บมจ.ท่าอากาศยานไทย "AOT" โชว์ผลงาน 3 เดือนแรก ปี68 ทำกำไร 5,344.50 ล้านบาท
AOT 3 เดือนแรกปี’68ฟันกำไรทะลัก5,344 ล้าน
ยกชั้นขึ้นฮับบินลั่น 5 ปีหน้าติด 1 ใน 20 สนามบินโลก
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #
AOT อู้ฟู่
3 เดือนแรกปี’68
กำไรสุทธิ 5,344.30
ล้านบาท เพิ่ม 17.12%
กวาดรายได้รวม 17,906.01
ล้านบาท โต 13.41%
มีผู้โดยสารเพิ่ม
16.41% หนุนท่องเที่ยวและนโยบายรัฐ
เดินหน้ายกชั้นสู่ฮับบินโลกลั่นภายใน5 ปีหน้าติด 1 ใน 20 ดีที่สุดของโลก
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) "AOT"
ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) "AOT" กล่าวถึงรายงานผลประกอบการงวด 3
เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง
เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
@AOT โชว์3เดือนแรกปี68 ฟันกำไรสุทธิ
5,344 ล้าน
• AOT มี “กำไรสุทธิ”
รวมทั้งสิ้น 5,344.30 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน 781.27 ล้านบาท
คิดเป็น 17.12
• มีรายได้รวม
17,906.01 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 13.41 % เป็นรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น
1,956.27 ล้านบาท
คิดเป็น 12.45 % แบ่งเป็น
•รายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน
8,804.42 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 1,727.76 ล้านบาท
คิดเป็น 24.41 % ปัจจัยหลักมาการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจำนวนเที่ยวบินเพิ่ม
19.05 %และผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น
21.52 %
• รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน
8,859.49 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 228.51 ล้านบาท
คิดเป็น 2.65 %
• มีค่าใช้จ่ายรวม
10,353.26 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 1,086.70 ล้านบาท หรือ 11.73
%
• “ปริมาณการจราจรทางอากาศ”
ท่าอากาศยาน AOT ทั้ง 6 แห่ง งวด 3 เดือนแรกปีงบประมาณ
2568 (เดือนตุลาคม-เดือนธันวาคม 2567)
• มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวม
33.62 ล้านคน
เพิ่มขึ้น 16.41 % แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ
20.85 ล้านคน
ผู้โดยสารภายในประเทศ 12.77 ล้านคน
• มีจำนวนเที่ยวบินรวม
204,549 เที่ยวบิน
เพิ่มขึ้น 14.78 % แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
117,333 เที่ยว
และเที่ยวบินภายในประเทศ 87,216 เที่ยว
ดร.กีรติ
กล่าวว่าปัจจัยที่ทำให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเพราะการท่องเที่ยวฟื้นตัวตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจภาครัฐ
และวันหยุดยาว (Golden Week) ของนักท่องเที่ยวจีน
ซึ่งส่งผลเพิ่มขึ้นจากทั้งตลาดระยะไกล (Long Haul) และตลาดระยะใกล้ (Short Haul) รวมทั้ง AOT ยังสนับสนุนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐผ่านโครงการต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่งเสริมเส้นทางการบินใหม่ โดยลดค่าธรรมเนียมให้สายการบินที่เปิดเส้นทางใหม่
โครงการลดค่าเช่าสายการบินที่ย้ายไปใช้อาคาร SAT-1 และโครงการสนับสนุนการตลาดเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่และเชียงราย
โดยการให้เงินสนับสนุน 300 บาท/ผู้โดยสาร
1 คน กับเที่ยวบินที่เข้าเงื่อนไข
@AOTลั่น5ปีหน้าขึ้นฮับบินติด 1 ใน 20 สนามบินโลก
AOT ตั้งเป้าจะเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคและเชื่อมโยงการเดินทางทางอากาศแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ตามเป้ารัฐบาลต้องการยกระดับท่าอากาศยานของไทยภายใน 5 ปีหน้า ต้องขึ้นเป็น 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก
และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าใหญ่ที่สุดเป็น 1 ใน 10 ของโลก
สามารถแข่งขันในสากลอย่างยั่งยืน
รวมทั้งมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานให้บริการทั้ง 6
ท่าอากาศยาน ให้สะดวกสบาย รวดเร็ว
ปลอดภัย
พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวและการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (SAT-1) สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 65 จากปกติ 45 ล้านคน/ปี
การสร้างระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติและทางวิ่งเส้นที่ 3 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านคน จาก 30 เป็น 50 ล้านคน/ปี
รวมถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน 3 แห่ง
คือ เชียงใหม่ ภูเก็ต แม่ฟ้าหลวงเชียงราย และหาดใหญ่
@เน้นการลงทุนเพิ่มนวัตกรรมไฮเทคทั้ง 6 สนามบิน
แล้ว AOT
ยังได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางแบบใหม่
สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้โดยสาร เช่น การนำระบบเช็กอินอัตโนมัติ
ระบบตรวจจับและรับรู้ใบหน้าบุคคล (Biometric Identification) ระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (ABC) ที่รองรับ E-passport กว่า 90 ประเทศ
จะช่วยลดขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและเวลาในการตรวจหนังสือเดินทาง
ระบบการจัดการข้อมูลแบบ A-CDM และระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ
(SBG)
“แผนพัฒนาที่ยั่งยืน”
AOT ดำเนินงานโดยคำนึงถึง เศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อม ภายใต้มาตรฐานสากล เช่น DJSI, GRI และ PDPA ได้รับการจัดอันดับเป็นสมาชิก Dow Jones
Sustainability Indices (DJSI) ติดต่อกัน 6
ปี
และท่าอากาศยานภายใต้การดำเนินงานของ AOT ยังได้การรับรอง
Airport Carbon Accreditation ครบทั้ง
6 แห่ง
AOT มุ่งเป้าให้ท่าอากาศยานเป็น
Green Airport และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่
Net Zero ภายในปี 2587
ในระดับนานาชาติ อาคาร SAT-1 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังได้รับรางวัล
“ท่าอากาศยานสวยที่สุดในโลกปี 2567” จาก Prix
Versailles ของ UNESCO
ยืนยันความสำเร็จในการผสานเอกลักษณ์ไทยเข้ากับสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น