EBC Financial
Group วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยปี’68
เฝ้าระวัง !! “เงินเฟ้อ-นโยบายการเงิน-การค้าโลก”
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #EBCFinancialGroup
EBC Financial Group วิเคราะห์ความเคลื่อนไหว
“แบงก์ชาติ” ของไทย รับมือ 3 ปัจจัย “เงินเฟ้อ-นโยบายการเงิน-การค้าระดับโลกกระทบตลาดหลักทรัพย์”
แนะเฝ้าระวัง “ส่งออก” อ่อนแอ “ภาคท่องเที่ยว” เจอความท้าทาย “การลงทุน”
ยังไม่ฟื้น
EBC Financial Group ได้วิเคราะห์ปัจจัยเตรียมพร้อมการลงทุนปี 2568 ของเศรษฐกิจในไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน ความผันผวนของตลาดทั่วโลก แม้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับ “ควบคุมได้” แต่เศรษฐกิจกลับได้รับผลกระทบจากการ “ส่งออก” อ่อนแอ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาทางโครงสร้าง
@จับตาปัจจัยฟื้นตัวปี68 “เศรษฐกิจ-เงินเฟ้อ-นโยบายการเงิน”
“ปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ”
ของไทยกับการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และการท่องเที่ยว ทาง EBC ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจในประเทศ
ด้วยข้อมูลเชิงลึกด้าน “ภูมิทัศน์ทางการเงิน” กำลังเปลี่ยนแปลง พร้อมเสนอแนวโน้มและโอกาสการลงทุนปี 2568 จากอัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการเงินที่มีผลต่อเศรษฐกิจช่วงปลายปี
หลังจากปี 2567 ไทยมีอัตราเงินเฟ้อในประเทศต่ำกว่าเป้าหมาย ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งไว้ระหว่าง 1% ถึง 3% เมื่อธันวาคม 2567 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้น 1.23% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มจากเดือนพฤศจิกายน 0.95% เป็นการกลับเข้าสู่เป้าหมายครั้งแรกในรอบ 7 เดือน แม้ปลายปีจะปรับตัวขึ้นแต่ค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อตลอดปีที่ผ่านมายังคงอยู่ที่ 0.4% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี
“ธนาคารแห่งประเทศไทย” ใช้วิธีกับเงินเฟ้อด้วยวิธีลด “อัตราดอกเบี้ยนโยบาย”
เมื่อตุลาคม 2567 ลง 0.25% เหลือ 2.25% ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับจากกันยายน 2566 ส่วนธันวาคมตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นและความจำเป็นที่จะรักษาความยืดหยุ่นนโยบายเศรษฐกิจ
อีกทั้ง
ธปท. คาดการณ์ปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 2.9% และคาดอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงเป้าหมายที่ 1% - 3% คาดจะอยู่ที่ 1.1%
นักวิเคราะห์จาก EBC เตือนว่าไทยต้องเฝ้าระวัง 2 เรื่อง คือ
• 1.การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจมีข้อจำกัดจากความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ยังคงมีอยู่
โดยเฉพาะ “ภาคการส่งออก” ของไทยยังเผชิญปัญหาการค้าระหว่างประเทศชะลอตัว
• 2.การลงทุนจากภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัว ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอนด้วย
นายพิชัย ชุณหวชิร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยเน้นย้ำความสำคัญการร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจระหว่าง
“มาตรการการเงินและการคลัง” ในฐานะไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์เอเชีย
ส่วน “ตลาดการเงิน” ของไทยยังเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
โดย EBC มองว่า ปัจจัยภายในไทยและแรงกดดันจากภายนอก
สร้างทั้งความเสี่ยงและโอกาสกับนักลงทุน จึงเน้นย้ำถึงความสำคัญเรื่องตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด
ปี 2567 เศรษฐกิจไทยได้การท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศขับเคลื่อนการเติบโต
@มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ-ฟื้นฟูภาคท่องเที่ยว
ปี 2567 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวโดยได้แรงขับเคลื่อนจากการท่องเที่ยว
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 35.5 ล้านคน ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(SET) ต้องเผชิญกับความท้าทายต่อเนื่อง แต่ผลการดำเนินงานยังต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น
ๆ เกิดความไม่สงบทางการเมือง และนโยบายเศรษฐกิจไม่แน่นอน
ความไม่สอดคล้องระหว่างการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว กับผลประกอบการของตลาดหุ้น
สะท้อนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
รัฐบาลไทยรับมือกับความท้าท้ายเหล่านี้
โดยดำเนินมาตรการทางการคลังหลายด้าน เช่น
• โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 490,000 ล้านบาท พุ่งเป้าไปยังประชากรประมาณ 45 ล้านคน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2.9% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2568
• มาตรการภาษีที่ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดถึง 50,000 บาท
เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคต่าง ๆ
EBC ระบุว่ามาตรการเหล่านี้อาจช่วยสนับสนุนธุรกิจภาคสินค้าอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยว
รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ อาจเป็นโอกาสการเติบโตของนักลงทุนระยะยาว
ผลสำเร็จของมาตรการเหล่านี้ขึ้นอยู่ไทยที่จะดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ต่อจีนและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทย
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2568 คือ
ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้
อาจส่งกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและอาจทำให้จีนต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
หากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในจีนยังคงอ่อนแอ การท่องเที่ยวออกนอกประเทศอาจชะลอตัวลง
แม้จะมี
“ความกังวลเรื่องความปลอดภัย” ในภาคการท่องเที่ยว
แต่จีนยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทยมากที่สุดปี 2567 และสนับสนุนให้ทองคำมีบทบาทมากขึ้น
เนื่องจากอุตสาหกรรมทองคำยังได้รับความนิยมและมีส่วนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
นักวิเคราะห์จาก EBC แนะนำว่า
นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์การค้าอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากสินทรัพย์ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ
อาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
เพื่อตอบสนองความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
@EBC พร้อมส่งเสริมการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
EBC Financial Group บริษัทที่ให้บริการทางการเงินชั้นนำ
ซึ่งมีสำนักงานศูนย์การเงินสำคัญทั่วโลก พร้อมสนับสนุนนักลงทุน
โดยให้ความรู้ทางการเงิน มอบโอกาสลงทุนในอัตราแลกเปลี่ยน สินค้าโภคภัณฑ์
หุ้นสหรัฐฯ และดัชนี EBC มีเป้าหมายจะยกระดับความรู้และเตรียมพร้อมให้นักลงทุน
เพื่อให้ตัดสินใจลงทุนมีประสิทธิภาพ ในสภาวะเศรษฐกิจผันผวนเช่น เศรษฐกิจในเมืองไทย
@
EBC Financial Group ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร
EBC Financial Group ก่อตั้งขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงด้านบริการทางการเงินแบบครบวงจร
รวมถึงเป็นนายหน้าทางการเงิน
การจัดการสินทรัพย์และจัดการโซลูชันการลงทุนที่ครอบคลุม
มีการกระจายสำนักงานประจำการในศูนย์กลางทั่วทุกภูมิภาค เช่น ลอนดอน ซิดนีย์ ฮ่องกง
โตเกียว สิงคโปร์ หมู่เกาะเคย์แมน กรุงเทพฯ ลีมาสซอล
EBC ให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการหลากหลาย
สถาบันทั่วโลก นักลงทุน รายย่อย มืออาชีพ และสถาบัน เปิดโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศและผลิตภัณฑ์ต่าง
ๆ อย่าง ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น หรือดัชนีจากทั่วโลก
EBC ได้รับรางวัลมากมายได้การยอมรับในอุตสาหกรรมการเงิน
โดยยึดมั่นมาตรฐานทางจริยธรรมและการกำกับดูแลระหว่างประเทศสูงสุด EBC Financial Group (UK)
Limited ควบคุมโดย Financial Conduct Authority
(FCA) ของสหราชอาณาจักร EBC Financial Group (Cayman)
Limited ควบคุมโดย Cayman Islands Monetary Authority
(CIMA) ของหมู่เกาะเคย์แมนและ EBC Financial Group (Australia) Pty
Ltd ได้รับการควบคุมโดย Australia's Securities and
Investments Commission (ASIC) ของออสเตรเลีย
จุดแข็งของ EBC Group คือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในสถาบันการเงินมากว่า 30 ปี โดยผ่านการรับมือกับวงจรเศรษฐกิจสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่ข้อตกลงพลาซ่า จนถึงวิกฤตฟรังก์สวิสปี
2015 ส่งเสริมวัฒนธรรมความซื่อสัตย์ การเคารพ ให้ความสำคัญอันดับแรกเรื่องความปลอดภัยของสินทรัพย์ลูกค้า การมีส่วนร่วมของนักลงทุนจะได้รับการดูแลใส่ใจสูงสุด
รวมทั้งเป็นพันธมิตรในโครงการ United to Beat Malaria แคมเปญของมูลนิธิองค์การสหประชาชาติ
โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพด้านสุขภาพของประชากรทั่วโลกเริ่มทำมาตั้งแต่กุมภาพันธ์
2567 เป็นต้นมา ให้การสนับสนุนซีรีส์มอบความรู้แก่สาธารณะเกี่ยวกับ 'What Economists Really Do' โดยภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เพื่อทำให้เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องเข้าใจง่ายขึ้น
สามารถประยุกต์ใช้กับสังคมปัจจุบันเพิ่มความเข้าใจและให้ความสำคัญกับเศรษฐศาสตร์รอบตัวมากขึ้น ดูเพิ่มที่ https://www.ebc.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น