วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ททท.เอเชียแปซิฟิกใต้งัด4กลยุทธ์แก้ท่องเที่ยว5เดือนลดไป9%


ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.

ททท.เอเชียแปซิฟิกใต้เร่งฝ่าความท้าทาย5เดือนลด9%

ลุย“แก้ภาพลักษณ์-หาตลาดแทน-ทัวร์ด่วน-บริหารสื่อ”

ดึงจีน30มณฑล600รายบูมสวัสดีหนีห่าว-เพิ่ม 4 ดาวรุ่ง

คิงเพาเวอร์จัดช้อปชิ้นโปรดแรง “รางน้ำ-ศรีวารี-ภูเก็ต”

ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์รับคุ้มลดประกันเดินทาง15%

คิงเพาเวอร์ช้อปไม่มีขั้นต่ำลุ้นรับกล่องสุ่มลด 20-30%

ททท.-AISชู“สุขใจ เที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่”แจกทั่วถึงปี’68

บางจากนำทีมชนะเลิศ GENWIT เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯ

TCEBงัด4จุดแข็งรับมือภาษีทรัมป์เขย่าไมซ์ไทยลด 7 %

เที่ยวชุมพร/ระนอง“เกาะพยาม-บ้านท้องตม-คลองหินดำ”

นายกฯนำทีมถก2แอร์ไลน์ 2 ทัวร์ใหญ่ปั๊มตลาดอังกฤษ

เปิดแล้วโชว์“อควา เซอร์คัส ภูเก็ต”ต่อโปรตั๋วถึง30มิ.ย.68

วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #เที่ยวชุมพร

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/15eiTdtifP/

ช่วงที่ 1 !! นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทีมฝ่ากระแสตลาดเอเชียติดแดนลบแรง 5 เดือน 9 % จาก 5 ปัจจัย “ภาพลักษณ์-เศรษฐกิจโลก-สงครามการค้า-คู่แข่งทุกประเทศหันพึ่งท่องเที่ยว-ที่นั่งเที่ยวบินยังไม่100%” งัด 4 กลยุทธ์ฟื้นท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง “แก้ภาพลักษณ์ตลาดจีน” จัดใหญ่โปรเจกต์ “สวัสดี หนีห่าว” ระดมเอเย่นต์ KOL ,UGC จีน 30 มณฑล 600 ราย จับคู่ธุรกิจกับไทย สำรวจเส้นทางเที่ยวใหม่ลุยขายพร้อมโปรโมท “หาตลาดทดแทน” จากเอเชียใต้ โอเชเนีย “เจาะกลุ่มเที่ยวด่วน” แฟนคลับมีตร่วมอีเวนต์คอนเสิร์ต “บริหารกระแสสื่อ/ข่าว” พุ่งเป้า 4 ตลาด “ร่วงแรง-ไม่แน่นอน-แดนบวก-บวกสูง” รักษาลูกค้าดาวรุ่ง 4 ประเทศ “อินเดีย-ญี่ปุ่น-อินโดนีเซีย-ออสเตรเลีย”

 

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าสถานการณ์ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศเที่ยวไทย 1 มกราคม -20 พฤษภาคม 2568 มีประมาณ 13.5 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 1.9 % โดยมี จีน 1.8 ล้านคน มาเลเซีย 1.7 ล้านคน รัสเซีย 9 แสนคน อินเดีย 8 แสนคน เกาหลีใต้ 7 แสนคน อังกฤษ เกือบ 5 แสนคน ส่วนอีก 5 ตลาด ตลาดละ 4 แสนคน ได้แก่ เยอรมัน อเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น

เฉพาะ “ตลาดระยะใกล้ :Short hual ใช้เวลาเดินทางมาไทย 3-5 ชั่วโมง โดยภาพรวมมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด 70 % ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมด ขณะนี้ภาพรวม “ตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ติดลบ” อยู่พอสมควรถึง 9 % ททท.ได้แบ่งตลาดเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

 


กลุ่มที่ 1 อาเซียน  10 ประเทศ เดินทางเข้ามาแล้ว 3.7 ล้านคน ลดลง 3 % ที่ลดลงจำนวนมากคือ เวียดนาม 16 % สปป.ลาว ลดลง 16 %

กลุ่มที่ 2 เอเชียตะวันออก มีนักท่องเที่ยวเข้ามารวม 3.5 ล้านคน ลดลง 22 % ได้แก่ “สาธารณรัฐจีน” มาไทย 1.8 ล้านคน แตกต่างจากปีก่อนมี 2.7 ล้านคน ลดลง 32 % “ฮ่องกง” ลดลง 22 % “เกาหลี” ลดลง 15 % “ญี่ปุ่น” เพิ่มขึ้น เกาหลี ไต้หวัน

กลุ่มที่ 3 เอเชียใต้ อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16 %

กลุ่มที่ 4 โอเชเนีย มี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 3 แสนคน เพิ่มขึ้น 15 % 

5 ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยว “เอเชียตะวันออก” ลดลงมาก ซึ่ง ททท.จะเดินหน้าแก้ไขเร่งด่วน ประกอบด้วย

ปัจจัยที่ 1 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กระแสข่าว ผนวกกับไทยเปิดเสรีบุหรี่ไฟฟ้า สูบกัญชาได้ กับแผ่นดินไหว

ปัจจัยที่ 2 เศรษฐกิจโลก ผนวกกับนโยบายทรัมป์ 2.0  

ปัจจัยที่ 3 ปัญหาสงครามทางการเมือง สงครามการค้า

ปัจจัยที่ 4 ทุกประเทศแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการใช้นโยบายแข่งขันกันนำท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นคนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และดึงต่างชาติเข้าไปเที่ยวเพิ่มขึ้น

ปัจจัยที่ 5 สายการบินยังไม่ได้กลับมาดีเท่ากับยุคเฟื่องฟูก่อนโควิดปี 2562 ตัวอย่าง “จีน” เคยมีที่นั่งเที่ยวบินมาไทย 13 ล้านที่นั่ง ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 7.8 ล้านที่นั่ง หรือบางพื้นที่มีปัญหาเที่ยวบินตรง เช่น สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เคยมีเที่ยวบินจากเกาหลีบินตรง ปัจจุบันยังไม่ได้บินแล้ว

ททท.กำลังเร่งวางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดให้ใกล้เป้าหมายให้ได้มากที่สุด 39 ล้านคน เริ่มต้นจาก


กลยุทธ์ที่ 1จะต้องแก้ไขภาพลักษณ์เร่งด่วนกับ “ตลาดจีน” เรื่องความปลอดภัยและอื่น ๆ ควบคู่กับปรับโครงสร้างตลาดเจาะกลุ่มคุณภาพสูงเพิ่มขึ้น

กลยุทธ์ที่ 2 หาตลาดทดแทนจาก ตลาดระยะใกล้ แถบเอเชียใต้ และยุโรป เพื่อให้เป้าหมายเชิงรายได้เติบโตต่อเนื่องด้วยการคัดเลือกสินค้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลุ่มทำงานได้ทุกที่หรือ digital nomad

กลยุทธ์ที่ 3 หาตลาดเดินทางได้เร็วทันที ด้วยวิธีทำการตลาดร่วมโปรโมชั่นกับพันธมิตร จัดอีเวนต์ งานคอนเสิร์ตที่มีแฟนคลับจำนวนมาก รวมทั้งไทยมีซอฟท์ พาวเวอร์ ละครซีรีย์ยอดนิยม สามารถทำอีเวนต์ “แฟนคลับ มีตติ้ง” หรืออีเวนต์ คอนเสิร์ต ดึงคนเข้ามาให้ได้มากที่สุด

กลยุทธ์ที่ 4 การบริหารข่าวสารกระแสสื่อในเชิงภาพลักษณ์สู่คนไทยและนานาชาติ ต้องแก้ให้ตรงตลาดเป้าหมายที่ลดลงจำนวนมาก เช่น การใช้ความสัมพันธ์ไทย-จีน เสริมสร้างภาพลักษณ์ทำประชาสัมพันธ์เชิงบวก แก้ปัญหาตามสภาพจริงตามกลุ่มตลาด ได้แก่

“ตลาดลดลงแรงมาก” อย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผลมาจากการรับรู้ภาพลักษณ์เชิงลบต่อเนื่องมาหลายปีแล้วพอมาเจเหตุการณ์นักแสดงโดนจับตัวไป ดังนั้นจะต้องใช้อินฟลูเอนเซอร์กลุ่ม KOL  กลุ่ม UGC User-generated content ซึ่งเป็น “กลุ่มนักท่องเที่ยวตัวจริง” เดินทางจริงแล้วเขียนคอนเทนต์หรือเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยพูดถึงสินค้าหรือบริการจะได้รับความน่าเชื่อถือมาก เพื่อป้องกันรักษา “เที่ยวบินและเส้นทาง” ไว้

“ตลาดขึ้นๆ ลง ๆ” บางเดือนติดลบบางเดือนบวกอย่าง มาเลเซีย ไต้หวัน จะต้องสร้างการรับรู้เชิงบวกมากขึ้น

“ตลาดแดนบวก” อย่าง ญี่ปุ่น ต้องเฝ้าระวัง เป็นกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวซ้ำ ต้องขยายไปสู่กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน เพิ่มขึ้น กับ “อินโดนีเซีย” ตอนนี้มาแรงต้องเพิ่มข้อมูลที่ดี

“ตลาดแดนบวกสูง” อย่าง “ออสเตรเลีย” จะต้องกระตุ้นการใช้จ่าย ควบคู่กับการขยายสู่กลุ่มคุณภาพพร้อมใช้จ่ายเงินเดินทางได้ตลอด กับ “อินเดีย” จะขยายฐานกลุ่มได้รางวัลการเดินทางท่องเที่ยว หรืออินเซ็นทีฟ และอื่น ๆ


นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่า ททท.เตรียมจัด “สวัสดี หนีห่าว” ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม -1 มิถุนายน 2568 มีสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว ร่วมสนับสนุน นำเจ้าของและซีอีโอซึ่งเป็นเอเย่นต์จากจีนเข้ามาไทยรวม 400 ราย รวมทั้งสื่อออฟไลน์ ทีวี KOLs เพราะหลายเมืองยังเชื่อมั่นการสื่อสารดังกล่าว รวมแล้ว 600 ราย มีการบินไทย ไทยแอร์เอเชีย ไทยเวียดเจ็ท ไห่หนาน สปริงแอร์ สนับสนุนตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษในการเดินทางของผู้ประกอบการช่วงวันที่ 28 พฤษภาคม 2568

วันที่ 29 พฤษภาคม นี้ จะเริ่มการจับคู่เจรจาธุรกิจท่องเที่ยวหรือ Table Top Sale เปิดให้เอเย่นต์ท่องเที่ยวจีน 400 ราย พบกับตัวแทนผู้ขายไทย 500 ราย ในเวลาอันรวดเร็วเพื่อทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนการติดต่อระหว่างกัน หลังจากนั้นช่วงเย็น “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี จะมาร่วมงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการจีน โดยมี นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมงานด้วย 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะขึ้นเวทีกล่าวเปิดงาน พร้อมนำเสนอนโยบายการท่องเที่ยว นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมาถ่ายทอดแคมเปญ Bangkok We Are OK ตอนเกิดแผ่นดินไหวแล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มั่นใจเรื่องอาคารสูง ต่อด้วย Forum Talk เรื่องมาตรฐาน และการท่องเที่ยว 2 ทาง Two Way Tourism นำโดยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อินฟลูเอนเซอร์ไทยและจีน ปิดท้ายด้วยการแสดงทางวัฒนธรรม แล้วก็มี Happy Hour

วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 จะนำเอเย่นจีนไปตามเส้นทางท่องเที่ยวแนะนำ พัทยา แล้ววันต่อมาก็จะมาทำโปรดักซ์บรีฟ ส่วนสื่อมวลชน กับ KOLs จะเดินทางลงพื้นที่ซึ่งมีความแปลกใหม่ 5 เส้นทาง ได้แก่ 1.Bankok & Beyond สำรวจย่านดังในกรุงเทพฯ อย่าง ถนนบรรทัดทอง 2.Cultural Lunch กรุงเทพฯ-พัทยา มีสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ๆ อย่าง ล่องเรือรอบเกาะ 3.Wonder Fruits ภาคตะวันออก สัมผัสประสบการณ์เที่ยสวนผลไม้ 4.Wellness/สุขภาพ Selenity/ความเงียบสงบ ในพัทยา 5.Organic Escape นครปฐม

โครงการ “สวัสดี หนีห่าว” เป็นกิจกรรมนำร่องปูพรมสร้างภาพลักษณ์ที่จะให้เอเย่นต์จาก 25-30 มณฑล นำสินค้าไป “ผลิตแพกเกจ” วางขายในตลาด ในจังหวะเดียวกันอินฟลูเอนเซอร์ KOLs ก็ร่วมเผยแพร่ข้อมูลเข้าถึงประชาชนจีน ถึงมาตรการของไทยด้านความปลอดภัย และอื่น ๆ

จากนั้น ททท.จะทำโครงการต่อเนื่อง “เที่ยวเมืองไทย ประทับใจไม่รู้ลืม” โดยมี KOC กับ UTC ร่วมกิจกรรมประกวดทริปเที่ยวเมืองไทย ต่อด้วยวันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-จีน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นระดับนโยบายรัฐบาลต่อรัฐบาล เชิญรัฐมนตรีท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทย ช่วงเดือนกันยายน 2568 จะจัด “หนีห่าว มันธ์ : Nheehao Month” ตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์จัดงานขึ้นในไทย พร้อมให้สิทธิร่วมกิจกรรม เช่น ระหว่างท่องเที่ยวอยู่ในไทยสามารถนำพาสปอร์ตจีนมาแสดงเพื่อแลกความพิเศษต่าง ๆ เที่ยวเมืองไทย ส่วน ททท.สำนักงานในจีน ก็จัดงานให้สอดคล้องกับเซกเมนต์ตามกลุ่มเป้าหมาย เช่น ททท.เซี่ยงไฮ้ มีตลาดเดินทางอิสระลำพัง F.I.T ทำจำนวนมากก็จะทำกับ OTA หรือ ททท.คุนหมิง ก็เน้น Active Senior ก็จัดแพกเกจทัวร์เต้นรำเคยจัดมาแล้วประสบความสำเร็จ


ปี 2568 ททท.จะพยายามเพิ่ม “ตลาดดาวรุ่ง” มีสัญญาณที่ดีอีกไม่ต่ำกว่า  4 ตลาด ได้แก่

“อินเดีย” ทำอินเซ็นทีฟ มีบริษัทจองเข้ามาบ้างแล้วกรุ๊ปละกว่า 10,000 คน แล้วก็จะขยายฐานไปยังเมืองอื่น ๆ เช่น เชียงใหม่

“ออสเตรเลีย” มีวันพักเฉลี่ยสูงสุด 13-14 วัน/คน/ทริป แตกต่างจากตลาดระยะใกล้/Shorthaul พักเฉลี่ยเพียง 4- 6 วัน/คน/ทริป จึงจะเพิ่มบริการเรื่องอาหารการกินซึ่งเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก กับหาพื้นที่ใหม่ไว้รองรับ

“อินโดนีเซีย” มีประชากรจำนวนมากแล้วไทยก็เป็นจุดหมายปลายทาง Muslim Friendly Destination แนวโน้มจะมีสายการบิน “ไลออนแอร์” เตรียมเปิดเที่ยวเดือนมิถุนายน 2568 ไป-กลับ เมดาน-ภูเก็ต , สุราบายา-กรุงเทพฯ

“ญี่ปุ่น” มีนักท่องเที่ยวสูงวัยเดินทางจำนวนมาก ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงมาแล้วทำให้นักท่องเที่ยวประเทศอื่นเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย จะต้องพยายามหาตลาดคนวัยทำงาน ผู้หญิงโดยนำเสนอเทรนดี้ ตอบโจทย์ความต้องการให้ตรงเป้าหมาย โดยให้ความสำคัญกับทุกตลาดเป็นอย่างดี

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์จัดช้อปชิ้นโปรดแรง “รางน้ำ-ศรีวารี-ภูเก็ต”

คิง เพาเวอร์ เอาใจสายเดินทาง ได้ “ช้อปชิ้นโปรด ไอเทมสุดคูล” รับซัมเมอร์!กับโปรดี ทุกทริปที่มีไฟลต์บินต่างประเทศ แล้วรีบเลย วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568 ใกล้ที่ไหนแวะได้ทันที 3 สาขา ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี และภูเก็ต 

1.สมาชิกใหม่ ได้ดีลคุ้มแรง สมัครฟรี! สมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY รับ/ทันที ส่วนลด 5% ทุกการช้อป พร้อมดีลคุ้มแรง ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสะสมกะรัตรีวอร์ดทุก 1 บาท ต่อ 1 กะรัต สามารถนำไปใช้แทนเงินสดได้ด้วย และ รับสิทธิ์วันเกิด เป็น Cash Back อีก 25 % ถึง 2 สิทธิ์ 

2.รับบคูปองส่วนลดมูลค่า 2,000 บาท เมื่อช้อปสินค้า 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ  รับได้ทุกครั้งคนละ 2 ใบ /วัน หรือ ส่วนลดไม่เกิน 4,000 บาท

3.ทุกการช้อปเมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิตที่เข้าร่วมรายการ ยังมีสิทธิ์รับเครดิตเงินคืนสูงสุดอีก 18,500 บาท

เคล็ดลับ สามารถช้อปล่วงหน้าก่อนถึงวันบินได้นานสุดถึง 60 วัน หรือช้าที่สุดก็เดินเลือกได้ถึง 5 ชั่วโมง

ทุกการช้อปที่ “คิง เพาเวอร์” เช็คทุกสิทธิ์ รับคุ้ม ทุกดีล ตลอดเดือนพฤษภาคม 2568

 

 ข่าวที่ 2 -ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์รับคุ้มลดประกันเดินทาง15%

 

มาแล้ว โปรคุ้ม ช้อปสนุก “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” ทุกการเดินทางเป็นไปได้ แค่ช้อปออนไลน์ก็มีสิทธิ์รับ “ส่วนลดประกันการเดินทางต่างประเทศ” จากพันธมิตรแถวหน้าของเมืองไทย “กรุงเทพประกันภัย” จัดดีลเด็ดสุดฮอตที่คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เท่านั้น มีไฟลต์บินแล้วรีบช้อปเลย วันนี้ -30 มิถุนายน 2568

 

ฟรี! ส่วนลด 15% ใช้ซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ ที่กรุงเทพประกันภัย เมื่อเลือกช้อปที่ “KING POWER ONLINE” ตั้งแต่วันนี้- 30 มิ.ย. 2568

 

พิเศษ! รับ สตาร์บั๊ค อี-คูปอง มูลค่า 200 บาท เมื่อซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ รายปี ขั้นต่ำ 2,000 บาท

 

สินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 6 เดือน

รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18,500 บาท ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง

 

 

 

ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์ช้อปไม่มีขั้นต่ำลุ้นรับกล่องสุ่มลด 20-30%

 

คิง เพาเวอร์ จัดชุดใหญ่ HAPPY HOLIDEALS! ไม่ว่าช่วงไหนในการออกเดินทาง จะลา จะหยุด จะบิน จะไปทริปที่ไหน “สมาชิก คิง เพาเวอร์” ต้องแวะช้อป คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และภูเก็ต ตอนนี้มีนาทีทองช่วงพิเศษ 48 ชั่วโมงนี้เท่านั้น ระหว่างวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2568 ​ได้คนละ 1 สิทธิ์/วัน เท่านั้น

 

ลุ้นแรก ลุ้นช้อปฟรี! GIFT VOUCHER 2,000 บาท ไม่มีขั้นต่ำ

 

ลุ้นที่ 2 ลุ้นรับคูปองส่วนลด 30% หรือคูปองส่วนลด 25% หรือ คูปองส่วนลด 20%

 

ข่าวที่ 4-ททท.-AISชู“สุขใจ เที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่”แจกทั่วถึงปี68

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ AIS เปิดแคมเปญ "สุขใจ เที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่" ปี 2568 ชูเสน่ห์ไทย ทั้งให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว พร้อมเชื่อมต่อประสบการณ์ผ่านโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อบนโครงข่ายอัจฉริยะกระจายรายได้สู่ชุมชน นำร่องกิจกรรมแรกบริเวณถนนบรรทัดทอง จัด “อุ่นใจ เช็กอิน ฟินรับพอยท์” ให้สิทธิพิเศษความอร่อย โดยใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ เพิ่มความสะดวกปลอดภัยผ่านโครงข่ายสื่อสารและอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพ

 

โครงการ “สุขใจ เที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่” จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยศักยภาพของ AIS ที่พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวมอบสิทธิพิเศษทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม ควบคู่การขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและ 5G ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวสุขใจและอุ่นใจ สร้างประสบการณ์ความปลอดภัยและสะดวกสบาย ทำให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางครองตลาดนานาชาติที่เดินทางมาไทย สอดคล้องกับปีการท่องเที่ยว Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

 

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ AI for Sustainable Nation ของ AIS จึงตั้งใจนำศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะและ AI ยกระดับให้ทุกภาคส่วนของประเทศเติบโตยั่งยืน ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย เพราะโครงข่ายสื่อสารคุณภาพคือรากฐานสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดี สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ผ่าน3 ต้องสำคัญ ได้แก่

 

1.เครือข่ายต้องแข็งแกร่ง ด้วยโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่ครอบคลุม 95% ของพื้นที่ประชากร

 

2.ประสบการณ์ต้องพิเศษ ด้วยสิทธิประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลาย  

3.ท่องเที่ยวสุขใจแล้วต้องอุ่นใจ ด้วยบริการดิจิทัลที่อำนวยความสะดวก ปลอดภัย เข้าถึงได้ตลอดเส้นทาง

 

AIS จึงได้ร่วมกับ ททท. เปิดตัวโครงการ “สุขใจ เที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่” ร่วมส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยด้วยประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์ โดยมีเป้าหมายยกระดับไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผ่าน 3 ความร่วมมือหลัก ได้แก่

 

เครือข่ายเพื่อการท่องเที่ยว : เสริมศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ครอบคลุมทุกจุดหมายและเทศกาลสำคัญทั่วประเทศ รองรับการใช้งานต่อเนื่อง กับ “น้องสุขใจ x อุ่นใจ” จุดเช็กอินในแหล่งท่องเที่ยวกว่า 100 แลนด์มาร์กสุดอันซีน

 

สิทธิพิเศษทั่วถึงทั่วไทย : มอบสิทธิประโยชน์ผ่าน AIS Points ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสร้างประสบการณ์ความอร่อยให้ลูกค้าในย่านฮิต ปลุกกระแสให้ไทยเป็นไฮ ซีซั่น ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

ประสบการณ์พิเศษเพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ : มอบความพิเศษให้นักท่องเที่ยวทุกมุมโลก พร้อมผสานพลังเครือข่ายพันธมิตรโอเปอเรเตอร์ชั้นนำจากกว่า 30 ประเทศ ประชาสัมพันธ์โปรโมทต่างชาติกว่า 1,200 ล้านราย มาเที่ยวเมืองไทย ได้รับความพิเศษอย่างต่อเนื่อง

 

นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจค้าปลีก AIS กล่าวว่า พร้อมตอกย้ำเส้นทางการเชื่อมต่อทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของคนไทย ด้วยบริการและสิทธิประโยชน์ ผ่านไฮไลต์ความร่วมมือครั้งนี้ ขับเคลื่อนอีโคซิสเต็มการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน จัดกิจกรรมแรกที่ “ถนนบรรทัดทอง” ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายกินและคนรุ่นใหม่ มอบสิทธิพิเศษผ่าน 3 แคมเปญตลอดปี ดังนี้

 

อุ่นใจ เช็กอิน ฟินรับพอยท์@บรรทัดทอง เปิดจุดเช็กอินอุ่นใจทั่วถนนบรรทัดทอง 10 จุด เพียงสแกน QR Code ผ่านแอป myAIS รับ AIS Points สูงสุด 50 คะแนน เมื่อเช็กอินครบ จะได้รับฟรีอาหารจานพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการ ส่วนลูกค้าที่มี AIS Points ใช้เพียง 40 คะแนน แลกรับส่วนลด 40 บาท ที่ร้านดังมากกว่าบนถนนสายนี้ 100 ร้าน ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นปี 2568

 

อิ่มฟิน อร่อยฟรี ขยายการใช้พอยท์ครอบคลุมร้านอาหารเด็ดทั่วไทย 87 เทศกาลท่องเที่ยว 59 จังหวัด ตลอดทั้งปี เพียงใช้ 40 พอยท์ รับส่วนลดความอร่อย 40 บาท

 

สิทธิพิเศษมอบให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ใช้บริการ AIS LUCKY TOURIST SIM รับสิทธิพิเศษสัมผัส ซอฟท์ พาวเวอร์ไทย เช่น ส่วนลดเข้าชมสนามมวยราชดำเนิน  สวนสัตว์เขาเขียว บัตรกำนัล คิง เพาเวอร์ บริการห้องพักรับรองพิเศษจากเซ็นทรัล และประกันเดินทางฟรี

 

ข่าวที่ 5-บางจากนำแชมป์Genwitเข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯจัดต่อมิ.ย.68

 

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะผู้บริหารบางจากฯ ผู้จัดและผู้ชนะเลิศรายการ Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ เข้าเฝ้า ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา นำโดย นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำคณะผู้บริหาร บริษัทฯ ผู้แทนบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) คณะครู นักเรียน โรงเรียนมหิดล วิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม ผู้ชนะเลิศการแข่งขันรายการ "Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented by Bangchak Group" ฤดูกาลที่ 1 ปี 2567

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดและผลิตรายการ “Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented by Bangchak Group" เป็นรายการแข่งขัน ตอบปัญหาเชิงวิชาการชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เริ่มต้นเมื่อปี 2567 ในวาระครบรอบ 40 ปี ในโอกาสที่บางจากฯ ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 จึงได้จัดทำโครงการ “ส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย” ผ่านการแข่งขันตอบปัญหาและไขปริศนาต่าง ๆ ตามแนวทางสะเต็มศึกษา

 

ทางกลุ่มบริษัทบางจาก วางแผนเตรียมจัดการแข่งขัน รายการ "Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented by Bangchak Group" ฤดูกาลที่ 2 เริ่มออกอากาศวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครประชันความเป็นอัจฉริยะแล้วกว่า 80 โรงเรียน

 

รายการนี้มี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ฯ เผยแพร่ฤดูกาลแรกมี 16 โรงเรียน ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขัน มียอดรับชมสูงกว่า 82 ล้านวิว พร้อมทั้งได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นรายการที่ให้ทั้งสาระ ความบันเทิง และสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนและผู้ชมทั่วไป

 

ข่าวที่ 6-TCEBงัด4จุดแข็งรับมือภาษีทรัมป์เขย่าไมซ์ไทยลด7%

 

TCEB เร่งเครื่องนำไมซ์ไทยใช้จุดแข็ง 4 แนว “ฮับไมซ์-งาน IAEEสานสัมพันธ์ไทยกับอเมริกา-ขยายฐานMI-ดึงอเมริกามาไทย” รับมือผลกระทบระยะสั้นภาษีทรัมป์เขย่าเอ็กซิบิชั่นอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์หดตัว 4-7 %

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บเร่งนำอุตสาหกรรมไมซ์ไทยทำแผนรับมือผลกระทบจากนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  โดยมีแนวโน้มการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibition) ในไทยอาจจะได้รับผลกระทบระยะสั้น ประมาณ 4-7 % จากการเปลี่ยนแปลงของ 2  กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.อาหาร 2.ชิ้นส่วนยานยนต์ จึงได้จัดประชุมร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เตรียมพร้อมโดยกันผลักดันมาตรการ 4 แนวทางหลัก ได้แก่

แนวทางที่ 1 ใช้จุดเด่นด้านภูมิศาสตร์และความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางจัดงานไมซ์

 

แนวทางที่ 2 ใช้เวทีในงาน IAEE : International Association Exhibitions and Events เปิดโอกาสสร้างความร่วมมือระหว่างอเมริกากับไทย

 

แนวทางที่ 3 ร่วมเจรจาทำให้ไมซ์ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของตลาดอเมริกา

 

แนวทางที่ 4 เดินหน้าขยายตลาดด้วยการดึงงาน Meeting Incentive เข้ามาในไทย โดยเจาะกลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบการไมซ์ทั่วโลก

ผอ.จิรุตถ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม2568 เป็นต้นไป ทีเส็บมุ่งส่งเสริมตลาดไมซ์เชิงรุกพุ่งเป้าไปยังเป้าหมายหลัก 4 กลุ่ม ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดโลกรวมแล้วกว่า 85–90% ได้แก่

 

กลุ่มแรก อินเดีย – เป็นกลุ่มที่มีการจัดงาน Meeting Incentive ขยายตัวต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 7-8%

 

กลุ่มสอง อาเซียน – เป็นฐานหลักสำคัญของไมซ์ไทย ที่มีการจัดงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งปี

 

กลุ่มสาม สหภาพยุโรป – การันตีตลาดเติบโตจากการจัดงาน World Diabetes Congress ที่มีผู้ร่วมงานนานาชาติกว่า 6,500 คน

 

กลุ่มสี่ BRICS – ไทยกำลังเดินหน้าเจรจาเพื่อขยายการเติบโตตลาดใหม่มาแรงที่มีเครือข่ายผู้บริโภครวมนับพันล้านคน

 

ช่วงที่ 2 ล่องใต้ไป “ชุมพร-ระนอง” หน้าฝนนี้ เตรียมสนุกกับมหกรรม “วิ่งเกาะพยาม” แล้วไปพักฟิน ๆ ชุมชนริมทะเล “บ้านท้องตมใหญ่” แล้วไปชมมหัศจรรย์ “คลองหินดำ” เล่นน้ำดูประติมากรรมหินสวย ๆ ตามด้วย “6วิธีแก้คันคอ” ทำเองง่ายได้ผล ฟังข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “นายกฯอิ๊งค์นำทีมถก2แอร์ไลน์2ทัวร์ใหญ่” ปั๊มอังกฤษเที่ยวไทย ข่าวที่สอง “อควา เซอร์คัส ภูเก็ต” ต่อโปรให้คนไทยชมโชว์ถึง 30 มิ.ย.68

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวชุมพร/ระนอง “เกาะพยาม-บ้านท้องตม-คลองหินดำ”

 

เที่ยวไทย ไปได้ทุกที่ ทริปนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แนะนำให้ตั้งเข็มไมล์ไปเช็คอินท่องเที่ยว “ชุมพร”ต่อเนื่องไปถึงเมืองระนองช่วงหน้าฝน เที่ยวได้สบาย ๆ ในหลายประสบการณ์ 3 พิกัด

พิกัดที่ 1 เกาะพยาม กับมหกรรมการวิ่งรับลม ชมพระอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติกในกิจกรรม “วิ่งเก็บตะวัน Ranong Sunset Run Phayam Lodge

 

พิเศษสุด!! แจกฟรี! คูปองส่วนลด “แช่น้ำแร่ร้อน”เติมเต็มความฟินหลังวิ่ง ด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ผ่อนคลายแบบจัดเต็ม เฉพาะผู้เข้าร่วมงานวิ่งเท่านั้น คูปองไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

 

ใช้ได้ที่ รักระนอง ฮอทสปริง สปา ธาริน ฮอทสปริง น้ำนอง ฮอทสปา ใช้คูปองได้ตั้งแต่วันที่ 8 15 มิถุนายน 2568 เท่านั้น  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สํานักงานชุมพร : TAT.CHUMPHON OFFICE โทร.077 502 775

 

พิกัดที่ 2 เที่ยว “บ้านท้องตมใหญ่” หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ที่ อำเภอสวี เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่มีประวัติมายาวนานกว่า 400 ปี โดดเด่นเรื่องการจัดการทรัพยากรในท้องทะเลอย่างยั่งยืน เปิดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนในบ้านพักติดชายทะเลมองเห็นฝูงปลาว่ายน้ำเล่นตรงใต้ถุนบ้านได้ชัดแจ๋ว

 

ชม “ม้าน้ำ” สัตว์ทะเลประจำถิ่นในชุมชนแห่งนี้ที่น่ารัก มีศูนย์เพาะพันธุ์ “บ้านของม้าน้ำ” นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมการเรียนการสอนทำบ้านม้าน้ำ เพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ

 

“กิจกรรม” ที่น่าลองก็มีบริการนั่งเรือไปตกหมึก วางอวน หรือจะดำน้ำตื้น พายเรือคายัก เดินเล่นชายหาดสวย ค้นหามุมลับ ๆ ที่น่าจดจำได้ด้วย

 

พิกัดที่ 3 “คลองหินดำ” ตรงบริเวณวัดโรจน์ดำหริ ต.เขาค่าย อ.สวี ลำคลองนี้อยู่ใกล้ด้านหน้าวัดจะเป็นลานหินตั้ง สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ รูปร่างหินอายุหลายพันปีที่สวยแบบนี้ตลอดระยะทางยาว 1 กม.เกิดจากการกัดเซาะของน้ำมายาวนาน ลำคลองแห่งนี้มีน้ำใสไหลลงเล่นได้ บางจุดลายหินสวยดี มหัศจรรย์ธรรมชาติสรรสร้างจริงๆ สวยแปลกตา ถ่ายรูปปัง เล่นน้ำสนุก

 

สุขภาพ –6 วิธีแก้คันคอทุกคนสามารถทำเองก่อนง่าย ๆ แถมได้ผล

ช่วงอากาศเปลี่ยน ฝนตกบ่อย ๆ สลับกับฝุ่นละอองในอากาศมากขึ้น จึงอาจเกิดอาการคันคอ ซึ่งมี “6 วิธีแก้คันคอ” สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง มีดังนี้

 

1. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ -เป็นวิธีแก้คันคอที่มีประสิทธิภาพ โดยผสมเกลือ ½ ช้อนชากับน้ำอุ่น 240 มิลลิลิตร กลั้วให้ทั่วปากประมาณ 10 วินาที แล้วบ้วนทิ้ง กลั้วคอวันละ 2–3 ครั้ง อาจจะช่วยลดอาการอักเสบ บรรเทาอาการคันคอ เจ็บคอ และช่วยลดกำจัดเสมหะในคอ

 

2. จิบชาอุ่น ๆ - เช่น ชาขิง และชาเปปเปอร์มิ้นต์ โดยอาจผสมมะนาวและน้ำผึ้งลงไป 1–2 ช้อนชา ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันอาการขาดน้ำ ยังเป็นวิธีแก้คันคอที่ดี โดยชาสมุนไพรมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและการติดเชื้อ ส่วนน้ำผึ้งจะช่วยเคลือบเยื่อบุผิวบริเวณลำคอ ซึ่งจะช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการเจ็บและคันคอได้

 

3. ป้องกันอาการภูมิแพ้  - วิธีแก้คันคอที่เหมาะสมคือการป้องกันตัวเองจากการได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ทำความสะอาดบ้านและเครื่องนอนเป็นประจำ หรือใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้าน เพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของฝุ่น ละอองจากเกสรดอกไม้ และมลพิษทางอากาศ และไม่สูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการคันคอมากขึ้น

 

4. ใช้สเปรย์หรือยาอมแก้เจ็บคอ - ให้ตัวยาค่อย ๆ ละลายในปาก โดยหลายผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของเมนทอล (Menthol) และเบนโซเคน (Benzocaine) ซึ่งช่วยบรรเทาอาการระคายคอ เจ็บคอ และคันคอได้

 

5. ปรับพฤติกรรมการกินโดยหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสเปรี้ยวและเผ็ดจัด อาหารที่มีไขมันมาก ชาและกาแฟที่มีคาเฟอีน รวมทั้งไม่กินอาหารมื้อใหญ่แล้วเข้านอนทันที เพื่อป้องกันอาการกรดไหลย้อนที่อาจทำให้เกิดอาการไอและคันคอ

 

6. รับประทานยา -เป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการคันคอจากโรคต่าง ๆ เช่น ภูมิแพ้ และกรดไหลย้อนได้ดี โดยยาที่ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ คือยาต้านฮิสตามีน (Antihistamine) หรือที่เรียกกันว่ายาแก้แพ้ ส่วนการใช้ยาลดกรด จะช่วยบรรเทาอาการจากโรคกรดไหลย้อนได้ 

 

หากวิธีแก้คันคอเหล่านี้ไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ตรวจและรักษาอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะคนที่มีอาการคันคอต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์ หายใจลำบาก เวียนหัว มีไข้ กลืนลำบาก ต้องรีบหาหมอทันที

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –นายกฯ นำทีมถก2แอร์ไลน์2ทัวร์ใหญ่ปั๊มตลาดอังกฤษ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมประชุมหารือกับผู้บริหารระดับสูงของสายการบินและบริษัทนำเที่ยวระดับชั้นนำในสหราชอาณาจักร ได้แก่ บริติช แอร์เวย์ส สายการบินเอมิเรตส์ บริษัทนำเที่ยว Trailfinders และบริษัทนำเที่ยว DNATA พันธมิตรหลักที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์ตลาดสหราชอาณาจักรมาไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหารือแนวทางในการกระตุ้นตลาดคุณภาพที่ใช้จ่ายสูงและพักนานวันมากขึ้น โดยได้ขอให้บริษัทนำเที่ยวพิจารณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปยังเมืองน่าเที่ยว (hidden gems) กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยรัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยว และรับฟังอุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร

 

ทางสายการบินและบริษัทนำเที่ยวสหราชอาณาจักร ประสานเสียงพร้อมส่งเสริมการเดินทางมายังไทยมากขึ้น เพราะยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของการเดินทางระยะไกล โดยยินดีร่วมกับ ททท.กระตุ้นร่วมมือกันส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยว ช่วงปลายปี 2568 จะเพิ่มเที่ยวบินและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้

 

บริษัทนำเที่ยวทั้ง Trailfinders และ DNATA มีตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พักนานวัน นิยมเดินทางซ้ำกลับมายังไทย นิยมให้ทางบริษัทออกแบบการเดินทางแบบเฉพาะตัว (Tailor made package) ซึ่งทำให้มีโอกาสใช้จ่ายสูง และได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดี

 

ผนวกกับได้เสนอให้ไทยจัดทำแพคเกจการเดินทางด้วยรถไฟแบบ “ลักชัวรี่” ซึ่งเป็นและเทรนด์การเดินทางกำลังเติบโตรวดเร็วและสามารถเสนอขายได้อย่างดีในหลายประเทศ ทางบริษัทมีความสนใจเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เสนอขายสินค้าของไทยด้วย

 

ข่าวที่สอง –เปิดแล้วโชว์“อควา เซอร์คัส ภูเก็ต”ต่อโปรตั๋วถึง30มิ.ย.68

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภูเก็ตเปิดโชว์ใหม่ล่าสุด “อควา เซอร์คัส ภูเก็ต : Aqua Circus Phuket” ในธีม “ท่องโลกปาฎิหาริย์เหนือสายน้ำ” โดยนักแสดงระดับโลกกว่า 50 ชีวิต ที่มาร่วมค้นหาโลกที่สาปสูญไป ให้นักท่องเที่ยวได้ชมการแสดงสุดยิ่งใหญ่ตื่นเต้นสนุกสนาน ตื่นเต้นตลอดการแสดง โดยมีบริษัท Phuket Aqua Circus จำกัด ทำหน้าที่บริหาร และเป็นผู้ก่อตั้งโชว์โลมาภูเก็ต ในพื้นที่ 8 ไร่ บริเวณถนนพระภูเก็ตแก้ว กะทู้ ภูเก็ต ดีไซน์โดมการแสดงสูง 15 เมตร จุผู้ชมได้ 800 ที่นั่ง เปิดการแสดงทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 14:30 และ 19:30 น. นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงได้อย่างจุใจ 1 ชั่วโมง 20 นาที

 

เนื้อเรื่องการแสดง “อควา เซอร์คัส ภูเก็ต” ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง "เกาะมหาสมบัติและ "โจรสลัดแห่งแคริบเบียนนำมาปรับแต่งอย่างลงตัวรวม 20 ฉาก ใช้รูปแบบการแสดงจากมืออาชีพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีกายกรรม มายากล บัลเล่ย์ นักร้อง และสัตว์ ชุดการแสดงสุดตระการตา  พร้อมเทคนิคต่าง ๆ เหาะเหินเดินอากาศ สลิง น้ำพุดนตรี แสงเสียงตื่นตาตื่นใจ ทุกที่นั่งสัมผัสได้ถึงความอัศวัจรรย์อย่างเต็มอิ่ม

         

พิเศษ! ชาวภูเก็ตสามารถชมโชว์ทั่วถึงโดยผู้บริหารได้ต่อโปรโมชั่นไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เพียงแสดงบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านแล้วจ่ายบัตรเข้าชมราคาพิเศษเพียง 500 บาท/ที่นั่ง

          

ส่วน “คนไทย” ทั่วประเทศ ชมโชว์สุดอลังการได้วันนี้ -30 มิถุนายน 2568 ราคาเริ่มต้น เด็ก 500 บาท/ที่นั่ง ผู้ใหญ่ 700 บาท/ที่นั่ง

 

เปิดจองบัตร และสอบถามรายละเอียดเพิ่มโทร. 062-6615661   ฝ่ายขาย  061 749 5552   

ฝ่ายรับจองบัตร 062 6615661Email : aquacircusphuket@gmail.com / info.pkcircus@gmail.com 

Website : www.aquacircusphuket.com

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี!!ททท.ดันตลาดไกล4ทวีปทั้งปี’68โตแรง 2 หลัก-ยอดจองตั๋วSummer+Winterพุ่ง8-14%

  จิระวดี คุณทรัพย์  รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา  ททท. ข่าวดี !! ททท.ดันตลาดระยะไกล 4 ทวีปทั้งปี ’68 โตแรง 2 ...