รุกตลาดน้องใหม่มาแรงBRICSปีละกว่า200งาน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TCEB #MICE
TCEB รุกตลาดไมซ์ปี68 ต่อยอด 5 ยุทธศาสตร์ ผนวกกลยุทธ์ 3S “Stay Longer-Spend More-See You Again”ปั๊มรายได้ 2 แสนล้าน 34 ล้านคน เล็งเจาะตลาดใหม่กลุ่มเศรษฐกิจ BRICS “บราซิล-รัสเซีย-อินเดีย-จีน-ศรีลังกา” จัดปีละกว่า 200 งาน
นายพสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ
(บอร์ด) ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมไมซ์เป็นเสาหลักที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
ในฐานะแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศและสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้
รวมทั้งเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ระดับโลกให้ไทย พร้อมเป็นทรัพย์สินสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในระยะยาว
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า
ปี 2568 พร้อมเปิด 5 ยุทธศาสตร์ ด้วยการใช้ดิจิทัลสร้างความหลากหลายอัตลักษณ์พื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไทย
ควบคู่กับกลยุทธ์ 3S – Stay Longer, Spend More, See
You Again เพิ่มขีดความสามารถไมซ์สร้างรายได้เข้าประเทศ ตามเป้าหมายกระตุ้นตลาดไมซ์ทั้งในและต่างประเทศ
34 ล้านคน สร้างรายได้ 2 แสนล้านบาท นำไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางไมซ์แห่งเอเชีย
ตลอดปีงบประมาณ 2568 ทีเส็บเดินหน้า 5 ยุทธศาสตร์สำคัญ (TCEBGO) ได้แก่
• ยุทธศาสตร์ที่ 1
สนับสนุนงานไมซ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายและดึงงานไมซ์ระดับโลก มุ่งเน้นตลาดศักยภาพใหม่
เช่น ตะวันออกกลาง และกลุ่ม BRICS รวมทั้งส่งเสริม Flagship
Industry เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ
• ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาสถานที่จัดงานด้วยความหลากหลายของอัตลักษณ์เชิงพื้นที่
และจัดกิจกรรมการตลาดเสริมสร้างประสบการณ์แบบ Authentic
Experience
เพื่อเพิ่มโอกาสและกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมไมซ์ครอบคลุมในทุกพื้นที่
• ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยนวัตกรรมและยกระดับขีดความสามารถด้วย
Thailand MICE One Stop Service ผ่านการใช้ Data
Driven Experience ลดขั้นตอน กฎระเบียบ และขยาย MICE Lane
Service ไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ เช่น สนามบินภูเก็ต เชียงใหม่
และอุดรธานี
• ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบและกระบวนการทำงานด้วย
Digital Transformation โดยใช้ Big Data และ Streamline Office
Operations เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้คล่องตัว
ทันสมัย และตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัล
• ยุทธศาสตร์ที่ 5 ยกระดับองค์ความรู้และแนวปฏิบัติการจัดงานอย่างยั่งยืน
โดยขับเคลื่อนตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, and
Governance) รวมทั้งออกแบบสถานที่จัดงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ปี 2568 ทีเส็บได้กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์สำคัญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายผลักดันไมซ์สร้างศักยภาพเศรษฐกิจ
พิชิตจุดหมายปลายทางไมซ์แห่งเอเชีย ด้วย 3 กลยุทธ์
• กลยุทธ์ที่
1
Stay Longer กระตุ้นระยะเวลาพำนักของนักเดินทางไมซ์ในประเทศไทยให้นานขึ้น
• กลยุทธ์ที่
2
Spend More กระตุ้นการใช้จ่ายของนักเดินทางไมซ์ให้มากขึ้น
• กลยุทธ์ที่
3
กระตุ้นนักเดินทางไมซ์เลือกที่จะนำงานกลับมาจัดในไทยอีกครั้ง (See You Again)
เพื่อให้แต่ละกลยุทธ์บรรลุวัตถุประสงค์ทีเส็บเตรียมดำเนินงานหลากหลายด้าน
เช่น
1.พัฒนา Pre & Post Tour 2.การสร้างการสร้างตลาดภายในงาน
(Market Place) จะดำเนินการควบคู่กับ 3.เจาะตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพ อย่างตลาดที่ไทยเพิ่งเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนคือกลุ่ม
BRICS (บราซิล-รัสเซีย-อินเดีย-จีน-ศรีลังกา) แต่ละปีจัดร่วม
200 งาน
ผอ.จิรุตถ์ กล่าวว่าทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ กับ 3 กลยุทธ์ ที่จะขับเคลื่อนปี 2568
จะนำมาต่อยอดจากปี 2567 ซึ่งสามารถดึงตลาดไมซ์ในและต่างประเทศมาไทย
25,350,288 คน สร้างรายได้ 148,341 ล้านบาท
มีมูลค่ารายได้ประชาชาติกว่า 309,000 ล้านบาท คิดเป็น 1.67%
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
“ไมซ์ไทยในเวทีโลก” มีความโดดเด่น ได้รับการจัดอันดับที่ดีจากองค์กรนานาชาติ
ดังนี้
“ด้านการประชุมนานาชาติ” สมาคมการประชุมนานาชาติ
“ICCA” จัดอันดับไมซ์ไทยเมื่อปี 2566 ติดที่ 26 ของโลก อันดับ 6 ของเอเชียแปซิฟิก อันดับ
2 ของอาเซียน โดยจัดงานประชุมตามเกณฑ์ ICCA ได้ถึง 143
งาน
“ด้านงานแสดงสินค้านานาชาติ” สมาคมการแสดงสินค้าโลก “UFI” ล่าสุดพบไทยมีพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าในอาเซียนติดอันดับ 1 ในเอเชียขยับขึ้นสู่อันดับ 4
แล้วทีเส็บยังได้พัฒนา “ดัชนีชี้วัดและการจัดอันดับ” ไทยเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์นานาชาติอันดับแรกในภูมิภาคเอเชีย
(Top of Mind MICE Destination Ranking in Asia) แล้วยังติดอันดับ
1 เป็น Top of Mind อีกหลายด้าน เช่น 1.Country
suitable for hosting an event 2.Authentic Local Experience 3.Sustainable Event Management แล้วยังเป็นประเทศที่โดดเด่นและมีศักยภาพจัดไมซ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ได้แก่ ด้านความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) นวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพ
(Health-tech Innovation) และ ซอฟท์ พาเวอร์ เชิงสร้างสรรค์
(Creative Soft Power)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น