วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

บพท.ให้ทุนวิจัย มจธ.พลิกโฉมพื้นที่ชายขอบราชบุรีสร้างเศรษฐกิจยั่งยืน

 

บพท.ให้ทุนวิจัย มจธ.พลิกโฉมพื้นที่ชายขอบจ.ราชบุรี

ปั้นนวัตกรรมการศึกษา-นวกรวัฒนธรรมเศรษฐกิจยั่งยืน

 

บพท.)ให้ทุนวิจัย มจธ.ทำโมเดลพัฒนาพื้นที่ชายขอบราชบุรีมีอาชีพและเศรษฐกิจยั่งยืน

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #บพท 

บพท. ใช้ทุนหนุนงานวิจัย มจธ. ดัน นวัตกรรมการศึกษา เพิ่มนวัตกรเชิงวัฒนธรรม รายได้ สร้างอาชีพจังหวัดชายขอบ กลุ่มชาติพันธุ์ราชบุรี ปั้น อศม.อาสาเพื่อการศึกษาหมู่บ้าน สร้างโมเดล “โรงเรียน-ครอบครัว-ชุมชน ไร้รอยต่อ”

รศ.ดร.อุเทน  คำน่าน รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ฝ่ายบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า บพท.ได้สนับสนุนทุนงานวิจัย 2 โครงการ คือ 1.วิจัยการพัฒนาการเรียนรู้ สมรรถนะฐานอาชีพสำหรับนักเรียนด้อยโอกาสและนวัตกรรมเชิงระบบเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนชายขอบ จังหวัดราชบุรี 2.โครงการวิจัยทุนทางวัฒนธรรมกะเหรี่ยงโผล่งในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี ช่วงราชบุรีและเพชรบุรี ดำเนินการโดยคณาจารย์นักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)

งานวิจัยทั้ง 2 โครงการมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ เน้นเป้าหมายจะสร้างเปลี่ยนแปลงชุมชนในพื้นที่ชายขอบให้ดีขึ้น บริเวณชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ชุดความรู้จากงานวิจัยทำประโยชน์ 1.ออกแบบเนื้อหาหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ 2.ประยุกต์ฐานทุนทางวัฒนธรรม ตลอดจนทรัพยากรในพื้นที่ มาสร้างมูลค่า สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้มั่นคง ยั่งยืน

ดร.อมรวิชช์  นาครทรรพ ที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่าโครงการวิจัยการพัฒนาการเรียนรู้ สมรรถนะฐานอาชีพสำหรับนักเรียนด้อยโอกาสและนวัตกรรมเชิงระบบเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนชายขอบ จังหวัดราชบุรี ครอบคลุมพื้นที่วิจัย 6 อำเภอ ได้แก่ สวนผึ้ง, บ้านคา, จอมบึง, บ้านโป่ง, โพธาราม และอำเภอเมือง ซึ่งริเริ่มช่วงเกิดโควิด-19 จึงเป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอนในโรงเรียน ทำให้นักเรียนขาดโอกาสทางการศึกษา คณะนักวิจัยจึงได้ค้นคว้าวิจัยแสวงหาแนวทางและเครื่องมือแก้ไข ก้าวข้ามข้อจำกัดและอุปสรรค เพื่อทำให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ เป็นโมเดลการจัดการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในพื้นที่โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นกลไกสำคัญ ช่วยตอบโจทย์และยั่งยืน ด้วยการวางระบบ ช่วยเหลือครู

ทางคณะนักวิจัยค้นพบกลไกอาสาสมัครเพื่อการศึกษาประจำหมู่บ้าน (อศม.) ที่ประยุกต์แนว ความคิดมาจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ในระบบสาธารณสุข ช่วยแก้ปัญหาได้ ทำหน้าที่เป็นเสมือนครูช่วยสอน ได้ผลดีเยี่ยม

นายศุเรนทร์  ฐปนางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลวงและโครงการตามพระราชดำริ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อธิบายว่า แนวทางการพัฒนา “อศม. หรืออาสาสมัครเพื่อการศึกษาประจำหมู่บ้าน” นับเป็น “นวัตกรรมอาสาสมัครการศึกษา” ช่วยแก้ไขปัญหานักเรียนตกหล่นทางการศึกษาช่วงโควิด-19 ได้ผล โดยคณะวิจัยจะคัดสรรบุคคลจิตอาสามีคุณสมบัติชุมชนให้การยอมรับ ไปฝึกอบรมทักษะถ่ายทอดวิชาความรู้ เพื่อเป็น อศม. สอนนักเรียนในหมู่บ้าน

นอกจาก อศม. แล้ว คณะวิจัยยังพัฒนาสื่อช่วยสอน และเครื่องมือช่วยสอนของ อศม. พัฒนาเนื้อหาหลักสูตรทั้งวิชาการ วิชาชีพ สอดคล้องกับสภาพชุมชน บันทึกไฟล์เสียงใส่ทรัมป์ไดร์ฟ ไปถ่ายทอดการรับรู้ให้ผู้เรียน ผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ อย่างสะดวกคล่องตัว เนื่องจากพื้นที่ชายขอบจะมีข้อจำกัดเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ต และระบบไฟฟ้านั่นเอง

นางสาวญาณิฐา  สินธุศิริ ครูชำนาญการ โรงเรียนกลุ่มนักข่าวหญิง 2 บ้านบ่อหวี ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กล่าวว่า ในฐานะโรงเรียนนำร่องโครงการวิจัยการพัฒนาการเรียนรู้ สมรรถนะฐานอาชีพสำหรับนักเรียนด้อยโอกาสและนวัตกรรมเชิงระบบเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนชายขอบ ราชบุรี ได้ใช้โครงการวิจัยเข้ามามีบทบาทสูงแก้ปัญหานักเรียนตกหล่นกลางคันได้เป็นอย่างดี เสริมทักษะด้านอาชีพ ด้านการจัดการ นักเรียน และผู้ปกครองด้วย

โครงการวิจัยภายใต้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ บพท.สนับสนุนทุนวิจัยยังมุ่งเน้นขับเคลื่อน-เชื่อมต่อบนฐานทุนวัฒนธรรมและทรัพยากรในท้องถิ่น

ผศ.นันทนา บุญลออ นักวิจัยภายใต้กรอบการจัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยกะเหรี่ยง พื้นที่แถบเทือกเขาตะนาวศรี กล่าวว่า ผลการดำเนินงานช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการเชื่อมโยงเข้าด้วยกันทั้ง “โรงเรียน-ชุมชน-ครัวเรือน” จากการสืบค้นทุนทางวัฒนธรรมและนำไปสร้างให้เกิดมูลค่า มุ่งสนองความต้องการสอดคล้องกับเศรษฐกิจของชุมชน ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ในชุมชน

ระยะต่อมาก็ช่วยกระตุ้นให้ “เกิดผู้นำการเปลี่ยนแปลงหรือนวัตกรชุมชน” นวัตกรเชิงวัฒนธรรม นักจัดการข้อมูลวัฒนธรรมของพื้นที่ เกิดศูนย์เรียนรู้ศิลปะการย้อมสีธรรมชาติและหัตถกรรมผ้ากะเหรี่ยง ศูนย์เรียนรู้หัตถกรรมการตีเม็ดเงินกะเหรี่ยง ศูนย์เรียนรู้การขึ้นรูปภาชนะจากใบไม้และเส้นใยธรรมชาติ ตลาดวิถีวัฒนธรรม ช่วยให้นักเรียนมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างโลกความจริงใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรมได้

โดยเชื่อมต่อประชาคมวัฒนธรรมพื้นที่ต่าง ๆ  สร้างแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสำนึกท้องถิ่นบนฐานทุนวัฒนธรรมปี 2568 ผ่านโครงการ “ตลาดวิถีวัฒนธรรมกะเหรี่ยงน่าเอ๊” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนบนฐานทุนวัฒนธรรมและการบริหารจัดการตลาดวัฒนธรรม ช่วยสร้างสมดุลเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชาติพันธุ์อย่างชัดเจน



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อควาเซอร์คัสภูเก็ตจัดโปร“คนไทย”ตั๋วราคาพิเศษ 450-500บาท

  อควาเซอร์คัสภูเก็ตจัดโปรปัง “นักท่องเที่ยวไทย” 18 มิ.ย.- 31 ก.ค.ซื้อตั๋วราคาพิเศษ 450-500 บาท/คน เรื่องโดย... # เพ็ญรุ่งใยสามเสน #guru...