“รุ่งทิพย์
บุกขุนทด”ผอ.ททท.โคราชบูมบิ๊กอีเวนต์ปี’68
โชว์พลังซอฟท์พาวเวอร์“โคราชแซ่บ
ทะเลซี้ด”7-9 มี.ค.
Must Tasteแห่งปีวิถีทัวร์อาหารไก่โคราช
Xกุ้งตะวันออก
เปิดเทรนด์เที่ยว5Must Doมุมใหม่นครราชสีมา-ชัยภูมิ
สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับ3 ต่อฟรีสถานะ SCALET
พูลแมนคิงเพาเวอร์รางน้ำบูมประชุม20ห้อง3แพกเกจ
ททท.งัด3โครงการปั้นสงขลาเที่ยวได้ทั้งปีรายได้โต10%
บางจากเปิดพิพิธภัณฑ์บางน้ำผึ้งแหล่งท่องเที่ยวใหม่
บางจากส่งมอบไฟฟ้าแสงอาทิตย์สนามเบญจกิติกทม.
เที่ยว“ระยอง”ลองบีชเฟสต์-สเตย์อินเลิฟรร.ลด400บ.
5 วิธีป้องกันรับมือไข้หวัดใหญ่ไม่ให้น่ากลัวอีกต่อไป
AOTลั่นทำรายได้โตยาว5ปีหน้าปั๊มเงินเพิ่ม3โครงการ
บัลโคนี่ เลาจน์”อินเตอร์คอนเปิดชาไทยยามบ่าย1มี.ค.
วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #ทททโคราช
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/169Witk1yD/
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดแผนกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าพื้นที่ 2 จังหวัด “นครราชสีมา-ชัยภูมิ” นำร่องครั้งแรกมหกรรมประชันเสน่ห์ อาหารถิ่นโคราช X อาหารทะเล “โคราชแซ่บ ทะเลซี้ด” 7-9 มี.ค.นี้ ที่เดอะมอลล์โคราช จัดเต็มโชว์วัฒนธรรม ดนตรีพื้นบ้าน เตรียมยก 5 Must Do มาไว้ในหมู่บ้านอีสาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” 26-30 มี.ค.ที่ศูนย์สิริกิติ์ ชูเที่ยวโคราช 3 มรดกโลก “เขาใหญ่-สะแกราช-จีโอปาร์ค” ตื่นตากับ “ต้นกระธูปยักษ์”ชัยภูมิพลังบุญเข้าพรรษา และของฝากขึ้นชื่อ ผ้าไหม GI ผ้าขิตมงคล
นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานนครราชสีมา เปิดเผยว่า
วางกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ นครราชสีมา ชัยภูมิ
ขานรับนโยบายรัฐบาลเน้น “เสน่ห์ไทย-ซอฟท์ พาวเวอร์”
มานำเสนอเทศกาลสร้างการรับรู้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่พื้นที่ ทาง ททท.
จึงพร้อมขับเคลื่อนเริ่มต้นที่ “นครราชสีมา” คัดเลือก “อาหาร” จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อาหารถิ่นโคราช X อาหารทะเล จัดเทศกาล “โคราชแซ่บ
ทะเลซี้ด” ระหว่างวันที่ 7-9
มีนาคม
2568 ที่บริเวณ
มอลล์ พาร์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช อำเภอเมือง นครราชสีมา
ททท.สำนักงานนครราชสี ร่วมกับพันธมิตร ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเปิดประสบการณ์ความอร่อยมาไว้ในที่เดียว โดยได้รวบรวมสุดยอด “เมนูพื้นถิ่น” ที่มีชื่อเสียงมาสร้างประสบการณ์ คัดเลือกวัตถุดิบพื้นบ้านมายกระดับอาหารแต่ละภาคทำให้เกิดโมเมนท์การท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเติบโตเพิ่มขึ้น
“โคราช” มี “ไก่ย่าง” เป็นสัญลักษณ์ เพราะเป็นแหล่งเลี้ยงไก่พันธุ์ขึ้นชื่อ อำเภอท่าช้าง อำเภอห้วยแถลง และอีกหลากหลายแห่ง รังสรรค์เมนูรสชาติดีนำโดยร้านดัง เช่น ร้านป้าเปลื้อง นำเสนอ “ผัดหมี่กับส้มตำ” โคราช “ข้าวทอดโคราช”นำวัตถุดิบข้าวหอมมะลิปลูกในอำเภอพิมายและอำเภออื่น ๆ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI มาผสมผสานกับเครื่องทอดรสชาติอร่อยโดนใจ แล้วยังมีเมนูเด็ดอย่าง ไก่กะเต็ดโนนไทย ทอดมันบ้านปรางค์ โคดำลำตะคอง และอื่น ๆ
ประชันกับ “อาหารทะเลภาคตะวันออก” สดใหม่ทุกวัน มี
“กุ้ง” เป็นสัญลักษณ์แห่งท้องทะเล ตามมาด้วย ปลาหมึก แมงกะพรุนย่างไฟ
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ด อาหารทะเลแห้ง อาหารทะเลแปรรูป
น้ำปลาแท้ ตราหอยเป๋าฮือ และอีกมากมาย
ภายในงาน เทศกาล “โคราชแซ่บ ทะเลซี้ด” ยังได้นำศิลปะวัฒนธรรม การแสดงโปงลาง จากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ผสานการฟังดนตรีพื้นถิ่นเข้ากับการรับประทานอาหาร พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ขึ้นเวทีโชว์ความสามารถเต้นโคฟเวอร์แดนซ์ พร้อมกับจัดกิจกรรมโปรโมชั่น “ช่วงนาทีทอง” ขายกุ้งทะเลสด ราคาตัวละ 1 บาท รับประทานในงานแล้วยังสามารถซื้อวัตถุดิบสดใหม่กลับไปทำเมนูให้คนในครอบครัวรับประทานได้ด้วย
ททท.ร่วมกับพันธมิตรที่พักในนครราชสีมาเข้าร่วมโครงการแจกคูปองเมื่อเช็คอินเข้าพัก
14 โรงแรม
เชิญชวนนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นมาเที่ยวเทศกาล “โคราชแซ่บ
ทะเลซี้ด”
แต่ละโรงแรมจะแจกคูปองให้ผู้เข้าพักเพื่อนำมาใช้ซื้ออาหารภายในงานได้ในราคาพิเศษจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วม
32 ร้าน
เป็นสัญลักษณ์ของนครราชสีมามีทั้งหมด 32 อำเภอ
เพื่อให้ทุกแห่งเข้ามามีส่วนร่วมนำเสนอเสน่ห์ไทยท้องถิ่นอย่างเต็มที่
ผอ.รุ่งทิพย์
กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.นครราชสีมา
เตรียมพร้อมนำสินค้าการท่องเที่ยวเด่นเข้าร่วมในมหกรรมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย”
ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 26-30
มีนาคม
นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะชูจุดขาย “การท่องเที่ยวนครราชสีมา 3
มรดกโลก”
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก นำโดย 1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ผืนป่ามรดกโลกดงพญาไฟ พญาเย็น 2.ชีวมณฑลสะแกราช วังน้ำเขียว
สถานที่ชมแมลง และพืชพรรณไม้นานาชนิด 3.โคราช จีโอ ปาร์ค
มีเรื่องราวของไม้กลายเป็นหิน ช้างดึกดำบรรพ์
ซึ่งแต่ละแห่งมีเส้นทางท่องเที่ยวน่าสนใจ
ส่วน “จังหวัดชัยภูมิ” นำเสนอเสน่ห์วัฒนธรรม ไฮไลต์งานประเพณี “บุญกระธูป” อำเภอหนองบัวแดง ภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปีนี้ จะยกต้นกะธูปหนองบัวแดงมาตั้งไว้กลางหมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานได้เห็นถึงพลังศรัทธาด้วยกรรมวิธีการทำต้นกะธูปสุดอลังการของชุมชนต่าง ๆ ก่อนจะนำไปบูชาในงานประเพณีบุญใหญ่เข้าพรรษา ควบคู่กับการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเป็นโมเดลแนะนำ 2 โปรแกรม ได้แก่
โปรแกรมที่ 1 ไหว้อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล คนชัยภูมินับถือศรัทธา นักท่องเที่ยวสามารถไปกราบไหว้ขอพรได้ แล้วบริเวณใกล้กันยังมีศาลเจ้าพ่อพญาแล บูรณะใหม่แล้ว รอต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทุกวัน และไหว้พระธาตุชัยภูมิ ขอความสุขให้ครอบครัว ความสำเร็จในหน้าที่การงาน แล้วยังสามารถมองวิวทิวทัศน์อันสวยงามของชัยภูมิทั้งจังหวัดได้ด้วย
โปรแกรมที่
2
เที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน มีน้ำตลอดทั้งปีเย็นชุ่มฉ่ำ
และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เดินทางต่อเนื่องไปถึง “มอหินขาว”
แหล่งศึกษาทางธรณีวิทยา ใกล้ ๆ กันจะมีจุดชมวิว “ผาหัวนาค”
สวยงามและเป็นลานชมดาวในค่ำคืนท้องฟ้ามืดหรือ Dark
Sky กำลังเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยและนานาชาติ
สำหรับ
“ของฝาก-ของที่ระลึก” ในแพกเกจท่องเที่ยวชัยภูมิทั้ง 2
โปรแกรม
จะมี “หม่ำชัยภูมิ” ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นรสชาติอร่อย
จะนำมาวางขายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
ผอ.รุ่งทิพย์ กล่าวว่า ตลอดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย มีสินค้าท่องเที่ยวตามคอนเซ็ปต์พร้อมขาย 5 Must Do in Korat ได้แก่ 1.Must Taste เมนูอาหารจานเด็ด “ผัดหมี่โคราช” จากร้านมิชลิน กับ หม่ำชัยภูมิ 2.Must Try นำเสนอกิจกรรมความท้าทายและสร้างความสนุกคือ การท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ จะจำลองสนามกอล์ฟมาไว้ในงาน 3.Must Buy มีผ้าไหมขึ้นชื่อ อย่าง ไหมอำเภอปักธงชัยขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI แล้วยังมีอีกหลายอำเภอเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมคือ บัวลาย สีดา บัวใหญ่ พบสินค้าดังกล่าวได้ในงานและเป็นหนึ่งใน ซอฟท์ พาวเวอร์ ด้วย เช่นเดียวกับ “ชัยภูมิ” มี “ผ้าขิต” จากอำเภอหนองบัวแดง มีลายเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ ลายขอนารี ลายตัว S หรือ ลายไข่มดแดง และอำเภอภูเขียว ทำมาจากผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ และผ้าขิต Gen Z นำไปทำหมอน หรือผ้าคลุมศรีษะนาคที่กำลังบวชเป็นพระถือเป็นผ้าสิริมงคล
4.Must Seek กิจกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิเตรียมจัด “เมษายน” ชวนร่วมเทศกาลเที่ยวสงกรานต์ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน “พฤษภาคม” ไปงานแห่นาคโหดอำเภอภูเขียว เป็นงานประเพณีสืบทอดมายาวนาน และงานประเพณี “บุญเดือน 6” นักท่องเที่ยวจะตื่นตากับพลังศรัทธาของคนชัยภูมิทั้งจังหวัดพร้อมใจกันแต่งชุดผ้าพื้นเมืองมาร่วมงาน แล้วทำพานบายศรีถวายเจ้าพ่อพญาแล ทำพิธีแห่รอบเมือง ที่ได้อนุรักษ์ไว้
ททท.สำนักงานนครราชสีมา เชิญชวนคนไทยทั้งประเทศเดินทางมาสุขทันทีที่เที่ยวนครราชสีมา และชัยภูมิ มีงานเทศกาลดี ๆ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อาหารถิ่นรสชาติอร่อย และวิถีเสน่ห์อีสาน ทั้ง 2 จังหวัด มีสถานที่และเรื่องราวน่าค้นหารอต้อนรับทุกคน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับ3 ต่อฟรีสถานะSCALET
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ฝากถึงนักช้อปห้ามพลาด! ควันหลงเดือนแห่งความรัก สมัครสมาชิกฟรีได้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ นี้ ช้อปง่าย ได้ทุกดีล
ต่อที่ 1 ยังไม่เป็นสมาชิก สมัครฯฟรี! รับสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY
ต่อที่ 2 สมัครฯปั๊บ รับทันที! รับฟรี คูปองส่วนลด 10%
ต่อที่ 3 ช้อปปั๊บ รับเพิ่มฟรี! กิฟท์ โวเชอร์ มูลค่า 1,000 บาท พร้อมช้อปให้ครบ 20,000 บาท (สุทธิ) กับรับฟรี! สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET ในวันถัดไป
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา
และภูเก็ต เปิดให้สมาชิกรับสิทธิ์ดี ๆ เป็นควันหลงเดือนกุมภาพันธ์ น2568 ดูรายละเอียดเพิ่มที่
: https://bit.ly/4hqxdjK
ข่าวที่ 2 -พูลแมนคิงเพาเวอร์รางน้ำขายจัดประชุม20ห้อง3แพกเกจ
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ นำเสนอ “แพคเกจงานประชุมในกรุงเทพ” โดดเด่นประทับใจในกรุงกับห้องประชุมล้ำสมัยถึง 20 แห่ง บอลรูม 2 แห่ง พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญซึ่งคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ให้ทุกงานของคุณประสบความสำเร็จอย่างไร้ที่ติ
“คุ้มค่าที่สุด”
ด้วยพื้นที่จัดการประชุมทันสมัยโดยเฉพาะบอลรูมขนาดใหญ่ 2 ห้อง รองรับแขกได้ถึง 600 คน
“อุปกรณ์พร้อม” ทุกห้องประชุมเชื่อมต่ออุปกรณ์ทันสมัยดูแลครบวงจรด้วยผู้เชี่ยวชาญจัดงานประชุมและทีมไอที
“อาหารเบรครสเลิศ” โดย “เชฟโดมินิค แฟร์โชด์” หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ จัดเตรียมเบรคพร้อมมื้อเที่ยงหรือเย็นแสนประทับใจไว้ต้อนรับผู้เข้าประชุมทุกคนที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก
“ที่ประชุมส่วนตัว” หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลที่กำลังมองหาสถานที่ส่วนตัวรับแสงธรรมชาติ ทางพูลแมน คิง เพาเวอร์ มีพื้นที่วิวสวนสวยทันสมัยทำงานไปพักผ่อนได้ด้วยที่ “The Sixth”
“อีเทอร์นิตี้ บอลรูม” รองรับการจัดสัมมนาสำคัญจะต้องชื่นชมกับแสงธรรมชาติขนาด 470 ตรม. มาพร้อมครัวเปิดขนาดใหญ่ เชฟใหญ่พร้อมรังสรรค์เมนูเสิร์ฟถึงโต๊ะให้ผู้เข้าร่วมได้รับประทานอาหารชั้นเลิศ
“ราคาสบายกระเป๋า” โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
จัดเตรียมราคาให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจให้เลือกใช้บริการได้ 3 แพกเกจ ได้แก่
แพกเกจที่ 1 ประชุมเต็มวัน 1,800 บาทสุทธิ/คน รวม คอฟฟี่ เบรค 2 มื้อ และอาหารกลางวัน 1 มื้อ
แพกเกจที่ 2 ประชุมครึ่งวัน 1,600 บาทสุทธิ/คน รวม คอฟฟี่ เบรค 2 มื้อ และอาหารกลางวัน 1 มื้อ
แพกเกจที่ 3 ประชุมครึ่งวัน 2,500 บาทสุทธิ/คน รวม คอฟฟี่ เบรค 2 มื้อ และอาหารเย็น 1 มื้อ
แพคเกจอีเว้นท์และงานประชุมในกรุงเทพฯรวมถึง
:
- ชุดรับรองชาและกาแฟเมื่อผู้เข้าประชุมเดินทางมาถึง
- เมนูอาหารว่างรวมถึงขนมอบแบบต่างๆ
ชา กาแฟ และน้ำผลไม้
- โปรเจคเตอร์
LCD และหน้าจอขนาดใหญ่
- เครื่องเล่น
DVD และอินเตอร์เนตไร้สายความเร็วสูง
- แท่นโพเดียม
(podium) พร้อมไมโครโฟนและระบบเสียง
- ฟลิปชาร์ตและปากกาไวท์บอร์ด
- น้ำดื่มและมิ้นต์สำหรับผู้ร่วมประชุม
- หน้าจอบอกทางมายังห้องประชุมภายในโรงแรม
- อุปกรณ์การเขียน
ที่รองเขียนและกระดาษ
การเตรียมอุปกรณ์หรือพื้นที่เพิ่มเติม :
- หากลูกค้าจะนำอุปกรณ์ภาพและเสียงมาติดตั้งเพิ่มเติมแจ้งทีมงานได้
ราคาค่าเช่าอุปกรณ์จะรวมอยู่ในแพ็คเกจประชุมแล้ว
- ค่าบริการไฟฟ้า
150 บาทต่อแอมป์
ข่าวที่ 3-ททท.งัด3โครงการปั้นสงขลาเที่ยวได้ทั้งปีรายได้โต10%
นายนิธี
สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท.ขานรับนโยบายรัฐบาลเดินหน้าดันสงขลาสู่เมืองท่องเที่ยวระดับโลก
โดยใช้จุดแข็งของพื้นที่ ได้แก่ “ศูนย์กลางการเดินทางของภาคใต้ตอนล่าง -
เมืองพหุวัฒนธรรม - เมืองสองทะเล” ต่อยอดและส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2568
ชวนสัมผัสเสน่ห์สงขลา เสริมทัพด้วย 5 Must Do in Songkhla ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนและรายได้ 8-10 % ด้วยไฮไลต์ 3 โครงการ ได้แก่
สนุกทั้งปีที่สงขลา, Exploring Songkhla และ Beyond Expectations เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวผ่านอีเวนต์และกิจกรรมส่งเสริมการขายขยายฐานตลาดใหม่
2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) กลุ่มที่
2 ตลาดสนใจท่องเที่ยวเฉพาะ (Niche)
@ท่องเที่ยวสงขลาปี68รายได้ต้องโต8-10%
โดยภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวสงขลาปี
2568 ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8-10 % ปี 2567 พบว่ามีผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งสิ้น
6,998,664 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ราว 24.53 %
แบ่งเป็นคนไทย 3,135,386
คน-ครั้ง และต่างชาติ 3,863,278 คน-ครั้ง
สร้างรายได้ 50,286.40 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 15.81 %
ปี 2566
มีนักท่องเที่ยวไทย 21,838.32 ล้านบาท
และต่างชาติ 28,448.08 ล้านบาท มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 75.81
% สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวสงขลาสูงสุดเรียง
5 อันดับ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ สปป.ลาว
และสาธารณรัฐประชาชนจีน
@ชูขาย2จุดเด่น “พหุวัฒนธรรม-แหล่งเที่ยวยั่งยืน
ททท.พร้อมขานรับนโยบายรัฐบาลหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
ครั้งที่ 1/2568 เสร็จสิ้นลง มีมติให้เดินหน้าขับเคลื่อนเมืองท่องเที่ยวสงขลาเพื่อเชื่อมโยงไปสู่เมืองน่าเที่ยวอื่น
ๆ ในภูมิภาคใต้ เพื่อเป็นฐานพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ผลักดัน “สงขลา”
เมืองศูนย์กลางเดินทางของ “ภูมิภาคภาคใต้ตอนล่าง” ที่มีจุดเด่น 2 เรื่อง
คือ
จุดเด่นที่
1 “ต้นทุนทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น”
เป็นเอกลักษณ์และจุดหมายปลายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย
จุดเด่นที่
2 ได้รับการประกาศเป็น “แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100
แห่งของโลก”
และการผลักดันสงขลาสู่เมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
จะยิ่งทำให้เมืองมีโอกาสพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ที่ ททท.จะนำท่องเที่ยวของภูมิภาคตลอดจนปรับใช้ทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่มีอยู่เดิมให้แสดงศักยภาพได้เต็มขีดความสามารถมากขึ้น
@ททท.ภาคใต้ชู3 โครงการสงขลาเที่ยวได้ทั้งปี68
นางสาววัจนันท์
ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. กล่าวว่า
ททท.วางแผนส่งเสริมการตลาดในพื้นที่สงขลาด้วย 3 โครงการหลัก
ประกอบด้วย
โครงการที่
1 สนุกทั้งปีที่สงขลา
ส่งมอบประสบการณ์อันสุดพิเศษในสงขลา
กระตุ้นท่องเที่ยวตลอดทั้งปีด้วยอีเวนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานในพื้นที่
อาทิ Go Songkhla by Tuk Tuk
โครงการที่
2 Exploring Songkhla ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในสงขลา
ระหว่างพื้นที่หลักคือ อำเภอหาดใหญ่ไปยังพื้นที่รองอื่น
ๆ ด้วยกิจกรรมโปรโมชั่นร่วมกับผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว เจาะ 5 กลุ่ม
ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย 2.กลุ่มขับรถเที่ยว
3.กลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิม เช่น กิจกรรม Songkhla
HOT ออกแบบเส้นทางนำเสนอขายในราคาสุดพิเศษ
พร้อมมอบส่วนลดและชุดของที่ระลึก
โครงการที่
3 Beyond
Expectations นำเสนอ 3 กิจกรรมย่อย
ได้แก่
กิจกรรมที่
1 แคมเปญ Go South Multiverse เอาใจนักท่องเที่ยวสายมู
เที่ยวใต้เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ ปี 2568 นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักและใช้บริการสถานประกอบการเชิงสุขภาพและสปาที่เข้าร่วมแคมเปญ
ตั้งแต่วันนี้-31 มีนาคม 2568 ยอดค่าใช้จ่าย
1,000 บาท ต่อ 1 ใบเสร็จ
รับของที่ระลึกวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
กิจกรรมที่
2 Collect
& Go กระตุ้นการเดินทางของเที่ยวจังหวัดสงขลาในรูปแบบ Travel
Passport ตามล่าตราแสตมป์ 25 จุด
ทั่วเมืองหาดใหญ่- สงขลา รับของที่ระลึกจาก ททท. หาดใหญ่ ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้-31
มีนาคม 2568
กิจกรรมที่
3 Amazing
Songkhla Love Wins ฉลองสมรสเท่าเทียมในเดือนแห่งความรัก
มอบส่วนลดมูลค่า 300 บาท
ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ารับบริการสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐานการตรวจประเมินและได้รับรางวัล
Nuad Thai Premium และ Thai World Class Spa จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
(สบส.) ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2568
ททท.
ตั้งใจขยายกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ เช่น กลุ่มเรือยอร์ช กลุ่ม Self-Drive กลุ่มคาราวาน
กลุ่ม Incentive และ MICE เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีอัตราการใช้จ่ายสูง
และมีแผนผลักดันการขยายเส้นทางการบินเชื่อมโยงภูมิภาคจากท่าอากาศยานต่างๆ ในไทย เช่น
ท่าอากาศยานอุดรธานี
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าถึงสงขลาของนักท่องเที่ยวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
สปป.ลาว
ข่าวที่
4-บางจากเปิดพิพิธภัณฑ์บางน้ำผึ้งแหล่งท่องเที่ยวใหม่
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ทำพิธีเปิด “พิพิธภัณฑ์วัดบางน้ำผึ้งนอก” อำเภอพระประแดง
จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องในโอกาสบางจากครบรอบ 40 ปี
ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 โดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย
ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร ให้เกียรติเป็นประธานฝ่ายสงฆ์
ทางกลุ่มบางจากฯ
ได้บูรณะปรับปรุงใหม่ “พิพิธภัณฑ์วัดบางน้ำผึ้งนอก” แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของศาลาการเปรียญ พัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปและโบราณวัตถุ
ร่วมอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒธรรม
พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและสถานที่พักผ่อนที่มีคุณค่าทางจิตใจ
อีกภูมิสัญลักษณ์ในเมืองไทยที่มีลักษณะเด่นหรือความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ที่ตั้ง
“วัดบางน้ำผึ้งนอก” อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่าอายุกว่า 350 ปี จากหลักฐานศิลาจารึกว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายประมาณปี พ.ศ.2210 บางจากจึงได้บูรณะและจัดทำพิพิธภัณฑ์วัดบางน้ำผึ้งนอกให้เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ จัดสร้างและสมโภชพระพุทธรูป พระมธุธรรมธารา
เพื่อประดิษฐานภายในวิหารหลังเก่า ต่อเนื่องจากปลาย 2567 ทำพิธีพุทธาภิเษกไปก่อนเรียบร้อยแล้ว
สำหรับพิธีเปิด
“พิพิธภัณฑ์วัดบางน้ำผึ้งนอก” จังหวัดสมุทรปราการ
มีพระผู้ใหญ่ให้เกียรติเข้าร่วมด้วย คือ พระเทพสมุทรวัชราจารย์
เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการและเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง
พระเทพวชิรโกศล รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานครฯ รองแม่กองบาลีสนามหลวง เจ้าอาวาสวัดบางนานอก
พระราชสมุทรวัชราจารย์ เจ้าอาวาสวัดกลาง วรวิหารพระวชิรธาดา เจ้าคณะอำเภอพระประแดง
และเจ้าอาวาสวัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร พระครูปัญญาธีรานุวัตร ดร.
เจ้าอาวาสวัดบางน้ำผึ้งใน พระครูสังฆรักษ์ วีระพร จนฺทวโร
เจ้าอาวาสวัดบางน้ำผึ้งนอก คณะสงฆ์ผู้ร่วมพิธี
โดยมีนายชัยวัฒน์
ซีอีโอกลุ่มบางจากเป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ร่วมกับคณะผู้บริหารและพนักงานกลุ่มบริษัทบางจาก และเรืออากาศตรี เชิดพงษ์
เกตุจินดา ไวยาวัจกร วัดบางน้ำผึ้งนอก นายมนัส รัศมิทัต
อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ คณะผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตำบลบางน้ำผึ้งและตำบลบางกอบัว อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางน้ำผึ้งนอก ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางน้ำผึ้งใน
ผู้นำชุมชน ประชาชนในพื้นที่
ร่วมสร้างพลังดีให้เกิดขึ้นในชุมชนเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดผู้คนเข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตอันงดงามของชุมชน
สร้างรายได้พื้นที่โดยรอบเติบโตต่อไป
ข่าวที่ 5 -บางจากส่งมอบไฟฟ้าแสงอาทิตย์สนามเบญจกิติกทม.
นางกลอยตา
ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ร่วมกับ นางปรียดา วุฒิภักดี
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)
ดำเนินงานในนามของกลุ่มบริษัทบางจาก
ส่งมอบระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา กำลังการผลิต 100 กิโลวัตต์ เพื่อใช้ที่อาคารศูนย์กีฬาเบญจกิติ
โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบ
พร้อมเยี่ยมชมพื้นที่ติดตั้งและระบบจ่ายไฟ ที่ศูนย์กีฬาเบญจกิติ สวนเบญจกิติ
กรุงเทพฯ
สำหรับ
“ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์” ของบางจากได้ติดตั้งเรียบร้อย
เริ่มใช้งานมาแล้วประมาณ 1 เดือน
ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าให้กรุงเทพมหานคร และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทบางจาก
ที่ได้ทำภารกิจเพื่อสังคมสร้างสังคมยั่งยืน
และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้ให้มากที่สุด
ช่วงที่ 2 ไปเที่ยว “ระยอง” กันดีกว่า เดือนมีนาคมนี้มี 2 ความสนุกมาชวนไปเช็คอิน
งานแรก เทศกาล “ระยอง ลอง บีช เฟสติวัล แหลมแม่พิมพ์” กับ “Let's Sea Rayong Stay in Love 2025”
เช็คอินพักโรงแรมที่เข้าร่วมรายการกับ ททท.ได้ลด 400 บาท แล้วฟัง “5 วิธี” รับมือไข้หวัดใหญ่ และข่าวปัง
ๆ ข่าวแรก “AOT ลั่นทำรายได้โตต่อนเนื่อง 5 ปีหน้า” ทำเงินเพิ่ม 3 โครงการ ข่าวที่สอง
“บัลโคนี่ เลาจน์” โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
เปิดใหม่จิบชาไทยครบเครื่องยามบ่าย 1 มี.ค.68
ท่องเที่ยว
–เที่ยว“ระยอง”ลองบีชเฟสต์-สเตย์อินเลิฟโรงแรมลด400บาท
ได้เวลาออกเดินทางไปสุขทันทีที่เที่ยว
“ภาคตะวันออก” ตั้งเข็มไมล์ปักหมุดสนุกรับต้นปีท่องเที่ยวได้หลากหลาย
สร้างประสบการณ์ Grand
Moment เที่ยวเมืองไทย เที่ยวง่าย เที่ยวได้ตลอด 365 วัน
พิกัดที่ 1 เที่ยวเทศกาล "Rayong Long Beach
Festival 2025 @ Leammaephim" สายมิวสิค มารวมตัวกันปลดปล่อยความสุขใน “เทศกาลดนตรีริมชายหาด”
ฟรี คอนเสิร์ต
ต่อเนื่อง 3 วัน เริ่มวันแรก
28 กุมภาพันธ์ -
2 มีนาคม
2568 บริเวณหาดแหลมแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง พบกับทัพศิลปินดังยกวงมาทักทายแฟนคลับให้สมการรอ
คอย ชวนทุกคนออกมาสัมผัสความสนุกเต็มอิ่มกับอ้อมกอดอันอบอุ่นของธรรมชาติริมชายหาดแหลมแม่พิมพ์
แถมมีอาหารการกินมาให้ชิมช้อปละลานตา พลาดได้ไงกับเจ้าถิ่นเมนูทะเลหลากรสชาติ
และเปิดให้ร่วมกิจรรมมากมาย
“คิวศิลปิน”
ที่จะขึ้นเวทีต่อเนื่องทั้ง 3
วัน วันแรก 28 กุมภาพันธ์ : Yes'sirday
พาราด็อกซ์ เรสโทรสเป็คท์ วันที่สอง
1 มีนาคม : ฟูล สเต็ปต์ส หนุ่ม กะลา เก็ตสึนาวา วันที่สาม 2
มีนาคม : โจอี้ บอย สวีท มูลเล็ท และLAXYLOXY x SAMBLACK
พิกัดที่
2 ร่วมโครงการเที่ยวสบาย
ๆ กับ “Let's Sea Rayong Stay in Love 2025” โรงแรมรวมพลังกันมอบส่วนลดให้นักท่องเที่ยวมาพักกายสบายใจเมื่อจองพัก 2 คืนขึ้นไป
รับส่วนลดจากโรงแรมที่เข้าร่วมรายการจองแต่ละครั้งรับทันที 400 บาท /ครั้ง ททท.สำนักงานระยอง เปิดให้สอบถามได้ช่วงวันทำการที่โทร. 038-655-420
เช็ครายชื่อปักหมุดจองที่พักตามรายชื่อโรงแรมที่พร้อมมอบส่วนลดให้นักท่องเที่ยวที่มี
“บัตรประชาชนอยู่นอกพื้นที่จังหวัดระยอง”
กระจายรายได้ตลอดการพักผ่อนตามสถานที่ยอดนิยมอย่างสบายกายใจ 5 พื้นที่
คือ
• “อำเภอเมืองระยอง” มี ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส
, ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีท, สตาร์ คอนเวนชั่น โฮเทล, โนโวเทล สตาร์ คอนเวนชั่น ,
ฮิลตัน การ์เด้น อินน์, ตำนานป่ารีสอร์ต, แทมารีนด์ การ์เด้น โฮเทล, โกลเด้น ซิตี้
, คามิโอ แกรนด์, คลาสสิค คามิโอ, แคนทารี เบย์, ฟอร์จูนแสงจันทร์ บีช และ Fuse โฮเทล
• “อำเภอแกลง”มี ครุยส์ เดอะ พูล แอคเซส,
อักษร,เดอะ ไวทาลิตี้ คอลเลคลชั่น, พิมพ์ธาราบีช รีสอร์ท, บาลีละไม รีสอร์ท และเมอร์เคียว ระยอง ลมทะเล วิลลาร์
&รีสอร์ท
• “อำเภอบ้านฉลาง” มี แคนทารี บ้านฉาง ,
อิสติน รีสอร์ท, บีซีพี โฮเทล,
• “เกาะเสม็ด” มี เสม็ด แกรนด์ วิว รีสอร์ท และ อ่าวช่อ แกรนด์วิว ไฮด์อะเวย์ รีสอร์ท
นักท่องเที่ยวที่จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดที่พักในระยอง
400 บาท/บุ๊กกิ้ง
จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.นักท่องเที่ยวจะต้องมีที่อยู่ตามบัตรประชาชน
“นอกเขตจังหวัดระยอง” 2.
สแกน QR CODE ใช้ “สิทธิ์”
จากสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ เริ่มตั้งแต่วันนี้– 31 กรกฎาคม 2568
หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด 3. QR
CODE ใช้เพื่อลงทะเบียนรับส่วนลดเมื่อซื้อแพ็กเกจหรือเข้าพักโรงแรมที่ร่วมโครงการเท่านั้น
4. ส่วนลดดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยน หรือ ทอนเป็นเงินสดได้
สุขภาพ –5วิธีป้องกันรับมือไข้หวัดใหญ่ไม่ให้น่ากลัวอีกต่อไป
วิธีที่ 1 เตรียมรับมือด้วยการ “ฉีดวัคซีน” ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลทั่วไป
วิธีที่
2 ต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ
5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
วิธีที่ 3 หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่สักระยะ ป้องการการระบาด
และแพร่กระจายของเชื้อไวรัสจากคนหนึ่ง ไปยังอีกคนหนึ่ง
วิธีที่ 4 ล้างมือให้สะอาด ก่อนทานอาหาร หรือหยิบจับอาหารขึ้นมาทาน
วิธีที่ 5 ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือเมื่อจามหรือไอ
ควรใช้กระดาษทิชชู่ปิดปาก แล้วขยำทิ้งลงถังขยะ และควรหยุดเรียน หยุดงาน
เพื่อรักษาตัวให้หายโดยเร็ว และไม่เป็นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสให้คนอื่น
การปฏิบัติตัวขั้นพื้นฐานให้ครบทั้ง 5 ข้อ ก็จะสามารรับมือกับไข้หวัดใหญ่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป
สิ่งสำคัญคืออย่างประมาทรีบทำอย่างแรกก่อนเลยคือขอรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านนั่นเอง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–AOTลั่นทำรายได้โตยาว5ปีหน้าปั๊มเงินเพิ่ม3โครงการ
ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า AOT มีความมั่นใจรายได้จะเติบโตต่อเนื่อง
ตามคาดการณ์แนวโน้มจะมีจำนวนผู้โดยสารและโครงการอื่นเพื่อเพิ่มรายได้แปรผันเชิงบวกตามอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
ตามคาดการณ์เติบโตในอนาคตที่สอดคล้องกับการพัฒนาท่าอากาศยาน AOT ทั้ง 6 แห่ง ในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
ในอีก 5 ปีหน้า จะมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น
170 ล้านคน/ปี อีก 10 ปีหน้าจะมีผู้โดยสาร
210 ล้านคน/ปี
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส
1 ปีงบประมาณ 2568 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2567 AOT มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 5,344.30
ล้านบาท เพิ่ม 17.12 % สร้างรายได้รวม 17,906.01
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4 %
รวมทั้งช่วงตารางบินฤดูร้อนปี
2568 สายการบินนานาชาติยื่นขอเวลาการบินล่วงหน้า (time
slot)
1.มีเที่ยวบินรวม 543,932 เที่ยว เพิ่มขึ้น 29.7
% แบ่งเป็น เที่ยวบินในประเทศ 225,905 เที่ยว
เพิ่มขึ้น 29.7 %เที่ยวบินระหว่างประเทศ 318,027 เที่ยว เพิ่มขึ้น 29.6 %
2.มีผู้โดยสารรวม 87,801,146 คน เพิ่มขึ้น 31.2
% แบ่งเป็น “ผู้โดยสารในประเทศ” 32,844,933 คน
เพิ่มขึ้น 33.0 % ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 54,956,213 คน เพิ่มขึ้น 30 % (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568)
ดร.กีรติ
ย้ำว่า AOT มั่นใจด้วยปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวยังคงแข็งแกร่งสะท้อนศักยภาพการเติบโตในอนาคตสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการบินใหญ่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีแผน “เพิ่มรายได้แหล่งใหม่” ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ไฮไลต์ 3 โครงการหลัก ดังนี้
โครงการที่
1 พัฒนาตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
ปี พ.ศ.2562 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ
AOT ประกอบไปด้วย 4 โครงการย่อย ได้แก่
• โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น
การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องและโครงการคลังสินค้า
ที่สุวรรณภูมิ เพิ่มผู้ประกอบรายที่ 3 เดือนมีนาคม 2568 เตรียมประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมคัดเลือกให้บริการ
• โครงการให้บริการระบบไฟฟ้า
400 Hz และ PC-Air
• โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน
(Maintenance Repair and Overhaul: MRO)
• โครงการให้บริการการซ่อมขนาดเบาอากาศยาน
(Line Maintenance) ซึ่งเป็นโครงการที่จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี
2569 เป็นต้นไป
โครงการที่
2 พัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อสร้าง Junction Building และอาคารจอดรถ
ควบคู่พื้นที่ให้บริการโรงแรมเป็นจุดเชื่อมเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากทางอากาศไปยังระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงและรถสาธารณะต่าง
ๆ
โครงการที่
3 พัฒนาที่ดินแปลงบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 723
ไร่ (Certify Hub และ Airport Logistics Park) ประกอบด้วย ศูนย์จัดการสินค้าเกษตรแบบครบวงจร ยกระดับเป็นโลจิสติกส์ พาร์ค
สร้างขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการขนส่งสินค้าทางอากาศครบวงจร
โดยมีแผนลงทุนขยายท่าอากาศยานต่อเนื่อง
เพื่อเพิ่มศักยภาพสร้างรายได้จาก “ผู้โดยสารและกิจกรรมเชิงพาณิชย์” ด้วยการลงทุนเพิ่มพื้นที่ในอาคารผู้โดยสารภายท่าอากาศยานหลังเดิม
และแห่งใหม่ ได้แก่
โครงการที่
1 พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็นปีละ 150 ล้านคน จากปัจจุบัน 65 ล้านคน/ปี
ประกอบด้วย การลงทุน 3 โครงการ ได้แก่
• โครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกพื้นที่
100,000 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคน/ปี
• โครงการพัฒนาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้
(South Terminal) รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก
70 ล้านคน
• โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่
4 รองรับเที่ยวบินเพิ่มได้ถึง 120 เที่ยว/ชั่วโมง
โครงการที่
2 พัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) รองรับผู้โดยสาร 40 ล้านคน/ปี ประกอบด้วย
• โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
• โครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม
โครงการที่
3 ก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ พร้อมรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 60 ล้านคน/ปีประกอบด้วย ใน 2 พื้นที่หลัก ได้แก่
• โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานภูเก็ต
(ทภก.) แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานอันดามัน
รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 40 ล้านคน
• โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเชียงใหม่
(ทชม.) แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานล้านนา
รองรับปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20 ล้านคนต่อปี
ข่าวที่สอง
–“บัลโคนี่ เลาจน์”อินเตอร์คอนเปิดชาไทยยามบ่าย1มี.ค.
โรงแรม
อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ แนะนำนบริการ “ชุดน้ำยายามบ่ายชาไทย”
ชุดใหม่ที่ บัลโคนี่ เลาจน์ ในบรรยากาศอันอบอุ่นท่ามกลางโคมไฟขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางโถงต้อนรับของโรงแรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพวงมาลัยไทย
ให้บริการทุกวัน เริ่ม 1 มีนาคม -30 มิถุนายน 2568 เวลา
14.30 -17.30 น. ราคาชุดละ 1,100++ บาท/คน และราคาชุดละ 1,990++ บาท/ 2 คน
“ชุดน้ำชายามบ่ายชาไทย”
จะมี “ขนมคาวหวาน” สร้างสรรค์โดยใช้วัตถุดิบชาไทยเป็นส่วนผสมหลัก
เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยและอังกฤษได้อย่างลงตัว
“ขนมคาว”
น่ารับประทาน อาทิ แซนด์วิชมะเขือเทศชีสและน้ำผึ้งทรัฟเฟิล
แซนด์วิชไก่รมควันมายองเนสมัสตาร์ด พายปลาแซลมอนและต้นกระเทียมพร้อมด้วยเชดดาร์ชีส
ที่เข้ากันกับชาได้เป็นอย่างดี
“ขนมหวาน”
ก็ล้วนมีส่วนผสมของชาไทยอย่างลงตัว เช่น มาการองชาไทย ครีมบรูเล่ชาไทย เค้กทีรามิสุชาไทย
มีส่วนผสมหลักเป็นมาสคาโปนครีมชาไทย
ยังมีมูสเค้กชาไทยน้ำตาลทรายแดง
ตัดรสหวานด้วยแยมสตรอว์เบอร์รี่
และชูครีมชาไทย โรยหน้าด้วยคาเวียร์ที่ทำจากน้ำตาลทรายแดง
“พิเศษ” ปิดท้ายชุดน้ำชายามบ่ายด้วย สโคนรสชาไทย
เสิร์ฟพร้อมแยมเบอร์รี่หลายชนิด แยมส้ม และครีมชาไทยหอมละมุนสุดแสนจะลงตัว
โทร +66 (0) 2 656 0444 อีเมล
dining.bkkhb@ihg.com หรือ InterContinental.com/Bangkok
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น