บพท.หนุน"รุธิร์ พนมยงค์"วิจัยระเบียงเศรษฐกิจไทยฮับโลก
งัดสูตรความสำเร็จ 5 ภาค เชื่อม 8 ประเทศ 7 ยุทธศาสตร์
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #บพท #ระเบียงเศรษฐกิจไทย
บพท.ปลื้ม!! ผลงานวิจัย “รุธิร์ พนมยงค์” ชงโปรเจกต์ “วิจัยพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภูมิภาค”
ดันไทยฮับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปูทางสู่ศูนย์กลางโลก จัดสูตร 5 ภาค เชื่อมต่อเพื่อนบ้าน 8 ประเทศ
ร้อยต่อความสำเร็จด้วย 7 ยุทธศาสตร์
ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม
รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เปิดเวทีการนำเสนอโครงการวิจัยพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภูมิภาคเพื่อสร้างไทยเป็นศูนย์กลางแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ โดยมีงานวิจัยของ ศ.ดร.รุธิร์
พนมยงค์ “หลานปู่รัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์" ร่วมมือกับ บพท.นำเสนอโครงการวิจัยพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภูมิภาค
เดินหน้าสร้างไทยเป็น “ศูนย์กลางแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
เชื่อมไทยเชื่อมโลกทุกมิติ ปูทางสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก
สร้างความอยู่ดีกินดีมีสุข แก่ประชาชนทั่วทุกพื้นที่ และสร้างความมั่งคั่งมั่นคงแก่ประเทศด้วย
บพท.สนับสนุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเพื่อเชื่อมไทยเชื่อมโลก
กระจายความอยู่ดี มีสุขแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ ภายใต้ องค์ประกอบสำคัญ
3 ประการ 1.พัฒนาการเชื่อมโยง (Connectivity) 2.การพัฒนากลุ่มธุรกิจ (Cluster Development) 3.การพัฒนาเมือง
(Country Development) โดยตระหนักดีเรื่องของ connectivity ระดับภูมิภาค มีความสําคัญมากกับการยกระดับความเป็นศูนย์กลางในระดับสากล (Thai Centrality)
ดร.ปุ่น
กล่าวว่า ศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ นำทีมทำงานวิจัย และจากเวทีนี้จะทำให้รับทราบคำตอบเติมเต็มช่องว่างของโครงสร้างพื้นฐานทุกมิติ
เพื่อส่งมอบให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบทําให้โครงสร้างพื้นฐานของไทยถูกพัฒนาต่อไป
โดยมี คีย์เวิร์ดในมิติต่าง ๆ 3 คํา
ได้แก่ 1.ต้นทุน (Cost) 2) เวลา (Time) และ 3) คุณภาพบริการ (Quality of Services)
เมื่อไทยจะเข้าร่วมประชาคมโลกตามแผนงานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
หรือ Belt and Road Initiative-BRI หรืออินโดแปซิฟิก สิ่งสําคัญคือความสามารถเชื่อมต่อภูมิภาคของไทยกับระบบโลก
ไม่ใช่แค่มิติสินค้า หรือกายภาพเท่านั้น แต่จะต้องลงไปลึกถึงมิติอื่น ๆ ด้วย สิ่งสําคัญที่สุด
คือ “มิติของพลเมือง”
ซึงงานวิจัยชุดนี้
บพท. ต้องการ แรงบันดาลใจจากคณะทำงาน ดร.รุธิร์ และทุกคนร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ไทยเป็นส่วนหนึ่งของ
“ระบบห่วงโซ่อุปทานโลก” มีโอกาสจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกใหม่ได้
ศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์
อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภูมิภาคเพื่อสร้างไทยเป็นศูนย์กลางแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่ บพท.ให้การสนับสนุนทุนวิจัย ได้นำกรอบวิจัยมาต่อยอดกับชุดข้อมูลเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดน
ทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติริเริ่มไว้
โดยแปลงแนวความคิดจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไปสู่ระเบียงเศรษฐกิจ เชื่อมไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
ไปถึงประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง ด้วยการใช้ฐานความเป็นภาคีกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
ความเป็นภาคีพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) และความเป็นภาคีสมาชิกกลุ่มบริคส์ (BRICS) เป็นแนวทางกำหนดกรอบวิจัยชุดนี้
โดยได้วางกรอบเป็นภาค
5 ระเบียงเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง-ตะวันตก
และภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านทุกทิศทาง รวม 8 ประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว
เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ศรีลังกา
โดยมีแกนระเบียงเศรษฐกิจของประเทศไทยแต่ละภาค
ภาคละ 4-5 จังหวัด ดังนี้
• ภาคเหนือ มี เชียงใหม่-เชียงราย-ลำพูน-ลำปาง
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี ขอนแก่น-นครราชสีมา-อุดรธานี-หนองคาย
• ภาคตะวันออก มี ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-ปราจีนบุรี-สระแก้ว
• ภาคกลางและตะวันตก มี พระนครศรีอยุธยา-นครปฐม-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี
• ภาคใต้ มี ชุมพร-ระนอง-สุราษฏร์ธานี-นครศรีธรรมราช
แล้วในกระบวนการวิจัยจะให้ความสำคัญกับ
“การแสวงหาคำตอบ” เพื่อการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์กับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สร้างความมั่งคั่งแก่ประชาชนในพื้นที่ นำไปสู่ความมั่นคงของประเทศ ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกได้จริง
ส่วน
“ความสำเร็จ” ของระเบียงเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของโลก
ต้องขับเคลื่อนร่วมกันในลักษณะ "ไตรภาคี" ประกอบด้วย ภาครัฐ-ภาค
เอกชน-ภาควิชาการ และต้องขับเคลื่อนภายใต้ 7 ยุทธศาสตร์ คือ
• 1.การพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเชื่อมโยงด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาค
• 2.การเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามแดนและผ่านแดน
• 3.สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศให้สอดคล้องและสนับสนุนกับบริบทของการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน
• 4.พัฒนาการให้บริการการขนส่งและบริการโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน
• 5.การเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามแดนและผ่านแดน
• 6.ส่งเสริมการ ศึกษาวิจัยเพื่อสร้างความเป็นผู้นำสำหรับการเชื่อมโยงโลจิสติกส์และการสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ
• 7.ศูนย์กลางการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทั้งในประเทศและประเทศในภูมิภาค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น