เอิบลาภ ศรีภิรมย์
ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว ททท.
ปี’68เปิด5สินค้าสุดปังเฮลท์/ซอฟท์พาวเวอร์-รุกเที่ยวยั่งยืน
Thailand Tourism Awardsปี’68เปิดรับสมัคร28ก.พ.-30เม.ย.
คิงเพาเวอร์จัดMoreLooks3แบรนด์4ผลิตภัณฑ์วาเลนไทน์
มหานครอีทเทอรี่ของคิงเพาเวอร์เสิร์ฟเซ็ตอาหารแห่งรัก
ข่าวดี!!ททท.นำทีมไทยคว้าที่2แกะสลักหิมะผู้ชม2ล้านคน
บางจากแชร์โมเดลผู้พลังงานต้อนรับสมาพันธ์อุตฯเนปาล
บางจากร่วมก.พลังงานทำ“ปฏิญญาความปลอดภัย”ชู3Es
สุขทันทีเที่ยวไทยในเดือนแห่งรัก5ภูมิภาค18แลนด์มาร์ก
สปสช.ย้ำใช้สิทธิ์บัตรประชาชนใบเดียว30บาทรักษาทุกที่
เอมิเรตส์เปิดเลาจน์สุดรหู5ล้านดอลล์ที่SAT-1สุวรรณภูมิ
ดุสิตอัดโปรดีโรงแรมทั่วเอเชียจองDouble Perksลด30%
วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #เอิบลาภศรีภิรมย์
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/162LTWu7Yx/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! “เอิบลาภ ศรีภิรมย์”
ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี68 โชว์พลัง “คัดสินค้าและมาตรฐานเที่ยวยั่งยืน”
ขานรับปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year ยกระดับสินค้า 5 กลุ่ม
“สุขภาพ-สนใจพิเศษ-พรีเมี่ยม-ศิลปหัตกรรม-โลว์คาร์บอน” ขับเคลื่อน
“สินค้าท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” และเปิดรับสมัคร “Thailand Tourism Awards
2025” เริ่ม 28
ก.พ.-30
เม.ย.นี้
เพิ่มใหม่ ประเภทที่ 5 องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน
นางสาวเอิบลาภ
ศรีภิรมย์
ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ปี 2568 ฝ่ายสินค้ามีบทบาท
2 ด้าน คือ
ด้านแรก คัดเลือกสินค้าเพื่อให้ฝ่ายตลาดนำไปเสนอขาย ด้านที่สอง
การทำมาตรฐานเกี่ยวกับ Shape Suply การเพิ่มมูลค่า
การสร้างสรรค์
ทำให้เกิดความยั่งยืนซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดบรรจุอยู่ในพันธกิจสำคัญของ ททท.
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเปิดโครงการ
Amazing Thailand Grand Tourism &Sports Year 2025 เรียบร้อยแล้ว
ทางฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยวเดินหน้าจัดทัพ
กลุ่มที่ 1 สินค้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health & Wellness มีหลายกิจกรรมตามความสนใจของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม มีทั้งกลุ่มที่สนใจป้องกันสุขภาพ รักษาโดยการฮีลกายและใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเมดิคัลหรือการพบแพทย์ซึ่งจะต้องเป็นอีกกลุ่มที่มีโรครวมอยู่ด้วย สินค้ากลุ่มนี้ ททท.จะจัดทำเป็นคลัสเตอร์ครบทั้ง ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ อันดามัน อ่าวไทย จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด
กลุ่มที่
2 สินค้าท่องเที่ยวสนใจพิเศษ
(Niche market) แบบเป็นคู่ LGBTQ+ ซึ่งมีหลายรูปแบบทั้ง Wedding ,
Honeymoon, Anniversary
และโรแมนซ์ทริป เป็นการเดินทางเพื่อพักผ่อน
ไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสอดคล้องกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มที่ 3 สินค้าท่องเที่ยวพรีเมี่ยมและลักชัวรี่ ไม่ว่าจะเป็น ท่องเที่ยวยอร์ช เครื่องบินส่วนตัว (Private Jet) โรงแรมต่างๆ สไตล์รีสอร์ต ดีไซน์ ลักชัวรี่ พร้อมบริการพรีเมี่ยม ททท.ได้ประสานกับทาง บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด จำกัด ซึ่งมีลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม รวมถึงการทำงานร่วมกับ Thailand in the Box และซอฟท์ พาวเวอร์ เนื่องจากฝ่ายสินค้า ททท.ร่วมพัฒนาสินค้าที่ระลึก และเชิงประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมาย หรือ meaningful Experience และพื้นที่ตามยุทธศาสตร์กระจายสู่เมืองน่าเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Story Telling ยกระดับแต่ละจังหวัดขึ้นมาเล่าเพื่อดึงดูดคนออกเดินทางมาเที่ยว
โดยร้อยเรียงเรื่องราวความน่าสนใจเส้นทางการท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่มีจุดร่วมการสร้างสรรค์หรือ
Local Co-creation สามารถทำมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าสินค้าท่องเที่ยวปกติ
เช่น เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารหรือ Gastronomy ททท.จะเข้าไปช่วยดีไซน์ผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ให้ดึงดูดความน่าสนใจนักท่องเที่ยวแต่ละตลาดมากยิ่งขึ้น
หรือสินค้าประเภท “Craft-ศิลปะหัตกรรม” โดยได้ทำเรื่องอาหารเชิงสร้างสรรค์ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นเทรนด์ตอบโจทย์ผู้บริโภคซึ่งต้องการของใหม่
กลุ่มที่ 4 การท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนแบบ Slow Travel ไปยังเมืองน่าเที่ยว โดยนำมาเล่าเรื่องใหม่ให้น่าสนใจ โดยทำตัวอย่างเส้นทางการท่องเที่ยวดังกล่าวในปี 2568
กลุ่มที่
5 สินค้าท่องเที่ยวงานประเพณีเด่น
ๆ อย่าง เทศกาลผีตาโขน
ททท.จะออกแบบใหม่โดยเฟ้นหาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ก่อนและหลังเทศกาลซึ่งสามารถเที่ยวและเข้าพักได้นานวันขึ้น
ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่า ปี 2568 จะต่อยอดสินค้าการท่องเที่ยว Grand Festivity ไฮไลต์คือ งานแรก “ไหว้ครูมวยโลก” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดือนมีนาคม นี้ นำซอฟท์ พาวเวอร์ หลักมาจัดเป็นอีเวนต์รวมพลคนรักกีฬามวยไทยมารวมตัวกัน ปีนี้จัดต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี ซึ่งจะจัดให้มีพิธีไหว้ครู ฝึกซ้อมทักษะมวย ไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ โดยททท.จะเพิ่มการขาย “เส้นทางการท่องเที่ยว” ในพระนครศรีอยุธยาเข้าไป เช่น 1.การท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน ลดการปล่อยมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม 2.นำเสนออาหารท้องถิ่น และตำรับชาววัง เมนูต้องห้ามพลาด เมื่อมางานไหว้ครูมวยโลกแล้วต้องเที่ยวและกินเมนูเด่น ๆ ในจังหวัดนี้ หรือรอบ ๆ พระนครศรีอยุธยา 3.จัดโปรแกรมตัวอย่างการท่องเที่ยว 1 วัน หรือ 2 วัน
งานที่ 2 จัดงานเทศกาล Amazing Thailand GrandTaste Festival เป็นอีกสินค้าสำคัญทางการท่องเที่ยวของไทย จะจัดประมาณกลางปี 2568 ส่งต่อให้ฝ่ายกิจกรรมซึ่งจัดมหกรรมอาหารต่าง ๆ ทุกเดือน
งานที่ 3 เทศกาลโมโต จีพี 2025 จังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมนำเสนอ “เส้นทางข้าว” ต้องไปชิมข้าวนกกะเรียน หรือเมนูข้าวพื้นถิ่น ร้านอาหารแนะนำ การพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงเรื่องราวธีมหลักเกี่ยวกับข้าว ทั้งการทำสปา เมนูต่าง ๆ
ปี 2568
ททท.ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยวยังจะเดินหน้าโครงการ
“พัฒนาผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว” มีส่วนร่วมผลักดัน
“การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน :Sustainable Tourism”
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและนักเดินทางที่ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ลดคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ เริ่มต้นจาก ททท.มีโครงการรองรับ ได้แก่ 1.เซเว่น กรีน แทรเวล (7 Green) เส้นทางการท่องเที่ยวรักษาสิ่งแวดล้อม 2.มาตรฐาน STAR :Sustainable Tourism
Acceleration Rating หรือ
“ดาวแห่งความยั่งยืน” เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวทางแผนนโยบายและยุทธศาสตร์ ททท.
ที่จะยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน ตามแนวทาง Sustainable
Tourism Goals (STGs) พัฒนาจาก Sustainable Development Goals
(SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ
สำหรับ “ดาวเขียวแห่งความยั่งยืน :มาตรฐาน STAR” นั้นจะให้ผู้ประกอบการประเมินตนเอง ได้ดำเนินการเข้าหลักเกณฑ์ SDGs 17 ข้อ แล้วกรอกข้อมูลเข้าระบบ ส่งหลักฐานมายังททท.เพื่อประเมินให้ดาวระดับ 1-2-3-4-5 ดาว เพื่อให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความเข้มตามมาตรฐานกรีน ซึ่งทำได้ง่ายสุด จากนั้นก็สามารถก้าวไปสู่กรีนอื่น ๆ ได้อย่าง Green Hotels ขยายไปสู่ระดับโลก Travel Link, Travel Like เป็นการเชิญชวนให้เข้าร่วมประเมินระดับมาตรฐานให้ได้ แล้ว ททท.ยังพร้อมเข้าไปช่วย Re-Up Skill ให้ด้วย เพราะคู่ค้าท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกที่จะทำธุรกิจด้วย
ขณะนี้อาจจะมีหลายแบรนด์ หลายระดับ ที่ ททท.กับผู้ประกอบการจะต้องหารือแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เช่น การลดคาร์บอนตามมาตรฐานสากล คาร์บอนฟุตปริ๊นท์ด้วย
ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่ายังมีไฮไลต์ 1 โครงการคือ
การจัดประกวดรางวัลการท่องเที่ยว “Thailand
Tourism Awards 2025” จัดทุก 2 ปี ทำต่อเนื่องปี 2568 เป็นปีที่
30 ได้ปรับประเภทรางวัล
เริ่มจาก 1.วันเปิดรับสมัครผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมประกวดรางวัลดังกล่าว
สมัครได้ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์
– 30
เมษายน 2568 ทางเว็บไซต์
www.tourismawards.tourismthailand.org/home
สมัครตามสาขาที่สนใจ ปีนี้จะมีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 แหล่งท่องเที่ยว
ประเภทที่ 2 ที่พักนักท่องเที่ยว
ประเภทที่ 3
รายการนำเที่ยว
ประเภทที่ 4
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ประเภทที่ 5 องค์กรส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืน
ทั้ง 5 ประเภท ยังจะมี “สาขาแยกย่อย” ไปอีก เช่น “ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว” จะแยกเป็น สาขา Luxury Hotels โรงแรมที่มีความหรูหรา สาขา City Hotels โรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมือง สาขา Resorts สำหรับที่พักแบบรีสอร์ต สาขา Design Hotel ที่พักมีดีไซน์ “ประเภทรายการนำเที่ยว” จะแยกเป็น สาขาการนำเที่ยวภายในประเทศ สาขานำนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาไทย และประเภทอื่น ๆ ก็เช่นกัน
ผู้ประกอบการเข้าไปดูรายละเอียดทั้งหมดทางเว็บไซต์ข้างต้น
แล้วยังเปิดให้สามารถสมัครหลายประเภทได้ด้วย ททท.จะมอบรางวัลแต่ละประเภทแบ่งเป็น 3 ระดับ
ได้แก่ 1.ยอดเยี่ยม/Gold Awards 2.ดีเด่น/Silver Awards 3.การท่องเที่ยวยั่งยืน/กินรีสีเขียว
เพิ่มใหม่
หากผู้ประกอบการทำงานให้บริการโดยมีการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในสาขาที่สมัครตามเกณฑ์ที่กำหนด
แล้วผู้ที่ได้รางวัลยอดเยี่ยมต่อเนื่องกัน 3 ปี ก็ยังได้เป็น Hall of Fame เพราะปีนี้ผู้ประกอบการที่ได้จะมีจุดเด่นครบทั้งด้านการดำเนินธุรกิจ
บริการ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำรางวัลที่ได้ไปจัดทำกิจกรรมทางการตลาดได้สร้างความมั่นใจกับคู่ค้าทั้งในประเทศและทั่วโลก
รวมทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ใช้บริการ ในสถานประกอบการแต่ละแห่ง
จะมั่นใจในคุณภาพที่ได้รับ
สำหรับการประกาศผลรางวัล Thailand Tourism Awards 2025 กำหนดต้นเดือนกันยายน
นี้ จากนั้นวันที่ 27 กันยายน
2568 จะจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่มอบรางวัลให้ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือก
ตัวรางวัลได้นำนวัตกรรมที่ยั่งยืนมาผลิตรางวัลดังกล่าวด้วย
ททท.ขอเชิญชวนผู้ประกอบการทุกขนาดทั้งไซซ์
S-M-L
ประเมินตัวเองแล้วเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแน่นอน ก็สมัครได้ทันที
เพราะจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ทางการตลาดในประเทศและทั่วโลก แล้ว
ททท.ยังจะสนับสนุน
โอกาสการเข้าร่วมขายในงานเทรดโชว์ โรดโชว์ ต่าง
ๆ ด้วย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์จัดMoreLooks3แบรนด์4ผลิตภัณฑ์รับวาเลนไทน์
คิง เพาเวอร์
จัดใหญ่ต้อนรับเดือนแห่งความรัก ด้วย MORE LOOKS, BRING YOUR CONFIDENCE OUTเสิร์ฟสารพัดลุคเสริมความมั่นใจให้พร้อมเฉิดฉายไปกับหลายแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ
ได้ทั้ง 3 แบรนด์ 4 ผลิตภัณฑ์ แนวใหม่
พาเหรดกันมามอบสวยงามให้บรรดาผู้ที่หลงใหลในสีสัน ของแบรนด์ดังระดับโลก ที่ คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ และ คิง เพาเวอร์ออนไลน์
1. Givenchy Le Rouge Interdit
Intense Silk: ลิปสติกกึ่งแมตต์สีแดง สุดหรูในเคสสีดำทองลายเกล็ดงู
2.Givenchy Prisme Libre Skin -
Caring Glow Cushion: รองพื้นคุชชั่นมอบความโกลว์ 24 ชม. ชุ่มชื้น ติดทนนาน
3.NARS Light Reflecting Setting
Pressed Powder:แป้งอัดแข็งช่วยเบลอริ้วรอยและรูขุมขน ผิวเรียบเนียน
4.Gucci Beauty Palette de Beauté
Quatuor: อายแชโดว์ชิมเมอร์และแมตต์ ลิมิเต็ด เอดิชั่น สีแดงทอง
ช้อป!! คิง เพาเวอร์
ทุกสาขา ทุกช่องทาง มีไฟลต์ต่างประเทศ ต้องช้อปให้คุ้ม
-ช้อปล่วงหน้าสูงสุด 60 วัน - 5 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง ที่ คิง เพาเวอร์
รางน้ำ หรือ ช้อปออนไลน์ ที่ www.kingpower.com
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์เปิดมหานครอีทเทอรี่เสิร์ฟเซ็ตอาหารแห่งรัก”
คิง
เพาเวอร์ มหานคร ชวนมาสัมผัสรสชาติแห่งความโรแมนติกที่ “มหานคร อีทเทอรี่”ฉลองวันแห่งความรักกับมื้ออาหารสุดพิเศษ
วันนี้ -28 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะทำให้วาเลนไทน์เต็มไปด้วยความทรงจำสุดแสนโรแมนติก
ในบรรยากาศแสนอบอุ่น ผสานอาหารเลิศรส
คัดสรรเมนูพรีเมี่ยมเสิร์ฟเพิ่มความพิเศษให้ทุกคู่ได้ลิ้มลอง
ไฮไลต์
“เซ็ตอาหารแห่งความรัก” จาก Babyccino – เซ็ตเมนูสุดพิเศษสำหรับ 2 คน
ที่จะทำให้ค่ำคืนของคุณพิเศษกว่าที่เคย ราคาเริ่มต้น 2,590++ บาทต่อเซ็ต ได้แก่ • กรีนสลัด • เห็ดทรัฟเฟิล • สเต็กริบอาย หรือแซลมอล เวลลิงตัน •
ไอศรีม Parfait • ม็อกเทล
“คิง
เพาเวอร์ มหานคร” ได้เข้าร่วมแคมเปญ EASY E-RECEIPT 2.0
เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพ
พร้อมรับสิทธิพิเศษลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 30,000 บาท ตั้งแต่วันนี้- 28 กุมภาพันธ์
2568 เลือกซื้อสินค้าที่ร่วมรายการมากมาย มีทั้งแบรนด์ชั้นนำ
ของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือของขวัญสุดพิเศษมอบให้คนสำคัญ
การขอใบเสร็จรับเงินดังกล่าว
ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด กับสินค้าที่ร่วมรายการ
โดยสามารถขอใบกำกับภาษี E-Tax ภายในวันที่ใช้บริการเท่านั้น
ข่าวที่
3-ข่าวดี!!ททท.นำทีมไทยคว้าที่2แกะสลักหิมะโชว์ผู้ชม2ล้านคน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.มีข่าวดีที่นำทีมนักแกะสลักหิมะตัวแทนประเทศไทยคว้ารางวัล
“รองชนะเลิศ” ในงาน “International Snow Sculpture ครั้งที่ 49” เมื่อ 3-7 กุมภาพันธ์ 2568 ที่เมืองซัปโปโร
จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โชว์ประติมากรรม “The World Water Festival” นำเสนอเสน่ห์ไทยผ่านเทศกาลสงกรานต์และเรื่องความผูกพันและอบอุ่นในครอบครัวของช้างแม่ลูก
สร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย ปี Amazing Thailand Grand
Tourism and Sports Year 2025
@ญี่ปุ่น-ต่างชาติแห่เที่ยวงานแกะสลักหิมะกว่า2ล้านคน
ปี 2568 ทีมนักแข่งทีมประเทศไทย ประกอบด้วย นายกุศล บุญกอบส่งเสริม นายกฤษณะ
วงศ์เทศ และนายอำนวยศักดิ์ ศรีสุข ได้สืบสานความภาคภูมิใจด้วยฝีมือที่ยอดเยี่ยม
คว้าที่ 2 มาครอง และเป็นโอกาสพิเศษที่ได้นำเสนอ “เสน่ห์ไทย”
แกะสลักหิมะด้วยประติมากรรม “The World Water
Festival” บอกเล่าเรื่องราวตอกย้ำวัฒนธรรม
ประเพณี ความเป็นเลิศด้านศิลปะไทย สร้างความตื่นตื่นใจในเวทีโลก ช่วยสร้างแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตนเอง
(F.I.T.) มาเมืองไทย เพราะตลอดการจัดงานมีผู้เข้าร่วมชมถึง
2 ล้านคน
@ททท.ต่อยอดพีอาร์สงกรานต์ไทยมรดกโลก
นายนิธี สีแพร
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า การแข่งขัน International Snow Sculpture Contest ครั้งที่ 49
เป็นกิจกรรมไฮไลต์ของเทศกาลหิมะ “Sapporo Snow Festival ครั้งที่
75” ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ปี 2568 ททท.กับทีมตัวแทนประเทศไทยตั้งใจแกะสลักหิมะเพื่อนำเสนอ
“Grand Festivity” ได้แก่
ประเพณีสงกรานต์ หรือ “World Water Festival” เทศกาลระดับโลก
ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติต่างนิยมร่วมเล่นอย่างสนุกสนาน
สามารถซึมซับวัฒนธรรมประเพณีวันขึ้นปีใหม่ตามวิถีไทย จัดสืบทอดกันมาแต่โบราณเป็นประจำทุกปีช่วง
13-15 เมษายน เป็นวิถีชีวิตร่วมแบ่งปันความรัก ความสุขกันในครอบครัวและความสนุกสนานของแต่ละชุมชน
ส่วนผลงานประติมากรรมหิมะปีนี้ได้ออกแบบอย่างวิจิตร ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยชัดเจนในเรื่องความผูกพัน ความอบอุ่นในครอบครัวผ่าน
‘ช้างแม่-ลูก’ ซึ่งเป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองของไทย
พร้อมอิริยาบถขณะเล่นสายน้ำในเทศกาลสงกรานต์อย่างสนุกสนาน รวมทั้งสงกรานต์ไทยได้ขึ้นทะเบียนเป็น
“มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” โดยองค์การการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
หรือยูเนสโก (United
Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO)
เป็นประติมการรมที่สอดคล้องตามนโยบายการเผยแพร่เทศกาลประเพณีไทย
พร้อมจะยกระดับให้เป็นSignature
Thailand เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ซอฟท์ พาวเวอร์ สาขาเฟสติวัลและสาขาท่องเที่ยว
แล้วไทยยังหวังยกระดับสงกรานต์ไทยให้เป็นหนึ่งใน 10 เทศกาลสำคัญโลก
สะท้อนศักยภาพและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลกได้ด้วย
ททท.ได้จัดกิจกรรมแจกพวงกุญแจช้างไทยลายผ้าขาวม้า
ระหว่างการแข่งขันแกะสลักหิมะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและญี่ปุ่นที่มาชมรูปปั้นแกะสลักของไทย
พร้อมกับเชิญชวนถ่ายรูปกับประติมากรรมแกะสลักหิมะ แล้วแชร์เป็นสาธารณะเผยแพร่ทางช่องทางโซเชียลมีเดีย
ช่วยต่อยอดประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นด้วย
@ไทยส่งทีมแข่งขันแกะสลักหิมะซัปโปโรยาวนาน34ปี
ททท.เริ่มส่งทีมนักแกะสลักเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ ที่เมืองซัปโปโร
มาแล้วถึง 34 ปี เริ่มครั้งแรกปี2534 จนถึงปีนี้ 2568 สร้างตำนานแห่งความสำเร็จคว้ารางวัลชนะเลิศถึง 9 ครั้ง ได้แก่ ปี 2543,
ปี 2551-2553 , ปี 2556 ,2558 ปี 2561-2562 และปี 2566
โดยคว้ารางวัลชนะเลิศติดต่อกัน 3 ปีซ้อน (Grand Champion) 2 ครั้ง และถือเป็นครั้งแรกในการจัดประกวดแข่งขัน
ไม่เคยมีประเทศใดทำได้มาก่อน
ปี 2568 ทีมประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจาก Supersports (ซี อาร์
ซี สปอร์ต) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Columbia สนับสนุนเครื่องแต่งกายกันหนาว
ร่วมเป็นหนึ่งในกำลังใจให้ทีมไทยพิชิตชัยคว้ารางวัลกลับบ้าน
เป็นข่าวดีและสร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศได้เผยแพร่สิ่งที่ดีสู่สายตาคนทั่วโลก
ข่าวที่
4-บางจากแชร์โมเดลผู้พลังงานต้อนรับสมาพันธ์อุตฯเนปาล
นางกลอยตา ณ ถลาง
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ให้การต้อนรับผู้บริหารระดับสูงจากสมาพันธ์อุตสาหกรรมเนปาล
(Confederation of Napalese Industries - CNI) นำโดย
ดร.บินธุ โลฮานี กรรมการบริหาร สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) พร้อมคณะฯ
เข้าเยี่ยมชมบริษัทบางจากและรับฟังบรรยายในหัวข้อ “Leading the Energy
Transition: Bangchak’s Journey of Innovation and Sustainability” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ
High-Impact Leadership Program เน้นสาระสำคัญในหัวข้อ “Industry
Growth, Technology, Innovation, and Future Opportunities in an Uncertain Global
Environment” จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
(AIT) ร่วมกับ CNI ที่สำนักงานใหญ่บางจาก
อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
นางกลอยตา กล่าวว่า ตนเองได้แบ่งปันแนวคิดด้าน
“พัฒนาแนวทางการดำเนินธุรกิจของบางจาก” ตั้งแต่จุดเริ่มต้นด้วยการโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กที่สุดในไทย
มุ่งขับเคลื่อนสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน
พร้อมกับร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมไทย กระทั่งปัจจุบันก้าวสู่บริษัทพลังงานข้ามชาติระดับแถวหน้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ตลอดเส้นทางการเติบโตบางจากยังคงยึดมั่นในค่านิยมหลัก
โดยคำนึงถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มุ่งรักษาสมดุลระหว่างการสร้างมูลค่าธุรกิจและคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ข่าวที่ 5-บางจากฯร่วมก.พลังงานทำ“ปฏิญญาความปลอดภัย”ชู3Es
นายทรงพล
เนื่องขจร ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคพัฒนาโรงกลั่น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทร่วมกับกระทรวงแรงงาน
ในพิธีลงนาม“ปฏิญญาความปลอดภัยว่าด้วยการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย” ในฐานะที่เป็น 1 ใน 18 หน่วยงานภาคีของกระทรวงแรงงาน
แล้วทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดพิธีนี้ขึ้นภายใต้กิจกรรม Safety
Campaign มุ่งรณรงค์ให้สถานประกอบการมีกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแรงงานในการทำงานให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัย
ลดอัตราเกิดอันตรายและการเสียชีวิตจากการทำงาน
เป็นผู้นำและแบบอย่างการขับเคลื่อนนโยบายสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
บางจากฯ
ดำเนินงานโดยให้ความสำคัญอันดับสูงสุด “ด้านความปลอดภัย”
ด้วยการกำหนดนโยบายความปลอดภัย ความมั่นคง อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม และพลังงาน (Safety,
Security, Occupational Health, Environment and Energy Policy: SHEE Policy) ควบคู่กับการจัดกิจกรรมรณรงค์
และหลักปฏิบัติงานในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม
ไฮไลต์คือ
“โครงการมุ่งเน้นความปลอดภัย” ด้วยหลัก 3Es คือ Everyone
goes home safely everyday ทุกคนกลับบ้านปลอดภัยทุกวัน Environment
and asset are protected มุ่งมั่นปกป้องสิ่งแวดล้อม ชุมชน
และทรัพย์สิน Efficient and reliable operations ผลิตด้วยเสถียรภาพและประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อสร้างจิตสำนึกให้พนักงานมุ่งมั่นทำงานอย่างปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยในโอกาสพิเศษกุมภาพันธ์ 2568 สุขทันทีที่เที่ยว
“เทศกาลแห่งความรัก” ทั่วไทยใน 5 ภูมิภาค
เปิดให้เช็คอินฉลองความสุข 18 แลนด์มาร์กปังๆ แล้วฟัง
“สปสช.” ย้ำ คนไทยใช้ฟรี 5 สิทธิ์ แค่มีบัตรประชาชนใบเดียว
เกาะติดข่าวแรงแห่งสัปดาห์ ข่าวแรก “เอมิเรตส์เปิดเลาจน์สุดหรู” ที่ SAT-1 สุวรรณภูมิ ข่าวที่สอง “ดุสิตธานีมีโปรห้องพักลด 30 %” ในไทยและทั่วเอเชียกับแคมเปญ Double Perks
ท่องเที่ยว
–สุขทันทีเที่ยวเมืองไทยเดือนแห่งรัก5ภูมิภาค18แลนด์มาร์ก
เที่ยวทั่วไทยตลอดเดือนแห่งความรัก “กุมภาพันธ์ 2568” การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เปิดแลนด์มาร์กเที่ยวเป็นคู่กันได้ตามจังหวัดต่าง ๆ ระหว่าง 13-15 กุมภาพันธ์ 2568 เลือกเช็คอินได้ทั่วไทย 5 ภูมิภาค กับกิจกรรมแห่งรัก 18 แลนด์มาร์ก
ภูมิภาคภาคใต้ไฮไลต์ 7 แลนด์มาร์ก
• วิวาห์ใต้สมุทร
2025 วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์นี้ ชวนคู่รักทุกสไตล์ นั่งเครื่อง นั่งรถ ลงเรือ
ปักหมุดไปร่วมพิธีแต่งงาน ที่ “เกาะกระดาน” จ.ตรัง
แล้วร่วมสนุกกับการดำน้ำจดทะเบียนสมรส ฉลองความรักด้วยกัน
• จดทะเบียนสมรสคู่รักวันวาเลนไทน์
The Power of Love @ Koh Phangan เกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี
• จดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์
Love on the beach 14 - 15
กุมภาพันธ์ ที่หาดทุ่งวัวแล่น อำเภอปะทิว
จ.ชุมพร
• Saphli Run For Love
กิจกรรมวิ่งมินิมาราธอนและฟันรัน15
กุมภาพันธ์ บริเวณหาดทุ่งวัวแล่น ตาบลสะพลี อาเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
• MEMORY OF LOVE (ร้อย-รส-รัก...ความทรงจำ) Trang Food Festiwow 12-16
กุมภาพันธ์ เปิดสวนทับเที่ยง จังหวัดตรัง มอบความสุขเทศกาลแห่งความรัก
พาทุกคนมาชิมอาหาร ขนม เครื่องดื่ม
จากผู้ประกอบการที่สร้างสรรค์เมนูความรักจากวัตถุดิบท้องถิ่น
และเพลิดเพลินไปกับท่วงทานองดนตรีที่ไพเราะ
• เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร
2025 วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ ททท. สำนักงานตรัง ชวนคู่รัก LGBTQ+
ร่วมสร้างตำนานรักสุดแสนโรแมนติกในจังหวัดตรัง จัดนั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบแห่ขบวนขันหมากและร่วมพิธีรดน้าสังข์
ถ่ายพรี-เวดดิ้งตามแหล่งท่องเที่ยวเมืองตรัง รดทรายสังข์และพิธีจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเล
• เทศกาลหนังกลางแปลง
“ฤดูหนัง ฤดูรัก” : Love on Screen Film Festival วันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ ที่ลานจามจุรี โรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา
รีสอร์ท ต.ปากน้า อ.เมือง จ.กระบี่
ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือไฮไลต์ 6 แลนด์มาร์ก
• เที่ยวทุกวัน ซาบายใจ ไปอีสาน โดย ททท. ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร่วมกับ UTU
มอบส่วนลดและข้อเสนอพิเศษต้อนรับคู่รัก
LGBTQ+ เลือกอีสานเป็นจุดหมายปลายทางตลอเดือนแห่งความรัก
วันนี้-28 กุมภาพันธ์ นี้ เช่น แจกส่วนลด จากร้านอาหารกว่า
50 แห่ง แพคเกจท่องเที่ยวรางวัลพิเศษ
• งานแต่งงานและจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง
14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง
อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
• จดทะเบียนสมรสงานรักนี้ที่หอโหวด
101 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่หอโหวด
จ.ร้อยเอ็ด
• งานบุญข้าวจี่วาเลนไทน์
2025 13-14 กุมภาพันธ์ ริมบึงสีฐาน
มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น
• Nida Love Runner 15 กุมภาพันธ์ บริเวณอ่างทรัพย์ประดู่ สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
• วิวาห์ล้านบัว โดย ททท. สำนักงานอุดรธานี
จัดกิจกรรมพิธีจดทะเบียนสมรส วันที่ 14 กุมภาพันธ์
นี้ ให้ทุกคู่รัก LGBTQ+ มารวมตัวกันตรงทะเลบัวแดง จ.อุดรธานี
แล้วทำพิธีในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
ภูมิภาคภาคกลางไฮไลต์ 3 แลนด์มาร์ก
• Sunset Celebration River Cruise Package ททท.สำนักงานกรุงเทพ จัดฉลองสมรสสุดพิเศษ ล่องเรือจิบไวน์ในบรรยากาศพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากลางแม่น้าเจ้าพระยา
ราคาพิเศษ 9,999 บาท/ลำ
ระหว่างล่องเรือเสิร์ฟ Sparking Wine และตะกร้าของรับประทานเล่น
• Love at the first
putt คู่รักนักกอล์ฟ 14 กุมภาพันธ์ ที่สนามกอล์ฟ
บางกอกกอล์ฟคลับ จ.ปทุมธานี
• เทศกาลความรัก
ณ เขื่อนศรีนครินทร์ 14-15 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณสันเขื่อนศรีนครินทร์
ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี จัดกิจกรรมส่งความสุขให้ดื่มด่ำกับความรักไปกับการแสดงดนตรี
และเพลิดเพลินกับอาหารหลากหลายจากชุมชนในพื้นที่อาเภอศรีสวัสดิ์กว่า 40 ร้านค้า
ภูมิภาคภาคตะวันออกไฮไลต์ 1 แลนด์มาร์ก
• Chanthaburi Love Wins ททท. สำนักงานจันทบุรี จับมือเอกชนในพื้นที่มอบความพิเศษให้คู่รัก
LGBTQ+ 100 คู่แรก รับของที่ระลึกเสื่อกกจันทบูรซึ่งเป็นอัตลักษณ์วิถีถิ่นไปลองใช้กัน
เมื่อแต่ละคู่เดินทางมาเที่ยวจันทบุรีระหว่างวันนี้– 28 กุมภาพันธ์ 2568
ภูมิภาคภาคเหนือไฮไลต์ 1 แลนด์มาร์ก
• เที่ยวน่านสุขใจ ในวันธรรมดา ททท. สำนักงานน่าน : จัดกิจกรรมพิเศษมอบกับคู่รัก 30 คู่
ที่เดินทางเที่ยวน่านในวันธรรมดา แล้วถ่ายรูปเช็กอิน เพื่อรับของที่ระลึกสุดพิเศษ
“เทียนหอมกล่องสุ่ม 3 Season of Nan” (Winter
of Nan / Green Season / Spring Summer)
สุขภาพ –สปสช.ย้ำใช้สิทธิ์บัตรประชาชนใบเดียว30บาทรักษาทุกที่
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(สปสช.) ได้เพิ่มความสะดวกให้ประชาชนรับบริการได้มากขึ้นในโครงการ “30
บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” หรือ 30 บาท Pro ปี 2568
จะสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวไปรับบริการได้ทุกที่ในเครือข่ายหน่วยบริการ สปสช. ทั่วทั้งประเทศ 77 จังหวัด
ประชาชนจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
- นัดคิวแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปฯ
หรือไลน์ หมอพร้อม
- รักษาได้ทุกโรงพยาบาล
รวมถึงคลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น
คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น
คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น
- รับยาใกล้บ้าน
- ตรวจเลือดใกล้บ้าน
- ตรวจรักษากับแพทย์บนมือถือ (Telemedicine)
ประชาชนที่จะใช้บริการขอให้สังเกตสถานที่จะแสดงโลโก้
"30 บาทรักษาทุกที่" ติดอยู่ด้านหน้าหน่วยบริการนั้น
หากพบโลโก้ดังกล่าวแสดงว่าเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิที่เข้าร่วมให้ใช้สิทธิบัตรทอง 30
บาท หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่
ใช้
“บัตรประชาชน” เพียงใบเดียว สปสช.ยืนยันว่าสามารถเข้ารับบริการได้เลย
ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวแต่อย่างใด ๆ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–เอมิเรตส์เปิดเลาจน์สุดหรู5ล้านดอลล์ที่SAT-1สุวรรณภูมิ
นายโมฮัมเหม็ด อัล วาเฮดิ
ผู้จัดการสายการบินเอมิเรตส์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พร้อมเปิดบริการห้องรับรองผู้โดยสาร
(louge) แห่งใหม่ในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่
1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งย้ายมาจากอาคารหลักหลังเดิม
โดยได้ใช้เงินลงทุน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดีไซน์พื้นที่ขนาด1,454 ตารางเมตร
เพื่อยกระดับบริการเลาจน์พรีเมี่ยม
ซึ่งเป็นรองเพียงเลาจน์ในท่าอากาศยานฐานบินหลักดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
พร้อมจะใช้สร้างประสบการณ์เดินทางให้ “ผู้โดยสาร”
3 กลุ่มใช้บริการได้
คือ 1.ผู้โดยสารชั้น
1 (First Class) 2.ชั้นธุรกิจ
(Business Class) 3.สมาชิกโปรแกรม Skywards
“บริการในเอมิเรตส์เลาจน์”
SAT-1 สุวรรณภูมิ
สามารถรองรับผู้โดยสารที่มาพร้อมกันทีเดียว 250 คน กับแอร์บัส A380 วันละ 2 เที่ยว
รวมทั้งมีไฮไลต์ เสิร์ฟอาหารสไตล์บุฟเฟต์ ผสมผสานเมนูท้องถิ่นและนานาชาติ
ขนมหวานไทย
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องอาบน้ำ ฟรี WiFi
พิเศษ เอมิเรตส์มี
“บริการฟรี” รถรับ-ส่งสุดหรูผู้โดยสารชั้น 1
ชั้นธุรกิจรัศมีจากสนามบินสุวรรณภูมิ 60 กม.
สะดวกสบายไร้กังวล
ส่วน “เที่ยวบิน” ปัจจุบัน “เอมิเรตส์”
บินตรงแบบประจำ ไป-กลับ ระหว่าง กรุงเทพฯสู่ดูไบ 5 เที่ยว/วัน ด้วยฝูงบินแอร์บัส A380
และโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน ไป-กลับ ภูเก็ต-ดูไบ และกรุงเทพฯ-ฮ่องกง อีกวันละ 1
เที่ยว ทำให้กรุงเทพฯเป็ฯศุนย์กลางสำคัญสุดของเอมิเรตส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“แอร์บัส A380”
ของเอมิเรตส์ บนเครื่องบินผู้โดยสารชั้น 1 และชั้นธุรกิจจะได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ
ได้แก่ 1.ห้องโดยสารแบบส่วนตัว
2.ห้องอาบน้ำสุดหรู
3.เลานจ์บนเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ของสายการบิน
4.ระบบความบันเทิงบนเที่ยวบินที่ได้รับรางวัล
Ice โดยมีช่องรายการแบบออนดีมานด์ให้เลือกมากกว่า
6,500 ช่อง
นายโมฮัมเหม็ดกล่าว
เอมิเรตส์มีเลาจน์สายการบินให้บริการผู้โดยสารทั่วโลกอีก 41 แห่ง
อยู่ในท่าอากาศยานดูไบ 7 แห่ง และอีก 34 แห่ง กระจายอยู่ตามจุดหมายปลายที่เอมิเรตส์บินตรงและทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตร
ปี2567 ไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวนานาชาติ
ด้วยแม่เหล็กดึงดูดด้าน อาหาร วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว และอื่น ๆ
ข่าวที่สอง
–ดุสิตอัดโปรดีโรงแรมทั่วเอเชียจองDouble Perksลด30%
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) “DUSIT” รายงานว่า
ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ “Double Perks” ให้ส่วนลดห้องพักสูงสุด 30% วันนี้-
31 มีนาคม
2568 เมื่อจองพักโรงแรมเครือดุสิตธานีหลายจุดหมายปลายทางทั่วโลก
ต้อนรับปีใหม่และเทศกาลวันแห่งความรัก ทั้งในไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ มัลดีฟส์ เนปาล
ญี่ปุ่น ส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มี 2 เมืองคืออาบูดาบี ดูไบ โดฮา/กาตาร์ อียิปต์ กรีซ เคนยา และกวม
โปรโมชั่น “Double Perks มีสิทธิประโยชน์ให้ผู้ใช้บริการ
2 ต่อ รวมทั้งสิทธิเพิ่มพิเศษ เช่น
เครื่องดื่มฟรี เครดิตเงินสดใช้ที่สปาสูงสุด 1,680
บาท อัพเกรดห้องพัก เช็กอินได้ก่อน 12.00 น. เช็กเอาต์ได้ถึง 16.00 น.
รวมกิจกรรมสุดพิเศษ สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักฟรีได้ด้วย เฉพาะโรงแรมที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น
ในเมืองไทยรวมโรงแรมใหม่
2 แห่ง
คือ “ดุสิตธานี กรุงเทพฯ” ที่เพิ่งเปิดใหม่ กับ “ดุสิตปริ๊นเซส เชียงใหม่” หลังปรับปรุงใหญ่กลับมาเปิดอีกครั้ง
และ “ดุสิตปริ๊นเซส มะละกา” ย่านมรดกโลกของยูเนสโก ซึ่งเป็นแห่งแรกในมาเลเซีย
“สมาชิกดุสิตโกลด์”
รับส่วนลดเพิ่มอีก 15% สมัครฟรีทางออนไลน์ www.dusit.com/enrollment
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น