วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2568

ททท.-Zebraนำอินเดียหมื่นคนร่วมMagic2025พ่วงสงกรานต์ปี68โกยแสนล้าน

 

ททท.จับมือกับ Zebra Events & Exhibition นำกลุ่มขายตรงอินเดียร่วม Magic 2025 เที่ยวสงกรานต์ไทย

ททท.-Zebraนำอินเดียหมื่นคนอบรมโปรเจกต์Magic2025

พ่วงขายเที่ยวสงกรานต์ปี’68หวังโกยรายได้อินเดียแสนล้าน

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #Magic2025 

ททท.กอดคอ Zebra Events & Exhibition เปิดโครงการ Magic 2025”  ดึงกลุ่มขายตรงตลาดคอร์ปอเรตและอินเซ็นทีฟอินเดียกว่า 10,000 คน บินมาอบรมในไทยที่เมืองทองธานี พร้อมตลุยเที่ยวสงกรานต์ 11-15 เม.ย. ปี’68 ตลาดสดใสไทยโกยรายได้อินเดียถึงเป้า 1 แสนล้าน 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ททท. ร่วมกับบริษัท Zebra Events & Exhibition Pvt. Ltd. จัดกิจกรรมต้อนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวในโครงการ Corporate Incentive ภายใต้ชื่อ “Magic 2025”  เมื่อ 11-15 เมษายน 2568 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เพื่อฝึกอบรมตัวแทนฝ่ายขาย (Direct Marketing Sale Representative) สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ มากถึง 10,000 คน มุ่งส่งเสริมตลาดคุณภาพกลุ่มองค์กรจากต่างประเทศเดินทางมาไทย โดยมี “พลตำรวจตรีพงษ์สยาม มีขันทอง” รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้เกียรติเข้าร่วมและกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงานอย่างเป็นทางการ


ปี 2568 ททท. ตั้งเป้าหมายกระตุ้นอินเดียท่องเที่ยวเมืองไทยไว้ไม่ต่ำกว่า 2.3 ล้านคน จะสร้างรายได้ท่องเที่ยวเข้าไทยสูงสุด 101,600 ล้านบาท เนื่องจากเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากเป็นอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคเอเชียใต้

การอบรมครั้งนี้ตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 มีผู้เข้าร่วมอบรมสนใจท่องเที่ยว “Maha Songkran World Water Festival 2025  ในพื้นที่ทั่วไทย ตอกย้ำปีส่งเสริมการท่องเที่ยว Amazing Thailand Grand Tourism and sports year 2025 ผ่าน Grand Festivity จัดทั่วทุกภูมิภาคของไทย

ส่วนกิจกรรม “Magic 2025” ที่เลือกไทยเป็นสถานที่จัดโครงการฝึกอบรมตัวแทนฝ่ายขาย (Direct Marketing Sales Representative) ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ มีผู้เดินทางมาเข้าร่วมมากถึง 10,000 คน เป็นส่วนหนึ่งของแผนส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดคอร์ปอเรตและผู้ที่ได้รางวัลการเดินทางท่องเที่ยว (Corporate&Incentive) ที่มีศักยภาพใช้จ่ายเงินสูงตลอดทริป


ททท. มุ่งนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวในเมืองไทยผ่านมุมมองใหม่เชื่อมโยงกับซอฟท์ พาวเวอร์ของไทย รวมทั้งเป็นโอกาสสำคัญที่ได้แสดงศักยภาพเป็นจุดหมายปลายทางด้านไมซ์ (MICE Destination) ครบวงจร ช่วยขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มองค์กร (Corporate) และส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เป็นแรงผลักดันพัฒนาและต่อยอดกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทยในระยะยาว

ปี 2567 มีผลสำรวจตลาดอินเดียเดินทางมาไทยสะสมกว่า 2.1 ล้านคน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตอกย้ำถึงแนวโน้มปี 2568 ยังสดใสมีศักยภาพแข็งแกร่ง ซึ่งจะมีผลด้านเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพราะปัจจุบันอินเดียครองแชมป์ติด 1 ใน 5 หรือ Top Five

สถิติตั้งแต่ 1 มกราคม - 9 เมษายน 2568 อินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยแล้ว 597,709 คน นิยมเดินทางด้วยตนเอง (FIT)  75.20 % และกรุ๊ปทัวร์ 24.80 % แบ่งเป็น 1.นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาครั้งแรก (First Visit)  66.59 % ด้วยวัตถุประสงค์หลากหลายทั้งเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ทำธุรกิจ หรือร่วมเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษ งานแต่งงาน หรือวันครบรอบฉลองแต่งงาน

โดยเฉพาะเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะตรงกับฤดูท่องเที่ยวของอินเดีย และธันวาคมเป็นช่วงท่องเที่ยวยอดนิยม (Peak Season) ของตลาดเมืองรองรัฐทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือนิยมมาไทยจำนวนมากที่สุดใน 5 จุดหมายปลายทาง ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2.ชลบุรี 3.ภูเก็ต 4.กระบี่ 5.สุราษฎร์ธานี

สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มต่าง ๆ ครอบคลุมมากถึง 11 กลุ่ม ได้แก่ 1.ครอบครัว 2.มิลเลนเนียล 3.เฮลท์และเวลเนส 4.เวดดิ้งและฮันนีมูน 5.กอล์ฟ และกลุ่มศักยภาพใหม่ 6.นักเดินทางผู้หญิง 7.พลเมืองสูงวัย 8.กลุ่มชอบการเฉลิมฉลอง/Celebrations 9.กลุ่มขับรถเที่ยวด้วยตนเอง 10.กลุ่มฟื้นฟูสุขภาพ/Rejuvenating 11.นักท่องเที่ยวเชิงผจญภัย

ปี 2568 ตลาดอินเดียยังได้รับแรงสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวจากหลากหลายปัจจัยเติบโตอย่างรวดเร็ว 2 ไฮไลต์หลัก คือ

1.จำนวนประชากรมีพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเก็บออมเป็นใช้จ่ายเพื่อไลฟ์สไตล์และความพึงพอใจส่งผลให้ออกเดินทางต่างประเทศปีละหลายครั้ง

2.มาตรการยกเว้นตรวจลงตรา (Visa Exemption) ของไทย และให้พำนักในราชอาณาจักรไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ มีผลตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ยิ่งทำให้อินเดียตัดสินใจออกเดินทางมาไทยมากเป็นโอกาสได้นำเสนอเสน่ห์ไทยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มคุณภาพเพิ่มขึ้น


 

ททท.จัดครั้งแรกมหาสงกรานต์สองฝั่งโขงหนองคายดึง5หมื่นคนเงินสะพัด40ล้าน

 

กระทรวงการท่องเที่ยว ททท.จังหวัดหนองคาย ผนึกจัดมหาสงกรานต์สองฝั่งโขง ครั้งแรกในไทย

 ก.ท่องเที่ยว-ททท.-จัดครั้งแรกมหาสงกรานต์สองฝั่งโขง

หนองคายปลุกเที่ยวคึกคัก5หมื่นคนเงินสะพัดเกิน40ล้าน

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #มหาสงกรานต์สองฝั่งโขง #หนองคาย

กระทรวงท่องเที่ยว ควง ททท.และหนองคาย จัดครั้งแรกแห่งปี “มหาสงกรานต์สองฝั่งโขง” ฉลองสัมพันธ์สายพัวพันที่ยั่งยืน 75 ปี ชูซอฟท์ พาวเวอร์ อัตลักษณ์ม่วนสุด ๆ กระตุ้นนักท่องเที่ยว 5 หมื่นคน ทำเงินสะพัดกว่า 40 ล้าน


            นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมสนับสนุนการจัด “มหาสงกรานต์สองฝั่งโขง : Maha Songkran of The Mekong River” ครั้งแรกในเมืองไทยจัดสุดยิ่งใหญ่แห่งลุ่มน้ำโขง โดยได้นำอัตลักษณ์ท้องถิ่นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกับนักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ถึงคุณค่าประเพณีสงกรานต์หนึ่งในความภูมิใจและ ซอฟท์ พาวเวอร์ Soft Power ของไทยโดยยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พร้อมทั้งเป็นโอกาสอันดีและวาระพิเศษในการเฉลิมฉลองครบ 75 ปี ของความสัมพันธ์ประเทศไทย และสปป. ลาว ร่วมมือกันส่งเสริมให้ประชาชนของสองประเทศกินดี อยู่ดี และมีสุข รวมทั้งสานสัมพันธ์ด้วย “สายพัวพันที่ยั่งยืน” ต่อไป  โดยมีประชาชนสองฝั่งโขงร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลมหาสงกรานต์อย่างสนุกสนานตลอดเทศกาล

นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท.กล่าวว่า จัดงานขึ้นภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชนด้วยแนวคิดการสร้างสรรค์และพัฒนาต่อยอดกิจกรรมสงกรานต์ ยกระดับให้เป็น “เทศกาลนานาชาติที่มีสีสัน” ส่งเสริมท่องเที่ยวปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ผ่าน “5 Must Do in Thailand”  เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ริมแม่น้ำโขงกระตุ้นการเดินทาง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ   ในพื้นที่ ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และสืบทอดประเพณีอันงดงามของไทย     ถือเป็นการเริ่มต้นของการปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมในการผลักดันเทศกาลสงกรานต์ของประไทยเข้าสู่เทศกาลระดับโลก

            ททท. คาดการจัดงาน “มหาสงกรานต์สองฝั่งโขง : Maha Songkran of The Mekong River” จังหวัดหนองคายปี 2568 จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้าสู่พื้นที่ บริเวณใกล้เคียง และจังหวัดรอบหนองคายไม่น้อยกว่า 50,000 คน ช่วยขยายวันพักและเพิ่มค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวตลอดสงกรานต์ทำรายได้หมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท

 

นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคายได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมาร่วมงาน “มหาสงกรานต์สองฝั่งโขงด้วยความโดดเด่นด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชาติพันธ์ทั้งไทย ลาว จีน เวียดนาม และชาวตะวันตก และมีแหล่งท่องเที่ยวกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งจังหวัดจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือน สามารถใช้งานนี้เปิดประสบการณ์        ท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมไฮไลต์ ได้แก่

ขบวนงานสมโภชสรงน้ำหลวงพ่อพระใส ประจำปี วันที่ 13 เมษายน 2568        พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย ที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อำเภอเมือง

ขบวนสงกรานต์จากศิลปินดารา วันที่ 14 เมษายน นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับศิลปินที่มาร่วมสร้างสีสัน Celebrity Songkarn Parades 



กิจกรรมภายใต้แนวคิด “5 MUST DO IN THAILAND” ได้แก่  MUST TASTE,  MUST TRY, MUST BUY, MUST SEEK และ MUST SEE"  โดยใช้ซอฟท์ พาวเวอร์ ท้องถิ่น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวสะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมความเชื่อและวิถีชีวิตมากมายริมสองฝั่งโขง สร้างความตื่นตาประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเต็มพิกัด คือ

1.MUST TASTE เมนูเด็ดต้องลองชิม

            - โซนม่วนแซ่บ รวมเมนูเอกลักษณ์ของชาวไทหนองคายสองฝั่งโขง

            - โซนกินแซ่บแนบโขง อาหารทะเล & นานาชาติ & อาหารถิ่น สุดฟิน

            - โซนม่วนบาร์ จิบเครื่องดื่ม Mocktail สมุนไพรแบบชิลๆ ริมโขง

            2.MUST TRY กิจกรรมต้องลุย

            - สาดม่วนไทหนองคาย และ ม่วนโฟมนำกัน

            - ก่อเจดีย์ทราย ประเพณีอันดีงามของไทยที่ผสมผสานอยู่กับการเล่นสาดน้ำสงกรานต์

            - กิจกรรม Workshop DIY สายคราฟต์

            - ม่วนจอยไปกับเสียงดนตรี



          กระหึ่มด้วยไฮไลต์ 2 เวที เวที “หมอลำ EDM ด้วยวิทยุทรานซิสเตอร์ เติมความสุข กับเสียงเพลงและเสียงดนตรีม่วนคัก         ม่วนหลาย การแสดงหมอลำ EDM ครั้งแรกในเมืองไทย ของเสียงดนตรีแนว Electronic Dance Music (EDM) ที่นำมามิกซ์กับทำนองเพลงภาษาถิ่นอีสาน สุดมันส์ วันที่ 14-15 เมษายน 2568 พบกับ DJ PK Boy  และ “เวทีใหญ่ MAIN STAGE” ชมการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินดังของไทย-ลาว วันที่ 15 เมษายน  พบกับ ดิด คิตตี้ เวลา 18.00 น.,  ASIA7 เวลา 19.00 น. หญิง ธิติกานต์ เวลา 20.00 น. และ วง Sweet Mullet เวลา 21.00 น.        

            - การแสดงพลุสุดอลังการ ที่สวยงามสุดตระการตา “เชื่อมฮักสองฝั่ง สาดม่วนไทหนองคาย มหาสงกรานต์หนองคาย”

            3.MUST BUY ไอเทมอาร์ตๆ ต้องลองช้อป สไตล์สายอาร์ต กับ “คราฟต์คักคัก” ตลาดคราฟต์ & เครื่องรางสายมู

            4.MUST SEEK วิวสวยๆ ต้องลองหา ชุ่มฉ่ำรับมงคลปีใหม่ไทย ลอดอุโมงค์แสงเลเซอร์ น้ำมนต์มหามงคลสระพญานาค ความยาว 30 เมตร



            5.MUST SEE  ไลฟ์สไตล์แบบโลคอลต้องลองชม เปิดด้วยไฮไลต์ การแสดงทางวัฒนธรรมเปิดงาน “มนต์เสน่ห์หนองคาย วิถีแห่งสายน้ำโขง” กับการแสดงวัฒนธรรมอัตลักษณ์ท้องถิ่นอีสาน ตอกย้ำถึงความงดงามของประเพณีท้องถิ่นวันที่ 15 เมษายน 2568 พบกับ การแสดงเริงรื่นชื่นสงกรานต์ 17.00 น. และ                   การแสดงล่องโขง 17.30 น.       ปิดท้ายด้วย โซนงานวัดสุดคึกคักบุญปีใหม่แบบอีสานสร้างประสบการณ์ความประทับใจไว้ให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในปีต่อ ๆ ไป

ททท.โหมมหาสงกรานต์ท้องสนามหลวงส่งท้าย15เม.ย.68เปิดโพล์พึงพอใจพุุ่ง91-93%

 

  ททท.จัดMaha Songkran World Water Festival 2025 ที่ท้องสนามหลวง ประทับใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ-คนไทย

ททท.โหมมหาสงกรานต์ท้องสนามหลวงส่งท้าย15เม.ย.68

รายได้ทั่วไทยเข้าเป้า2.6หมื่นล้านโชว์โพล์พึงพอใจ91-93%

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋  #MahaSongkranWorldWaterFestival2025

ททท.บูมมหาสงกรานต์ท้องสนามหลวงวันสุดท้าย 15 เม.ย.68 คาดรายได้สะพัดทั่วไทยตามเป้า 26,564 ล้าน ต่างชาติโต 3 % ไทยใช้จ่ายเพิ่ม 9 % ผลสำรวจความพึงพอใจ “ภาพรวม” ชอบมากสุด 93.18 % ร้านค้าปลื้ม 91.31 % ประทับใจพาเหรดคาร์นิวัลซอฟท์ พาวเวอร์ 91.89 %



นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ช่วง 3 วันแรก ระหว่าง 11-13 เมษายน 2568 บริเวณถนนราชดำเนินและท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร กระแสนักท่องเที่ยวตอบรับที่ดีมีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 558,015 คน เป็น คนไทย 523,456 คน และต่างชาติ 34,559 คน และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 1,702.28 ล้านบาท ผลสำรวจความพึงพอใจตลอดการจัดงานมีดังนี้

กลุ่มแรก “นักท่องเที่ยว” พอใจระดับมากที่สุดถึง 93.18 %

กลุ่มที่สอง “ผู้ประกอบการและร้านค้า” พึงพอใจมากและมากที่สุด 91.31 %

กลุ่มที่สาม ผู้เข้าชมงานพึงพอใจกับขบวนพาเหรดมหาสงกรานต์ปีนี้ 91.89 %

ททท.ได้เดินหน้าการจัดงานที่เหลืออีก 2 วัน ระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน 2568  ได้วางกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่ หรือง Grand Festivity และร่วมสืบสานวัฒนธรรมหรือเสน่ห์ไทย ซอฟท์ พาวเวอร์ได้รับความสนใจขยายเป็นวงกว้าง

ตลอดการจัดงานมหาสงกรานต์ ปี 2568 ททท.คาดสถานการณ์ท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 12 – 16 เมษายน 2568 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนจะสร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 26,564 ล้านบาท จะมีต่างชาติเข้ามาเที่ยวสงกรานต์ในไทย 476,000 คน เพิ่มขึ้น 3 % สร้างรายได้ 7,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  7 %  ส่วนคนไทยเที่ยวในประเทศมีมากถึง 4,418,500 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้ 6 % สร้างรายได้ 19,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 %

งานเทศกาลประเพณี “Maha Songkran World Water Festival 2025” กำลังจัดกิจกรรมในบริเวณท้องสนามหลวงจนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ เวลา 15.00-23.00 น. มีขบวนพาเหรดมหาสงกรานต์เป็นไฮไลต์ให้ชมความอลังการของขบวนแห่คานิวัล ซอฟท์ พาวเวอร์  ตามแนวคิด T H A I N E S S  I C O N I C  ทั้ง 8 ขบวน ยังคงจอดแสดงให้ได้รับชมบริเวณท้องสนามหลวง


โดยมีการกล่าวถึงมากเป็นพิเศษ ได้แก่ สีสันบนฟากฟ้าจากโดรนแปรอักษร 1,200 ลำ นักท่องเที่ยวสามารถรับชมได้ 2 ชุดการแสดง ได้แก่ การแสดงโดรนชุด “Thainess Eternal ความเป็นไทย เหนือกาลเวลา” เมื่อ 14 เมษายน 2568 เวลา 20.45 - 21.00 น.  และการแสดงโดรนชุด“Guardians of Siam ยักษ์ วัด วัง องครักษ์แห่งศรัทธา” สามารถชมได้อีกวันสุดท้าย 15 เมษายน 2568 เวลา 20.00 - 20.15 น.



พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์หาชมได้ยากจาก 5 ภูมิภาค ทั้ง ลิเกฮูลู หุ่นละครเล็ก และชมศิลปะแม่ไม้มวยไทย สนุกสุดเหวี่ยงไปกับฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง การแสดงน้ำพุประกอบดนตรี สถานีบริการเติมน้ำเล่นน้ำสงกรานต์ ถังน้ำล้นยักษ์ การแสดง EDM โดย DJ ที่มีชื่อเสียง โซนมหรสพงานวัดไทย กิจกรรมบ้านผีสิง หนังกางแปลง ชิงช้าสวรรค์ เพลิดเพลินกับโซนเสน่ห์ไทยซึ่งนำเสนอ 5 Must do in Thailandด้วยการรวมสุดยอดของดีจากทั่วประเทศกว่าและมีอาหารขายเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชิม ช้อป ชิล ได้กว่า 100 บูท

 


 

วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2568

ททท.ปารีสผนึกแบรนด์ "หลุยส์วิตตอง-เบนซ์-แอร์ไลน์"เพิ่มรายได้ปี68

 

  สุริยะ สิทธิชัย ผอ.ททท.สำนักงานปารีส ฝรั่งเศส นำไทยผนึกแบรนด์โลกดันตลาดยุโรปปี'68โต

ททท.ปารีสเล่นใหญ่ผนึกแบรนด์โลกรุกเจาะไฮเอนด์ยุโรปปี’68

หลุยส์วิตตอง-เบ๊นซ์-แอร์ไลน์สแห่เปิดบินตรง/อ้อมเข้าไทยเพียบ

ลุยขาย“เมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว”เส้นทางประเพณีโลกในอีสาน

คิงเพาเวอร์ให้สิทธิ์แนะนำเพื่อนสมัครง่ายไดด้คุ้มLine-เว็บไซต์

พูลแมนคิงเพาเวอร์จัด“บุฟเฟต์สงกรานต์-CHEESE&SIPNight”

ททท.นำมวยไทยบุกตลาดอิตาลีปี68หวังโยกรายได้1.6หมื่นล้าน

บางจากจัดโปรสงกรานต์น้ำมันไฮพรีเมี่ยมลดแรง 5 บาท/ลิตร

สุขทันทีที่เที่ยวมหาสงกรานต์วันไหลภาคตะวันออก 7 พิกัด

“5 วิธีปลอดภัย”ช่วงสุขสนุกตลอดมหาสงกรานต์ปลอดโรค

ดุสิตรุกโรงแรมพรีเมี่ยมหรูในอินเดีย-5ปีทั่วโลกเพิ่ม100แห่ง

รร.ชาเทรียมแกรนด์จัดข้าวแช่สุดแซ่บสงกรานต์อิ่มไม่จำกัด

วันอาทิตย์ที่  13 เมษายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1FfR8WXjcg/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นายสุริยะ สิทธิชัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปารีส ลั่นปี’68 ผนึก “แบรนด์ดังโลก” ท่องเที่ยวและกีฬา ขยายตลาดคุณภาพสูงในยุโรป นำร่องทำกับหลุยส์วิตตอง ไกด์บุ๊คกรุงเทพฯ ต่อยอดสู่ Fashion Eye ตอบโจทย์ครบ 4 ส่วน หลังไตรมาส 1 ฝรั่งเศสมาไทยแล้วกว่า 3 แสนคน โหมร่วมเทรด/โร้ดโชว์ 3 รายการใหญ่ ได้แรงหนุน “แอร์ไลน์ส” เพิ่มเที่ยวบินตรงอื้อ การบินไทย แอร์ฟรานซ์ น้องใหม่ แอร์แอสทรัล แอร์กานัง เปิดจุดขายใหม่เพิ่มเส้นทางเชื่อมโยง “เมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว” ชิมรางบูมอีสาน ชูทัวร์ประเพณีเด่น กิจกรรมมรดกโลก

 

นายสุริยะ สิทธิชัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปารีสฝรั่งเศส เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดยุโรปปี 2568 ภายใต้การดูแลของสำนักงาน ททท.ปารีส มี 4 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส กลุ่มเบเลลักซ์ ได้แก่ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก แต่ละปีพร้อมจะเที่ยวมาไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากฝรั่งเศสเป็นตลาดขนาดใหญ่มีประชากรเกินกว่า 60 ล้านคน แนวโน้มปีนี้ดีเยี่ยมไตรมาส 1 ระหว่างมกราคม-มีนาคม 2568 ฝรั่งเศสเที่ยวเมืองไทยเกิน 300,000 คน สูงกว่าปี 2562 (ก่อนโควิด) ประมาณ 5.8 % ส่วนพฤติกรรม “การใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวต่อคนต่อทริป” ลดลงบ้าง เนื่องจากภาพลักษณ์ไทยอาจจะเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวจำนวนมาก (mass tourism) เที่ยวได้ในราคาไม่แพงมากนัก

            ททท.ปารีส จึงเร่งทำกลยุทธ์ใหม่รุกเจาะกลุ่มกำลังซื้อมูลค่าสูง/ไฮเอนด์ ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดด้วยวิธีจับมือกับ “แบรนด์แฟชั่น” หรือ “แบรนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง” เพื่อปรับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยสู่ตลาดคุณภาพสูง โดยนำร่องทำไกด์บุ๊คกับแบรนด์ระดับโลก “หลุยส์ วิตตอง : Louis Vuitton เปิดตัวฉบับกรุงเทพมหานคร “Louis Vuitton City Guide Bangkok 2025” เฉลิมฉลองปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยได้เพิ่มเติมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเข้าไปด้วย สามารถเข้าถึงลูกค้าของหลุยส์ วิตตอง ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นทั้งคู่มือของลูกค้าหรูหราที่นำไปใช้ตกแต่งบ้านด้วย ที่ผ่านมาแบรนด์ดังนี้ทำไกด์บุ๊คกับหลายเมืองชั้นนำอย่าง โตเกียว นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส เป็นคอลเลคชั่นมากกว่า 30 ประเทศ

 

            ททท.ปารีส ได้แนวคิดนี้มาเป็นแนวทางลงทุนจับมือกับแบรนด์หลุยส์ วิตตอง เพื่อขยายผลการเติบโตต่อเนื่องปี 2569 เพราะระหว่างการเปิดตัวไกด์บุ๊คไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็นนโยบายของ ททท.นำเสนอ มีกระแสตอบรับจากแฟนคลับสมาชิกหลุยส์ วิตตอง เป็นอย่างดี ซึ่งจะต่อยอดทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ทำกิจกรรม ต่าง ๆ ดังนี้

            ส่วนที่ 1 ททท.ประสานงานกับหลุยส์ วิตตอง เดินทางไปใช้สถานที่ในไทยถ่ายทำคอลเลคชั่นใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ไทยได้เป็นอย่างดี

            ส่วนที่ 2 เชิญชวนแฟนคลับ สมาชิก อินฟลูเอนเซอร์ หลุยส์ วิตตอง เดินทางมาไทย โดยการนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวไทยระดับลักชัวรี่หรูหราเจาะตลาดยุโรป เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงกีฬายอร์ช การผจญภัย

            ส่วนที่ 3 นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวของไทยอย่างมีระดับขยายฐานกลุ่มเป้านหมายเติบโตมากขึ้นในแต่ละปี ขณะนี้นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท.ประสานกับทางท่านเอกอัครราชฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเพื่อร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีพลังและประสบความสำเร็จในอนาคต

            ส่วนที่ 4 ต่อยอดปี 2569 ทางหลุยส์ วิตตอง จะจัดทำหนังสือคอลเลคชั่น Fashion Eye ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากจิตวิญญาณแห่งการเดินทางไปในเมืองต่างๆ ผ่านเลนส์ของช่างภาพแฟชั่น โดยจะมีแหล่งท่องเที่ยวของไทยรวมอยู่ด้วย


            ททท.สำนักงานปารีส มีแผนขยายผลปี 2569 ที่จะทำร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลกในยุโรปอีกหลายแบรนด์โปรโมทการท่องเที่ยว เช่น เมอร์ซิเดสเบนซ์ หรือแบรนด์ในกลุ่มกีฬาต่าง ๆ เช่น ฟุตบอล เทนนิส กลุ่มแพทย์ มุ่งสู่การสร้างภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยก่อน แล้วจากนั้นก็จะเพิ่มการเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้นต่อไป

            ผอ.สุริยะ กล่าวว่า ททท.จะเดินหน้าส่งเสริมการตลาดต่อเนื่องด้วยโร้ดโชว์และเทรดโชว์ ได้แก่ งานที่ 1  จัดเรียบร้อยแล้ว “Pre ITB Roadshow 2025” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่เมืองแอนท์เวิร์ป/Antwerp เบลเยียม และเมืองนีซ /Nice ฝรั่งเศส มีตัวแทนบริษัทกลุ่มผู้ซื้อการท่องเที่ยวจาก 2 ประเทศ เข้าร่วมกว่า 150 ราย พร้อมพบเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยกว่า 30 ราย สร้างความสำเร็จอย่างมาก สนับสนุนให้ปี 2568 ไทยได้รับเลือกเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมครองตลาดดังกล่าว


            งานที่ 2 Salon International du Tourisme et des Voyages ที่เมืองกอลมา/Colma ฝรั่งเศส ไทยเป็นประเทศเกียรติเข้าร่วมแสดงวัฒนธรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เข้าร่วมงานกว่า 25,000 คน ผลจากงานนี้ไทยได้โฆษณาประชาสัมพันธ์เข้าถึงผู้คนในแคว้นมากกว่า 200,000 คน แล้วนักท่องเที่ยวจองตั๋วโดยสารเครื่องบินเที่ยวเมืองไทยค่อนข้างเต็มระหว่างมีนาคมยาวไปจนถึงพฤศจิกายน 2568

            งานที่ 3 Salon International du Tourisme et des Loisirs de l’océan Indien ที่กรุงปารีส เป็นหนึ่งในงานใหญ่สุดของฝรั่งเศส โดยได้จัดสาธิตวัฒนธรรมไทย มีผู้ประกอบการไทยออกบูธ เช่น บริษัท คลีม่าดูมงด์ (Climats du Monde) บริษัท ซีเอฟเอ โวยาจ (CFA Voyages) และบริษัท แชนตี แทรเวล (Shanti Travel) นำแพกเกจทัวร์มาขายกับผู้เข้าร่วมงานกว่า 65,000 คน จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเลือกเที่ยวเมืองไทย เพราะในงานมีคนสอบถามข้อมูลเชิงลึกจากบูธญี่ปุ่นและไทยจำนวนมาก เป็น 2 ประเทศยอดนิยมแห่งปี 2568


            ผอ.สุริยะ กล่าวว่าระหว่างปี 2568 การพัฒนาตลาดท่องเที่ยวฝรั่งเศสทำได้ง่ายขึ้นเมื่อมีสายการบินเปิดเที่ยวบินตรง ไป-กลับ ฝรั่งเศส-ไทย แตกต่างจากปี 2565-2567 ทำตลาดยากเพราะมีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินน้อย ขณะนี้ เส้นทางบินประจำ ไป-กลับ ปารีส-กรุงเทพฯ มี “การบินไทย” เปิดบริการ  7 เที่ยว/สัปดาห์ “แอร์ฟรานซ์” 14 เที่ยว/สัปดาห์ และสายการบินใหม่ ๆ เช่น “แอร์กาลัง” บริการ ปารีส-กรุงเทพฯ-โนมิอา” (ประเทศภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสอยู่แถบนิวซีแลนด์ บิน 4 เที่ยว/สัปดาห์ “แอร์ออสทรัล/ Air Austral” บริการ ปารีส-โนมิอา-กรุงเทพฯ 2 เที่ยว/สัปดาห์

            ททท.สำนักงานปารีส มีกำหนดการจะเดินทางไปร่วมงานเทรดโชว์ Salon International du Tourisme et des Loisirs de l’océan Indien ร่วมกับสายการบินแอร์ แอสทรัล วันที่ 1 มิถุนายน 2568 จะเป็นกลยุทธ์การเปิดตลาดที่ดี และสามารถเพิ่มตลาดท่องเที่ยวเข้าไทย

            แล้วยังมี “สายการบินนานาชาติ” อีกจำนวนมากที่ไม่ได้บินตรงเข้าเมืองไทย แต่ให้บริการเที่ยวบินจากฝรั่งเศสมายังเอเชียและต่อเที่ยวบินเข้าเมืองไทยได้ เช่น เอมิเรตส์ กาตาร์แอร์เวย์ส เอทิฮัด มาเลเซียแอร์ไลน์ส สะดวกกับชาวฝรั่งเศสในเมือง นิซ ลียง มาร์กเซย์ และเมืองอื่น ๆ โดยสายการบินต่าง ๆ จะนำเสนอขายตั๋วโดยสารแบบแพ็คคู่หรือ “Combo Train & Air” อำนวยความสะดวกในการเดินทางจากเมืองรองสู่เมืองหลักเพื่อมายังไทย

            “สินค้าท่องเที่ยว” ที่อยู่ในกระแสความนิยมคือ “การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ :Eco tourism” ในฝรั่งเศสและยุโรปรณรงค์ให้นั่งรถไฟ ส่งผลให้สายการบินโลว์คอสต์ขายตั๋วยากขึ้น ททท.จึงร่วมมือกับสายการบินร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดดังกล่าว

            ส่วนการขาย “เมืองหลักเชื่อมโยงเมืองน่าเที่ยว” ของไทยในตลาดฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ จะใช้กลยุทธ์หลักคัดเลือกสินค้ากลุ่มที่ได้รับรางวัลการท่องเที่ยวดีเด่น หรือ Thailand Tourism Awards กับที่ได้มาตรฐานดาวการท่องเที่ยวยั่งยืนของ ททท.หรือ STGs :Sustainable Tourism Goals หรือ CF Hotel ที่ได้มาตรฐานสากล

            ทาง ททท.สำนักงานปารีสใช้กลยุทธ์นำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว ตามพฤติกรรมหรือจริตของนักท่องเที่ยวในฝรั่งเศส เบเนลักซ์ เช่น นำเสนอเมืองหลัก กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ก็จะทำเส้นทางตัวอย่าง เช่น “ภาคเหนือ” ได้แก่ เชียงใหม่-แพร่-น่าน-สุโขทัย “ภาคใต้” ได้แก่ ภูเก็ต-กระบี่-ตรัง- นครศรีธรรมราช” เพราะฝรั่งเศสชอบเรื่องราวทางศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ก็จะได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวเข้าไปได้รับความสนใจเป็นอย่างดี

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ให้สิทธิ์แนะนำเพื่อนสมัครง่ายไดด้คุ้มLine-เว็บไซต์ 

สมัครยังไงให้คุ้ม! สมาชิกคิง เพาเวอร์ เพียงชวนเพื่อนสมัคร ง่ายๆ ได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ 1.Line official Account Kingpower 2.เว็บไซต์ member1.kingpower.com ยิ่งชวน ยิ่งคุ้ม! วันนี้ -30 เมษายน 2568

ชวนเพื่อนสมัครสมาชิก Navy วันนี้ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี และ พัทยา รับเลย Cash Back เป็นเงินคืนเข้าบัญชีสมาชิก คนละ 100 บาท สูงสุด 1,000บาท

เมื่อสมาชิกใหม่ที่มียอดช้อปสินค้าภายในวันที่สมัครครบ 5,000 บาท ขึ้นไป (สุทธิ) สมัครเลย เพื่อนได้ คุณได้!

ร่วมรายการส่งเสริมการขาย Member Get Member

1.สมาชิก 1 คน สามารถแนะนำสมาชิกได้สูงสุด 10 คน ตลอดรายการ

2.ยอดสะสมที่เกิดขึ้น ต้องเป็นยอดซื้อสินค้าภายในวันที่สมัครสมาชิก NAVY เท่านั้น

3.ยอดซื้อสะสมเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี และพัทยาเท่านั้น

4.สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดสมาชิก คิง เพาเวอร์

 


ข่าวที่ 2 -พูลแมนคิงเพาเวอร์จัด“บุฟเฟต์สงกรานต์- CHEESE&SIP NIGHT 

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ มอบความพิเศษให้นักท่องเที่ยวเดือนเมษายน นี้  2 รายการ

“รายการแรก” ห้องอาหาร “ควิซีน อันปลั๊ก” ต้อนรับวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ชวนรับประทานบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติเหมาะกับทุกคนในครอบครัว ด้วยเมนูไทยพิเศษ เสิร์ฟทั้งบรันช์วันอาทิตย์ช่วงสาย ๆ และมื้อค่ำ ตั้งแต่วันนี้-16 เมษายน 2568 มื้อค่ำราคาเพียง 1,250 บาทสุทธิ/คน บรั๊นช์วันอาทิตย์ 2,490 บาทสุทธิ/คน (ฟรีเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี) จองเลย bit.ly/BookSongkran

“รายการที่ 2 งาน CHEESE & SIP NIGHT วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 19:00 – 21:00 น. ที่เกล็นบาร์ ชั้นล็อบบี้ โรงแรม ชวนมาสัมผัสประสบการณ์กับเครื่องดื่มเมนูสุดพิเศษจาก คุณวัชรพล สุริยะพันธ์ บาร์เทนเดอร์รับเชิญที่จะพาคุณไปสัมผัสรสชาติของ PRAKAAN Single Malt Whisky 3 สูตร พร้อมชิมชีสพรีเมียมนำเข้าจากต่างประเทศแบบไม่อั้นตลอดเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม!  ใน “ราคาพิเศษ” ดังนี้

วอล์คอิน 1,490 บาทสุทธิ รวมค็อกเทล 3 แก้ว

เออรี่เบิร์ด (และสมาชิก Accor Plus & King Power) 1,290 บาทสุทธิ ซื้อได้จนถึง 24 เมษายน 2568


ข่าวที่ 3-ททท.นำมวยไทยบุกตลาดอิตาลีปี68หวังรายได้1.6หมื่นล้าน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้จัดมหกรรมGrand Celebration & Must Try ขยายตลาดศักยภาพใหม่ในสหภาพยุโรปในอิตาลี โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรผลักดัน “มวยไทย” – Thailand Soft Power สู่ตลาดท่องเที่ยวโลก สนับสนุนการจัดการแข่งขัน Thai Fight Rome 2025 ต่อยอดแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และฉลองความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-อิตาลี ครบ 157 ปี พร้อมทั้งตั้งเป้าปี 2568 จะสร้างรายได้ตลาดอิตาลีกว่า 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย 267,000 คน สร้างรายได้ 15,000 ล้านบาท

การจัดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬามวยไทยในกรุงโรม เปิดแข่งขัน “Thai Fight Rome” ส่งนักมวย 10 คู่(ไทย-อิตาลี) แข่งขันที่ Pala Tiziano เชิญชวนต่างชาติที่พำนักอยู่ในโรมเข้ามารับชมการแข่งขันทั้งจากเอเชีย แอฟริกา อเมริกา ยุโรป โอเชียเนีย และจีน เดินทางเที่ยวเมืองไทย

นายพุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงโรม กล่าวว่าการจัดการแข่งขันครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อิตาลีครบ 157 ปี ช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และประเพณีดีงาม นำจุดเด่นของไทยมาเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวอิตาลีและชาติต่าง ๆ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น

 


ข่าวที่ 4-บางจากจัดโปรสงกรานต์น้ำมันไฮพรีเมี่ยมลด5 บาท/ลิตร

 

              บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ระหว่างวันศุกร์ที่ 11-วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568 จัดโปรพิเศษ“ลดลิตรละ 5 บาท” เฉพาะน้ำมันกลุ่มไฮพรีเมียม 2 ผลิตภัณฑ์เด่นที่มีสัญลักษณ์สีม่วง ได้แก่ ไฮพรีเมียม 97 และไฮพรีเมียม ดีเซล S  เพื่อนำน้ำมันคุณภาพสูงร่วมเป็นส่วนหนึ่งสนับสนุนความปลอดภัยการเดินทางขับขี่รถช่วงเทศกาลสงกรานต์ ช่วยเพิ่มสมรรถนะที่ดีเต็มประสิทธิภาพครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์สะอาด ขับขี่มั่นใจ   ปลอดภัยทุกเส้นทาง ดูรายละเอียดเพิ่มด่วนที่ www.bangchakmarketplace.com

 

           “น้ำมันบางจากกลุ่มไฮพรีเมียม” ทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ไฮพรีเมียม 97 และน้ำมันดีเซล ไฮพรีเมียมดีเซล S เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมคุณภาพสูงเหนือมาตรฐาน คัดเนื้อน้ำมันพิเศษ ผ่านกระบวนการผลิตจากโรงกลั่นระดับโลก ทำให้ได้ค่าออกเทนและซีเทนสูงกว่าน้ำมันพรีเมียมทั่วไป แล้วยังมีสารเพิ่มคุณภาพสูตรพิเศษผลิตและทดสอบจากสหรัฐอเมริกา

 

ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มสมรรถนะ เร่งแรง เดินลื่นไม่สะดุด ช่วยทำความสะอาดหัวฉีดได้อย่างหมดจด ปกป้องการสึกหรอชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ เป็นพลังสะอาด แรง พร้อมปกป้องเครื่องยนต์ 100% ในทุกจังหวะการขับขี่ สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในทุกการเดินทาง

 

ช่วงที่ 2 เช็คอินงานประเพณี "วันไหลสงกรานต์" กันต่อในภาคตะวันออก ร่วมก่อพระเจดีย์ทราย  เข้าวัดทำบุญ 16-27 เมษายน 2568 ได้อีก  7 แห่ง  แล้ว รู้ "5วิธีกินอย่างปลอดภัย" ข่วงสงกรานต์นี้ ฟังข่าวดี ๆ ข่าวแรก "ดุสิต" ขยายโรงแรมหรูในอินเดีย 5 ปีหน้ารุกทั่วโลก 100 แห่ง ข่าวที่สองโรงแรมชาทนียมแกรนด์ กรุงเทพฯ" จัดข้าวแช่พิเศษ อร่อยได้ไม่จำกัด

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่เที่ยวมหาสงกรานต์วันไหลภาคตะวันออก7พิกัด

 

ปักหมุดเล่นน้ำ “สงกรานต์ วันไหล” ในพื้นที่ท่องเที่ยวภาคตะวันออก  ประสบการณ์วิถีถิ่นที่จัดสืบต่อกันมายาวนาน เดิมเรียก “ประเพณีก่อพระทรายน้ำไหล” แต่ละชุมชนนิยมไปทำบุญขึ้นปีใหม่ของคนในตะวันออก และภาคกลางในบางจังหวัด จากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงวันสงกรานต์  5-6 วัน ปี 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมสนับสนุนชวนไปเที่ยวต่อเนื่อง 7 พิกัด

 

พิกัดที่ 1 วันไหลบางแสน ชลบุรี 16-17 เมษายน

พิกัดที่ 2 วันไหลศรีราชา / วันไหลสัตหีบ ชลบุรี 17 เมษายน 2568  

พิกัดที่ 3 วันไหลบางพระ / วันไหลเกาะสีชัง /วันไหลนาเกลือ / วันไหลเกาะล้าน ชลบุรี 18 เมษายน 2568       

พิกัดที่ 4 วันไหลพัทยา ชลบุรี 19 เมษายน 2568  

พิกัดที่ 5 วันไหล เกาะช้าง ตราด 19-21 เมษายน 2568    

พิกัดที่ 6 วันไหลบางเสร่ / วันไหลบ้านบึง ชลบุรี 20 เมษายน 2568 

พิกัดที่ 7 วันไหลพระประแดง สมุทรปราการ 25-27 เมษายน 2568

 

“กิจกรรมในงานวันไหล” นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกัน ก่อพระเจดีย์ทราย ถวายเป็นพุทธบูชา โดยการขนทรายมากองสูง แล้วรดน้ำเอาไม้ปั้นกลึงเป็นรูปทรงเจดีย์ ปักธงตกแต่งต่างๆ อย่างสวยงาม รวมไปถึงการทำบุญเลี้ยงพระ และสนุกสนานการสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เล่นสาดน้ำเย็นชุ่มฉ่ำ

 

“สถานที่จัดสงกรานต์” ส่วนใหญ่งานวันไหลจะเลือกจัดตามวัดตั้งอยู่ใกล้ คลอง บึง ร่วมแรงร่วมใจกันสืบสานงาน "ประเพณีก่อพระทรายน้ำไหล" โดยขุดลอกทรายที่ฝนซัดไหลมารวมขังอยู่ตามคลองต่าง ๆ แล้วก็ช่วยกันขนทรายเข้าวัด เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ร่วมบุญขุดลอกให้สะอาด พอถึงฤดูฝนน้ำจะได้ไหลสะดวกตามปกติ คู คลอง ไม่ตื้นเขิน สมัยก่อนจึงเรียกสั้นๆ เหลือแค่ "วันไหล" หรือประเพณีวันไหล

 

สำหรับการจัดกิจกรรมแต่ละจังหวัด แต่ละท้องถิ่น จะมีเอกลักษณ์ต่างกันไป ในภาพใหญ่แล้วถือเป็นประเพณีท้องถิ่นที่ทรงคุณค่า สอดรับกับซอฟท์ พาวเวอร์ ไทย

 

สุขภาพ –5 วิธีปลอดภัยช่วงสุขสนุกตลอดมหาสงกรานต์ปลอดโรค

 

สงกรานต์ สุขสนุก  ใส่ใจสุขภาพ  ด้วยการแนะแนวทางดูแลสุขภาพ เล่นสงกรานต์ ปลอดโรค” กับ 5 วิธีดังนี้

 

1. กินร้อน  - โดยเลือกกินอาหารปรุงสุกใหม่สำหรับอาหารที่ทานไม่หมด และวางทิ้งไว้เกิน 4 ชั่วโมง

ให้สังเกต กลิ่น สี หากอาหารบูดแล้ว ให้ทิ้งทันทีไม่ควรนำไปอุ่นใหม่ เพราะ จะมีพิษจากเชื้อแบคทีเรีย

 

2. ช้อนกลาง - ทุกครั้งทุกมื้อตอนรับประทานอาหารแนะนำให้ใช้ช้อนกลางขณะกินอาหารร่วมกัน และไม่ใช้ช้อนกลางตักอาหารเข้าปากเสมอ

 

3. ล้างมือ  -ควรล้างมือให้สะอาด ก่อนปรุง และกินอาหาร หรือ หลังหยิบจับสิ่งสกปรกต้องล้างด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล นานมากกว่า 20 วินาที

4. เลือกซื้อ  -ต้องเลือกซื้อ เลือกกินอาหาร จากแหล่งจำหน่ายที่มีมาตรฐานการรับรอง จากหน่วยงานราชการ ดูวันผลิต และวันหยุดอายุ เพื่อความชัวร์ทุกครั้ง

 

5. น้ำแข็งถูกสุขอนามัย  - เลือกซื้อ น้ำแข็ง จากแหล่งผลิดที่ปลอดภัย ไม่กินน้ำแข็งที่แช่อาหาร หรือ สิ่งของอื่น ๆ ปะปนรวมอยู่ด้วยกัน

 

การปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอด้วย 5 วิธี จะช่วยลดความเสี่ยงจากอาหารเป็นพิษได้ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีการกิน การใช้ ของผู้คนจำนวนมาก

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ดุสิตรุกโรงแรมพรีเมี่ยมหรูในอินเดีย-5ปีทั่วโลกเพิ่ม100แห่ง

 

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนลรุกขยายโรงแรมพรีเมี่ยมหรูในอินเดีย เลือกปักธงในเมืองระดับ 2 และ 3 กำลังโตมาแรง เน้นไปจุดหมายปลายทางเมืองใหญ่ ชูบริการผสมผสานอบอุ่นอย่างไทยยั่งยืนตามวิถีถิ่น 5 ปี ลงนามสัญญาโรงแรมทั่วโลก 100 แห่ง

 

            ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านโรงแรมและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย ประกาศความมุ่งมั่นเปิดตัวโรงแรมแบรนด์หรูและระดับกลางบนตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญในอินเดีย รองรับกลุ่มที่มีรายได้เพิ่มขึ้น ความต้องการที่พักระดับพรีเมียมมากขึ้น และเชื่อมต่อบริการที่ดีหลังอินเดียปรับภูมิทัศน์การต้อนรันักลงทุนที่ดี ดุสิตจึงมุ่งเน้นเจาะตลาดที่มีศักยภาพสูงแต่ทั่วประเทศยังมีบริการไม่เพียงพอ

 

            โดยเข้าไปสำรวจโอกาสในเมืองระดับ 1 ของอินเดียแล้ว ดุสิตยังตั้งเป้าจะขยายโรงแรมตามเมืองระดับ 2 และระดับ 3 ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกที่พักระดับหรูและหรูหรามีอยู่อย่างจำกัด จึงเป็นโอกาสของดุสิตที่จะเข้าไปมอบประสบการณ์ไฮเอนด์ตามความต้องการในท้องถิ่น การขยายตัวเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ได้ต่อยอดแรงผลักดันจากล่าสุดดุสิตเข้าไปบุกเบิกตลาดอินเดียเปิดตัวโรงแรมระดับหรูร่วมสมัยอย่าง “ดุสิตดีทู ฟากู ที่ชิมลา” เมื่อธันวาคม 2567 และเซ็นสัญญากับโรงแรมรัฐกรณาฏกะอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1.โรงแรมเดวารานา สาเกลศปุระ เน้นเรื่องสุขภาพและการพักผ่อน จะเปิดให้บริการปี 2571 2.โรงแรมและรีสอร์ทแบรนด์ดุสิตปริ๊นเซส อีก 2 แห่ง กำลังจะทยอยเปิดตัวด้วยเช่นกัน

 

            ด้วยพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ที่หลากหลายตั้งแต่ โรงแรมระดับหรูหราอย่าง “Devarana – Dusit Retreatsไปจนถึงแบรนด์ระดับกลางถึงบนอย่าง “Dusit PrincessและASAI Hotelsโดยดุสิตมีแผนจะขยายทำเลที่ยังไม่ได้รับความนิยม โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบไทย ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการปัจจุบันของกลุ่มนักเดินทางเพื่อธุรกิจและการพักผ่อน

 

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเลือกสถานที่สอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทเรื่องบริการระดับพรีเมียมเน้นประสบการณ์เป็นหลัก นำเสนอการผสมผสานเป็นเอกลักษณ์ระหว่างการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การออกแบบร่วมสมัย และบริการเป็นเลิศ

 

            ขณะนี้ดุสิตกำลังเตรียมเปิดโรงแรมเพิ่มทั่วอินเดียอีก 6 แห่ง โดยใช้ดุสิตปริ๊นเซสซึ่งเป็นโรงแรมระดับกลางบนจะเปิดตัวในเมืองไรปุระ 200 ห้อง ภีวาดี 165 ห้อง โกลกาตา 220 ห้อง และโลนาวาลา 120 ห้อง นำแบรนด์หรู ดุสิต คอลเลกชั่น เพิ่งเปิดโรงแรมบูติกสุดหรู 2 แห่ง ได้แก่ ในเมืองกาซอลและมานาลี แต่ละแห่งมีห้องพัก 40 ห้อง ซึ่งจะมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันหรูหราบริเวณเชิงเขาหิมาลัย

 

นายศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (ทั่วโลก) ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า อินเดียถือเป็นประเทศที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ เมืองระดับ 2 และ 3 ซึ่งขณะนี้มีตัวเลือกจำกัดด้านบริการพรีเมียม แม้จะมีความต้องการสูง แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินเดียกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีความต้องการที่พักคุณภาพสูงเน้นประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น ด้วยการผสมผสานแบรนด์บริการอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตเน้นความเป็นไทยกับประสบการณ์ดูแลสุขภาพและโรงแรมแห่งจุดหมายปลายทาง จึงมุ่งมั่นจะสร้างที่พักยอดเยี่ยมตรงใจนักเดินทางอินเดีย ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์ สร้างภูมิทัศน์การบริการพรีเมียมของอินเดียในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

 

นอกเหนือจากขยายตัวในทันทีแล้วดุสิตยังเน้นการสร้างระบบนิเวศบริการแบบบูรณาการ ในอินเดีย ด้วยที่พักสุดหรู สุขภาพองค์รวม อาหารรสเลิศ และการศึกษาด้านการบริการ ให้มาบรรจบกันเพื่อมอบคุณค่าที่ยั่งยืน เพราะแก่นแท้ตามวิสัยทัศน์ของดุสิตคือความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งสร้างความยั่งยืนขับเคลื่อนโดยโปรแกรม Tree of Life สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติเลือกไว้

 

โปรแกรมนี้มีเกณฑ์ที่วัดผลออกแบบมาได้ 31 ข้อ เพื่อให้แน่ใจจะมีผลต่อความยั่งยืนเชิงบวกทุกชุมชนที่ดุสิตเข้าไปให้บริการผ่านทางการศึกษาด้านการบริการของดุสิต จะเดินหน้าพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่นอย่างมั่นใจด้านการบริการของอินเดียจะได้รับการฝึกอบรมเพื่อรักษามาตรฐานระดับโลก ด้วยความคิดริเริ่มเหล่านี้ ร่วมกันตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของดุสิตให้บริการอย่างมีความรับผิดชอบและวิสัยทัศน์เติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบริการระดับโลก

 

ดุสิตเข้าสู่ตลาดอินเดียของดุสิตด้วยกลยุทธ์การขยายธุรกิจเป็นวงกว้างที่มุ่งเป้าสู่ตลาดที่คึกคักและเติบโตสูง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ด้วยแผนเชิงรุกในอีก 5 ปีข้างหน้า ได้ลงนามสัญญาโรงแรมทั่วโลกมากกว่า 100 แห่ง ดุสิตพร้อมจะดึงดูดนักเดินทางทั่วโลกด้วยการผสมผสานระหว่างการต้อนรับอันอบอุ่นแบบไทย และประเพณีท้องถิ่นที่ผสมผสานอย่างพิถีพิถันนั่นเอง

 

ข่าวที่สอง –รร.ชาเทรียมแกรนด์จัดข้าวแช่สุดแซ่บสงกรานต์อิ่มไม่จำกัด

 

ห้องอาหาร ซาวิโอ โรงแรม ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ จัด “ข้าวแช่สุดพิเศษ” ต้อนรับสงกรานต์ ที่ ให้คุณได้อิ่มอร่อยไม่จำกัด

 

ห้องอาหารซาวิโอ  โรงแรม ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ  ชวนสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขและสีสันของเทศกาลสงกรานต์ พร้อมดื่มด่ำกับบุฟเฟต์อาหารไทยและนานาชาติสุดพิเศษแบบไม่จำกัด พิเศษสุดสงกรานต์ ระหว่างวันนี้–16 เมษายน 2565 เพลิดเพลินกับเมนูไฮไลต์ประจำฤดูกาล "ข้าวแช่" อาหารไทยโบราณช่วยคลายร้อนและเติมเต็มบรรยากาศในเทศกาลให้สมบูรณ์แบบ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงรสเลิศ ไม่ว่าจะเป็น แตงโมปลาแห้ง หมูฝอย ลูกกะปิ ไข่แดงเค็ม ไชโป๊วหวาน พริกหยวกสอดไส้หลุ่ม และผักแนม อย่างไม่จำกัด

“ผู้ชื่นชอบ เมนูข้าวแช่” ปรุงอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง 7 อย่าง ครบเครื่องตามตำรับไทยแท้ ไม่ว่าจะเป็น ลูกกะปิ พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอย ไข่แดงเค็ม ไชโป๊วหวาน แตงโมปลาแห้ง และผักแนมให้บริการตลอดเดือนเมษายนนี้ เมื่อรับประทานที่ห้องอาหารเท่านั้น ราคาเพียง 399 บาท สำหรับ 2  คน

 

“บุฟเฟต์มื้อกลางวัน” เสิร์ฟเมนูพรีเมียมคัดสรร หมุนเปลี่ยนไปในแต่ละวัน อาทิ ซีฟู้ดออนไอซ์  ปูม้า ก้ามปูกุ้ง และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ อาหารญี่ปุ่น ซูชิ นิกิริคุณภาพเยี่ยม ติ่มซำ รวมไปถึงอาหารไทยและอาหารนานาชาติ อาทิ ส้มตำไทยเนื้อแดดเดียว ขาแกะ ไก่ย่าง และคอหมูย่าง เทปันยากิ ซี่โครงแกะ เนื้อสตริปลอยน์ และปลากะพง พร้อมอาหารอินเดียต้นตำรับหอมเครื่องเทศ ตั้งแต่เวลา 12:00 – 14:30 น. ราคาเพียง 990++ บาท รวมเครื่องดื่ม

“บุฟเฟต์มื้อค่ำ” ร่วมยกระดับพิเศษยิ่งขึ้น ด้วยเมนูหลากหลายกว่าเดิม อาทิ ซีฟู้ดระดับพรีเมียม หอยนางรม ปูม้า ก้ามปูทะเล กุ้ง และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ อาหารจีน อาทิ เป็ดปักกิ่ง หมูหัน รวมไปถึงเมนูอื่นๆ เช่น สะโพกเนื้อลูกวัว  ซี่โครงอบ ไก่งวง ปลากะพงทอดราดซอสน้ำปลา เนื้อสตริปลอยน์ ปลากะพงแดง และไก่ออร์แกนิกย่าง ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. ราคาเพียง 1,200++ บาท รวมเครื่องดื่ม

“ขนมหวาน” ปิดท้ายความอร่อยครบครันด้วยขนมไทย และของหวานนานาชาติ อาทิ ช็อกโกแลต ข้าวเหนียวมะม่วง บัวลอย ไอศกรีม Häagen-Dazs หลากรสชาติ พร้อมผลไม้ตามฤดูกาล

สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มโทร +66 (0) 2126 7999 อีเมล info.cgb@chatrium.com เว็บไซต์ www.chatrium.com/grandbangkok

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ททท.-Zebraนำอินเดียหมื่นคนร่วมMagic2025พ่วงสงกรานต์ปี68โกยแสนล้าน

  ททท.จับมือกับ Zebra Events & Exhibition นำกลุ่มขายตรงอินเดียร่วม Magic 2025 เที่ยวสงกรานต์ไทย ททท.- Zebra นำอินเดียหมื่นคนอบรมโปรเจกต์...