“สุกัญญา จันทร์ชู”นำทีมเปิดธุรกิจใหม่ปี68 PROMATCH X
ปั้นคนไทยสู่มืออาชีพป้อนอุตสาหกรรมโรงแรม-บริการ-ไมซ์
ลุย“ฝึก-พัฒนา-คัดงาน”กลุ่มนักศึกษา-สต๊าฟโรงแรม-ผู้สูงวัย
เพิ่มทักษะเด่นการตลาด-การเงินวิชาแม่บ้านจนถึงผู้จัดการ
ช้อปเดือนเกิดคิงเพาเวอร์รับคุ้มลุ้นรับรางวัลกว่า
3.6 ล้าน
คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิปลุกนักช้อปสายแฟรับเต็มแมกซ์
ททท.จัดDNA Travel&Fair 2025
ที่ศูนย์สิริกิติ์9-12 ต.ค.นี้
บางจากเปิด“อินทนิลรัฐสภา”ชิมชาชารางวัลจักพรรดิญี่ปุ่น
ชม“น้ำตกทีลอซู”จ.ตากม่านน้ำกลางผืนป่าสวยสุดในเอเชีย
เช็คด่วนหลัก 3W ก่อนเชื่อ-ก่อนแชร์ช่วยลดปัญหาสังคม
ททท.ร่วมTEJ
2025มุมสดใหม่ปี68โกยญี่ปุ่น4.88หมื่นล้าน
Travelokaโปรลด50%ตั๋ว/ห้อง10.10 Travel Sale1-10ต.ค.นี้
วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #น้ำตกทีลอซู
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1BVYfHPyyW/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! “สุกัญญา จันทร์ชู” กรรมการผู้จัดการ
บริษัท โปรแมทช์เอ็กซ์ จำกัด ( ProMatchX) เปิดตัวธุรกิจ
“ปั้นคนไทยสู่มืออาชีพ “โรงแรม-ไมซ์-บริการ” นำทีมผู้เชี่ยวชาญลุย
“เทรนนิ่ง-พัฒนา-คัดสรรคนเข้าทำงาน” ผนึก โรงแรม สถาบันการศึกษา
ปรับมุมมองใหม่ทันโลกภาคบริการ รุกเจาะ 3 กลุ่ม
“นักศึกษาระหว่างเรียน-คนทำงานในอุตสาหกรรม-สูงวัยใจเกินร้อย”
ใส่ทักษะภาคปฏิบัติถ่ายทอดแบบตัวต่อตัว ตั้งแต่ “แม่บ้าน” ไปจนถึงระดับ
“ผู้จัดการ” เข้าคอร์ส เทคนิคบริหารคน การประสานงานกับทุกแผนก มาตรฐานสุขอนามัย
วิธีทำงบประมาณรายรับ-รายจ่าย พร้อมแล้วเริ่มลงทะเบียนได้ ตั้งแต่ ต.ค.68 เป็นต้นไป มีคอร์สภาพรวม และแยกรายวิชา ตามความสนใจของแต่ละกลุ่มคน
นางสุกัญญา
จันทร์ชู กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรแมทช์เอ็กซ์ จำกัด ( ProMatchX)
เปิดเผยว่า ในฐานะที่บริหารงานอยู่ในวงการโรงแรมแบรนด์นานาชาติ
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และไมซ์ มาหลายทศวรรษ ล่าสุดพร้อมรวบรวมความเชี่ยวชาญทุกแขนงเปิดธุรกิจใหม่ตั้งเป้า
“ปั้นคนไทยมืออาชีพ” ใน 3 ส่วน ได้แก่
“การฝึกอบรม/Training-การพัฒนา/Development-การคัดสรรบุคลากรเข้าทำงาน/Recruitment”
ด้วยวิธีสร้างความรู้ ความเข้าใจภาคบริการโรงแรม สถาบันการศึกษา ไมซ์
ได้ใช้มาตรฐานที่สอดคล้องกับความต้องการตลาดปัจจุบันและอนาคตอย่างแท้จริง
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป กำลังทยอยเปิดตัวธุรกิจ พร้อมจะเปิดโอกาสให้บุคลากรคนไทยเป็นหลักเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 นักศึกษาตามสถาบันการศึกษาระดับปี 2-4 กลุ่มที่ 2 พนักงานโรงแรมที่ทำงานอยู่แล้ว กลุ่มที่ 3 พนักงานโรงแรมสูงวัยที่เกษียนไปแล้ว ทุกกลุ่มสามารถเลือกได้ทั้ง 2 แบบ คือ แบบที่ 1 ทำงานอย่างไม่เป็นทางการ (casual) แบบที่ 2 ทำงานแบบพาร์ทไทม์ (TEMP) พร้อมทั้งจะเน้นสาขาสำคัญ ๆ เช่น แม่บ้าน อาหารและเครื่องดื่ม ฝ่ายบุคคล (HR) การจัดการ การตลาด
ไฮไลต์อาชีพแรก
“อบรมสู่อาชีพผู้จัดการโรงแรม” ซึ่งเหมาะกับพนักงานระดับผู้ช่วยผู้จัดการ
เข้ามาเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ กับคอร์สอบรมเบื้องต้น 3 วัน 25,000 บาท/คอร์ส แล้วก็มีแยกอบรมแบบรายวิชา เริ่ม 8,000 บาท/วิชา รวมทั้งสามารถปรึกษาหารือกันตามความเหมาะสมได้
ได้เรียนรู้รายละเอียดภาพรวม กับการทำกรณีศึกษา การทำงบประมาณ
การบริหารจัดการวิกฤต การวางแผนเชิงกลยุทธ์
เพราะขณะปฏิบัติหน้าที่จะสามารถนำไปใช้งานให้เกิดผลตามเป้าหมายที่ต้องการได้
โดยจะผลิต “ผู้จัดการ” ป้อนให้โรงแรมคนไทยด้วยกัน ซึ่งตอนนี้ทั่วประเทศมีจำนวนมาก เพราะทุกวันนี้ในตลาดอาชีพต้องการให้มีหน่วยคัดสรรบุคลากรที่สอดคล้องกับการทำงานในภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง
ทางโปรแมทช์ นำเสนอคอร์สเปิดกว้างด้วย “การฝึกอบรมแบบเทเลเมด” โดยมีเป้าหมายสำคัญคือมุ่งนำประสบการณ์หลายทศวรรษมาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนรุ่นต่อไปได้เข้าสู่ตลาดอย่างมืออาชีพแข่งขันกับนานาประเทศได้ เพราะทั้งอุตสาหกรรมโรงแรมและไมซ์ คือกลไกสำคัญสร้างประโยชน์ให้แต่ละคนทำงานอย่างมีคุณภาพ สร้างรายได้มั่นคง รวมทั้งร่วมสร้างเศรษฐกิจประเทศให้แข็งแกร่งทัดเทียมนานาประเทศได้เป็นอย่างดี
ทางบริษัท โปรแมทช์ เอ็กซ์ ได้จัดทำโปรแกรมการฝึกอบรม พัฒนาทักษะ สร้างทีมงานมืออาชีพเข้าสู่ตลาดแรงงานให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมหลัก 3 ตลาด ได้แก่
ตลาดแรก
“อุตสาหกรรมโรงแรม”
เริ่มฝึกตั้งแต่พนักงานบริการระดับแม่บ้าน ไปจนถึงผู้จัดการ
ปูพื้นฐานให้เด็กเยาวชนที่กำลังศึกษา ก่อนจบมาทำงาน
ได้เข้าใจถึงการร่วมฝึกอบรมตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน ก็สร้างรายได้
และปูทางอาชีพเพื่อเติบโตในอนาคตได้ทุกตำแหน่ง ไม่ได้จำกัด หากมีความพร้อม เช่น
ตอนสมัครเข้ามาเป็นแม่บ้าน (maid)
ก็สามารถพัฒนาเป็นหัวหน้าแผนกบริหารงานทำความสะอาดทั้งระบบ
และต่อยอดยกระดับเป็นถึงผู้จัดการเริ่มจากโรงแรมขนาดเล็กในต่างจังหวัด
ซึ่งมีความต้องการสูงมาก
ตลาดที่ 2 “อุตสาหกรรมไมซ์” ก็ต้องการพนักงานเข้าสู่อาชีพซึ่งไทยมีศักยภาพนำงานประชุมสัมมนาขนาดเล็ก (meeting) การประชุมขนาดใหญ่ (conference) เข้ามาจัดจำนวนมากทุกปี แต่ขาดแคลนบุคลากรมืออาชีพ ตั้งแต่พนักงานเสิร์ฟที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญที่ได้มาตรฐานสากล
ตลาดที่ 3 “สถาบันการศึกษา” จะลงนามความร่วมมือกับสถานศึกษาตั้งแต่ราชภัฎ มหาวิทยาลัย เปิดกาสให้นักศึกษา เข้ามาฝึกอบรม เรียนรู้งานที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ทั้งระหว่างเรียนและจบการศึกษาก็สะดวกที่จะนำไปสมัครงานได้ตามสายอาชีพที่ต้องการได้ผลดีกว่าคนทั่วไป
“โปรแมทช์
เอ็กซ์” วางกลยุทธ์การบริหารจัดการความร่วมมือ ตั้งเป้าหมายรองรับการฝึกอบรม
การคัดเลือกบุคลากรเข้าสู่อาชีพ เบื้องต้น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
กลุ่มที่ 1 นักศึกษาตามสถาบันการศึกษา จะเปิดโอกาสให้เยาวชนปี 2-4 เข้ามาร่วมฝึกอบรมถึงวิธีปฏิบัติตามมาตรฐานสากลก่อนแล้วจึงส่งไปทำงานภาคสนามเพื่อเรียนรู้วิธีปฏิบัติจริงอย่าง เป็นทางเลือกให้นักศึกษาสามารถเลือกช่วงเวลาว่างเข้ามาทำงานจริงตามโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการได้ตามความเหมาะสมและตรงความต้องการของทั้งสองฝ่าย
กลยุทธ์นี้สามารถ “แก้ไขจุดอ่อน” การเรียนการสอนวิชาชีพปัจจุบันในสถานศึกษาปกติได้ เพราะส่วนใหญ่ยังคงเน้นสอนภาคทฤษฎีมากถึง 70 % สอนภาคปฏิบัติจริงเพียง 30 % จึงทำให้บุคลากรจบใหม่มองโลกสวยงามไม่สอดคล้องกับความจริงในตลาดแรงงาน แล้วพอไปสมัครงานหรือปฏิบัติจริงอาจจะไม่ได้เป็นตามที่คิดไว้
“โปรแมทช์
เอ็กซ์” พร้อมจะสร้างการรับรู้ไปพร้อมกับส่งไปฝึกในภาคสนามงานการทำงานจริง
แล้วสอนทักษะกับเทคนิคการรับมือกับเรื่องต่าง ๆ ได้
หรือทางสถานศึกษาพอจะปรับหลักสูตรให้เหมะสมโดยให้เด็กเรียนทฤษฎี 30 %
แล้วหันมาฝึกจริงภาคสนาม 70 % เพื่อเป็นทางออกให้อุตสาหกรรมโรงแรม
ไมซ์ ได้บุคลากรเป็นมืออาชีพเข้ามาทำงาน ซึ่งความต้องการยังมีอยู่สูงมาก
เนื่องจากงานบริการในอุตสาหกรรมโรงแรมและไมซ์ เน้น “ทักษะการปฏิบัติ” มากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงต้องใส่ความเข้มข้นการทำงานจริงให้มากที่สุด ตัวอย่าง การอบรมพนักงานเข้าสู่ “อาชีพแม่บ้าน” ไล่ระดับตั้งแต่ การวางแผนทำความสะอาดห้องพัก การจัดทำโปรแกรมหมุนเวียนทีมงาน และรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องอาศัยความใส่ใจเป็นพิเศษ เป็นภารกิจสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับมาตรฐานความสะอาด สุขอนามัย ของสถานประกอบการโรงแรมทุกแห่ง แล้วยังต้องมีทักษะ “การประสานงาน” กับแผนกอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามมาตรฐานโรงแรมไทย
“พนักงานแม่บ้านมืออาชีพ” ที่ได้รับมอบหมายตามโรงแรมต่าง ๆ
จะได้รับการฝึกทักษะเพื่อยกระดับความสามารถอยู่ตลอดทั้งภายในและภายนอกองค์กร
ซึ่งมีโอกาสขยับไปสู่พนักงานระดับซูเปอร์ไวเซอร์ได้
กลุ่มที่
2 พนักงานโรงแรมที่ประกอบอาชีพอยู่แล้ว
แต่ต้องการเพิ่มเทคนิคสร้างความก้าวหน้าในอาชีพต่อไปในอนาคต
ก็พร้อมจะรับเข้าอบรมด้วย เพราะสถานการณ์จริงในอุตสาหกรรมโรงแรมเมืองไทย
ปัจจุบนโรงแรมเชนอินเตอร์เนชั่นแนล มีมาตรฐานการฝึกอบรมตามแบบสากล สิ่งที่ทาง
“โปรแมทช์ เอ็กซ์” จะเสริมเทคนิคความเป็นมืออาชีพให้ได้คือ 1.พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้แบบตัวต่อตัว One on One เพราะบุคคลที่เป็นสต๊าฟโรงแรมอยู่แล้ว
สามารถเข้ามาอบรมความสามารถทางด้านอื่น ๆ ได้ด้วย
กลุ่มที่
3 บรรดาผู้สูงวัยใจเกินร้อย
ที่มีประสบการณ์อยู่บ้างแล้ว ทำงานมานาน
แล้วต้องการเข้ามาเรียนรู้อาชีพบริการในโรงแรม ไมซ์
ซึ่งสามารถทำงานช่วงเวลาพิเศษได้
นางสุกัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีความเข้าใจไม่ตรงกับสถานการณ์จริงว่า “ใครก็สามารถเข้ามาทำอาชีพบริการ” ได้ ทั้งที่หัวใจสำคัญคือต้องมีคุณสมบัติพิเศษ 1.ต้องสู้งาน 2.ต้องการเติบโต 3.สนุกและเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวหน้าที่นั้น ๆ ในการทำงาน นำไปสู่การยกระดับตัวเองไปสู่มาตรฐานสายงานอาชีพก้าวไปถึง “ผู้นำอาชีพ” ในวงการโรงแรมและไมซ์ได้ ทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-ช้อปเดือนเกิดคิงเพาเวอร์รับคุ้มแจกมหึมากว่า 3.6 ล้าน
เดือนเกิด คิง เพาเวอร์! ลดแรงสุด OF THE YEAR! และช้อปคุ้มจนต้องช้อป ON-TOP OF THE YEAR
1.ลด ON-TOP ช้อปน้ำหอม เครื่องสำอาง แว่นตา
และแผนกที่ร่วมรายการ ลดแรง! สูงสุด 25%
ลดเพิ่ม! ON-TOP 10% สำหรับสมาชิก POWER PASS
2.ได้ ON-TOP ช้อปแฟชั่น นาฬิกา และเครื่องประดับ
3.ซื้อ CASH CARD 10,000 บาท ก่อนช้อปรับเพิ่ม! GIFT CARD 4,000 บาท นำไปช้อปสินค้าแบรนด์หรูที่ร่วมรายการ
4.ซื้อ CASH CARD 100,000 บาท ก่อนช้อป รับเพิ่ม! GIFT CARD 2 ใบ ประกอบด้วย ใบที่ 1 GIFT CARD 5,000 บาท ใบที่ 2 GIFT CARD 3,000 บาท
5.ซื้อ CASH CARD 50,000 บาท ก่อนช้อป รับเพิ่ม! GIFT CARD 3,000 บาท
6.ช้อปครบทุก 5,000
บาท (สุทธิ) รับสิทธิ์สูงสุด x 3 ได้แก่ 1.ลุ้นรับรถยนต์ LEXUS รุ่น NX 350h Luxury2.กิฟท์ โวเชอร์ 3.กะรัต รีวอร์ดส์ และรางวัลอื่นๆ
อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 3,600,000
บาท
ข่าวที่ 2 – คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิปลุกนักช้อปสายแฟรับเต็มแม็กซ์
คิง
เพาเวอร์ กระตุกต่อนักช้อปตัวแม่ “สายแฟ” ต้องเผื่อเวลามาช้อปที่สนามบิน
แล้วแวะเลือกซื้อด่วน “ร้านคิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ” วันนี้ -30 กันยายน 2568
รีบเลยใช้วันหยุดให้เต็มที่ เปย์ตัวเองให้เต็มแมกซ์
1.รับทันที Gift Card 8,000บาท*ใช้ช้อปเฉพาะสินค้าและแผนก
ที่ร่วมรายการ
2.เมื่อซื้อ Cash Card 100,000บาท ใช้ช้อปสินค้าแผนกแฟชั่น
นาฬิกา และจิวเวลรี ที่ร่วมรายการ
3.สมัครสมาชิก POWER PASS ฟรี! พิเศษสมาชิกใหม่ NAVY ได้ครบมาก คือ “ได้ฟรี!” 400 กะรัต =
ส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท และรับทันที CASH VOUCHER
2,000 บาท เมื่อเติมเงิน ทุก 20,000 บาท
ข่าวที่ 3-ททท.จัดDNA Travel&Fair 2025 ที่ศูนย์สิริกิติ์9-12
ต.ค.นี้
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เปิดตัวโครงการ “DNA 2025 (Destination Navigator Assessment)” ต่อเนื่องปีที่
2 ภายใต้แนวคิด “Thailand’s Subculture: Decode Your
Journey” พร้อมจัดงานยิ่งใหญ่
9 – 12 ตุลาคม 2568 ที่ชั้น G ฮอลล์ 3-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมย่อยของไทย (Subculture) พร้อมกิจกรรมตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย
ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ
เน้นนำเสนอนการท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเติบโตอย่างยั่งยืนมาไว้ใน 5 โซน
ประกอบด้วย
โซนที่ 1 THAI POP : เจาะลึกวัฒนธรรมสมัยนิยมที่ได้รับอิทธิพลทั้งจากไทยและกระแสโลก
นำเสนอผ่านกับกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น
● POP
Gallery จัดแสดงผลงาน Art Toy หาชมยากจาก Trendy
Gallery
● บูธ Official Merchandise จาก
GMM TV พร้อมมาสคอตและกิจกรรมพิเศษ
● Drag
Room พื้นที่ให้คุณได้ปลดปล่อยตัวตนและแปลงโฉมกับ Drag Queen
ชื่อดังและนักแสดงจาก Alcazar Cabaret Pattaya
● House
of Pop Market ตลาดที่รวบรวมร้านค้าจากศิลปินและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง
โซนที่ 2 SIAM STYLE : สัมผัสวิถีคลาสสิกและมนต์เสน่ห์ของไทยในอดีตผ่านกิจกรรมและนิทรรศการต่าง
ๆ เช่น
● นิทรรศการชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ
● นิทรรศการของสะสมวินเทจหายากจากบ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์
● วันที่ 9 ตุลาคม เริ่ม 13.00 น.
เปิดโซนดูดวง Maison Divination &
Mystique กับอาจารย์แห้ว
● ชมคณะลิเก
หมอลำ และลูกทุ่ง เปิดให้แฟนคลับมีโอกาสพบศิลปินอย่างใกล้ชิด
โซนที่ 3 WORK & PLAY: คอมมูนิตี้เหมาะกับนักเดินทางยุคใหม่ เลือกทำงานจากที่ไหนก็ได้
โดยมีDigital Tunnel นำเข้าสู่วิถีเมืองดิจิทัล พร้อมกิจกรรมมากมาย เช่น
● นิทรรศการภาพถ่าย “Next
Destination” โดย Foto club BKK
● TikTok
LIVE Studio ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ทดลองเป็นนักไลฟ์มืออาชีพ
● พื้นที่ทำงานร่วมกับคาเฟ่บรรยากาศเก๋ไก๋จากกาแฟพันธุ์ไทย
● พื้นที่ของฟรีแลนซ์ สร้างโอกาส สร้างรายได้ เชื่อมตรงสู่ Platform Fastwork
โซนที่ 4 LIFESTYLE & FAMILY: เพิ่มพลังชีวิต เติมเต็มความสุข
และสร้างประสบการณ์การเดินทางสำหรับครอบครัว ผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ
● โซนถ่ายภาพและกิจกรรมจาก Jurassic World Experience
● แลนด์มาร์คจำลองม้าหมุนบนหุบเขา
พร้อมกิจกรรมจากฟาร์มต่างๆ
● พื้นที่ส่วนกลางจัดกิจกรรมหมุนเวียน
เช่น การแสดงสัตว์เลี้ยงแสนรู้ และการให้ความรู้ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
โซนที่ 5 THAI TASTE
: สวรรค์นักชิม ทุกภาคนำร้านอาหารไทยชื่อดัง ร้านดังจาก TikTok ร้านดาราอินฟลูเอนเซอร์กว่า
95 ร้าน ร่วมสนุกกับกิจกรรม “เชฟ เวิร์คช้อป” มีเชฟชื่อดังจะมาสาธิตนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำอาหาร
Fine Dining
ตลอดงาน 9-12 ตุลาคม 2568 นักท่องเที่ยวสามารถร่วมสนุกกับการ ช้อปซื้อสินค้า
รับสิทธิ์แลกรับของรางวัลสุดพิเศษแต่ละโซน ชมกิจกรรมบนเวทีกลางทั้ง
4 วัน นำโดย Fino the Ranad เดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทยส่งเสริมการขาย
Workation 100 เดียวเที่ยวได้งาน และศิลปินนักแสดงจัดเต็มความบันเทิง
● 9 ตุลาคม 2568 : เก่ง หฤษฎ์ และ น้ำปิง
นภัสกร นักแสดงนำจากซีรีส์ “เขมจิราต้องรอด”
● 10 ตุลาคม 2568 : การแสดงจากคณะลิเกสองเทพบุตรสุดที่รัก และคอนเสิร์ตจาก PALMY
● 11
ตุลาคม 2568 : ยูกิ ไหทองคำ
● 12 ตุลาคม 2568 : ปิดท้ายความม่วน ด้วยลำไย ไหทองคำ และวงหมอลำแห่งยุค ระเบียบวาทะศิลป์
ข่าวที่ 4-บางจากเปิด“อินทนิลรัฐสภา”ชิมชาชารางวัลจักพรรดิญี่ปุ่น
นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด นำผู้บริหาร บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดพื้นที่ร้านกาแฟอินทนิล สาขาสัปปายะสภาสถาน
(รัฐสภา) ต้อนรับ “นายสึโยมิ มัตสึดะ”
ผู้ประกอบธุรกิจ “ไร่ชารางวัลจักรพรรดิญี่ปุ่น” จากเมืองชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยได้ถ่ายทอดศิลปะและสาธิตการชงมัทฉะเกรดพิธีการ
“แบบญี่ปุ่นแท้” เลือกใช้ใบชาคุณภาพสูงจากไร่ชาของเขาที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ
“ร้านกาแฟอินทนิล”
ของบางจาก ได้นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักจัดทำ “เมนูมัทฉะพรีเมียม” นำเสนอรสชาติและคุณภาพต้นตำรับจากญี่ปุ่น
ตอกย้ำร้านอินทนิลมีเจตนารมณ์การคัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมียมและมอบประสบการณ์เหนือระดับให้ลูกค้าในมุมใหม่
ๆ อยู่เสมอ
คณะร่วมต้อนรับนายสึโยมิ มัตสึดะ
นำโดย นายเสรี พร้อมด้วย นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นางสาวณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด
ผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และได้รับเกียรติจาก นางจงเดือน สุทธิรัตน์
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
สำหรับ
“ร้านกาแฟอินทนิล” สาขาสัปปายะสภาสถาน (รัฐสภา) ได้รับออกแบบอย่างทันสมัยและโปร่งสบาย
รองรับทั้งพื้นที่ภายในอาคารและบริเวณกลางแจ้ง พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มคุณภาพ
“ราคาที่เข้าถึงได้” เช่น
● “กาแฟ Special
Bean” นำเมล็ดกาแฟอาราบิก้าคัดพิเศษจากแหล่งปลูก Single
Origin ดอยแม่สลอง และเอธิโอเปีย
● “มัทฉะเกรดพิธีการ”
จากเมืองอิเสะ ประเทศญี่ปุ่น
● “เมนูเพื่อสุขภาพ”
อย่างน้ำผลไม้สดปั่น
● “สินค้าในกลุ่ม Non-Drink” บริการเมนูอาหารเช้า เช่น โจ๊ก ไข่กระทะ
ขนมไทย ของว่างหลากหลายให้สามารถจับคู่กับเครื่องดื่มได้ตลอดวัน
● สิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็มครบครันรองรับผู้ใช้บริการทุกกลุ่มวัย
เช่น บริการ Wi-Fi ฟรี และอื่น ๆ
ข่าวที่
5-เที่ยวน้ำตกทีลอซูม่านน้ำกลางผืนป่าสวยสุดในเอเชีย
สายลุย
เช็คความพร้อมเตรียมเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติปีละครั้งกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยท่ามกลางสายน้ำเย็นฉ่ำ
“น้ำตกทีลอซู” จังหวัดตาก ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ การันตี
เป็นสถานที่จุดหมายปลายทาง หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดความยิ่งใหญ่แห่งม่านน้ำกลางผืนป่า “อุ้มผาง”
“ทีลอซู”
เป็นตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
น้ำตกหินปูนขนาดมหึมา
สูงราว 300 เมตร และกว้างประมาณ 500 เมตร
ได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศไทย
และติดอันดับหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ต้นกำเนิด”
สายน้ำเกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อ ไหลผ่านหน้าผาสูงชัน ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ
กึกก้องท่ามกลางป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์
“ธรรมชาติจัดสรร”
ด้วยไฮไลต์ม่านน้ำขนาดใหญ่กลางหุบเขา ที่สวยตระการตาในทุกฤดูกาล
โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีหมอกคลอเคลีย
“ทริปความสุข”
ก่อนออกเดินทางการไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู เคลียร์งานให้ดีเพื่อไปใช้ชีวิตฟินๆ สัก 3 วัน 2 คืน
เพราะใช้ระยะเวลาเดินทางค่อนข้างนาน จากตัวเมืองตากเข้าอุ้มผาง ใช้เวลาประมาณ 6
ชม. หรือบินลงแม่สอด แล้วต่อรถไปอุ้มผางอีก 4 ชม.
ผ่านโค้งกว่า 1,219 โค้ง
“การเดินทาง”
เข้าน้ำตก มี 2 วิธี 1) ล่องแพยางประมาณ 3 ชม.
ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ผ่านน้ำตกทีลอจ่อ และธารน้ำร้อนธรรมชาติ
ก่อนต่อรถเข้าอีก 40 นาที 2) นั่งรถ 4WD
ใช้เวลา 1 ชม. จากที่ทำการเขตฯ ระยะทาง 25
กม. จากหน่วยพิทักษ์ป่าถึงน้ำตก ต้องเดินเท้าอีก 1.5 กม.
ช่วงที่ 2 วันพักผ่อนฟิน ๆ รับปลายฝนต้นหนาว จะมาชวนสายลุยไปเที่ยว “น้ำตกทีลอซู”
ในอุ้มผาง จ.ตาก
ดื่มด่ำความเย็นฉ่ำกับม่านน้ำธรรมชาติกลางผืนป่าสุดอลังการสวยสุดในเอเชีย
แล้วฟังสิ่งดี ๆ “ใช้หลัก 3W ให้ชัดเจน” ก่อนแชร์ ก่อนเชื่อ
ช่วยให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น แล้วก็รับข่าวสารคุณภาพ ข่าวแรก “ททท.ร่วมTEJ 2025” บูมขายมุมสดใหม่ปี68โกยญี่ปุ่น4.88หมื่นล้าน
ข่าวที่สอง “Travelokaโปรลด50%ตั๋ว/ห้อง” 10.10 Travel
Sale1-10ต.ค.68
ท่องเที่ยว
–เที่ยวน้ำตกทีลอซูจ.ตากม่านน้ำกลางผืนป่าสวยสุดในเอเชีย
สายลุย
เช็คความพร้อมเตรียมเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติปีละครั้งกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยท่ามกลางสายน้ำเย็นฉ่ำ
“น้ำตกทีลอซู” จังหวัดตาก ฤดูนี้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”(ททท.)
ภูมิภาคภาคเหนือ การันตี เป็นสถานที่จุดหมายปลายทาง หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดความยิ่งใหญ่แห่งม่านน้ำกลางผืนป่า “อุ้มผาง”
“ทีลอซู” เป็นตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง
จังหวัดตาก เป็นน้ำตกหินปูนขนาดมหึมา สูงราว 300 เมตร และกว้างประมาณ 500 เมตร ได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศไทย
และติดอันดับหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ต้นกำเนิด” สายน้ำเกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อ ไหลผ่านหน้าผาสูงชัน ลดหลั่นเป็นชั้น
ๆ กึกก้องท่ามกลางป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์
“ธรรมชาติจัดสรร” ด้วยไฮไลต์ม่านน้ำขนาดใหญ่กลางหุบเขา ที่สวยตระการตาในทุกฤดูกาล
โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีหมอกคลอเคลีย
“ทริปความสุข” ก่อนออกเดินทางการไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู
เคลียร์งานให้ดีเพื่อไปใช้ชีวิตฟินๆ สัก 3 วัน 2 คืน
เพราะใช้ระยะเวลาเดินทางค่อนข้างนาน จากตัวเมืองตากเข้าอุ้มผาง ใช้เวลาประมาณ 6
ชม. หรือบินลงแม่สอด แล้วต่อรถไปอุ้มผางอีก 4 ชม.
ผ่านโค้งกว่า 1,219 โค้ง
“การเดินทาง” เข้าน้ำตก มี 2 วิธี 1) ล่องแพยางประมาณ 3
ชม. ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ผ่านน้ำตกทีลอจ่อ
และธารน้ำร้อนธรรมชาติ ก่อนต่อรถเข้าอีก 40 นาที 2) นั่งรถ 4WD ใช้เวลา 1 ชม.
จากที่ทำการเขตฯ ระยะทาง 25 กม. จากหน่วยพิทักษ์ป่าถึงน้ำตก
ต้องเดินเท้าอีก 1.5 กม.
เมืองไทย มีเสน่ห์มากมายให้นักเดินทางออกไปค้นประสบการณ์ความสุข
ปลายฝนต้นหนาวปีนี้ ลองเที่ยวเชิงผจญภัยไปชมน้ำตก “ทีลอซู” ที่อุ้มผาง จ.ตาก
ด้วยกันสักครั้ง
สุขภาพ –เช็คด่วนหลัก 3W ก่อนเชื่อ-ก่อนแชร์ช่วยลดปัญหาสังคม
ก่อนเชื่อ ก่อนแชร์… ตรวจสอบข้อมูลด้วยหลัก “3W” ให้ชัดเจนก่อน ส่งต่อข้อมูลย่างถูกต้อง
และไม่สร้างความสับสนให้สังคม
● W1 – WHO (ใคร?)
-เช็กผู้เขียน มีชื่อจริงไหม? เป็นใครกันแน่? มีความเชียวชาญในเรื่องนี้ไหม /เคยเขียนข้อมูลผิดมาก่อนไหม? /มีผลประโยชน์แฝงไหม?
-เช็กสื่อ สื่อที่ลงเป็นสื่อที่เชื่อถือได้ไหม? / มีประวัติการรายงานที่ถูกต้องไหม?
● W2 – WHAT (อะไร?)
-เช็กเนื้อหา เป็นข้อเท็จจริงหรือความเห็น?
/มีหลักฐานรองรับไหม? /ข้อมูลจากสื่ออื่นเหมือนกันไหม? /มีรูปภาพ/วิดีโอประกอบที่เชื่อถือได้ไหม? /ข้อมูลสมเหตุสมผลไหม?
● W3 – WHEN (เมื่อไหร่?)
-เช็กเวลา ข้อมูลเก่าแค่ไหน? / เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่?
/ข้อมูลอัพเดตล่าสุดเมื่อไหร่? /ยังใช้ได้ในปัจจุบันไหม?
กฎเหล็ก 3 ข้อก่อนแชร์ : ข้อมูลกระตุ้นอารมณ์มาก → รอสักครู่ก่อนแชร์ ตรวจสอบจากอย่างน้อย 2-3 แหล่ง → เปรียบเทียบข้อมูล หากไม่แน่ใจ → ไม่ควรแชร์
“การแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง
คือการช่วยสังคม แต่การแชร์ข้อมูลผิด คือการทำร้ายสังคม”
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –ททท.ร่วมTEJ 2025มุมสดใหม่ปี68โกยญี่ปุ่น4.88 หมื่นล้าน
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานเปิดงาน Tourism
Expo Japan 2025 (TEJ 2025)
ระหว่าง 25–28 กันยายน 2568 ที่ ไอจิ สกาย เอ็กซ์โป เมืองนาโกย่า ญี่ปุ่น และมี นายชูวิทย์
ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. เข้าร่วมด้วย เป็นงานสำคัญด้านส่งเสริมสร้างภาพลักษณ์ไทยในตลาดคุณภาพและกำลังสูงญี่ปุ่น
ที่ได้ชวนสัมผัสประสบการณ์เที่ยวไทยด้วยแนวคิด “Journey through the 5 Must Do in Thailand” เสน่ห์ ซอฟท์ พาวเวอร์ผ่านการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม สุขภาพ
และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ หวังสร้างการรับรู้เชิงบวก กระตุ้นการเดินทางซ้ำ
สร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์เที่ยวไทย และขยายฐาน Gen Z
ผู้สูงวัย ดิจิทัล นอแมดส์ และ Oshi-katsu
มกราคม-กันยายน นี้ ญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยแล้ว 7.67 แสนคน
จึงได้จัดแคมเปญการตลาดเพิ่มนักท่องเที่ยวตลอดปีนี้ให้ได้
1.25 ล้านคน สร้างรายได้ 48,880 ล้านบาท
นางสาวภัทรอนงค์
กล่าวว่า
การเข้าร่วม TEJ 2025 งานส่งเสริมการขายการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีได้การสนับสนุนจาก 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่
Japan Travel and Tourism Association (JTTA), Japan Association of Travel Agents
(JATA) และ Japan National Tourism Organization (JNTO) ปีนี้ ททท. ปรับกลยุทธ์นำเสนอต่างจากปีก่อน
ๆ โดยมุ่งเน้นทำประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เชิงบวกต่อไทย ผ่านแนวคิด “Journey through the 5 Must Do in Thailand” กับซอฟท์ พาวเวอร์ของไทย ตั้งเป้าเพิ่มวันพักเฉลี่ย
และกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่าง ๆ อย่างยั่งยืน จากกลุ่มวัยทำงาน ผู้เกษียณ
กลุ่มครอบครัว
ททท.
จัดคูหาประเทศไทยขนาด 90 ตารางเมตร ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรมไทยในรูปแบบทันสมัย
สร้างประสบการณ์สื่อสารแบบแลกเปลี่ยนระหว่างกัน เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานจากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นได้สัมผัสอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างใกล้ชิดผ่านแนวคิด
“Journey through the 5
Must Do in Thailand”
เพื่อส่งมอบประสบการณ์ตรงและสร้างกระแส “Instagrammable”
ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการสร้างสรรค์คัดสรรอย่างพิถีพิถัน
เช่น ZIRA SPA นวดฟ้อน, มาลัยดอกไม้, เข็มกลัดจากดินปั้น,
เทียนหอม และ DIY Workshop เช่น
การสร้างสรรค์กลิ่นหอมโดย หอมปรุงบายใบห่อ
เติมเต็มความสนุกสนานด้วยการแสดงเชิงวัฒนธรรมตลอดงาน ตื่นตากับโชว์มวยไทย ครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก
และการแสดงพื้นบ้านที่หลากหลาย มีทั้ง เชิดหุ่นคน, พรานบุญจับนางกินรี,
เมขลา-รามสูร, อีสานลำเพลิน, ทักษิณาวัฒนธรรมแดนใต้, นาฎลีลาศรีนครพิงค์
รวมถึงกิจกรรมเกมอินเทอแรคทีฟบนจอทัชสกรีน
พาผู้เล่นท่องไปในโลกความเป็นไทยผ่านการจับคู่ภาพและเรื่องราวต่าง ๆ และ ทอล์ก
โชว์ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยร่วมกับ KOLs & Specialist ศิลปิน SATO Triplet ทูตวัฒนธรรมด้านการท่องเที่ยวในตลาดญี่ปุ่น
ภายใต้โครงการ ททท.“Thailand Tourism Ambassador in Japan” กับศาสตราจารย์
Fumihiko Tsumura ผู้เชี่ยวชาญด้านมานุษยวิทยาวัฒนธรรมและความเชื่อพื้นบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
ช่วยสร้างแรงบันดาลใจเดินทางจริงมาเที่ยวเมืองไทย
สถิติตั้งแต่1 มกราคม-18 กันยายน 2568 มีญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยแล้ว
767,923
คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 5 % มีวันพักค้างคืนเฉลี่ย 6.04 คืน
ใช้จ่ายราว 39,108
บาท/คน/ทริป และนิยมเที่ยวหลายจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต
พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ชื่นชอบการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์
เข้าถึงชุมชนท้องถิ่น วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในแหล่งมรดกโลกนิยมอย่างมาก
โดยตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยในการเดินทางท่องเที่ยว
“นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น” เริ่มฟื้นตัวโดยได้ปัจจัยหนุนจากภายในญี่ปุ่น
6 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ซัปโปโร โตเกียว (นาริตะ) โตเกียว (ฮาเนดะ) นาโกย่า โอซากา
และฟูกูโอกะ กับจำนวนที่นั่งของเที่ยวบินจากญี่ปุ่นเข้าไทยปี 2568 รวมทั้งหมด 3,014,153 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.5 % ด้วยศักยภาพและพฤติกรรมตลาด ททท. ทั้ง 3
สำนักงานในญี่ปุ่นจึงวางกลยุทธ์ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ (New
Segment) ที่กำลังเติบโตอย่างน่าสนใจ เช่น Millennials, Gen
Z, Active Senior, Power Couples,
Digital Nomads และ Oshi-katsu (กลุ่มเที่ยวตามรอยศิลปิน)
สร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยมุมสดใหม่และมีคุณค่า ด้วยซอฟท์ พาวเวอร์
เวลเนส/เมดิคัล การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน
“ททท.
สำนักงานโตเกียว” ทำโครงการส่งเสริมการตลาด Thailand
Commercial Flights Promotion ร่วมกับสายการบิน ได้แก่ ZIP Air และแอร์เจแปน
บริษัทนำเที่ยว OTA และ Conventional Agent ชั้นนำของญี่ปุ่น
“ททท. สำนักงานโอซากา” ทำโครงการ
Thailand - Thai Katsu ส่งเสริมนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen-Z
และออกเที่ยวครั้งแรกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จัดแฟมทริปให้บริษัทและตัวแทนจัดนำเที่ยวช่วงตุลาคม
2568 - มีนาคม 2569
“ททท. สำนักงานฟูกูโอกะ” ทำโครงการ
Amazing Thailand Through Kyushu - Irodori no Tabi (A Journey Full
of Colors) คิกออฟประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย
ในงาน Saga International Balloon Fiesta 2025 วันที่ 30 ตุลาคม-3 พฤศจิกายน 2568
ริมฝั่งแม่น้ำคาเสะ และพื้นที่ราบรอบเมืองซากะและเมืองโอกิ จังหวัดซากะ
ข่าวที่สอง – Travelokaโปรลด50%ตั๋ว/ห้อง10.10
Travel Sale 1-10ต.ค.68
Wellness Economy Monitor รายงานว่า ล่าสุด Global Wellness Institute
นำเสนอเทรนด์ตลาดมูลค่าสูงเวลเนสคือผู้นำด้านเศรษฐกิจเวลเนส (Wellness Economy) เติบโตเร็วที่สุดในโลก
สถิติปี 2566 มีมูลค่าถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
อุตสาหกรรม “เวลเนสไทย” ฟื้นตัวหลังโควิดอย่างโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเติบโตปีละ 120% ต่อปี
แซงคู่แข่งชั้นนำ 25 ประเทศ
ช่วยตอกย้ำไทยคือผู้นำเศรษฐกิจสุขภาพระดับโลกด้วย
ไทยได้นำเสนอการท่องเที่ยวเวลเนสแบบผสมผสาน
การพักผ่อน อาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และการใกล้ชิดธรรมชาติ
กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยยุคใหม่อย่างแท้จริง
รวมเข้ากับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ได้อย่างลงตัวเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของไทย
@เปิดมหกรรม 10.10 Travel Sale 10 วันดีลคุ้มเต็มสิบ
Traveloka ขานรับเทรนด์ท่องเที่ยวเวลเนส
ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้วย จึงเตรียมเปิดตัวแคมเปญที่ทุกคนรอคอย 10.10 Travel Sale ต่อเนื่อง
10 วัน ระหว่าง 1-10 ตุลาคม 2568 ออกแบบการเดินทางเพื่อสุขภาพให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
มอบทั้งส่วนลด กับการสร้างแรงบันดาลใจในการวางแผนการเดินทางที่มีความหมาย ด้วยวิธีทำให้ทุกการเดินทางช่วยให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย
เชื่อมโยง และเติมพลังได้ดี ดีลพิเศษ ได้แก่
● ส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับเที่ยวบิน
โรงแรม และกิจกรรม Xperience
● ข้อเสนอสุดพิเศษจากแบรนด์สายการบิน
พร้อมโปรโมชั่นพิเศษใน Airline
Brand Days
● จองแล้วลุ้นรับตั๋วเครื่องบินฟรีไปมิลาน
● ซื้อ 1 แถม 1 สำหรับบริการสปา รีทรีต
และประสบการณ์ด้านสุขภาพ
“ไป๋ตี้ หลี่”
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพาณิชย์ ของ Traveloka เปิดเผยว่า ขณะนี้การเดินทางไม่ได้หมายถึงการชมสถานที่ท่องเที่ยวอีกต่อไป
แต่ยังเป็นโอกาสฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ และใช้เวลาอย่างตั้งใจท่ามกลางสิ่งรอบตัว การเปิดโปรโมชั่น 10.10 Travel Sale ของ Traveloka ช่วยส่งเสริมนักเดินทางให้ใส่ใจสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางมากขึ้น
พร้อมทั้งยังมุ่งมั่นสร้างมูลค่าเพิ่มให้ชุมชนท้องถิ่น
และสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโต สนใจเพิ่มจุดหมายปลายทางภายในประเทศ ด้วยการมุ่งเน้นให้ประสบการณ์เหล่านี้เข้าถึงง่ายขึ้น
ราคาเหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อทุกคน
“Traveloka” ในฐานะแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวครบวงจรชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จัดทำขึ้นรับเทรนด์สำคัญด้านความต้องการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพิ่มขึ้น เพราะพฤติกรรมของนักเดินทางทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงรูปแบบ
“การใช้ชีวิตวันหยุด” ของผู้คนได้ชัดเจน ช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ
ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเน้นการพักผ่อนอย่างยั่งยืน ด้วยการเข้ามาค้นหาข้อมูลหลัก
ๆ ประกอบด้วย
● ที่พักต่างๆ บน Traveloka เช่น เกสต์เฮาส์ วิลล่า โฮมสเตย์ และแม้แต่สถานที่ตั้งแคมป์ กำลังกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมกับผู้ที่แสวงหาการพักผ่อน ฟื้นฟูร่างกาย
และปรับสมดุลชีวิต
● ค้นหาบริการสปาและนวด
ออนเซ็น คลินิกเสริมความงาม ร้านเสริมสวย และการนวดกดจุดและการนวดเฉพาะทาง เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นเดียวกัน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น