ATM 2025เทรดทัวร์โลกชี้เป้าอนาคตอุตฯการบิน-เรือสำราญ
ดูไบจับมือทั้งอ่าวอาหรับดันตะวันออกกลางขึ้นฮับตลาดโลก
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #ATM2025 #Dubai
ATM 2025 เทรดท่องเที่ยวรายการใหญ่ระดับโลก
ดึงซีอีโอ คณะผู้เชี่ยวชาญ ส่งท้ายอีเวนต์ประสานเสียงชี้เป้า อนาคต “ตะวันออกกลาง”
จะผงาดฮับโลก “ท่องเที่ยวเรือสำราญ-การบิน” ชูกลยุทธ์ “Alliance” ผนึกพันธมิตรทั้งอ่าวอาหรับลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน “สนามบินดูไบ”
สร้างความฮือฮาปี68 หวังโกย 96 ล้านคน
ทัวร์เรือโต 125 %
มหกรรมงาน
Arabian Travel Market : ATM 2025 ส่งท้ายเมื่อ 1
พฤษภาคม 2568 ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บรรดาซีอีโอและคณะผู้เชี่ยวชาญได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันในหัวข้อ
“การเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลและทางอากาศ : SEA & AIR TRAVEL” ดึงความสนใจได้มากเป็นพิเศษ ในการต้อนผู้นำจากอุตสาหกรรมการบินและเรือสำราญระดับนานาชาติ
ขึ้นเวทีเสวนาอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับ “จำนวนผู้โดยสารและอธิบายนวัตกรรม” ต่าง ๆ โดยมี
AI เข้ามาเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ในสนามบินนานาชาติ และการนำเสนอความคืบหน้าอุตสาหกรรมเรือสำราญในภูมิภาคอ่าวอาหรับกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งเป็นจุดหมายปลายทางของตลาดล่องเรือสำราญระดับโลก
“พอลล์
กริฟฟิธส์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ : Dubai
Airports แบ่งปันข้อมูลโดยอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดของจำนวนผู้โดยสาร
กับมุมมองที่น่าสนใจของเขาเกี่ยวกับอนาคตการบินและประสบการณ์ในสนามบิน ปี 2568
เตรียมพร้อมสร้างสถิติใหม่ ขานรับสัญญาณที่ดีช่วงมกราคมเพียงเดือนเดียวมีผู้โดยสารใช้บริการ
8.5 ล้านคน คาดการณ์ภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 96 ล้านคน เป็นผลมาจากความแข็งแกร่งต่อเนื่องจากตลาดสำคัญ
เช่น อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ที่จะทำให้ดูไบครองตำแหน่งดูไบศูนย์กลางสำคัญทางการบินระดับโลก
ท่าอากาศยานดูไบเติบโตต่อเนื่องจากการพัฒนานวัตกรรม
โดยมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ให้ผู้โดยสารใช้บริการอย่างราบรื่นนำเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อน
รวมถึงการจดจำใบหน้าด้วย AI
“กริฟฟิธส์”
ยังได้เสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “กลยุทธ์การออกแบบ” โดยเน้นอันดับแรกคือลูกค้าต้องมาก่อนที่นำมาลงทุนพัฒนา
สนามบินนานาชาติ อัล มัคตุม/Al Maktoum (DWC) มีความมุ่งมั่นจะก้าวขึ้นอันดับ
1 โดยได้ออกแบบ “อาคารผู้โดยสาร”
ขนาดเล็ก 8 แห่ง เพื่อลดระยะเวลาการขนส่งและเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้นักเดินทางทุกคน
รองรับอนาคตการให้บริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าซึ่งจะไม่ได้ขับเคลื่อนด้วย “ราคาและผลิตภัณฑ์บนเครื่องบิน”
เพียงอย่างเดียวแล้ว แต่จะเน้นความสะดวกสบายและคุณภาพภาคพื้นดินในสนามบินตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุดทุกเรื่อง
ขณะที่
“Tourism Economics” บริษัทในเครือ Oxford Economics ได้นำเสนอสถิติการท่องเที่ยวกลุ่มอุตสาหกรรมเรือสำราญ ระหว่างปี 2562-2567
ทั่วโลกเติบโตเพิ่มขึ้น 25% ปี 2568 จะขยายตัวอีก
5% ในแถบแคริบเบียน ยุโรป
และเอเชียแปซิฟิก เป็นผู้นำท่องเที่ยวเรือสำราญ ส่วน “ตะวันออกกลาง”
ทำสถิติมีเติบโตสูงถึง 125 % เป็นจำนวนวันล่องเรือเฉลี่ยในภูมิภาคนี้ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ
“แองเจโล
คาปูร์โร” ผู้อำนวยการบริหาร เรือสำราญ MSC Group กล่าวว่า เมื่อปี 2567 มีโอกาสได้ต้อนรับผู้โดยสารทำสถิติสูงสุดมากถึง
150 สัญชาติ โดยพบ “จำนวนผู้โดยสาร” จากเอเชียกลางเดินทางเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ เป็นผลมาจากการเชื่อมต่อเส้นทางเพิ่มมากขึ้นและการเข้าถึงวีซ่าที่ดีขึ้น
ผนวกกับตะวันออกกลางเป็นจุดหมายปลายทางความน่าดึงดูดใจได้ดี
ส่วนคณะผู้เชี่ยวชาญได้เน้นย้ำถึง
“ตะวันออกกลาง” กำลังการก้าวขึ้นสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการล่องเรือท่องเที่ยวระดับโลก
ซึ่งขับเคลื่อนร่วมมือกันในภูมิลงทุนด้าน “โครงสร้างพื้นฐาน” ขานรับตลาดมีความต้องการเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
และดื่มด่ำกับการเปิดตัว “Aroya Cruises” สายการเดินเรือสุดหรูแห่งแรกของซาอุดีอาระเบีย
และการนำความร่วมมือแบบกลุ่มพันธมิตรหรือ “Cruise Alliance” เข้ามาใช้ส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคและยกระดับประสบการณ์ให้ผู้โดยสาร
“แดเนียล
เคอร์ติส” ผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการประจำตะวันออกกลาง ATM
: Arabian Travel Marketกล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ในการจัดงาน ATM
2025 ที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำและผู้มีวิสัยทัศน์ที่มีอิทธิพลมากสุดในด้านการท่องเที่ยวระดับโลก
ผลสรุปการประชุมได้เห็นถึงการอภิปรายอย่างคึกคักเกี่ยวกับอนาคตการเดินทาง
การต้อนรับ ความยั่งยืน นวัตกรรม และโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ
ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของงานนี้ในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับโลกในอนาคตอย่างมีทิศทางอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น