วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568

บางจากลุย“Bangchak 100x”ปี’71ดันEBITDAเพิ่ม100%รุก5กลุ่มธุรกิจ4ยุทธศาสตร์

บางจากลุย“Bangchak 100x”ปี’71ดันEBITDAเพิ่ม100%

รุก5กลุ่มธุรกิจ4ยุทธศาสตร์รักษาสมดุลพลังงานยั่งยืน

บางจากเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ Bangchak 100x นำ5กลุ่มธุรกิจ ปี'71 ทำ EBIDA โตเพิ่มขึ้น 100 %

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #บางจาก #Bangchak100x

บางจากฯ เร่งกลยุทธ์ “Bangchak 100x” ตั้งเป้าปี’71 โตกระโดดเพิ่ม EBITDAขึ้น 100% ผ่าแผนขับเคลื่อน 5 กลุ่มธุรกิจ ใช้ 4 แกนยุทธศาสตร์ ต่อยอดความเป็นเลิศทุกด้าน รักษาสมดุลผู้นำพลังงานคู่ความยั่งยืน

         

         นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากเดินหน้าประกาศกลยุทธ์ ‘Accelerating Bangchak 100x: Pivoting toward Energy Security and Sustainability’ ตั้งเป้าเติบโตแบบก้าวกระโดด ภายในปี 2571 จะทำ EBITDA เพิ่มขึ้น 100% เร่งสร้างคุณค่าและยกระดับศักยภาพการแข่งขัน รักษาความเป็นเลิศทุกด้าน โดยต่อยอด 4 แกนยุทธศาสตร์ เน้นลงทุนบนพื้นฐานวินัยทางการเงิน พัฒนาและดูแลบุคลากรซึ่งเป็นกำลังสำคัญขององค์กร รักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยได้ขยายธุรกิจพลังงานครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ดำเนินธุรกิจ ทั่วโลกกว่า 10 ประเทศปี 2567 มีสินทรัพย์รวมกว่า 316,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 กว่า 5 เท่า จากเดิม 59,000 ล้านบาทเป็นความสำเร็จนี้สะท้อนถึงองค์กรสามารถปรับตัว เปลี่ยนผ่าน สร้างการเติบโตได้ภายในเวลารวดเร็ว



ปัจจุบันบริษัทต้องเผชิญความท้าทายที่ซับซ้อน ท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์ ราคาพลังงานที่ไม่แน่นอน และแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ แม้สังคมโลกจะเร่งผลักดันการลดคาร์บอน แต่หลายสำนักยังคงชี้ไฮโดรคาร์บอนจะคงเป็นพลังงานหลักของเศรษฐกิจโลกจนถึงปี 2593 “บางจาก” จึงเร่งทำกลยุทธ์ Bangchak 100เติบโตอย่างมั่นคง มุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน (Return-Focused Investment) ควบคู่ขยายผลดำเนินงานในระดับสากล

โดยให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าธุรกิจหลักและการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำผลตอบแทนผู้ถือหุ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงกว่าคู่แข่ง พร้อมผลักดันให้ดียิ่งขึ้น มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ด้วยการลงทุนรองรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงโมเลกุลสะอาด พลังงานทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ และตอบโจทย์ความยั่งยืนในระยะยาว

พร้อมใช้ยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน คือ 1. การตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทาย มุ่งผลักดันภายในปี /ถึ ทำ EBITDA เติบโตเพิ่มขึ้น 100% พร้อมเสริมสร้างศักยภาพองค์กรสู่ Thailand’s Top Employer ตอกย้ำความเป็นผู้นำความยั่งยืน ด้วยการจัดอันดับ Top 1% ESG Ranking และ Top 5% ของดัชนี DJSI ควบคู่ลดต่อเนื่องความเข้มข้นการปล่อยคาร์บอน (Carbon

2.ขับเคลื่อนสู่ความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืน มุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน ธุรกิจต้นน้ำระยะกลาง ตลอดจนพลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ 

3.ยกระดับศักยภาพธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถการทำกำไร ด้วยวิธีปรับโครงสร้างธุรกิจ ตอบโจทย์การลงทุนและเป้าหมายใหม่ ครอบคลุมธุรกิจการกลั่นน้ำมันและการตลาด เชื้อเพลิงชีวภาพและเชื้อเพลิงแห่งอนาคต (SAF, HVO) การค้าพลังงานแบบ ด้วยการขยายกำลังการผลิตโรงกลั่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ขยายเครือข่ายการตลาดควบคู่กับการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ให้เติบโต

4.สร้างคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืน 3 ปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น เสริมความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโต เพื่อความชัดเจนในการดำเนินงาน บริษัทฯ จะปรับโครงสร้างธุรกิจเสริมสร้างความแข็งแกร่งระยะยาว โดยมุ่งสร้าง Synergy ระหว่างหน่วยธุรกิจให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น การตลาด และพลังงานชีวภาพ พร้อมเร่งกลไกการเติบโตใหม่ผ่านธุรกิจการค้าน้ำมันและธุรกิจต้นน้ำ ปรับบทบาท BCPG ให้ก้าวสู่ผู้ดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ รองรับทั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนและรายได้ที่มั่นคง และการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตผ่านกองทุน CVC มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ วางรากฐานให้องค์กรก้าวนำการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ


ตั้งแต่ 1 มกราคม 2569 จะจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการตลาด และพลังงานชีวภาพ (Refinery & Marketing and Biofuels) บริหารโรงกลั่นน้ำมันบางจากพระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจากศรีราชาแบบ วัน ทีม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ขยายกำลังการกลั่นรวมปี 2568 วันละ 265,000 บาร์เรล ปี 2571 วันละเป็น 285,000 บาร์เรล ปี 2573 วันละมากกว่า 290,000 บาร์เรล ควบคู่การลงทุนน้ำมันอากาศยั่งยืนหรือ SAF และ HVO (Hydrotreated Vegetable Oil) ปี 2570 รวมวันละ 7,000 บาร์เรล ซึ่งตอนเริ่มต้นผลิตในเชิงพาณิชย์เดือนมิถุนายน 2569 ผลิตได้วันละ5,000 บาร์เรล

“ด้านพลังงานชีวภาพ” ปี 2569 0tขยายกำลังการผลิตเอทานอลเป็น 292 ล้านลิตร/ปี และเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องโรงงานไบโอดีเซลสู่กำลังการผลิตเต็มที่ 330 ล้านลิตรต่อปี เสริมสร้างซินเนอร์ยีระหว่างหน่วยธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

            “ด้านการตลาด” ปี 2568 ขยายสถานีบริการเป็นราว 2,300 แห่ง ปี 2571 เพิ่มมากกว่า 2,300 แห่ง ปี 2573 จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดกว่า 33% จากปี 2568 ทำได้ 29 % ควบคู่กับการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ทั้งอินทนิลและค้าปลีก ภายในปี 2571 ตั้งเป้ามี EBITDA ของธุรกิจนี้เติบโต 3 เท่า

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการค้าน้ำมัน (Trading) กลุ่มธุรกิจหลักใหม่ (new flagship) กลไกขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ของบางจากฯ ยกระดับจากบทบาทเดิมสนับสนุนโรงกลั่นสู่ธุรกิจหลักสร้างผลตอบแทนสูง โดยมุ่งพัฒนาซื้อขายพลังงานแบบมีสินทรัพย์รองรับ (asset-backed trading) ใช้ความได้เปรียบจากการมีโรงกลั่นน้ำมัน คลังน้ำมัน และระบบขนส่งที่ครอบคลุมเป็นฐานขยายตลาด ควบคู่การบริหารความเสี่ยงด้านราคาและปริมาณ ขยายทั้งปริมาณและมูลค่าการซื้อขายในประเทศและภูมิภาค

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) ตั้งเป้าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจแหล่งปิโตรเลียมระยะกลางชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ประสบการณ์ระดับสากลจากนอร์เวย์ บริหารแหล่งผลิตให้มีประสิทธิภาพ เสริมความคล่องตัวและกระแสเงินสดมั่นคง พิจารณาการลงทุนที่เหมาะสม เสริมความมั่นคงด้านพลังงานและการเติบโตระยะยาว

กลุ่มที่ 4 ธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน (Power and Infrastructure) ต่อยอดพลังงานหมุนเวียนสู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ ได้แก่ ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ ตั้งเป้าภายในปี 2571 เพิ่ม EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ผ่านการบริหารพอร์ตเพื่อเพิ่มผลตอบแทนและหมุนเวียนทุน


กลุ่มที่ 5 ธุรกิจใหม่และโฮลดิ้งส์ (New Businesses and Holdings) มุ่งสร้างการเติบโตผ่านการขยายศักยภาพธุรกิจหลัก ทั้งด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจการกลั่นและการตลาด ควบคู่การลงทุนใหม่มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เตรียมพร้อมสู่อนาคต โดยเน้นยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ทันสมัย การพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ เช่น Bio-LNG, Nuclear Fusion,
กรีนแอมโมเนีย เชื้อเพลิงสังเคราะห์ เทคโนโลยีชีวภาพและระบบแบตเตอรี่ เสริมพลังให้ธุรกิจหลักขยายโอกาสใหม่ สร้างเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กลุ่มบริษัทบางจาก

            “ด้านการเงิน” บริษัทฯ  ใช้กลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ 1.เพิ่มอัตรากำไร ผ่านการยกระดับประสิทธิภาพของธุรกิจที่มีอยู่ และจัดสรรงบลงทุน (CAPEX) อย่างเหมาะสม 2.การลงทุนที่มุ่งผลตอบแทน ให้ความสำคัญกับธุรกิจต้นน้ำ การค้า และโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโต 3.สร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระดับแนวหน้า ผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี และสร้างกระแสเงินสดรองรับการจ่ายเงินปันผล 4.การเตรียมความพร้อมสู่อนาคต เปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยใช้โอกาสจากเทคโนโลยีใหม่ รักษาความแข็งแกร่งทางการเงินภายใต้วินัยการลงทุนอย่างเข้มงวด ปี 2569-2571 มีจัดสรรงบลงทุนรวม 35,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก ขยายสู่โครงสร้างพื้นฐานอนาคต รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายชัยวัฒน์ ย้ำว่า บางจากฯ เดินหน้าเร่งรัดและมีวินัยรักษาธุรกิจหลักอย่างแข็งแกร่ง คงไว้ซึ่งความเป็นเลิศทุกด้าน มุ่งสร้างสมดุลระหว่าง “ความมั่นคงทางพลังงานกับความยั่งยืน” มุ่งสู่เป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ด้วยการกำหนดกลยุทธ์ Accelerating Bangchak 100x: Pivoting toward Energy Security and Sustainability ตอบโจทย์ทุกมิติ สร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเสียทางธุรกิจ ผู้ถือหุ้น และสังคมในระยะยาว

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดเบื้องลึก!!โฮปเวลล์โมเดลรุกไทยรอบใหม่เร่งแก้3อำนาจลุยทวงถามเงินลงทุน 1.18 หมื่นล้าน

เปิดเบื้องลึก !! โฮปเวลล์โมเดลรุกไทยรอบใหม่เร่งแก้ 3 อำนาจ ต่างชาติเคลียร์ข้อกล่าวหา-ยื่นทวงถามเงินลงทุน 1.18 หมื่นล้าน ทีมโฮปเวลล์ต่างชา...