วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ททท.นำ50ธุรกิจร่วม SATTE 2025รุกตลาดอินเดียปี68หวังรายได้แสนล้าน

 


ททท.ควง50ธุรกิจร่วมSATTE2025รายโกยอินเดียแสนล้าน

ปี68เพิ่มยอดใช้เงินต่อทริปเจาะตลาดคุณภาพเก่าใหม่กลุ่ม   15 กลุ่ม

 

เรื่องโดย...#gurutourza #FM97 #TAT ##SATTE2025#เพ็ญรุ่งใยสามเสน รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ เที่ยวกับกู๋ ตลาดอินเดีย

ททท.นำเอกชนไทยรุกตลาดอินเดียจับคู่ธุรกิจรายการใหญ่ SATTE 2025 ที่เดลี ปี’68 หวังรายได้ 1 แสนล้าน 2.3 ล้านคน เล็งเจาะนักท่องเที่ยวคุณภาพเก่าใหม่ 15 กลุ่มหลัก FIT มาแรงสุด ใช้เงินทัวร์ไทย34,920 บาท/คน/ทริป พักเฉลี่ย 6.58 คืน

 


นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2025 ระหว่าง 19-21 กุมภาพันธ์ 2568 ที่Yashobhoomi India International Convention & Expo Centre กรุงนิวเดลี อินเดีย เดินหน้าส่งเสริมการขายรายการใหญ่ตลาดอินเดียและภูมิภาคเอเชียใต้ โดยมีเอกชนไทย 50 ราย พร้อมร่วมเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าท่องเที่ยวอินเดียและทั่วโลกตั้งเป้าหมายปี 2568 จะทำรายได้ให้ถึง 100,000 ล้านบาท

รัฐบาลไทยต้อนรับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 สานต่อนโยบาย Ease of Traveling อำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ดีด้วย “มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา” อินเดียมาไทยเริ่มตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา เพราะนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นกลุ่มระยะใกล้ (Shorthaul) ตลาดใหญ่สำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่จะเติบโตทั้งจำนวนคนและรายได้ ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนเพื่อตัดสินใจเลือกไทยเป็นจุดหมายเพิ่มขึ้น ได้แก่

นโยบายส่งเสริมให้พลเมืองออกเดินทางของรัฐบาลอินเดีย

สายการบินนานาชาติตื่นตัวหลังเพิ่มขนาดเครื่องบินที่มีที่นั่งโดยสารเที่ยวบินระหว่างไทย-อินเดียปี 2568 จะมีมากถึง 3.5 ล้านที่นั่ง ขยับจากเดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นมา มีประมาณ 2.9 ล้านที่นั่ง

 ททท.ร่วมกับพันธมิตรบริษัทนำเที่ยวและสายการบินตลอดปีนี้เชิญชวนอินเดียเดินทางมาเที่ยวในโอกาสพิเศษปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

 




นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า อินเดียเป็นหนึ่งในดาวรุ่งตลาดระยะใกล้ (Short-haul Market) ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2568 จะเดินหน้าส่งเสริมการตลาดเพื่อสร้างรายได้ตามเป้าหมายปีนี้ให้ถึง100,000 ล้านบาท ภายในงานเน้นมุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพปัจจุบันและใหม่อย่างน้อย 15 กลุ่ม แบ่งเป็น

“นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพปัจจุบัน” เดินทางมาไทยสม่ำเสมอ 9 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มครอบครัว 2.กลุ่มได้รางวัลเดินทางท่องเที่ยว (incentive) 3.กลุ่มแต่งงานและเฉลิมฉลอง (Wedding & Celebrations) 4.กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้หญิง 5.กลุ่มสูงวัยใจเกินร้อย (Active Senior) 6. กลุ่มคนรุ่นใหม่หรือ มิลเลนนเนียลส์ 7.กลุ่มหรูหราลักชัวรี่ 8.กลุ่มเดินทางพักผ่อน (Leisure)  และ 9.กลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ

“นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่” ที่มีศักยภาพ (New Segment) อีก 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้หญิง 2.กลุ่มพลเมืองสูงวัย 3.กลุ่มเฉลิมฉลอง 4.กลุ่มขับรถท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (Self-drive)  5.กลุ่มบำบัดฟื้นฟูกายใจ (Rejuvenating) 6.กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงผจญภัย

การนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมส่งเสริมการขายในงาน “South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2025” ได้นำเสนอแพ็คเกจท่องเที่ยวตรงความต้องการกลุ่มเป้าหมาย กระตุ้นอินเดียออกการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก(First Visitor) ทำให้ปี 2568 ไทยประสบความสำเร็จต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียตามเป้าหมาย 2,300,000 คน และสร้างรายได้กว่า 100,000 ล้านบาท



 

นักท่องเที่ยว “อินเดีย” เป็นหนึ่งตลาดเป้าหมายหลักของไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์ 2568 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาไทยแล้ว 290,092 คน ส่วนปี 2567 เดินทางเข้าไทยติด 5 อันดับแรกของต่างชาติทั้งหมด มีจำนวนทั้งสิ้น 2,129,149 คน  โดยภาพรวมมีพฤติกรรมต่าง ๆ ดังนี้

เดินทางมาไทยด้วยตนเอง (FIT) 77 % หรือ FIT

เดินทางรูปแบบทัวร์ (GIT) 23 %

เดินทางมาไทยครั้งแรก 68 %

มีจำนวนวันพักเฉลี่ย 6.58 คืน

ใช้จ่ายเงินตลอดการเดินทางท่องเที่ยวเฉลี่ย 34,920 บาท/คน/ทริป

นิยมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ

ชื่นชอบการทำกิจกรรมชายหาด รับประทานอาหารไทย ชมแสงสียามค่ำคืน

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฏร์ธานี

 

                ภายในงาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2025 ระหว่าง 19-21 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ India International Convention & Expo Centre กรุงนิวเดลี อินเดีย ครั้งที่ 32 มีคูหาจากทั่วโลกร่วมจัดแสดงกว่า 1,200 คูหา ททท. เข้าร่วมเป็นครั้งที่ 16 พร้อมผู้ประกอบการไทยร่วมนำเสนอสินค้าและเจรจาธุรกิจ คาดจะเกิดจำนวนการนัดหมายตลอดงานกว่า 5,000 นัดหมาย โดยมีเอกชนไทยเข้าร่วม 50 ราย ได้แก่ โรงแรมที่พัก 26 ราย บริษัทนำเที่ยว (DMC :Destination Management Company ) 14 ราย ธุรกิจสวนสนุกและเอนเตอร์เทนเมนต์ 8 ราย และบริษัทเรือเฟอร์รี่/เรือนำเที่ยว 2 ราย



 

“คูหาประเทศไทย” ใช้พื้นที่ 300 ตารางเมตร ทาง ททท. ได้นำเสนอแบรนด์ Amazing Thailand ชูเสน่ห์ไทย 5 Must Do in Thailand สร้างสรรค์ด้วยแนวคิด“Sustainable and Luxury” เสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยทันสมัย มีคุณค่า ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยออกแบบและตกแต่งจากวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นแสดงถึงภูมิปัญญาไทย กับภาพแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอินเดีย ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสินค้าทางการท่องเที่ยวไทย

 “กิจกรรม” ภายในคูหาประเทศไทย ประกอบด้วย 1.เจรจาธุรกิจทางการท่องเที่ยวระหว่างเอกชนท่องเที่ยวไทยกับคู่ค้าต่างประเทศ 2.ให้ข้อมูลข่าวสารสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย 3.สาธิตศิลปวัฒนธรรมไทย ได้แก่ เพ้นท์ร่มบ่อสร้าง เขียนลวดลายลงบนร่มแบบล้านนา ถือเป็นภูมิปัญญาด้านศิลปะและวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ เพื่อเผยแพร่สร้างการรับรู้ให้ผู้ร่วมงานมีธุรกิจท่องเที่ยว สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปในอินเดีย

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วันดี เผื่อนอุดม ททท.ลุยขายเที่ยวมี.ค.-เม.ย.ุ68 นคนายก ปราจีน สระแก้ว

  วันดี เผื่อนอุดม ผอ.ททท.สำนักงานนครนายก   เปิดพื้นที่เที่ยวเต็มพิกัด  3  จังหวัด “นครนายก-ปราจีนบุรี” “วันดี เผื่อนอุดม” นำททท.ลุยขายเที่ย...