วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

บินไทยQ1/ปี68รายได้5.1หมื่นล้านกำไรสุทธิ9.8พันล้าน-รอออกจากแผนฟื้นฟู4มิ.ย.

 
บินไทยQ1/ปี68รายได้5.1หมื่นล้านกำไรสุทธิ9.8พันล้าน

รอ4มิ.ย.ศาลล้มละลายกลางไต่สวนออกจากแผนฟื้นฟูฯ

บมจ.การบินไทย ไตรมาส ปี 2568 มีรายได้รวม  51,625 ล้านบาท กำไร 9,839 ล้านบาท

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #การบินไทย

การบินไทยไตรมาส 1 ปี’68 ธุรกิจโตต่อเนื่อง “ทำรายได้” 51,625 ล้านบาท “กำไรสุทธิ” 9,839 ล้านบาท รอศาลล้มละลายกลาง 4 มิ.ย.นี้ ไต่สวนปลดล็อกออกจากแผนฟื้นฟูกิจการกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงานไตรมาส ปี 2568 มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 51,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนทำไว้รวม 45,955 ล้านบาท มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) 83.3% รายได้เพิ่มจาก ปัจจัยที่  1 ปริมาณผู้โดยสารต้องการเดินทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่ 2 บริษัทขยายฝูงบิน เพิ่มความถี่เที่ยวบิน ส่งผลดีกว่าปีก่อน โดยมีปริมาณการผลิต (Available Seat Kilometers-ASK) เพิ่มขึ้น 21.1% ปริมาณขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Seat Kilometers-RPK) เพิ่มขึ้น 20.8% จำนวนผู้โดยสารรวม 4.33 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.6%

“ค่าใช้จ่ายรวม” ของการบินไทย และบริษัทย่อย (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว)  37,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกับปีก่อน 3,084 ล้านบาท หรือ 8.8% จาก 1.ค่าใช้จ่ายผันแปรตามปริมาณการผลิตและบริการเพิ่มขึ้น ถึงแม้ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงจากปีก่อน 1.7%  

“กำไร” จากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 13,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,586 ล้านบาท เทียบจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน ทำอัตรากำไร (EBIT Margin) 26.5%

“ต้นทุนทางการเงิน” บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนการเงินรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานฉบับที่ 9 (TFRS 9) 3,481 ล้านบาท มีรายการเกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นค่าใช้จ่าย 339 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายการ”ขาดทุน” 1.จากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 2.จากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน 3.ขาดทุนจากการวัดมูลค่าจากตราสารอนุพันธ์

“กำไรสุทธิ” การบินไทย และบริษัทย่อย ทำได้ 9,839 ล้านบาท มี EBITDA หลักหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 12,728 ล้านบาท


“ฝูงบิน” ตลอดไตรมาส มีทั้งสิ้น 78 ลำ เพิ่มขึ้น 5 ลำ  มีอัตราการใช้เครื่องบินเฉลี่ย 13.7 ชั่วโมง/วัน มีแผนทยอยรับมอบเครื่องบินรุ่นใหม่แอร์บัส A321 Neo เพื่อเสริมศักยภาพฝูงบินให้ทันสมัยมากขึ้น จะมาพร้อมระบบความบันเทิงส่วนตัวทุกที่นั่ง และ Wi-Fi ฟรี ให้สมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส ( ROP) ทุกระดับสถานะ เพื่อยกระดับบริการให้ดีขึ้นภายในปี 2568



“ระบบบันเทิงหรือ In-flight ช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 การบินไทยได้ทยอยติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง In-flight Connectivity (IFC) บนเครื่องบินแบบแอร์บัส A330-300 เริ่มให้บริการแล้ว  2 ลำแรก สามารถแชทและส่งข้อความได้แบบไม่จำกัด ใช้ฟรีบริการอินเทอร์เน็ตเต็มรูป พร้อมโปรแกรมสะสมไมล์ Royal Orchid Plus ตามระดับสมาชิก เริ่มเมื่อ 1 พฤษภาคม 2568

“สินทรัพย์รวม” สรุป ณ  วันที่ 31 มีนาคม 2568 เปรียบเทียบกับ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 297,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,245 ล้านบาท หรือ 1.8% ประกอบด้วย

เงินสดรวมตั๋วเงินฝาก เงินฝากประจำ และหุ้นกู้ ที่มีระยะเวลาครบกำหนดชำระมากกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน 124,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,858 ล้านบาท และหนี้สินรวม 242,314 ล้านบาท ลดลง 4,605 ล้านบาท (1.9%) ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 55,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,850 ล้านบาท (21.6%)

มีอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest Bearing Debt to Equity) เท่ากับ 4.37 เท่า และ 2.23 เท่า ดีขึ้นมากจากก่อนเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ ณ สิ้นปี 2562 ที่ 20.66 เท่า และ 12.52 เท่า อันเป็นผลมาจากการปฏิรูปธุรกิจและการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ

เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการมีมติอนุมัติลดมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) ของหุ้นของบริษัทฯ จากหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1.30 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมทางบัญชี และเมื่อรวมกับกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 ทำให้ยอดวันที่ 31 มีนาคม 2568 บริษัทฯ มีกำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการ 9,555 ล้านบาท เป็นผลให้ในอนาคตบริษัทฯ อาจสามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลได้

เมื่อ 8 พฤษภาคม 2568 คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการมีมติอนุมัติให้จดทะเบียน “เลิกกิจการบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด”  (สายการบินไทยสมายล์) ภายหลังปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบินสำเร็จลุล่วงตามแผนอย่างดียิ่ง


การบินไทยได้รับโอนเครื่องบินแบบแอร์บัส A320 เข้าประจำการจนครบถ้วน โดยไทยสมายล์หยุดให้บริการตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นมา โดยเส้นทางบินและเครื่องที่ใช้บินทำให้มีกำไรจากเดิมตอนเป็นไทยสมายล์ประสบปัญหาขาดทุน จากปัจจัยสำคัญเรื่อง ปริมาณการผลิต (ASK) จำนวนผู้โดยสาร อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ผลตอบแทนต่อหน่วย (Yield) รายได้จากการบรรทุกผู้โดยสาร สินค้า และไปรษณีย์ภัณฑ์ เพิ่มสูงขึ้นจากความสามารถขยายเครือข่ายเส้นทางบินและโอกาสหารายได้จากการขายแบบเชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางบินที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และต้นทุนต่อหน่วยลดลง

“ความคืบหน้าการออกจากการฟื้นฟูกิจการ” เมื่อ 18 เมษายน 2568 ภายหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น มีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ จากนั้นวันที่ 22 เมษายน ได้จดทะเบียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกรรมการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว ทำให้ดำเนินการตามผลสำเร็จของแผนฟื้นฟูกิจการครบถ้วนแล้ว

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้ “ศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ” ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ศาลล้มละลายกลางกำหนดนัดไต่สวนคำร้อง เวลา 9.00 น.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อควาเซอร์คัสภูเก็ตจัดโปร“คนไทย”ตั๋วราคาพิเศษ 450-500บาท

  อควาเซอร์คัสภูเก็ตจัดโปรปัง “นักท่องเที่ยวไทย” 18 มิ.ย.- 31 ก.ค.ซื้อตั๋วราคาพิเศษ 450-500 บาท/คน เรื่องโดย... # เพ็ญรุ่งใยสามเสน #guru...