วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568

เปิดเบื้องลึก!!โฮปเวลล์โมเดลรุกไทยรอบใหม่เร่งแก้3อำนาจลุยทวงถามเงินลงทุน 1.18 หมื่นล้าน

เปิดเบื้องลึก!!โฮปเวลล์โมเดลรุกไทยรอบใหม่เร่งแก้3อำนาจ

ต่างชาติเคลียร์ข้อกล่าวหา-ยื่นทวงถามเงินลงทุน1.18 หมื่นล้าน

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #HopeWell #ฆ่าโง่โฮปเวลล์

“โฮปเวลล์” ต่างชาติแท็กทีมคนไทยชำแหละ ”ฆ่าโง่” เมกะโปรเจกต์ 33 ปี ใช้เป็นโมเดล จัดระเบียบใหม่ 3 อำนาจ “นิติบัญญัติ-บริหาร-ตุลาการ” พร้อมล้างข้อกล่าวหาติดสินบนหมื่นล้าน ยึดคำสั่งศาลจดทะเบียนธุรกิจถูกต้อง และคดีไม่หมดอายุความ ทวงคืนเงินลงทุน 11,800 ล้าน

 


นายคอลลิน  เวียร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด นำจดหมายเปิดผนึกเผยแพร่ในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 เรื่อง “ฆ่าโง่..จุดหักเหโฮปเวลล์ : ภัยคุกคามอธิปไตยของชาติ” ระบุประเด็นสำคัญถึงข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จเรื่อง “ข้อกล่าวหาโฮปเวลล์ ติดสินบน 10,000 ล้านบาท” เพื่อล้มคดี”  ยืนยัน “โฮปเวลล์”  เป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สากลอย่างถูกต้อง ให้การเคารพต่อกฎหมาย ตลอดจนกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด และยึดถือการดำเนินกิจการด้วยความสุจริตโปร่งใส ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการกระทำใด ๆ ก็ตามที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดสินบน”



“นายสัญญา  สถิรบุตร” อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในฐานะที่ปรึกษา บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้เคยดำรงตำแหน่งที่ “ปรึกษาคณะกรรมาธิการพานิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา”  สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมชำแหละ “เบื้องลึกเกมการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม” กรณีโฮปเวลล์ ภายใต้กลไก 3 อำนาจ “ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ คุกคามอำนาจตุลาการ หวังผลล้มล้างคำพิพากษาอันเป็นที่สุดและเด็ดขาดแล้ว ตลอดเส้นทางพัฒนาการลงทุนและการต่อสู้อันยาวนาน 33 ปี

ตนจึงได้ยื่นเอกสารใหม่ไปยังฝ่ายนิติบัญญัติเมื่อ 22 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้กรณีของ “โฮปเวลล์” เป็นโมเดลจัดระเบียบใหม่ของ 3 อำนาจ ได้แก่ “นิติบัญญัติ-บริหาร-ตุลากร” จะต้องไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน

           

            ส่วนทาง “โฮปเวลล์” ก็ได้ยื่นเอกสารถึง “ศาลปกครองสูงสุด” ใหม่อีกครั้งขอให้พิจารณาใช้คำพิพากษาอันเป็นที่สิ้นสุดและเด็ดขาดแล้ว เนื่องจาก บริษัทฯ ได้ดำเนินการต่อสู้ตามขั้นตอนทางกฎหมายได้รับคำตอบเป็นที่ประจักษ์สามารถปลดล็อกได้แล้วทั้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ

ข้อกล่าวหาที่ 1 โฮปเวลล์ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในเมืองไทยกับกระทรวงพาณิชย์ไม่ถูกต้อง โฮปเวลล์ใช้เวลา 5 ปี จนได้รับคำตัดสินยืนยันโฮปเวลล์ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทถูกต้องตามกฏหมาย

ข้อกล่าวหาที่ 2 คดีโฮปเวลล์ขาดอายุความ เป็นคำตัดสินของศาลชั้นต้น เมื่อไปถึงศาลฏีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุดชี้ว่าคดีดังกล่าวไม่ขาดอายุความ



นายสัญญา กล่าวว่า มี “ข้อน่าสังเกต” ที่สะท้อนพฤติการณ์ไม่เคารพคำตัดสินของศาลหรือไม่ สังเกตเห็นได้จากหลังศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเมื่อเดือนเมษายน 2562 สั่งให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คืนเงินลงทุนและเงินค่าตอบแทนตามสัญญาก่อสร้างโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับกรุงเทพมหานคร (Bangkok Elevated Road and Train System-BERTS) ให้ บริษัท โฮปเวลล์ฯ มูลค่า 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย พร้อมทั้งออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 143/2562 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานกรณีโฮปเวลล์ โดยระบุเหตุผลเนื่องจากผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่รัฐ....”

นายสัญญา ชี้แจงว่า คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 143/2562 เป็นเหมือน”สารตั้งต้น” นำไปสู่กระบวนการล้มล้างคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ผ่านกระบวนการผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีกระทรวงคมนาคม และ รฟท.เป็นหน่วยงานรัฐ เป็นกลไกหลักขับเคลื่อน โดยอ้างสิทธิตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

การกระทำดังกล่าวน่าเชื่อว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ช่ำชองกลเกมกฎหมาย ทำให้ขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนหรือไม่

เนื่องจาก ตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูย “กระทรวงคมนาคมและ รฟท.” เป็นหน่วยงานรัฐ ไม่มีสิทธิใด ๆ ตามที่กล่าวอ้าง และตามมาตรา 212 ของรัฐธรรมนูญ ก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ใช้ได้ในคดีทั้งปวง แต่ไม่กระทบต่อคำพากษาของศาลที่ถึงที่สุดแล้ว” และตามบทบัญญัติพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2560 มาตรา 37(2) มีใจความสำคัญระบุว่าเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว ห้ามมิให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับไว้พิจารณา”

นายสัญญา ย้ำว่า ขบวนการล้มล้างคำพิพากษาที่ถึงที่สุดแล้ว น่าจะต้องถูกประนามเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบบยุติธรรม และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงต่อเศรษฐกิจ เพราะทุกคำพิพากษาของศาล เป็นการตัดสินภายใต้พระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ เมื่อตัดสินชี้ขาดเป็นที่สุดและเด็ดขาดแล้ว ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ต้องปฏิบัติตาม


สำหรับ “โครงการระบบการขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับกรุงเทพมหานคร” (Bangkok Elevated Road and Train System-BERTS) ระยะทาง 60.1 กม.รัฐบาลไทย มอบสิทธิ์ให้ “บริษัท โฮปเวลล์(ประเทศไทย) จำกัด” ดำเนินการภายใต้สัมปทานการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย  ชุณหะวัณ มีอายุสัมปทาน 30 ปี ระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2534 -5 ธันวาคม 2562 มูลค่าการลงทุนรวม80,000 ล้านบาท ตามเงื่อนไขในทีโออาร์ผู้รับสัมปทานต้องรับผิดชอบจัดหาเงินลงทุนเองทั้งหมด พร้อมกับจ่ายค่าตอบแทนสัมปทานแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้

ลำดับเหตุการณ์ “พับฐานโครงการก่อสร้าง” โฮปเวลล์

วันที่ 27 มกราคม 2541 การรถไฟแห่งประเทศไทย และกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย บอกเลิกสัญญาโดยอ้างเหตุผู้รับสัมปทาน ดำเนินโครงการล่าช้า ไม่เป็นไปตามสัญญา

วันที่ 27 พฤษภาคม 2547 บริษัทโฮปเวลล์ฯ ยื่นร้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการ ระบุเหตุผลการบอกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม และ “คณะอนุญาโตตุลาการ” ชี้ขาดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และกระทรวงคมนาคม คืนเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5% หลังจากบริษัท โฮปเวลล์ฯลงทุนไปแล้ว จากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย และกระทรวงคมนาคม ร้องศาลปกครองให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ

เดือนเมษายน 2562 ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเป็นที่สุด สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคม คืนเงินลงทุนและเงินค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าว 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยให้บริษัท โฮปเวลล์ฯ เนื่องจากสัญญาระหว่างกันได้ยุติลงแล้ว

            ระหว่างปี 2563-2565 เกิดความเคลื่อนไหวโดยฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม นำคดีที่ศาลปกครองสูงสุดตัดสินเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว เปลี่ยนไปยื่น “ศาลรัฐธรรมนูญ” แทน นำมาซึ่งการพลิก “ฆ่าโง่” โฮปเวลล์ โมเดล ร้อนระอุใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์จนถึงขณะนี้ยังไม่มีนักลงทุนต่างประเทศ สนใจจะเข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ร่วมกับภาครัฐของไทยในรูปแบบคล้ายกับโฮปเวลล์ และ/หรือ นักลงทุนต่างชาติอาจจะเป็นผลมาจากเห็นกรณีตัวอย่างดังกล่าว จึงขยาดที่จะนำเงินเข้ามาพัฒนาโครงการที่เป็นประโยชน์กับสาธารณะชนคนไทย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดเบื้องลึก!!โฮปเวลล์โมเดลรุกไทยรอบใหม่เร่งแก้3อำนาจลุยทวงถามเงินลงทุน 1.18 หมื่นล้าน

เปิดเบื้องลึก !! โฮปเวลล์โมเดลรุกไทยรอบใหม่เร่งแก้ 3 อำนาจ ต่างชาติเคลียร์ข้อกล่าวหา-ยื่นทวงถามเงินลงทุน 1.18 หมื่นล้าน ทีมโฮปเวลล์ต่างชา...