chapters
ททท.ตั้งเป้าปลุกกำลังซื้อตลาดท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มคุณภาพที่มีการใช้จ่ายเงินสูง เช่น 1.กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางพักผ่อน (leisure) 2.กลุ่มครอบครัว 3.กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยรุ่นวัยทำงาน
(Millennials) 4.กลุ่มความสนใจเฉพาะ (Niche
Market) ซึ่งมีทั้งกลุ่มแต่งงาน กลุ่ม Luxury & Wellness
และกลุ่มกอล์ฟ
รวมทั้ง ททท.เล็งเห็นถึงโอกาสที่เอกชนท่องเที่ยวไทยสามารถใช้เวทีนี้จับคู่เจรจาธุรกิจทำเชิงรุกควบคู่กันทั้งการตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกับผู้ประกอบการในอินเดีย
ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 นัดหมาย
เนื่องจากมีข้อมูลยืนยันจาก Informa Markets คาดการณ์ว่าตลอดการจัดงาน SATTE 2022 มีผู้เข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกกว่า 50,000 คน
ผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยว (Exhibitors) ประมาณ 1,200 บูธ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วม (Trade Visitors) 35,000 คน จาก 50 ประเทศ
ส่วนสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตั้งแต่
1 มกราคม -11 พฤษภาคม 2565 มีทั้งหมด 966,686 คน ในจำนวนนี้มีอินเดียติด 1 ใน 5
อันดับแรกด้วย ดังนี้ คือ 1.สหราชอาณาจักร 2.เยอรมัน 3.อินเดีย 4.รัสเซีย 5.สหรัฐอเมริกา
นักท่องเที่ยวอินเดียเลือกเดินทางท่องเที่ยวไทยตามจังหวัดยอดนิยมลำดับต้น ๆ คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี และชื่นชอบทำกิจกรรม 3 ลำดับแรก ได้แก่ กิจกรรมชายหาด รับประทานอาหารไทย และท่องเที่ยวยามค่ำคืน
ข่าวที่ 5 บางจากจับมือนสพ.เดลินิวส์แจกส่วนคูปองนลดลิตรละบาท1.2ล้านใบ
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มบริษัทบางจาก เปิดเผยว่า บางจากฯ ร่วมกับหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ช่วยลดค่าครองชีพผู้บริโภคในโครงการ “ลิตรละบาท”
มอบส่วนลดการเติมน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยผู้บริโภคสามารถตัดคูปองบนหน้าหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันจันทร์ที่ 23 วันพุธที่ 25 และวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2565 จำนวนพิมพ์รวมทั้งสิ้น 1,200,000 ใบ เพื่อนำมาแสดงเป็นส่วนลดเมื่อเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดที่บางจาก 10 ลิตรขึ้นไป รับส่วนลดเริ่มใช้สิทธิ์คูปองส่วนลดได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ถึงวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2565
มูลค่าส่วนลดลิตรละ 1 บาท แต่ละคูปองมี 2 ใบ มูลค่าใบละ 10 ลิตร เท่ากับส่วนลดใบละ 10 บาท และจำกัดการใช้คูปองไม่เกิน 2 ใบ ต่อการเติมน้ำมัน 1 ครั้ง
โครงการลิตรละบาทเป็นหนึ่งในมาตรการที่บางจากฯ จัดขึ้นเพื่อช่วยลดค่าครองชีพผู้บริโภคในสภาวะปัจจุบัน นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรสมาชิกบางจากฯ ที่มีต่อเนื่องตลอดปี 2565 โดยเฉพาะข้อเสนอพิเศษ “ขึ้นเท่าไหร่ คืนเท่านั้น” มอบคะแนนเพิ่มในวันแรกที่น้ำมันปรับราคาขึ้น เพียงชำระค่าน้ำมันเต็มจำนวนตามราคาที่ปรับขึ้นใหม่ และรับส่วนต่างราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นคืนเป็นคะแนนพิเศษ เปรียบเสมือนได้เติมน้ำมันราคาเดิมก่อนจะปรับขึ้นราคานั่นเอง ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bcpgreenmiles.com หรือ โทร 1651 กด 4
ช่วงที่
2 ออกเที่ยวแบบฟิน ๆ บินไปกับ
“บางกอกแอร์” เที่ยวเมืองไทย 5 เส้นทาง ตักบาตรเข้าวัดตะพังทอง
จ.สุโขทัย ล่องเรือชมอันซีนไทยแลนด์ “เกาะขายหัวเราะ” จ.ตราด ขึ้นเหนือแช่ออนเซ็น
“น้ำพุร้อนอุทยานแจ้ซ้อน” จ.ลำปาง พักผ่อน “บาบาน่า บีช เกาะเฮ” จ.ภูเก็ต
กินอาหารอร่อยเปิดตาชมทิวทัศน์ใหม่ “หาดใหญ่” จ.สงขลา แล้วดูแลสุขภาพกับ “7ผลไม้หน้าฝนป้องกันไข้หวัด” ส่วนข่าว ต้องยกให้ 3 แอร์ไลน์ส “การบินไทย-บางกอกแอร์เวย์ส-ไทยแอร์เอเชีย” โชว์ผลการดำเนินงานและแผนธุรกิจเปิดเส้นทางบินใหม่
เพิ่มความถี่ เร่งล้างขาดทุนให้ได้เร็วที่สุด
พาเที่ยว –บินเที่ยวสุดฟินทั่วไทยกับบางกอกแอร์สัมผัสวิถีธรรมชาติ5เมืองสวย
ทุกประสบการณ์การเดินทางเที่ยวไทย ได้อารมณ์ความรู้สึกดี ๆ ใหม่ ๆ อยู่ตลอด วันนี้ต้องบินไปสูดโอโซนตามสถานที่ต่าง ๆ กับ “บางกอก แอร์เวย์ส” เลือกได้เลย 6 เส้นทาง
เส้นทางที่ 1 สุโขทัย ดื่มด่ำทัศนียภาพยามเช้าพร้อมอิ่มใจกับกิจกรรมตักบาตรสะพานบุญ วัดตระพังทอง
ทริปเพิ่มบุญเสริมสิริมงคลชีวิต
รับอรุณสุโขทัย ตักบาตรยามเช้าวิถีไทยที่วัดตระพังทอง ถิ่นที่มีเอกลักษณ์ของโบราณสถานที่มีความโดดเด่นและเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางสระน้ำ
ดื่มด่ำกับความงดงามของทัศนียภาพยามเช้า พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและเตรียมตัวจองที่นั่งใส่บาตรเช้าบริเวณสะพานหน้าวัด
เพิ่มรอยยิ้มอิ่มสุข อิ่มอกอิ่มใจ และอิ่มบุญ กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
เส้นทางที่ 2 ทะเลตราด ซาฟารีกลางทะเล อันซีน “เกาะขายหัวเราะ” - ขึ้นเครื่องจากกรุงเทพฯ ไปลงสนามบินตราด ลงเรือลัดคลื่นมุ่งหน้าสู่ “เกาะขายหัวเราะ” อันซีนไทยแลนด์ปี 2565 แห่งเมืองตราด ทะเลสวยน้ำใส แล้วแวะไป “เกาะกระดาด” ทักทายเจ้าถิ่นกวางเกาะกระดาดน่ารัก แล้วล่องเรือไปเล่นน้ำทะเล ทำกิจกรรมริมชายหาดสนุก ๆ ได้
เส้นทางที่ 3 แอ่วลำปางแช่ออนเซ็นเมืองเหนือ ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
- ออนเซ็นธรรมชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดังรอต้อนรับอยู่ใน “อุทยานแห่งชาติ
แจ้ซ้อน” อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ท่ามกลางธรรมชาติสุดเขียวขจี
รายล้อมพรรณไม้นานาชนิด น้ำตก สามารถแช่น้ำร้อนบางจุดหรือบางโซนได้ตามคำแนะนำของทางอุทยาน
แล้วก็เดินลัดเลาะอากาศบริสุทธิ์ขึ้นยอดดอยไปยังจุดชมวิวดอยล้าน มองเห็นทิวทัศน์ 360 องศา
เส้นทางที่ 4
บุกเกาะภูเก็ต ล่องเรือสุดชิค บานาน่า บีช เกาะเฮ -ล่องใต้หรอยแรงที่
“ภูเก็ต” เดินชมเมืองวิถีชุมชนยลสถาปัตยกรรมสวย ๆ แล้วต้องห้ามพลาด กิจกรรมล่องเรือเก๋
ๆ ที่ “บานาน่า บีช
เกาะเฮ” สัมผัสทะเลสีเทอร์ควอยซ์
ตัดกับหาดทรายสีขาว พร้อมเติมความสนุกได้อีกหลายอย่าง เช่น พายเรือคายัคใส
และดำน้ำดูปะการัง เก็บภาพทิวทัศน์พระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็น สุดแสนจะโรแมนติก
เป็นทริปพักผ่อนแนะนำให้ลองทำสักครั้งในชีวิต
เส้นทางที่ 5
ล่องหาดใหญ่ เที่ยวเมืองอาหารอร่อย -อีกหนึ่งในสวรรค์ขแดนใต้นั่นก็คือเมืองสองทะเล
หรือจังหวัดสงขลา มีทั้งชายทะเลสวยงาม กับร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ตั้งเรียงรายจน
แล้วก็ยังมีแหล่งธรรมชาติสุดอันซี อย่าง “น้ำตกโตนงาช้าง” ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง
โดยเฉพาะชั้นที่ 3 กับวิวหน้าผาสวยสูงชัน มีสายน้ำไหลที่มีรูปร่างคล้ายงาช้าง และแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นได้
ส่วนในเมืองแลนด์มาร์คตรงสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่
มีเคเบิ้ลคาร์ “กระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของไทย” มองลงไปเห็นทัศนียภาพยอดเขาสวย ๆ ทะเลสาบสงขลา
อีกแหล่งท่องเที่ยวคือ “วนอุทยานแห่งชาติควนเขาวัง”
เส้นทางศึกษาดูธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่านานาชนิด เปิดให้นักท่องเที่ยวกางเต๊นท์พักแรมชมความสวยงามของพระอาทิตย์ยามเช้า
สูดโอโซนบริสุทธิ์ได้ตลอดทริป
สุขภาพ -7
ผลไม้หน้าฝนป้องกันไข้หวัดหาง่ายรับประทานกันไว้ก่อนดีกว่ารอป่วย
ฝนกับอาการไข้หวัดเป็นของคู่กัน แต่ธรรมชาติก็ส่ง
“ผลไม้หน้าฝน” ที่โดดเด่นด้วยวิตามินซีสูงปรี๊ด สอดคล้องกับสภาพอากาศ เดี๋ยวแดดออก
เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น ใครร่างกายไม่แข็งแรงก็ป่วยได้ง่ายๆ เลย สามารถหามารับประทานได้เลย
ด้วย 7 ผลไม้หน้าฝนแก้หวัดได้
มีดังนี้
ฝรั่ง - มีวิตามินซีสูงลิบ มากกว่าส้มถึง 4
เท่า ช่วยต้านหวัด ช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน
ช่วยซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อและหลอดเลือด
รวมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ เลือกกินผลสดๆ
จะให้วิตามินซีมากกว่าผลที่สุกจัด
มังคุด -มีวิตามินบีคอมเพล็กซ์ช่วยการเผาผลาญพลังงาน
ใยอาหารจำนวนมากช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย มีโฟเลทที่ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย ลดการอักเสบของผิว ป้องการอาการติดเชื้อได้
สับปะรด - มีวิตามินซีที่ช่วยสร้างคอลลาเจน
เสริมภูมิต้านทานป้องกันหวัด มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารทำให้กระเพาะไม่ต้องทำงานหนัก
ช่วยลดอาการท้องผูก แล้วยังมีแคลอรี่น้อยนิดเมื่อเทียบกับปริมาณ
กินบ่อยแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องกลัวอ้วน
กล้วยน้ำว้า -มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ช่วยชะลอความเสื่อมของผิว น้ำตาลต่ำ (มีค่า GI เพียง 37) จึงเหมาะกับคนเป็นเบาหวาน ธาตุเหล็กสูง
ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง แล้วยังมีสารทริปโตเฟนที่ช่วยคลายเครียด ลดอาการวิตกกังวล
ส้มเขียวหวาน
- วิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันหวัด
มีแคลเซียมและวิตามินดีช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
สารฟลาโวนอยด์ช่วยป้องกันการอักเสบและเลือดจับตัวเป็นก้อน
แถมด้วยเบตาแคโรทีนช่วยชะลอความเสื่อมของเส้นผม เล็บ และผิว
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก 3แอร์ไลน์โชว์Q1ปี65“บินไทย-บางกอกแอร์-แอร์เอเชีย”เร่งปลดล็อกขาดทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ช่วงสัปดาห์ที่ 3 พฤษภาคม 2565
มี 3 สายการบินหลัก ๆ ของไทย
ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 (Q-Quarter
1) ปี 2565 โดยภาพรวมยังคงต้องเผชิญกับ “การขาดทุน”
แต่ละสายการบินพยายามจะหากลยุทธ์เข้ามาเพิ่มรายได้ด้วยการเปิด เส้นทางบินใหม่
เพิ่มความถี่เที่ยวบิน
และมองหาโอกาสจากธุรกิจเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ
เริ่มจาก บริษัท การบินไทย จำกัด
(มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 ของบริษัทฯ
และบริษัทย่อยมีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 11,181
ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 6,797 ล้านบาท เพิ่ม 155 %
แต่โดยภาพรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
มีผลการดำเนินไตรมาส 1 ปี 2565
1.ขาดทุนสุทธิ 3,243
ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 8,962 ล้านบาท
เป็นการขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 3,247
ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.49 บาท ดีกว่าไตรมาสที่ 1 ปี
2564 ขาดทุนต่อหุ้น 5.59
บาท
2.มีสินทรัพย์รวม
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีทั้งสิ้น 162,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31
ธันวาคม 2564 จำนวน 1,204
ล้านบาท
3.หนี้สินรวมมี 236,909
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,439 ล้านบาท โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
และบริษัทย่อยติดลบ 74,486 ล้านบาท ติดลบเพิ่มขึ้น 3,235
ล้านบาท เป็นผลจากการขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
แต่สถานการณ์ตลาดการเดินทางและการขนส่งสินค้าทางอากาศตอนนี้กำลังฟื้นตัว
บมจ.การบินไทย ยืนยันว่า ส่งผลดีทำให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง กระทั่งปัจจุบันมีสภาพคล่องทางการเงินอยู่ในระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการของ
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 เป็นต้นมา
“บางกอกแอร์เวย์ส” ทางด้าน นายพุฒิพงศ์
ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ
BA เปิดเผยว่าในฐานะเจ้าของบางกอกแอร์เวย์ส
ไตรมาส 1 ปี 2565 ระหว่างมกราคม-มีนาคม
2565 มีรายได้รวม1,698
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันกับบีก่อน 25.1 % รายได้ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของ
2 ส่วน
คือ 1.ยอดขายบัตรตั๋วโดยสาร
เพิ่ม 208.8 % และ
2.ธุรกิจสนามบิน
เพิ่ม 206.9 %
ในไตรมาสที่
1 ปี 2565 บมจ.การบินกรุงเทพ
ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินเส้นทางหลัก เพื่อรองรับการกลับมาเดินทางของนักท่องเที่ยว
หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เช่น
กรุงเทพฯ-สมุย กรุงเทพฯ-ภูเก็ต กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-ลำปาง สมุย-ภูเก็ต
สมุย-อู่ตะเภา ภูเก็ต-อู่ตะเภา และกรุงเทพฯ-พนมเปญ
ส่งผลให้ไตรมาสแรกปีนี้เปรียบเทียบกับปี
2564 จึงมีจำนวนผู้โดยสาร
400,000 คน เพิ่มขึ้น 145.8 % และมีจำนวนเที่ยวบิน
5,037 เที่ยว เพิ่มขึ้น 104.4 %
รวมทั้งมีอัตราขนส่งผู้โดยสารทำได้ 63.5 % ทำราคาขายตั๋วโดยสารเฉลี่ย
2,469.6 บาท เพิ่มขึ้น 31.3 %
แต่ก็ยัง “ขาดทุน” จากการดำเนินงาน 826.6
ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ขาดทุนเพิ่มขึ้น
9.2 % เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น
22.3 % ส่วนใหญ่เป็นเพราะ “ต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้น” จากค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
ค่าซ่อมบำรุงเครื่องบิน และค่าบริการผู้โดยสาร
ปิดท้าย
“ไทยแอร์เอเชีย” ภายใต้การบริหารของ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นใหญ่ บจ. ไทยแอร์เอเชีย (TAA)
รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565
มีรายได้รวม 2,091.0 ล้านบาท และ ขาดทุน 2,370.6 ล้านบาท มีอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยได้
73 % เพิ่มขึ้น 7 จุด
ยอดขนส่งผู้โดยสารสูง 1.45 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 48
เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนราคาค่าโดยสารเฉลี่ยไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น
7 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำได้ 1,018 บาท/คน
แต่มีต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้นตามปริมาณเที่ยวบินดังนี้
1.ราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยปรับขึ้น 61 % จากปีช่วงเดียวกันของปีก่อน
2.ค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 21
% โดยหลักจากค่าธรรมเนียมการขายและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนของบริษัท
ไตรมาส
2 มีสัญญาณดีจากยอดผู้โดยสารนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย
หลังมาตรการเข้าประเทศผ่อนคลาย ทำให้ TAA สามารถเพิ่มความถี่บินเเละเปิดเส้นทางใหม่ๆ
ได้ต่อเนื่อง
นายสันติสุข
คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย
กล่าวว่าทั้งนี้ TAA ตั้งเป้าตลอดปี 2565 ขนส่งผู้โดยสารให้ได้ 10.4
ล้านคน ทำอัตราขนส่งผู้โดยสาร 78 % ความตรงต่อเวลา
90 % ด้วยฝูงบิน 53 ลำ
สถานการณ์ไตรมาส
1 ถึง 2 เมื่อรัฐบาลยกเลิกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศเเล้ว TAA สามารถเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางใหม่ในอาเซียนและเอเชียใต้เป็น
11,002 เที่ยว คิดเป็น 32 % ต่อจากการเปิดบินแล้ว 8 ประเทศ
19 เส้นทาง สู่ มัลดีฟส์ กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม
อินโดนีเซีย อินเดีย และ สปป.ลาว
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น