ททท.เปิดมหกรรมปั๊มรายได้“เที่ยวเหนือหน้าฝน”พ.ค.-ส.ค.68
ลุยจัดคาราวาน20วันชู2ไฮไลต์เที่ยว“ตามตำนาน-ตามศรัทธา”
บูมSeason of Northปี’68-69โหมขาย17จังหวัด17สไตล์17เมนู
ช้อปด่วนคิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ
Hotliday Seasonลดจริง25%
“คิงเพาเวอร์ออนไลน์”คัดไอเทมบิวตี้แบรนด์โลกลดสุด
20%
ททท.จัด“Amazing Krabi Green Fest 2025”ต้นแบบเที่ยวยั่งยืน
BCPGเครือบางจากQ1/68กำไร152ล้านQ2มีสัญญาณดี4เรื่อง
“ยโสธร”สุขทันทีที่เที่ยวงานบุญบั้งไฟ-วัดสีน้ำเงิน-ฟาร์มสเตย์
7 ผลไม้กินแล้วอายุยืน “ทับทิม-กล้วย-แอปเปิล-บลูเบอรี่-กีวี”
AWCกำไรQ1ปี’68โตแรง 23%เพิ่มพอร์ตลงทุนใหม่3โครงการ
บางกอกแอร์ผนึกORใช้น้ำมันSAFดันอุตการบินของไทยยั่งยืน
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #บั้งไฟยโสธร
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !!
“สมชาย ชมภูน้อย” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดแนวรุก พ.ค.-ก.ย.68
“เที่ยวเหนือหน้าฝน ค้นหาความสุข” บุกหนัก 2 ไฮไลต์
“เที่ยวตามตำนาน” ระดมเอเย่นต์ สื่อ ร่วมคาราวานใหญ่แห่งปี 10-30 มิ.ย.นี้ตลุยค่ำไหนนอนนั่น 17 จังหวัด ต่อด้วย “เที่ยวเหนือ
ตามศรัทธา” ร่วมบุญ 6 งานประเพณี รุกทำโร้ดโชว์ปิดจ็อบเที่ยวข้ามภาค
ปี’68 โหมเหนือเที่ยวเหนือ “ตอนบน” เสน่ห์ล้านนา “ตอนล่าง”
มรดกโลก รังสรรค์เส้นทางเที่ยว 17 จังหวัด 17 สไตล์ 17 เมนู พร้อมเดินหน้าปูพรมธีม “Season
of North” ซีซั่น#1 ต่อยอด TATAP 2026 ซีซั่น#2 ปี’69 ดันรายได้
จำนวน นักท่องเที่ยวโตเพิ่ม 10 %
นายสมชาย
ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยแคมเปญ “Season of North” เที่ยวได้ทุกฤดูในภาคเหนือทั้ง 17
จังหวัด ซึ่งมีรายได้ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท
ปีนี้เติบโตเฉลี่ย 17 % มีคนไทยเป็นผู้เยี่ยมเยือน 26-27
ล้านคน-ครั้ง เพื่อชดเชยตลาดอื่น ๆ ที่หายไปจากภาคเหนือ ช่วง
“กรีนซีซั่น” ระหว่างพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 จึงได้เพิ่มจุดขายธีม
“เที่ยวเหนือ หน้าฝน ค้นหาความสุข”
ให้มาสัมผัสสภาพอากาศไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ราคาสบายกระเป๋า
ธรรมชาติทะเลหมอกงดงามมาก อาหารการกินสมบูรณ์ ด้วยไฮไลต์ดินแดนแห่ง “มหานคร ชา
กาแฟ โกโก้” เชื่อมโยงกับถนนคนเดิน ชุมชนสวนผลไม้ ร้านอาหารเมนูมิชลิน
ด้วยไฮไลต์การท่องเที่ยวหน้าฝนนี้ 2 รูปแบบ ได้แก่
“เที่ยวเหนือ ตามตำนาน” ตลอดมิถุนายน 2568 จัดคาราวาน “ค่ำไหน นอนนั่น” เชิญเอเย่นต์ท่องเที่ยว สื่อมวลชน ระหว่าง 10-30 มิถุนายน นี้ เส้นทางจากคุนหมิง-สิบสองปันนา-เชียงราย” นำเสนอตำนานแต่ละพื้นที่ ผนวก Grand Moment ในโมเมนท์แห่งความทรงจำ ความมหัศจรรย์ ทั่วภาคเหนือ 17 จังหวัด ควบคู่กับการทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้แก่ พระแก้วมรกต จ.เชียงราย ไทยลื้อ จ.พะเยา กระซิบรัก จ.น่าน บ้านเก่า จ.แพร่ เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ พระวัจนะพูดได้ จ.สุโขทัย เมืองสองแคว จ.พิษณุโลก เมือชาละวัน จ.พิจิตร เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ สะแกกรัง จ.อุทัยธานี ชากังราว จ.กำแพงเพชร ตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน จ.ตาก เมืองเขลางค์ จ.ลำปาง พระนางจามเทวี จ.ลำพูน พระสุพรรณกัลยา จ.แม่ฮ่องสอน ตำนานรัก จ.เชียงใหม่
“เที่ยวเหนือ
ตามศรัทธา” โดยมีกิจกรรมงานประเพณีต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างหลากหลาย เช่น “อัฏฐมีบูชา” ที่พระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์
ระหว่าง 11-19 พฤษภาคม 2568 จัดต่อเนื่องมา 70 ปี วิสาขาบูชา คือวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลังดับขันธปรินิพพานได้แปดวัน 2.นุ่งซิ่นกินทุเรียน 3.เที่ยวแพร่แช่สวนพลัม 4.เวียนเทียนกลางน้ำ วิสาขบูชา
กว๊านพะเยา 5.ไลท์ แอนด์ ซาวนด์ โบราณสถาน จ.สุโขทัย 6.ขึ้นธาตุเดือนเก้า(เหนือ) งานบุญประเพณีสำคัญในอำเภอบ้านตาก จ.ตาก ช่วงมิถุนายนนี้
ททท.ภูมิภาคภาคเหนือได้ทำโร้ดโชว์ส่งเสริมการขายเที่ยวข้ามภาคเพิ่มรายได้และจำนวนเพื่อปิดยอดเที่ยวหน้าฝนกับ 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภูมิภาคภาคตะวันออก ในธีม“ทะเลหมอก แลกทะเลหวาน” ใต้ต้นทุเรียน ที่จันทบุรี พื้นที่ 2 ภูมิภาคภาคใต้ ในธีม “ทะเลหมอก แลกทะเลอันดามัน” ซื้อขายกันบริเวณหาดปากบารา จ.สตูล พื้นที่ 3 ภูมิภาคภาคอีสาน ในธีม “ล้านนา แลกล้านช้าง” จ.อุบลราชธานี และจำปาสัก สะหวันเขต สปป.ลาว
ผอ.สมชาย
กล่าวว่า การทำแผนตลาดต่อเนื่องปี 2569 : TATAP
2026 จะต่อยอดแคมเปญ “SEASON OF NORTH“ ซีซั่น
2 สอดแซก “เสน่ห์ภาคเหนือ” หรือ Soft Power เข้าไป โดยนำเสนอการท่องเที่ยว 5 Must Do ได้แก่ Must
Taste : ลิ้มรสอาหารเหนือ Must See : เที่ยวงานประเพณีต่าง
ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมเด่น ๆ Must Try :ทำสปา
เที่ยวเชิงกีฬา/ออกกำลังกาย กีฬาต่อสู้ต่าง ๆ Must Buy :ซื้อสินค้าเมืองเหนือ แฟชั่น Must Seek :การท่องเที่ยวแหล่งอันซีน
กับ Grand Moment 17 จังหวัด
ตั้งเป้าจะกระตุ้น “เหนือเที่ยวเหนือ” แบ่งพื้นที่ “เหนือตอนบน” เมืองล้านนา กับ “เหนือตอนล่าง” เมืองมรดกโลก ใช้ “พิษณุโลก” เป็นแกนกลาง มีห้วยขาแข้ง อุทยานศรีเทพ เพชรบูรณ์ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงแพชร เพื่อเพิ่ม 1.รายได้และจำนวนเติบโตสูงกว่าปี 2568 อีกไม่ต่ำกว่า 10 % 2.ขยายวันพักเฉลี่ยจากเป็น 2.5 วัน/คน/ทริป จากปัจจุบัน 1.5 วัน/คน/ทริป 3.การท่องเที่ยวเชื่อมโยง 2-3 จังหวัด มากกว่าเดิมแค่ 1 จังหวัด
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จึงได้ปูพรมส่งเสริมการขาย “เรื่องราวการท่องเที่ยวภาคเหนือตามฤดู” เสริฟ์เมนูส่งมอบประสบการณ์ครบทุกรส ปลุกกระแสให้ผู้คนต้องออกมาเดินทางค้นหาภาคเหนือตลอดปีทั้ง 12 เดือน กระจายไปยัง ภาคเหนือตอนบน-ล้านนา กับ ภาคเหนือตอนล่าง -มรดกวัฒนธรรม ใน 17 จังหวัด 17 สไตล์ 17 เมนู ได้แก่
#เมนูที่ 1 “เที่ยวเหนือ ธรรมชาติ…ห้ามพลาด” เที่ยวตามฤดูกาล (หน้าหนาว - หน้าร้อน - หน้าฝน) เที่ยวอากาศหนาวบนยอดดอย เที่ยวเมืองดอกไม้ “สัมผัสสายหมอก รับลมหนาว นอนนับดาว”
#เมนูที่2 “สายกินเที่ยวเมืองเหนือ…ห้ามพลาด” เมนูอาหารถิ่น สินค้าGI อาหารมิชลินไกด์ อาหารริมทาง เครื่องดื่มย่านกาแฟ
#เมนูที่3 “เที่ยวเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ…ห้ามพลาด” ย่านเมืองเก่า กิจกรรมเทศกาลงานประเพณี 12 เดือนในแต่ละจังหวัด
#เมนูที่4 ”ชุมชนท่องเที่ยวเมืองเหนือ…ห้ามพลาด“ แหล่งท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้ดูงาน ชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบ แหล่งท่องเที่ยวพื้นที่พิเศษ(อพท.)
#เมนูที่5 ”เที่ยวเช็คอินเมืองเหนือ…ห้ามพลาด“ เสน่ห์วันวานย่านเมืองเก่า มีท่า&มุมต้นแบบในการถ่ายแบบ เที่ยวตามรอยภาพยนตร์(F-Film) &คลิป ติ๊กต๊อก วีดิทัศน์โฆษณา ฯลฯ
#เมนูที่6 ”เที่ยวเหนือเอาใจขาช้อปของฝาก…ห้ามพลาด“ ย่านแหล่งช้อปปิ้ง ตลาดซื้อของฝากF-Fashion สินค้าGIของฝากประจำถิ่น
#เมนูที่7 ”เที่ยวเหนือสายศรัทธา(สายมู)…ห้ามพลาด ชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาตามความเชื่อและศรัทธา(วัดและศาสนสถานสวย)
#เมนูที่8 “เที่ยวเหนือสายยั่งยืน…ห้ามพลาด” เที่ยวเชิงวัฒนธรรม GCG Model RT(Responsible Tourism) Green CSR ทำดีเพื่อสังคม TAT Star
#เมนูที่9 “เที่ยวเหนือสายบันเทิง…ห้ามพลาด” เที่ยวเชิงสันทนาการ สวนสนุก สวนน้ำ สนามกอล์ฟ กีฬา ศิลปะป้องกันตัว และดนตรี
#เมนูที่10 ”เที่ยวเหนือกับรถไฟ รถบ้าน แค้มปิ้ง…ห้ามพลาด“ เที่ยวกับรถไฟ รถม้า รถจักรยาน รถมอเตอร์ไซด์ รถสามล้อ รถพ่วงข้าง รถแดงสองแถว รถไฟฟ้า รถยนต์ส่วนตัว แค้มป์ปิ้งต่าง ๆ ด้วยอัตลักษณ์ต่างกันไป
#เมนูที่11 ”เที่ยวเหนือสาย Workation … ห้ามพลาด“ เที่ยวไปทำงานไป (Workation) ประชุมสัมมนา ศึกษาดูงาน MICE ศูนย์ประชุมแสดงสินค้า
#เมนูที่12 ”เที่ยวเหนือระดับสายโปร… ห้ามพลาด“ เที่ยวเหนือกับโปรดีๆ วันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เมืองน่าเที่ยว จะร่วมกับพันธมิตรจัดเที่ยวโปรโมชั่นมากมาย
#เมนูที่13 ”เที่ยวเหนือระดับ สายไฮโซ … ห้ามพลาด“ แนะนำแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่สไตล์เมืองนอก เที่ยวกินหรูอยู่สบาย แหล่งท่องเที่ยวและสถานบริการแบบไฮโซ พักพูล วิลล่า คืนละหลักแสนบาท
#เมนูที่14 ”เที่ยวเหนือตามรอยตำนาน…ห้ามพลาด“ เที่ยวเหนือเหลือเชื่อ(มุมมองใหม่) คาราวานขับรถแอ่วเหนือ ยกกลุ่ม ยกแก้ง ค้นหาตำนานเรื่องราว เรื่องเล่า ตลอดจนUnseenจุดขาย แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ใน 17 จังหวัด
#เมนูที่15 ”เที่ยวเหนือ 17 จังหวัด รับ-ส่งตะวัน…ห้ามพลาด“ ชี้จุดที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวถ่ายรูป รับ-ส่ง พระอาทิตย์ ยามเช้าและเย็นที่ไหนสวยสุด
#เมนูที่16 ”เที่ยว3มุม(ไม่)ลับภาคเหนือ17จังหวัด…ห้ามพลาด“ แอบสร้างจุดขายใหม่ ”3มุม(ไม่)ลับรายจังหวัดภาคเหนือ” คล้ายกับอันซีน ไทยแลนด์ ต่อยอดจาก Grand Moment
#เมนูที่17 ”เสน่ห์ไทย IGNITE Thailand’s Tourism : เสน่ห์เหนือ … ห้ามพลาด“ เชื่อมโยงกับแนวคิด 5 Must Do in Thailand @ ของจังหวัด ครบทุอย่างคือ 1.Must Taste 2. Must Seek 3. Must See 4. Must Try 5. Must Buy ผนวกกับ แกรนด์โมเมต์ Grand Moment : อยู่ในที่ที่ใช่ ในจังหวะที่ลงตัว
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1-ช้อปด่วนคิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ
Hotliday
Seasonลดจริง25%
คิง เพาเวอร์ พร้อมให้ช้อปแคมเปญ “Hotliday Season” ร้อนไม่หยุด ช้อปให้สุดจนฉุดไม่อยู่ ที่สนามบิน! วันนี้– 31 พฤษภาคม2568 เพิ่มประสบการณ์ความแรงใน “คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ช้อปแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางเสิร์ฟความฮ็อตด้วย 1.ส่วนลด 20% เมื่อช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ 2.รับส่วนลด 25% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
พิเศษ! ทุกวันศุกร์ เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดยาว มีให้เลือกช้อปได้อีกถึง 8
วัน คือ วันที่ 9-12, 16-18, 23-25, 30
พฤษภาคม และ 3 มิถุนายน 2568 รับส่วนลดสูงสุด
30% ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่
และภูเก็ต เมื่อช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ เพียงซื้อสินค้าแค่
1,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จเท่านั้น
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์ออนไลน์คัดไอเทมบิวตี้แบรนด์โลกลดสุด20%
คิง
เพาเวอร์ จับมือกับแบรนด์ดังคัด “ไอเทมบิวตี้เด็ด” ที่ต้องมีในปี 2568 เลือกที่ใช่สำหรับทุกคน แล้วช้อปได้ทาง “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” วันนี้ -24 พฤษภาคม 2568 นำโดยแบรนด์ KYLIE/ ไครีย์ คอสเมติก ,NARS, CLÉ DE PEAU BEAUTÉ (เคลย์
เดอ โป โบเต้) SHISEIDO, LANCOME, CLARINS/คลาแรงส์ ,
LA MER, CLINIQUE, ANESSA, KIEHL'S และอื่นๆอีกมาก
เข้าชมสินค้าพร้อมช้อปและรับดีลพิเศษ
ขานรับกับแคมเปญ
MOMENTS OF MAY: TRAVEL . SHOP . INDULGE เที่ยว ช้อป
ฟิน เมย์นี้มีเฮ ช้อปเปย์สุดใจ จะช่วยกระตุ้นความอยากเที่ยว ช้อป และฟิน
ตลอดเดือนพฤษภาคม 2568 วางแผนเที่ยวให้ปัง ช้อปอย่างจุใจ
แล้วไปรับของทั้งหมดที่สนามบินขาออกประเทศ
• ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท รหัสส่วนลด 10MAY25
• ลดสูงสุด
15% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด 15MAY25
• ลดสูงสุด
20% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท
รหัสส่วนลด 20MAY25
รับฟรี!
เมื่อช้อป คิง เพาเวอร์ รอบวันนี้- 13 พฤษภาคม และ 19 - 24 พฤษภาคม 2568
รับผลิตภัณฑ์ดี ๆ กระเป๋าใส่ไอโฟน พาสเทล “Pastel Creative
Wear Work&Play” มูลค่า 1,200 บาท รอบละ 100 สิทธิ์ เมื่อช้อปครบ 12,000 บาท สุทธิ
ช้อปและรับตามกติกาที่บริษัทกำหนดไว้
ข่าวที่ 3-ททท.จัด“Amazing Krabi Green Fest 2025”ต้นแบบเที่ยวยั่งยืน
นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการ ด้านตลาดยุโรป อเมริกา
ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยววแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับจังหวัดกระบี่จัดงาน
“Amazing Krabi Green Guide Fest
2025” วันที่ 15 - 18 พฤษภาคม 2568 ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา–หมู่เกาะพีพี
จังหวัดกระบี่ ชูแนวคิด Green Vibes และ Eco-Friendly Event ขับเคลื่อนกระบี่สู่ “อนาคตแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” มุ่งยกระดับกระบี่เป็นพื้นที่ต้นแบบจุดหมายปลายทางสีเขียวอย่างยั่งยืนระดับสากล
ถือเป็นหนึ่งในโครงการ Krabi Prototype หรือต้นแบบที่
ททท. ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนเดินหน้าทำตลอดห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว
พร้อมจะยกระดับกระบี่เป็นพื้นที่ต้นแบบจุดหมายปลายทางแห่งความยั่งยืน หรือ Sustainable
Tourism ตอบโจทย์ตลาดโลกปัจจุบันโดยให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยพัฒนาสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
ตลอดการจัดงาน ททท. คาดจะกระตุ้นการเดินทางและดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติให้เข้าร่วมงานกว่า
5,000 คน
สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 35 ล้านบาทขึ้นไป
ททท.เน้นส่งเสริมทั้งผู้ประกอบการ
ชุมชนท่องเที่ยว เจ้าของแหล่งท่องเที่ยวในกระบี่ เข้าสู่การรับรองทั้งในประเทศและนานาชาติ
คือ
• “มาตรฐานระดับประเทศ” ที่มีเกณฑ์ความยั่งยืน ได้แก่ 1.Sustainable Tourism Acceleration Rating
(STGs STAR), CF-Hotels 2.รางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
• “มาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล” ได้แก่ 1. Green Destinations Top 100 Stories และ 2.Tourism Cares
สำหรับงาน Amazing Krabi Green
Guide Fest 2025 คือเทศกาลท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มุ่งทำอีเวนต์คาร์บอนเป็นศูนย์
“CARBON NEUTRAL
EVENT” โดยจะเปลี่ยนการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน
สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจฐานรากในระดับท้องถิ่น ซึ่งจังหวัดกระที่มีความพร้อมครบทั้งทรัพยากรธรรมชาติที่งดงาม
เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ทุกภาคส่วนร่วมมืออย่างเข้มแข็ง
นายอังกูร
ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า
จังหวัดกระบี่ กับ ททท. พร้อมพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เตรียมจัดเทศกาลท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์งาน
“Amazing Krabi Green Guide Fest 2025” ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา–หมู่เกาะพีพี
ในฐานะ “กระบี่” เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูงของไทย
มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งทะเล หาดทราย ป่าเขา
หมู่เกาะต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อเนื่องมาตลอด
โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของชุมชนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การจัดงาน Amazing Krabi Green Guide Fest 2025 ครั้งนี้กระบี่จะมีโอกาสได้แสดงศักยภาพเป็นต้นแบบเมืองท่องเที่ยวสีเขียวระดับสากล
และสร้างกระแสการท่องเที่ยวที่มีจิตสำนึก
ผ่านกิจกรรมหลากหลายสะท้อนถึงอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างแท้จริง
ภายในงานได้ออกแบบให้เชื่อมโยงกับแนวคิด 7
Greens และ 5
Must Do in Thailand มุ่งส่งเสริมประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่า
สร้างความเข้าใจใหม่ ๆ ให้นักท่องเที่ยว สร้างแรงบันดาลใจเข้ามามีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและร่วมขับเคลื่อนกระบี่สู่อนาคตแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นายชัยภัทร
วสุนธรา
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกระบี่ตื่นตัวและพร้อมขับเคลื่อนการท่องเที่ยว Green
Tourism ต่อเนื่อง โดยร่วมกับ ททท.จัดงานนี้ขึ้น ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจท่องเที่ยวพากันปรับตัวสู่แนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
ด้วยการลดสร้างขยะ ใช้พลังงานสะอาด
ออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เน้นการมีส่วนร่วมกับชุมชนและธรรมชาติ
นางสาวกัสมาพร
ลิมปนพงศ์เทพ นายกสมาคมโรงแรมกระบี่ กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมในกระบี่ต่างให้ความสำคัญเรื่องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ร่วมกันลดใช้พลาสติก การจัดการน้ำเสีย การคัดแยกขยะ
การส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในบริการต่าง ๆ การจัดงาน Amazing
Krabi Green Guide Fest 2025 จึงเป็นโอกาสที่ดีช่วยสร้างความรับรู้ให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจถึงมีบทบาทสำคัญของผู้ประกอบการโรงแรมพร้อมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ส่งต่อแรงบันดาลใจไปยังโรงแรมทั่วประเทศ ร่วมมือกันพัฒนาสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน
สำหรับงาน “Amazing Krabi Green Guide Fest 2025” ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับประสบการณ์ครบทุกมิติ
กับอัตลักษณ์ของกระบี่ภายใต้ 5
Must Do in Thailand
ผ่าน 7 Greens ได้แก่
• Green Recreation กิจกรรมทางบก
และกิจกรรมคลาสเรียนทางน้ำ Surfboard Skimboard กิจกรรม Sound Healing และ
Yoga กิจกรรมของสายอนุรักษ์ และสร้างมูลค่าจากเศษขยะ
• Green
Music การแสดงดนตรีสด โชว์อัตลักษณ์
ตั้งแต่วงดนตรีท้องถิ่นรวมไปจนถึงศิลปินระดับประเทศ
• Green
Food นำเสนออาหารยั่งยืนในกระบี่
และสาธิตการปรุงอาหารจากเชฟชื่อดัง พร้อมเสิร์ฟเมนูรักษ์โลกที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น
• Green
Art นิทรรศการศิลปะจากวัสดุรีไซเคิล
เวิร์กชอปงานหัตถกรรม และการแสดงพื้นบ้าน
• Green
Learning บูธความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม
การจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และกิจกรรมให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน
• Green Society พื้นที่พบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการท้องถิ่น
• Green Tourism เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในกระบี่ เน้นลดปล่อยคาร์บอน และหันมาใช้บริการโดยตรงจากชุมชน
ข่าวที่
4 -BCPGเครือบางจากQ1/68กำไร152ล้านQ2สัญญาณดี 4 เรื่อง
BCPG เครือบางจาก
ไตรมาส 1 ปี’68 ทำรายได้
730 ล้านบาท กำไรสุทธิ 152.6 ล้านบาท ไตรมาส 2 มีสัญญาณดี 4 เรื่อง
นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ บีซีพีจี มีผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 ทำกำไรสุทธิ 152.6 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติทำได้ 197.8 ล้านบาท ลดลง 13.1 % จากไตรมาส 4/2567 สาเหตุเพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว ลดลงตามฤดูกาล และลดลง 42.4
% จากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน เพราะ 2 ปัจจัย
คือ
ปัจจัยที่
1รายได้ส่วนเพิ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยสิ้นสุดลง
ปัจจัยที่ 2 การจำหน่ายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น หากรวมรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
และรายการพิเศษจากการเปลี่ยนแทนอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
แนวโน้มครึ่งหลังปี 2568 กลุ่มบริษัท บีซีพีจี
มีสัญญาณดีจากปัจจัยบวก 4 เรื่อง ได้แก่
1.เป็นช่วงฤดูที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว
สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปริมาณมากขึ้น
2.โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐอเมริกาได้รับค่าความพร้อมจ่ายไฟ (Capacity
Revenue) เพิ่มขี้น
3.โครงการ มอนซูน โรงไฟฟ้าพลังงานลมใน สปป.ลาว พร้อมเปิดในเชิงพาณิชย์เต็มกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์
4.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม อยู่ระหว่างเข้าซื้อกิจการ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99 เมกะวัตต์ คาดครึ่งหลังปีนี้จะรับรู้รายได้
บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทในเครือ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแถวหน้าในเอเชียแปซิฟิก
ดำเนินการและลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังงานลม
และก๊าซธรรมชาติ ในไทย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สปป.ลาว เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา
ช่วงที่ 2 ออกเดินทางไป
“อีสานเขียว เที่ยวหน้าฝน” แถมได้ชมประเพณี “บุญบั้งไฟ” 16-18 พ.ค.นี้ แวะชม “วัดคำเลา” สีน้ำเงินแปลกตา แล้วก็เช็คอินเลือกเที่ยว
5ฟาร์มสเตย์ นักชิมต้องได้ลองเนื้อโคขุนขึ้นชื่อ แล้วฟัง “7ผลไม้กินแล้วอายุยืน” ทับทิม กล้วย แอปเปิ้ล สตอร์บอรี่ บลูเบอรี่ กีวี
ฟังเรื่องฮ็อต ๆ ข่าวแรก “AWC ไตรมาส 1
ปี’68 กำไรโต 23 % ลุยเพิ่มพอร์ตใหม่ 3
โครงการ ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์จับมือ OR”
ลุยใช้ SAF ดันอุตสาหกรรมบินเมืองไทยยั่งยืน
ท่องเที่ยว–“ยโสธร”สุขทันทีที่เที่ยวงานบุญบั้งไฟ-วัดสีน้ำเงิน-ฟาร์มสเตย์
อีสานเขียว
เที่ยวหน้าฝน สุขทันทีที่ได้เช็คอินเที่ยว “งานประเพณีบุญบั้งไฟ”
จังหวัดยโสธร จัดยิ่งใหญ่ให้ชมปีละ 2 วันเท่านั้น วันที่ 17-18
พฤษภาคม 2568 เป็นงานประเพณีสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต้อง “บั้งไฟยโสธร”
ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่และชื่อเสียงที่สุดของเมืองไทย
หนึ่งในประเพณี
"ฮีตสิบสอง คองสิบสี่" หรือจารีตประจำปีของชาวอีสาน จัดช่วง “บุญเดือนหก
หรือ บุญบั้งไฟ จัดขึ้นเพื่อ บูชาเทพยดาและขอฝน ก่อนเข้าสู่ฤดูเพาะปลูก
เพื่อความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกิน
“การจุดบั้งไฟ”
ถือเป็นสื่อกลางการแสดงความเคารพและขอพรจากเทพเจ้า
รวมถึงเป็นกิจกรรมแสดงพลังของคนในชุมชนที่มีมาอย่างยาวนานทั้งเรื่อง ความสามัคคี
ความสามารถ และความสนุกสนาน
“ขบวนแห่บั้งไฟ”
ปีนี้ตกแต่งสุดวิจิตรตระการตา ชวนนักท่องเที่ยวมาชม ขบวนแห่ การละเล่นพื้นบ้าน
ดนตรีหมอลำ การประกวดบั้งไฟสวย บั้งไฟแสน และความสนุกสไตล์ประเพณีศรีอีสาน
เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยวทุกปี
วันที่
16 พฤษภาคม 2568 ชมการประชันการตกแต่งบั้งงไฟของแต่ละหมู่บ้าน
จะนำมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอจังหวัดยโสธร
วันที่
17 พฤษภาคม 2568 ชมพิธี “เปิดงานและขบวนแห่” สุดตระการตา ตื่นตากับศิลปวัฒนธรรม
ช่วงแห่จะครึกครื้นด้วยเสียงเพลงแดนอีสาน
วันที่
18 พฤษภาคม 2568 ชม “การจุดบั้งไฟ”
มีหลายขนาดที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มีทั้งบั้งไฟหมื่นบั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน
พิกัดที่
2 เที่ยววัดคำเลา
(วัดสีน้ำเงิน) ช่วงงานประเพณีบั้งไฟ แนะนำไปชมวัดสวยงามอีกแห่งให้ท่องเที่ยวใน
ตำบลโพนงาม อำเภอกุดชุม ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมโดดเด่นด้านหน้าทางสีน้ำเงิน
มีพญานาคคู่สีน้ำเงิน 7 เศียร โดยภาพรวมมีลักษณะคล้าย “วัดร่องเสือเต้น”
จังหวัดเชียงราย ภายในได้เขียนภาพประวัติพระพุทธเจ้าลงในผนังรอบอุโบสถ
พิกัดที่
3 “ฟาร์มสเตย์ยโสธร” ชาวยโสธรได้เปลี่ยนจุดผ่านแปลงโฉมเป็น “ที่พัก” 5 ฟาร์มสเตย์ยโสธร 1. นาจันทร์สว่างฟาร์มสเตย์
อำเภอเมือง 2.บ้านสวนเพิ่มสุขคราฟท์แอนด์คาเฟ่ อำเภอมหาชนะชัย 3.
นาตาเจิมฟาร์มสเตย์ บ้านห้องแซง อำเภอเลิงนกทา 4.ไร่นุจรินทร์ฟาร์มสเตย์
อำเภอเลิงนกทา 5. ดีรวยฟาร์มสเตย์ อำเภอป่าติ้ว ชวนสายเที่ยว สายถ่ายรูป สายกิน
สายฮักบ้านเกิด สายสร้างชุมชน แวะมาเช็คอิน ดื่มด่ำธรรมชาติ อาหารถิ่น วิถีอีสาน
พิกัดที่
4 “บ้านสิงห์ท่า” ย่านเมืองเก่ายโสธร
ซึมซับกลิ่นอายวันวานชมตึกเก่าลวดลายจีน-ยุโรปสุดคลาสสิก แวะไหว้พระขอพร
เติมความสงบในวัดเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
จุดเช็กอินห้ามพลาด : 1.ตึกแถวโบราณ ย่านถนนศรีสุนทร 2.พิพิธภัณฑ์บ้านสิงห์ท่า –
เรียนรู้เรื่องราวเมืองเก่า 3.ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ผสมผสานศิลปะของ 3 วัฒนธรรม คือ จีน ไทย ลาว
4.วัดมหาธาตุ
โบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธปฏิมาบุษยรัตน์ หรือพระแก้วหยดน้ำค้าง
พระพุทธปรูปบูชาประจำเมืองขนาดเล็กสุดในไทย พระธาตุอานนท์ พระเจดีย์ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระอานนท์แห่งเดียวในไทย
และหอไตรกลางน้ำที่มีศิลปะงดงาม
5.วัดศรีธรรมาราม –
สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองยโสธร คือ “พระพุทธมงคลรุ่งโรจน์” หรือ
“หลวงพ่อพระสุก” 6.ชิมของอร่อยพื้นถิ่น
ปลาส้ม & ลอดช่องยโสธร ของดีของฝากประจำจังหวัด
พิกัดที่
5 Must Taste เนื้อโคขุน
ปักหมุดตรง กลุ่มโคขุนหนองแหน ต.หนองแหน อ.กุดชุม
เที่ยวชมฟาร์มและวิถีชีวิตเกษตรกรท้องถิ่น แล้วลิ้มรสชาติเนื้อโคขุนแท้ ๆ
สดใหม่จากฟาร์ม เมนูเด็ด เนื้อย่างจิ้มแจ่วลาบเนื้อรสแซ่บ สเต๊กโคขุนหอมกรุ่น ขายทั้งแบบพร้อมทานและแปรรูปนำกลับบ้านได้ด้วย
สุขภาพ –7ผลไม้กินแล้วอายุยืน“ทับทิม/กล้วย/แอปเปิล/บลูเบอรี่/กีวี”
องค์กรด้านโภชนาการในสหรัฐอเมริกา
ได้ประกาศรายชื่อ "ผลไม้ 7 ชนิดที่ดีที่สุดต่อการยืดอายุ"
มีบทบาทสำคัญต่อการยืดอายุขัย เป็นแหล่งให้สารอาหารที่จำเป็น
ช่วยป้องกันการชราและโรคต่าง ๆ
อันดับ
1 ทับทิม -มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียทำการศึกษาพบว่า
ทับทิมมีโพลีฟีนอล (polyphenols) ในปริมาณสูง
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากกว่าชาเขียวเสียอีก ช่วยลดการอักเสบ
ปกป้องหัวใจ และป้องกันมะเร็ง ช่วยปรับปรุงความจำ
ชะลอการเสื่อมสภาพของการรับรู้ในผู้สูงอายุด้วย
อันดับ
2 กล้วย - เป็นแหล่งโพแทสเซียมที่อุดมสมบูรณ์
ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตและช่วยการทำงานของหัวใจ การศึกษาจากสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา พบว่า
การรับประทานกล้วยเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ในกล้วยยังมีไทรปโตเฟน (tryptophan) ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเซโรโทนิน
ที่ช่วยปรับปรุงอารมณ์และการนอนหลับ
อันดับ
3 สตรอว์เบอร์รี - อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
เช่น แอนโธไซยานิน (anthocyanin) กรดเอลลาจิก (ellagic acid) ช่วยปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ต้านมะเร็ง ปรับปรุงผิวพรรณ
โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดมีงานวิจัยพบว่า การบริโภคสตรอว์เบอร์รี
ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง และปรับปรุงความดันโลหิตด้วย
อันดับ 4 กีวี - เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และชะลอการแก่ของผิวหนัง งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอทาโก
ในนิวซีแลนด์ ยังพบอีกด้วยว่า กีวีช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
เนื่องจากระดับเซโรโทนิน (serotonin) ที่สูงธรรมชาติ
อันดับ 5 แอปเปิ้ล -มีทั้งไฟเบอร์ วิตามินซี
และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเควอเซทิน ซึ่งมีคุณสมบัติลดการอักเสบ
และปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือด มหาวิทยาลัยฟลอริดาศึกษา พบว่า
การรับประทานแอปเปิ้ลทุกวัน สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)
และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
อันดับ 6 บลูเบอร์รี -เด่นเรื่องสารแอนโธไซยานิน (anthocyanin)
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการชรา และเสริมสร้างความจำ
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดศึกษาพบว่า การบริโภคบลูเบอร์รีเป็นประจำ
สามารถลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ และลดการเสื่อมสภาพของความสามารถในการรับรู้ได้
อันดับ 7 องุ่น -อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเค
และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสารเรสเวอราทรอล (resveratrol)
ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการอักเสบ ปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
และป้องกันมะเร็ง โดยงานวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIH)
พบว่าเรสเวอราทรอลช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองและยืดอายุ
ผลไม้ทั้ง
7 ชนิดนี้ ล้วนมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ช่วยป้องกันโรคและยืดอายุขัย หากต้องการรักษาสุขภาพให้ดี
ควรนำมาบริโภคเป็นประจำร่วมกับการใช้ชีวิตที่ดีต่อไป
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก – AWCกำไรQ1ปี’68โตแรง 23%เพิ่มพอร์ตลงทุนใหม่3โครงการ
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน
ทำรายได้รวม 6,191 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 13.6 % กำไรจากการดำเนินงาน 3,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.3 % มีกำไรสุทธิ 1,969 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 % พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นจากผลการดำเนินงานปี 2567 วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 หุ้นละ 0.075 บาท เพิ่มขึ้น 50 %
เติบโตต่อเนื่องตามแผนด้วยกลยุทธ์เร่งผลักดันศักยภาพของทรัพย์สินเพื่อสร้างกระแสเงินสดอย่างมั่นคงและยั่งยืน
สามารถทำพอร์ตโฟลิโอโตจากปี
2562 แบบก้าวกระโดด 2 เท่า
ด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวม (Gross Asset Value) สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 ทำได้ 209,374 ล้านบาท โดยได้เพิ่มเข้าพอร์ต 3 โครงการใหม่
ได้แก่ 1.โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย 2.การลงทุโครงการเวิ้งนครเกษม เยาวราช 3.โครงการเลอ
คองคอร์ด
รัชดาภิเษก ตั้งเป้าพัฒนาเป็น Jubilee Prestige
Tower เป็นมิกซ์ยูสมีครบทั้ง สำนักงาน โรงแรม เจดับบลิว
แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก
ไตรมาส
1 ปี 2568 AWC จึงสร้างการเติบโตก้าวกระโดดมีจำนวนห้องกว่า 641 ห้อง เพิ่มขึ้น 10 %สร้างกระแสเงินสดทันทีเสริมผลประกอบการ
โดยมีกลุ่มโรงแรมใช้จุดแข็งเสริมพลังพันธมิตรทั่วโลก
เป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาใช้บริการสร้างรายได้เฉลี่ยต่อวัน (ADR) เติบโตโดดต่อเนื่อง 6,663 บาท/คืน
เพิ่มขึ้น 5.8 % สร้างนิวไฮอัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ในอนาคตอันใกล้นี้เตรียมเปิดโครงการใหม่รองรับตลาดครอบครัว
ได้แก่ 1.โรงแรมพัทยา แมริออทรีสอร์ต แอนด์ สปา ตื่นเต้นกับ 2.โครงการ จูลาสสิก เวิลด์ เดอะ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ครั้งแรกของโลก ในอาณาจักร เอเชียทีค
เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น นำไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลกในระยะยาว
ข่าวที่สอง
–บางกอกแอร์ผนึกORใช้น้ำมันSAFดันอุตการบินของไทยยั่งยืน
บริษัท
การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent: LOI) ความร่วมมือใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable
Aviation Fuels : SAF) เป็นผู้ผลิตภายในประเทศเป็นครั้งแรกของไทย
นำมาใช้ในเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์ส ตอบโจทย์ของสองบริษัทเรื่องเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ผลักดันอุตสาหกรรมการบินของประเทศก้าวสู่อนาคตการบินเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยมีตัวแทนร่วมลงนาม
ได้แก่ นายเดชิศร์ เจริญวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บมจ.
การบินกรุงเทพ กับนายชัยพฤฒิ วัชรีคุปต์ ผู้จัดการฝ่ายตลาดอากาศยานและเรือขนส่ง OR ที่สำนักงานใหญ่บางกอกแอร์เวย์ส
ถนนวิภาวดีรังสิต
นายเดชิศร์
เจริญวงศ์ เปิดเผยว่า
เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบางกอกแอร์เวย์สที่ได้ความร่วมมือกับ OR ยกระดับอุตสาหกรรมการบินในไทยสู่เส้นทางบินสีเขียว เลือกใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
หรือ SAF โดยเป็นผู้ผลิตภายในประเทศเป็นครั้งแรกของประเทศ
พร้อมเดินหน้าสานต่อแคมเปญ “Low Carbon Skies by Bangkok
Airways” ในกระบวนการดำเนินธุรกิจทุกขั้นอตอนจะมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนด้วยวิธีบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้
เพื่อเตรียมความพร้อมใช้เชื้อเพลิงชีวภาพอุตสาหกรรมการบินของไทยในอนาคต
ตอบสนองต่อแนวโน้มธุรกิจการบินของประเทศมุ่งสู่ความยั่งยืน สอดคล้องกับสมาคมขนส่งทางอาอากาศระหว่างประเทศ
(IATA) ตั้งเป้าหมายจะทำให้บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนปี 2593
(ค.ศ. 2050)
นายชัยพฤฒิ
วัชรีคุปต์ กล่าวว่า ความร่วมมือกันครั้งนี้
OR ในฐานะผู้นำการจำหน่ายน้ำมันอากาศยานของไทย ส่วนบางกอกแอร์เวย์สเป็นสายการบินชั้นนำที่จะใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
(SAF) โดยมี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด
(มหาชน) “GC” โดยเป็นผู้ผลิตในไทยเป็นครั้งแรก ได้พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ยั่งยืนกับการผสม SAF นำกระบวนการ Co – Processing มาใช้ในอุตสาหกรรมการบินเป็นครั้งแรก
เพื่อรองรับนโยบายอนาคตของไทยจะบังคับใช้ SAF
OR มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งสำคัญนี้
และมุ่งมั่นสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินของไทยสู่ความยั่งยืน โดยการจัดหาน้ำมัน SAF ให้บางกอกแอร์เวย์สนับการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการบินเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจของ OR เน้นสนับสนุนเป้าหมายของประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
หรือ Net Zero ภายในปี 2608 (ค.ศ. 2065)
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น