วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ททท.ลุ้นนายกฯ อิ๊งค์ ร่วม ITB2025 ดันAmazingThailandดึงทั่วโลกเที่ยวไทยปี68

 


ททท.เชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วม ITB 2025 
เปิด Amazing Thailand Grand Tourism 2025 กระตุ้นทั่วโลกเที่ยวไทยปี 2568

ททท.ปี68ต่อยอดปีGrandTourimsสื่อสารตลาดไทย/ทั่วโลก

ชงนายกฯอิ๊งค์ใช้ITB 2025กระตุ้นทั่วโลกแห่เที่ยวเมืองไทย

ก.พ.-มี.ค.นี้มัดรวมโฆษณา “สุขทันทีเที่ยวไทย-ทัวร์ยั่งยืน”

คิงเพาเวอร์ร่วมE Receipt5หมื่น-TopSpenderช้อปรับเพียบ

ช้อปคิงเพาเวอร์4สาขาวีคเอนด์รับทริปวาเลนไทน์ลด40%

คิงเพาเวอร์รางน้ำโชว์โลกศิลปะSK-II LXPรับฟรี8,000บาท

ททท.ชูขายปีท่องเที่ยว 5 Grand 5 Must Doไฮไลต์ 5 เดือน

บางจากหนุนคลังปูพรม“ภาษีคาร์บอน”เริ่มบังคับใช้ก.พ.68

สุขทันทีที่เที่ยวกาญจนบุรีชุมชน-ดนตรี-ธรรมชาติสวนเมเปิล

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจฝุ่นPM2.5ป้องกันได้ด้วยตนเอง

TCEBปี68ชู3Esดึง2แสนล้านรุกตลาดBRICS200งาน/ปี

ททท.-กกท.”ชูMoto GP2025ดันTourism & Sports Year

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #นิธีสีแพร

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/share/v/1CZu1UGQm1/

 

นิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ ! นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งเครื่องใช้สื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางต่อยอด Amazing Thailand Grand Tourism &Sports 2025 อัดฉีด 5 Grand 5 กลุ่ม รอ “นายกฯอิ๊งค์” เปิดระดับโลกใน ITB 2025 ส่วนในประเทศ มัดรวมแผนโปรโมท “สุขทันทีที่เที่ยวไทย-เมืองน่าเที่ยว-เที่ยวยั่งยืน” รุกสื่อสารทุกช่องทาง พร้อมใช้เซเลบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง ชาเลนจ์ ศิลปิน ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก นำร่อง ก.พ.เดินแห่งความรักเปิดเข็มทิศแหล่งท่องเที่ยวโรแมนติกทั่วไทย

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมพร้อมขยายผลหลังนายกรัฐมนตรีเปิดโครงการ “Amazing Thailand Grand and Sports Year 2025” ด้วยการสื่อสารตลาดทั้งในประเทศ และทั่วโลก นำเสนอ 5 Grand ทั้ง 1.Grand Festivities เทศกาลต่าง ๆ 2.Grand Moment เส้นทางท่องเที่ยว และประสบการณ์ต่าง ๆ 3.Grand Privilage การมอบสิทธิประโยชน์มากมาย 4.Grand Invitation เชิญชวนผู้มีชื่อเสียงระดับโลกมาร่วมงานสำคัญในไทย และ 5.Grand Celebration เชิญชวนศิลปินดังมาสร้างแรงจูงใจจัดเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่แห่งปี ทั้งหมดจะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ครบทุกช่องทาง

 


การสื่อสารตลาดต่างประเทศ จะใช้งาน ITB Berlin : Internationale Tourismus Borse 2025 เตรียมเชิญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 5 มีนาคม 2568 ขณะนี้กำลังประสานงานเรื่องการเดินทางเพื่อรอยืนยันจากนายกรัฐมนตรี

ส่วนในประเทศ ทยอยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง เพื่อทำให้แต่ละแกรนด์ครองใจนักท่องเที่ยวในตลาดแต่ละกลุ่ม ได้แก่

Grand Festivity จัดเทศกาลท่องเที่ยวด้วยอีเวนต์น่าสนใจ แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 Festival งานเทศกาลประเพณีต่าง ๆ มากมาย จัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี  จะมีเรื่องเสน่ห์ไทย คาร์นิวัล และเทศกาลลอยกระทง และงานประเพณีท้องถิ่นอื่น ๆ ที่จะนำเสนอให้โดดเด่น

กลุ่มที่ 2 Music รวมมหกรรมดนตรีมาจัดยิ่งใหญ่ในเมืองไทย เช่น สยามสงกรานต์ มิวสิค เฟสติวัล EDC Thailand 2025 และ ทูมอโร่แลนด์

กลุ่มที่ 3 Sports นำการแข่งขันกีฬารายการระดับนานาชาติ อย่าง โมโต จีพี กรังด์ปรีซ์ 2025 กำลังเตรียมเปิดสนามแรกฤดูกาลแข่งขันต้นเดือนมีนาคม 2568 ที่สนามช้าง จังหวัดบุรีรัมย์ การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ เจ้าภาพแข่งขันวอลเลย์บอล งานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แบงค็อก มาราธอน

 


กลุ่มที่ 4 Art & Illumination การท่องเที่ยวชมแสงสีไฟสวยงาม โชว์แมปปิ้ง ไลท์อัพต่างๆ ไฮไลต์หลักคือ งานวิจิตรเจ้าพระยา วิจิตร 5 ภาค เทศกาลไฟสวยงาม ณ สัทธา อุทยานไทย จังหวัดราชบุรี เทศกาลพลุนานาชาติพัทยา 

กลุ่มที่ 5 Culture and Culinary วัฒนธรรมอาหารการกิน เช่น เทศกาลปลาร้าหมอลำ Isan to The World จัดต่อเนื่องปีที่สอง เทศกาลกินเจภูเก็ต งานอะเมซิ่ง ไทยเทสต์ เฟสติวัล ต่อเนื่องไปจนถึง เทศกาลไหว้ครูมวยโลก แห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี งานประเพณีไหลเรือไฟนครพนม


Grand Moment เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่สามารถส่งต่อประสบการณ์เชิงคุณค่า เที่ยวในห้วงเวลาจำกัดทำให้ทุกคนต้องรีบไปทั้ง 5 ภูมิภาค จะเน้นใช้สื่อเพื่อสร้างการเข้าถึงหรือ engagement กระตุ้นคนออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแต่ละแห่งอย่างคึกคัก

Grand Privillage เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจแตกต่างกันไป เช่น เดือนกุมภาพันธ์ จัดกิจกรรม “คู่รัก” แจกโชคลุ้นรับรางวัล

Grand Celebration จะร่วมกับสถานฑูตในไทยในต่างประเทศทั่วโลก เชิญ ศิลปิน นักร้อง นักดนตรี ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก เดินทางมาเมืองไทย พร้อมกับจัดกิจกรรม “เสน่ห์ไทย” ด้วย “กาลาไนท์” แล้วก็จัดทริปนำนักสร้างคอนเทนท์นานาชาติลงพื้นที่ท่องเที่ยวในไทยโปรโมทผ่านช่องทางของแต่ละคนไปยังแฟนคลับแต่ละกลุ่ม เช่น จัด Nas Summit 2025 ซึ่งจัดร่วมกับ Nas Daily เป็นงานศูนย์รวมครีเอเตอร์นักสร้างคอนเทนท์จากทั่วโลกมารวมตัวกันในเมืองไทย รวมทั้งการจัดงานอื่น ๆ อีกหลายรูปแบบ

Grand Celebration เฉลิมฉลองโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของไทยกับมิตรประเทศ เช่น 50 ปีความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-จีน ความสัมพันธ์ไทย-เยอรมัน 160 ปี ไทย-ฝรั่งเศส 340 ปี ไทย-อังกฤษ170 ปี ททท.จะจัดกิจกรรมแต่ละประเทศต่อไป

นายนิธี กล่าวว่า ททท.มีภารกิจที่จะสื่อสารตลาด “สุขทันทีที่เที่ยวเมืองไทย” ใน 55 เมืองน่าเที่ยว หรือ Hiden Gem จะใช้กลยุทธ์ Celebrity Marketing เข้ามาเกี่ยวข้องคัดเลือกเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทย มาทำคอนเทนท์ เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ ทำชาเลนจ์ และแพกเกจท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น ให้มาชวนคนออกไปเที่ยวด้วยกัน ส่งมอบความสุขให้กัน

ตัวอย่างการจัดชาเลนจ์ นำเพลงมาทำคลิปดัดแปลงโดยให้นักท่องเที่ยวเมื่อเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เลือกเพลงที่เหมาะกับสถานที่แล้วทำคลิปคัพเวอร์ โดยเดินทางไปกับคนรู้ใจ เพื่อรับรางวัลมากมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมทำคลิปเผยแพร่บอกต่อเชิญชวนคนในประเทศออกมาเดินทางทั่วไทย

ปี 2568 จะเน้นการสื่อสารสไตล์ “ฮีล ใจ” คลายเครียด ผ่อนคลาย ซึ่งอาจจะใช้สัตว์เลี้ยงเพื่อการท่องเที่ยว และ Art Toy ของเล่นยอดนิยมกำลังเป็นอีกเทรนด์มาแรง

ส่วนการโฆษณาประชาสัมพันธ์เมืองน่าเที่ยว Hiden Gem ก็จะค้นหาสถานที่ใหม่ ๆ มานำเสนอ เช่น แห่เทียน และโมเมนท์เที่ยวเทศกาล ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้คนเกิดความรู้สึกอยากเดินทางมากขึ้น ควบคู่กับการจับมือพันธมิตรเพื่อลดแลกแจกแถม แจกสิทธิพิเศษ ทำในลักษณะ Co-Brand ทั้งการใช้สินค้ายอดนิยม แหล่งท่องเที่ยว หรือแบรนด์ช้อปปิ้งดัง และค่ายสื่อสารโทรคมนาคม

นายนิธีกล่าวว่าแผนงานสื่อสารการตลาดช่วงเดือนแห่งความรัก กุมภาพันธ์ 2568 จะประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนรักในทุกรูปแบบโดยแนะนำ 1.สถานที่โรแมนติก ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ดูดาว หรือแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมทั้ง “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” จะรณรงค์เชิงรุกมากขึ้น ท่องเที่ยวโดยดูแลสถานที่ต่างๆ ได้โดยไม่สิ้นสุดเพื่อให้มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามอยู่กับทุกคนตลอดไป เช่น เลิกใช้พลาสติก และอื่น ๆ

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ร่วมE Receipt5หมื่น-TopSpenderช้อปรับเพียบ

ช้อปฟิน แบบไม่ต้องมีไฟลต์ ที่คิง เพาเวอร์”กับสินค้าป้ายฟ้า Take-Home Product แล้วสามารถนำกลับได้เลย แล้วห้ามพลาดเข้าร่วมโครงการ “EASY E-RECEIPT 2.0 รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี สูงสุด 50,000 บาท

ช้อปได้ทุกสาขาที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, มหานคร, ศรีวารี, พัทยา, ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก, คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง และภูเก็ต 

เดือนกุมภาพันธ์ 2568 มาพร้อม FEBRUARY’S RECOMMENDATIONS ช้อปสินค้าสุดฮิตขายดีแห่งเดือนในราคาดิวตี้ฟรีตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่หลายคนชอบช้อปที่ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ด้วยการมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่คุ้มค่าที่สุด ของแท้เชื่อถือได้จากแบรนด์ดังมากมาย ง่ายๆ แค่ช้อปก่อนบิน และรอรับของที่สนามบินขาออกนอกประเทศ

แล้วรับ Online Special Offer ซึ่งเปิดให้ “สะสมยอดช้อปออนไลน์” สูงสุดตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์นี้

1.รับฟรี! บุฟเฟ่ต์นานาชาติและซีฟู้ด ที่ห้องอาหารคุยซีน อันปลั๊ก โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 - 5 รับฟรี ได้สิทธิ์ 2 คน/รางวัล กับรางวัลที่ 6 - 25 รับฟรี 1 รางวัล ได้สิทธิ์ 1 คน/รางวัล

มหกรรมช้อปสะสมยอดรายการนี้ จัดให้เหล่า Top Spender ทั้งหมด 25 รางวัล ช่วงวันนี้- 28 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไขรับสิทธิ์ทันที

แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 6 เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13,500 บาท ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์รับส่วนลด 800 บาท และสมัครฟรีสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ)

 


 ข่าวที่ 2 -ช้อปคิงเพาเวอร์4สาขาวีคเอนด์รับทริปวาเลนไทน์ลด40% 

คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมช้อปส่งท้าย วีคเอนด์นี้ 8-9 กุมภาพันธ์ 2568 รีบมาช้อป! โค้งสุดท้ายกับโปรสุดคุ้ม รับทริปวาเลนไทน์ ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต รับแบบรัว  ๆ ดังนี้

1.รับคูปองส่วนลด สูงสุด 40%

2.คุ้มต่อ ไม่สะดุด แจกฟรี ! มหาอั่งเปา 4,500 บาทสำหรับช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ ได้คนละ 1 สิทธิ์ /วัน)

3.สมัครฟรีสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY พร้อมกับรับฟรี! คูปองส่วนลด 10%

พิเศษ !! เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ภายในวันสมัครสมาชิก รับฟรี! อั่งเปา 1,000 บาท ส่วนสถานะ คิง เพาเวอร์ SCARLET จะได้ในวันถัดไป



ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์รางน้ำโชว์โลกศิลปะSK-II LXPช้อปรับฟรี8,000บาท

 

คิง เพาเวอร์ เปิดบ้านสาขา “รางน้ำ” ต้อนรับนักช้อปเข้าสู่โลกนิทรรศการ SK-II LXP ร่วมค้นพบศิลปะแห่งงานฝีมือชั้นสูง “Kintsugi”สัญลักษณ์ของการฟื้นฟู และการเริ่มต้นใหม่

 

วันนี้ -28 กุมภาพันธ์ 2568 ช้ออปผลิตภัณฑ์ SK-II LXP ครบ 40,000 บาท รับของสมนาคุณ จำนวน 3 ชิ้น (มูลค่า 8,000 บาท) ได้ที่บริเวณ คราวน์ เอเทรียม ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

 

ตลอดเดือนแห่งความรักจะได้ยลโฉมโลกนิทรรศการ SK-II LXP ความสุขที่จับต้องได้กับศิลปะงานฝีมือชั้นสูง “Kintsugi” พร้อมดื่มด่ำประสบการณ์สุดพิเศษกับซีรีส์ LXPกับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ SK-II ที่มีส่วนผสมเข้มข้นที่สุด และสัมผัส “นวัตกรรม” ความงาม Mini Magic Scan เครื่องมือวิเคราะห์ผิวด้วย AI พร้อมรับคำปรึกษาเรื่องการดูแลผิวจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้ด้วยความเป็นไปได้ทุกวัน

 

ข่าวที่ 4-นายกฯอิ๊งค์เปิดปีAmazing Thailand Tourism5-5-5

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดอย่างเป็นทางการ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เน้นย้ำนโยบายใช้การท่องเที่ยวขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) ทำ “รายได้ของประเทศเติบโตแบบก้าวกระโดด” จะขอให้มี Human Made Nation และการท่องเที่ยวต้องสร้างขึ้นมาสักอย่างแทนธรรมชาติ เช่น เวลเนส แมนเมด หรือเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้รายได้เติบโตก้าวกระโดดและเป็นเรื่องสำคัญด้วย ผสานเข้ากับบริการโดยคนไทยมีน้ำใจให้การต้อนรับสร้างชื่อเสียงที่ดีไปทั่วโลกอยู่แล้วแต่ก็จะต้องอาศัยการทำธุรกิจต่าง ๆ เพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ

 

ปีนี้หวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือกันผลักดันการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ต้นปี 2568 ต่อเนื่องทุกเดือน  จะจัดงานเฟสติวัลในทุกจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อดึงดูดให้ชาวต่างชาติพักในพื้นที่มากกว่า 2 คืน ต่อจากนี้ทุกเดือนจะมีการเข้าพักเพิ่มขึ้น จึงหวังว่าผู้ว่าราชการทุกจังหวัดจะทำให้เต็มที่ช่วยกันสร้างโอกาสให้ประเทศต้อนรับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

 

นายสรวงศ์  เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ตั้งเป้านำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 39 ล้านคน ทำรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท กระจายรายสู่ประชาชน ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งร่วมกับพันธมิตรเอกชน อย่างกลุ่มสายการบิน โรงแรมที่พัก OTA ทำส่วนลดและสิทธิพิเศษให้นักท่องเที่ยวมากที่สุด และกระตุ้นการท่องเที่ยวคึกคักตลอดทั้งปีโดยจัดอีเวนต์ระดับโลก โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติและโลก เช่น ซีเกมส์ 2025 อาเซียนพารา เกมส์ FIVB Women’s World Championship 2025 และเดินหน้าเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวนำไทยสู่ เวิลด์ คลาส เดสติเนชั่น

 

 

@ททท.ชูขายปีท่องเที่ยว 5 Grand 5 Must Doไฮไลต์ 5เดือน

 

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่และมอบความพิเศษแก่นักท่องเที่ยวโดย ททท. จะจุดพลังการท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มกำลัง ด้วยแนวคิด 5 Grand ภายใต้ความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย Grand Festivity, Grand Moment, Grand Privilege, Grand Invitation และ Grand Celebration เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ควบคู่กับยกระดับมาตรการอำนวยความสะดวกการเดินทางส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) และซอฟท์ พาวเวอร์ ขยายแนวคิด 5 Must Do in Thailand โดยมีไฮไลต์ท่องเที่ยวไทยสุด Grand 5 หมวด คือ

 

หมวดที่ 1 Grand Festivity จัดกิจกรรมใหญ่ตลอดทั้งปี ด้วย Experience festive vibes in Thailand ได้แก่

 

 

“เฟสติวัล” งานเสน่ห์ไทยทั่วหล้ามหาสงกรานต์ สีสันแห่งสายน้ำด้วยวิถีรักษ์โลก อเมซิ่ง ไทยแลนด์ เลิฟ วินส์ เฟสติวัล และเคาท์ดาวน์ เดสติเนชั่น

 

“มิวสิค” เทศกาลดนตรี EDC, Wonderfruit, งานปลาร้าหมอลำ และ งานอีสานมิวสิคเฟสติวัล

 

“สปอร์ต”  อีเวนต์กีฬา โมโต จีพี อเมซิ่งไทยแลนด์ แบงค็อก มาราธอน  ไหว้ครูมวยไทยโลก

 

Art & Illumination อีเวนต์เทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างสรรค์ งาน วิจิตร เจ้าพระยา 2025, ณ สัทธา อินเตอร์แนล ไฟร์เวิร์ค เฟสติวัล

 

Culture & Culinary อีเวนต์สะท้อนอัตลักษณ์ไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ไทย เทสต์ เฟสติวัล

 

หมวดที่ 2 Grand Moment  ชวนค้นหา Grand Moment ที่จะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตตามแหล่งท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วไทย เช่น 1.ทะเลหมอกสีชมพู ทะเลหมอกผสานกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่กิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 2.อ่างจากุซซี่ธรรมชาติวิวลอยฟ้าพาโนรามาน้ำตกผาโสก จ.อุบลราชธานี 3. พิชิตมหัศจรรย์รากต้นลานตะบูน ที่ชุมชนบ้านท่าระแนะ จ.ตราด  4.ตามล่าหินหัวเอเลี่ยน ปรากฏการณ์ธรรมชาติของหินขนาดใหญ่คล้ายศีรษะของมนุษย์ต่างดาว ที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี 5.ปรากฎการณ์แพลงก์ตอนเรืองแสง เปล่งประกายใต้แสงดาว ที่เกาะเตียบ จ.ชุมพร

 

หมวดที่ 3 Grand Privilege พบกับประสบการณ์เหนือระดับและสิทธิประโยชน์การท่องเที่ยวผ่าน 2 BY 4 Global Campaign และแคมเปญต่าง ๆ ด้วยไฮไลต์ 5 เดือนหลัก ได้แก่

 

เดือนกุมภาพันธ์ (เดือน 2) พบกับ Amazing Romance Month มอบสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวคู่รัก และ LGBTQ+ กับกิจกรรม Trade Meet & FAM Trip ผู้ประกอบการธุรกิจและ อินฟลูเอนเซอร์ กลุ่มตลาดโรแมนซ์และ LGBTQ+

 

เดือนเมษายน (เดือน 4)  พบกับ อะเมซิ่ง สงกรานต์ จะร่วมกับพันธมิตรส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว

 

 

เดือนมิถุนายน (เดือน 6) อะเมซิ่งไทยแลนด์ แกรนด์ เซล ปักหมุดช่วงเวลาช้อปปิ้งด้วยมหกรรมลดราคาสินค้ามากมาย

 

 

เดือนสิงหาคม (เดือน 8) อะเมซิ่ง ซัมเมอร์ แฟมิลี่  เชิญชวนกลุ่มนักท่องเที่ยวมัลติเจนเนเรชั่นเที่ยวไทยด้วยโปรโมชันส่วนลดพิเศษ

 

 

เดือนตุลาคม (เดือน 10) จัด ไทยแลนด์ พาสปอร์ต พริวิลเลจ มอบสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ เป็นส่วนลดให้นักท่องเที่ยวชาติ พร้อมของขวัญ ของแถม สิทธิ์บริการท่องเที่ยว และลุ้นรับรางวัลพิเศษ

 

หมวดที่ 4 Grand Invitation เชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาสร้าง Grand Moment พร้อมแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก พร้อมจัดงาน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เสน่ห์ไทย กาลา ไนท์” ชวนเซเลบริตี้คนดังร่วมงาน  

 

หมวดที่ 5 Grand Celebration เฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยด้านต่าง ๆ เช่น งานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและมิตรประเทศ งานประกาศรางวัลรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

 

ข่าวที่ 5-บางจากหนุนคลังปูพรม“ภาษีคาร์บอน”เริ่มบังคับใช้ก.พ.68

 

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 กระทรวงการคลัง นำโดยกรมสรรพสามิต ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับ 3 พันธมิตร นำโดย คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ทำโครงการ “ขับเคลื่อนและสนับสนุนการส่งเสริมการรับรู้ภาษีคาร์บอนและพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน” ที่สถานีบริการน้ำมัน PTT และสถานีบริการน้ำมันบางจาก ถนนวิภาวดีรังสิต

 

@ภาษีใหม่มาแล้ว“เก็บค่าคาร์บอน”มีผลบังคับใช้ ก.พ.68

 

ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่าคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคลัง กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. .... โดยกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับกลไกราคาคาร์บอนในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บจากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เป็นการกำหนดให้มี “กลไกราคาคาร์บอนในโครงสร้างภาษีสรรพสามิต” ที่จัดเก็บจากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เป็นราคาคาร์บอนภาคบังคับ (Mandatory Carbon Pricing) แรก

ของประเทศไทยที่แสดงสัดส่วนของต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมในการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ ภายในโครงสร้างภาษีสรรพสามิต

ซึ่งสามารถคำนวณได้จาก “ค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” (Emission Factor) ซึ่งเป็นค่าที่สามารถคำนวณได้ทางวิทยาศาสตร์คูณกับ “ราคาคาร์บอน” (Carbon Price)  200 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าโดยภาครัฐเป็นผู้กำหนด

 

@คลังงัดใช้ภาษีคาร์บอนเปลี่ยนพฤติกรรมคนใช้น้ำมัน-ธุรกิจ

 

โครงสร้างภาษีคาร์บนรัฐจัดทำขึ้นเพื่อให้ภาครัฐสามารถใช้ “มาตรการทางภาษี” เป็นเครื่องมือสร้างความตระหนักให้ 1. ผู้บริโภคและ 2.ผู้ประกอบการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและผลิตสินค้าให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 

ขั้นตอนการจัดทำปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงฯ ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากดำเนินการเรียบร้อยแล้วจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป

 

@บางจากชูต้นไม้ของคุณ-แอพกรีนไมล์บอกภาษีคาร์บอน

 

“นายเสรี อนุพันธนันท์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การกำหนดกลไกราคาคาร์บอนผ่านภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการใช้มาตรการภาษีเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บางจากฯ ในฐานะองค์กรพลังงานชั้นนำของไทย ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งส่งเสริม “การรับรู้ภาษีคาร์บอน” สนับสนุนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน และพัฒนากลไกติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ร่วมกับกรมสรรพสามิต และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

“เป้าหมายหลัก” คือส่งเสริมความเข้าใจเรื่อง “ภาษีคาร์บอน” ให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะสมาชิกบัตรบางจากกรีนไมลส์ ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันบางจากผู้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

 

ด้วยวิธีเปรียบเทียบกับการปลูกต้นไม้ ภายใต้แคมเปญ "ต้นไม้ของคุณ" ซึ่งจะบันทึกข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันสมาชิกบัตรบางจากกรีนไมลส์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงพฤติกรรมการใช้น้ำมันรักษ์โลกเข้ากับอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาบางจากฯ ได้ดำเนินโครงการด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังได้การรับรอง Carbon Footprint of Product (CFP) สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง 5 รายการ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นบางจากเรื่องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด

 

@นำ Carbon Markets Clubปูพรมภาษีคาร์บอน1มี.ค.68

 

“นางกลอยตา ณ ถลาง” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธาน Carbon Markets Club กล่าวว่า “Carbon Markets Club จะร่วมสื่อสารเกี่ยวกับภาษีคาร์บอนและโครงการส่งเสริมการรับรู้ภาษีคาร์บอนดังกล่าวผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนทั่วไปในวงกว้างด้วย

 

โครงการส่งเสริมการรับรู้ภาษีคาร์บอน จะเริ่มสื่อสารตั้งแต่ 1 มีนาคม 2568 กำหนดกลุ่มตัวอย่างวิจัยประมาณ 3,500 ราย ภายในเวลา 3 เดือน เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ประเมินผลสัมฤทธิ์การส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีคาร์บอน และใช้เป็นแนวทางกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานในอนาคต

 

บางจากฯ ต้องขอขอบคุณพันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน รวมถึงลูกค้าและสมาชิกบัตรกรีนไมลส์ ที่มีส่วนร่วมกันทำโครงการนี้ เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับภาษีคาร์บอน ร่วมขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและสร้างโลกยั่งยืน เป็นประโยชน์เชิงบวกในภาพรวมด้วย

 

ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไปเช็คอินสุขทันทีที่ “กาญจนบุรี” เที่ยววิถีชุมชนมอญ ชมธรรมชาติ สนุกกับเทศกาลดนตรี และเดินแชะแชร์ที่สวนเมเปิล จากนั้นต้องฟัง “โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ” ป้องกันได้ด้วยตนเอง และข่าวฮ็อต ๆ อย่าง ข่าวแรก “TCEBปี’68 ชู 3Es” ดึง2แสนล้านรุกตลาดBrics ข่าวที่สอง “ททท.-กกท.”ผนึกโปรโมทเที่ยวเชิงกีฬา Moto GP บุรีรัมย์

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่เที่ยวกาญจนบุรีชุมชน-ดนตรี-สวนเมเปิล

 

สุขทันทีที่เที่ยวเมืองไทย ไปเช็คอิน “กาญจนบุรี” เที่ยวให้ฉ่ำทั้งงานประเพณีวิถีมอญ เทศกาลดนตรี ชมธรรมชาติ ใน 5 พิกัด ดังนี้

 

พิกัดที่ 1 เที่ยวงาน “รำลึกบรรพชนมอญ ครั้งที่ 78 สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดพุตะเคียน เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปร่วมพิธีสำคัญของชาวไทยเชื้อสายมอญทั่วประเทศมารวมตัวกัน วันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2568 ณ วัดพุตะเคียน อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมพิธีบวงสรวงบรรพชนมอญ และเจ้าเมืองมอญ 7 หัวเมือง

 

ร่วมเรียนรู้กิจกรรม ประเพณี อันดีงาม เริ่มจากพิธีเสี่ยงทายนางหงส์ ชมขบวนแห่ทางวัฒนธรรม เกาะติดกิจกรรมรามัญเสวนา ตื่นตากับนิทรรศการและซุ้มสาธิตภูมิปัญญามอญ เพลิดเพลินกับการละเล่นพื้นบ้าน การแสดงแสง สี เสียง นาฎศิลป์มอญ ลิเกมอญ ทะแยมอญ และอีกมากมาย

 

พิกัดที่ 2 เทศกาลดนตรี “กาญจนบุรี มิวสิค เฟสติวัล : Saiyok Music Festival จัดขึ้นครั้งเเรกในพื้นที่ลานกว้างกลางแจ้งบริเวณ ลานชมวิวหมู่ 4 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี เอาใจคนรักเสียงเพลง  ในบรรยากาศอบอวลด้วยเสียงดนตรี สัมผัสทิวทัศน์ริมภูเขาและสายน้ำ บริเวณเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ศูนย์รวมความรักที่มาในรูปแบบเสียงเพลงด้วยไฮไลต์วันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2568

 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พบ Zom Marie Musketeers The PlaceBoy Peachmaker •บุริน บุญวิสุทธิ์ •แบงก์ ปรีติ

วันที่15 กุมภาพันธ์ •Sarah Salola •ลุลา •ลิปตา •เตย อภิวัฒน์ •แอล ก.ฮ. •เอฟ ฮีโร่

 

ตลอดเดือนแห่งความรัก  จังหวัดกาญจนบุรี

พิกัดที่ 3 เทศกาลความรักเขื่อนศรีนครินทร์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ ชวนทุกคู่รักมาฉลองวาเลนไทน์กับเสียงเพลง และธรรมชาติสุดโรแมนติก โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดพื้นที่ให้นักเดินทางทั้งหลายหลบฝุ่นเมืองกรุงมาสูดโอโซนในบรรยากาศขุนเขาริมเขื่อนแบบสบาย ๆ

 

พิกัดที่ 4 สะพานมอญกลางแปลง" วันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ นี้ ที่เจดีย์พุทธคยา สังขะบุรี ปลุกกระแสคอหนังทั้งหลายมารวมตัวกันเมืองแห่งวัฒนธรรมสุดแดนตะวันตก

 

พิกัดที่  5 เทศกาลชมสวนเมเปิล วันที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี ชวนนักท่องเที่ยวนัดกันมาเดินท่องอาณาจักดอกไม้สวยหลากสีสัน ที่จะเปิดให้ชมแชะแชร์ภาพงาม ๆ สู่สาธารณะได้จนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

 

สุขภาพ –โรคติดเชื้อทางเดินหายใจป้องกันได้ด้วยตนเอง

 

ศูนย์สุขภาพแนวหน้ารามาธิบดี ให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับ “โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ” ที่ติดเชื้อตั้งแต่จมูก คอ หลอดลมไปจนถึงปอด สาเหตุส่วนใหญ่คือเชื้อไวรัส ได้แก่ โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก และซาร์ส รวมทั้งการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ได้แก่ ปอดบวม และวัณโรค

 

“โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ” เกิดขึ้นได้บ่อยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางคนอาจเป็นปีละหลายครั้ง เช่น โรคหวัด สามารถหายได้เองโดยการดูแลสุขภาพตนเองอย่างถูกต้อง

 

“การป้องกันโรค” ไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากผู้ป่วยไปสู่บุคคลอื่น สามารถปฏิบัติได้ง่าย ๆ  โดยเริ่มจากตนเองก่อน เมื่อป่วยควรปฏิบัติตนเพื่อลดการแพร่เชื้อ มีหลายวิธี ดังนี้

 

  • ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะมือเป็นตัวกลางสำคัญในการแพร่เชื้อจากผู้ป่วยไปยังผู้อื่นโดยตรง
  • ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกเวลาไอ/จาม หลังใช้ควรทิ้งกระดาษลงถังขยะที่มีฝาปิด
  • ควรแยกห้องนอน ไม่นอนปะปนร่วมกับคนอื่น
  • ผู้ป่วยที่มีอาการไข้ และ ไอ ควรพักผ่อนอยู่กับบ้านจนกว่าอาการจะดีขึ้น หากมีความจำเป็นต้องไปในที่ชุมชน เช่น ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ โรงเรียน ที่ทำงาน รถประจำทาง และรถไฟฟ้า ฯลฯ
  • ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อป่วย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

 

“โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ” สามารถติดต่อได้หลายทาง คือ

1.การไอ จาม หรือหายใจ รดกัน เชื้อโรคจะปนเปื้อนกับฝอยละอองของเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ฝอยละอองขนาดเล็กจะล่องลอยอยู่ในอากาศ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดสูดลมหายใจเข้าไปก็จะติดเชื้อได้

 

2.การสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง จากการดูแลใกล้ชิดกับผู้ป่วย

 

3.การสัมผัสกับสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ ช้อน จาน ชาม ของเล่น หนังสือ ฯลฯ หรือสิ่งสาธารณะที่แปดเปื้อนเชื้อโรค เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ราวโหนรถเมล์

 

ถ้าป่วยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และวัณโรค ฯลฯ ท่านสามารถดูแลสุขภาพของตนเองเบื้องต้นได้ โดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเจ็บป่วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่น และถ้าหากมีอาการป่วยรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที ที่สำคัญท่านต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ สำหรับญาติผู้ดูแลผู้ป่วยจำเป็นที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย และไม่ควรใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ ช้อน จาน ชาม

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก – TCEBปี68ชู3Esดึง2แสนล้านรุกตลาดBRICS200งาน/ปี

 

            นายพสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ (บอร์ด) ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมไมซ์เป็นเสาหลักที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ในฐานะแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศและสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ รวมทั้งเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ระดับโลกให้ไทย พร้อมเป็นทรัพย์สินสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในระยะยาว

           

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB  กล่าวว่า ปี 2568  พร้อมเปิด 5 ยุทธศาสตร์ ด้วยการใช้ดิจิทัลสร้างความหลากหลายอัตลักษณ์พื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ควบคู่กับกลยุทธ์ 3S – Stay Longer, Spend More, See You Again เพิ่มขีดความสามารถไมซ์สร้างรายได้เข้าประเทศ ตามเป้าหมายกระตุ้นตลาดไมซ์ทั้งในและต่างประเทศ 34 ล้านคน สร้างรายได้ 2 แสนล้านบาท นำไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางไมซ์แห่งเอเชีย

 

ตลอดปีงบประมาณ 2568 ทีเส็บเดินหน้า 5 ยุทธศาสตร์สำคัญ (TCEBGO) ได้แก่

 

ยุทธศาสตร์ที่ 1 สนับสนุนงานไมซ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายและดึงงานไมซ์ระดับโลก มุ่งเน้นตลาดศักยภาพใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง และกลุ่ม BRICS รวมทั้งส่งเสริม Flagship Industry เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ

 

ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาสถานที่จัดงานด้วยความหลากหลายของอัตลักษณ์เชิงพื้นที่ และจัดกิจกรรมการตลาดเสริมสร้างประสบการณ์แบบ Authentic Experience เพื่อเพิ่มโอกาสและกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมไมซ์ครอบคลุมในทุกพื้นที่

 

 

ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยนวัตกรรมและยกระดับขีดความสามารถด้วย Thailand MICE One Stop Service ผ่านการใช้ Data Driven Experience ลดขั้นตอน กฎระเบียบ และขยาย MICE Lane Service ไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ เช่น สนามบินภูเก็ต เชียงใหม่ และอุดรธานี

 

 

ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบและกระบวนการทำงานด้วย Digital Transformation โดยใช้ Big Data และ Streamline Office Operations เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้คล่องตัว ทันสมัย และตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัล

 

 

ยุทธศาสตร์ที่ 5 ยกระดับองค์ความรู้และแนวปฏิบัติการจัดงานอย่างยั่งยืน โดยขับเคลื่อนตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) รวมทั้งออกแบบสถานที่จัดงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม        

 

ปี 2568 ทีเส็บได้กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์สำคัญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายผลักดันไมซ์สร้างศักยภาพเศรษฐกิจ พิชิตจุดหมายปลายทางไมซ์แห่งเอเชีย ด้วย 3 กลยุทธ์

• กลยุทธ์ที่ 1 Stay Longer กระตุ้นระยะเวลาพำนักของนักเดินทางไมซ์ในประเทศไทยให้นานขึ้น

 

• กลยุทธ์ที่ 2 Spend More กระตุ้นการใช้จ่ายของนักเดินทางไมซ์ให้มากขึ้น

 

• กลยุทธ์ที่ 3 กระตุ้นนักเดินทางไมซ์เลือกที่จะนำงานกลับมาจัดในไทยอีกครั้ง (See You Again)

 

เพื่อให้แต่ละกลยุทธ์บรรลุวัตถุประสงค์ทีเส็บเตรียมดำเนินงานหลากหลายด้าน เช่น 

 

1.พัฒนา Pre & Post Tour 2.การสร้างการสร้างตลาดภายในงาน (Market Place) จะดำเนินการควบคู่กับ 3.เจาะตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพ อย่างตลาดที่ไทยเพิ่งเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนคือกลุ่ม BRICS (บราซิล-รัสเซีย-อินเดีย-จีน-ศรีลังกา) แต่ละปีจัดร่วม 200 งาน

 

ผอ.จิรุตถ์ กล่าวว่าทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ กับ 3 กลยุทธ์ ที่จะขับเคลื่อนปี 2568 จะนำมาต่อยอดจากปี 2567 ซึ่งสามารถดึงตลาดไมซ์ในและต่างประเทศมาไทย 25,350,288 คน สร้างรายได้ 148,341 ล้านบาท มีมูลค่ารายได้ประชาชาติกว่า 309,000 ล้านบาท คิดเป็น 1.67% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

 

“ไมซ์ไทยในเวทีโลก” มีความโดดเด่น ได้รับการจัดอันดับที่ดีจากองค์กรนานาชาติ ดังนี้

 

“ด้านการประชุมนานาชาติ” สมาคมการประชุมนานาชาติ “ICCA” จัดอันดับไมซ์ไทยเมื่อปี 2566 ติดที่ 26 ของโลก อันดับ 6 ของเอเชียแปซิฟิก อันดับ 2 ของอาเซียน โดยจัดงานประชุมตามเกณฑ์ ICCA ได้ถึง 143 งาน

 

“ด้านงานแสดงสินค้านานาชาติ” สมาคมการแสดงสินค้าโลก “UFI” ล่าสุดพบไทยมีพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าในอาเซียนติดอันดับ 1 ในเอเชียขยับขึ้นสู่อันดับ 4

 

แล้วทีเส็บยังได้พัฒนา “ดัชนีชี้วัดและการจัดอันดับ” ไทยเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์นานาชาติอันดับแรกในภูมิภาคเอเชีย (Top of Mind MICE Destination Ranking in Asia) แล้วยังติดอันดับ 1 เป็น Top of Mind อีกหลายด้าน เช่น 1.Country suitable for hosting an event 2.Authentic Local Experience 3.Sustainable Event Management แล้วยังเป็นประเทศที่โดดเด่นและมีศักยภาพจัดไมซ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ด้านความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) นวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพ (Health-tech Innovation) และ ซอฟท์ พาเวอร์ เชิงสร้างสรรค์ (Creative Soft Power)

 

ข่าวที่สอง –“ททท.-กกท.”ชูMoto GP 2025 ดันTourism & Sports Year

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เข้าร่วมงานนับถอยหลังนำรายการใหญ่ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด “Moto GP :แข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก” รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2025” วันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ล่าสุดนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เปิดแถลงรายละเอียดงานร่วมกับนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายจำเริญ แหวนเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และเอกชนผู้สนับสนุนการจัดงาน

 

“จังหวัดบุรีรัมย์” ได้รับเลือกเป็น “สนามเปิดฤดูกาลแข่งขันโมโต จีพี” ปี 2568 และ 2569  ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสประชาสัมพันธ์และแสดงศักยภาพของคนไทยสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก 207 ประเทศ ซึ่งมีผู้เฝ้าติดตามชมกว่า 800 ล้านคน สามารถผนึกโอกาสปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ซึ่งมีกลยุทธ์ Grand Festivity เป็นแกนหลักโปรโมทเรื่อง “มอเตอร์ สปอร์ต เฟสติวัล”ระดับโลก กระตุ้นนักท่องเที่ยวทุกมุมโลกให้เดินทางเข้ามากว่า 200,000 คน สร้างเงินสะพัดเกินกว่า 5,000 ล้านบาท

 

ททท.ได้สนับสนุนตั้งแต่ปีแรกที่โมโตจีพีเข้ามาจัดแข่งขันในไทย ต่อเนื่องถึงปัจจุบันปี 2568 ร่วมผลักดัน “จังหวัดบุรีรัมย์” ยกระดับเป็นเมืองกีฬาหรือ Sports City ตามนโยบายการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) อย่างเป็นรูปธรรมพร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติปีละจำนวนมาก ด้วยการผสานนำกีฬากับการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน จนเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีนักแข่ง ทีมแข่งรถ นักท่องเที่ยว ขยายพื้นที่พักค้างคืนและท่องเที่ยวจากบุรีรัมย์เชื่อมโยงไปยังพื้นที่อื่น ๆ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง เกิดการใช้จ่ายเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจผ่านธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร และบริการมากมาย ทำให้ทุกภาคส่วนได้รับอานิสงเชิงบวกร่วมกันครบทุกมิติ สามารถขยายผลการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และเมืองกีฬาระดับโลกในตลาดนานาชาติคุณภาพสูงต่อไป

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วันดี เผื่อนอุดม ททท.ลุยขายเที่ยวมี.ค.-เม.ย.ุ68 นคนายก ปราจีน สระแก้ว

  วันดี เผื่อนอุดม ผอ.ททท.สำนักงานนครนายก   เปิดพื้นที่เที่ยวเต็มพิกัด  3  จังหวัด “นครนายก-ปราจีนบุรี” “วันดี เผื่อนอุดม” นำททท.ลุยขายเที่ย...