บพท.จัดCity Solution Daysพลังพลเมืองแก้โจทย์เมือง
ชู4ยุทธศาสตร์50พื้นที่ต้นแบบน่าอยู่38เมืองการเรียนรู้
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #บพท #CitySolutionDays
บพท. เปิดเวทีใหญ่ City Solution Days ผสานเครือข่าย “เทศบาล-ผู้นำเมือง-นักวิจิย” ผนึกรัฐ เอกชน เครือข่ายนักวิจัย เปิดทางเลือก “แก้โจทย์เมือง” ชู 4 ยุทธศาสตร์ 62 กลไก 50 พื้นที่ต้นแบบ ใน 38 เมืองแห่งการเรียนรู้ ลุยทำ “สถาบันความรู้เพื่อการพัฒนาเมือง”
ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย ที่ปรึกษาวิทยสถาน “ธัชภูมิ”
เพื่อการพัฒนาพื้นที่ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวในงานใหญ่
City Solution Days “เปิดเมือง
เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่” ว่า บพท.ได้ใช้เวทีสำคัญขับเคลื่อนบทบาทและภารกิจเชิงระบบและกลไกด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่
เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำเมือง เทศบาลนครและเทศบาลเมือง ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาคมเครือข่ายนักวิจัย
นักวิชาการ และผู้เกี่ยวพันกับการแก้ไขปัญหาเมือง ให้เข้ามามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางและตอบโจทย์การพัฒนาเมืองที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่
ตรงตามความต้องการของประชาชนที่จะยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยชุดความรู้งานวิจัย ต่อยอดการนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์จริงในเชิงพื้นที่
สร้างการเปลี่ยนแปลงเมืองในทุกมิติ
“รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม”
รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร บพท. กล่าวว่า บพท.ได้ขับเคลื่อนพันธกิจสำคญเรื่อง
งานวิจัย และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเมืองน่าอยู่และกระจายศูนย์กลางความเจริญ นอกเหนือจากอีก
4 พันธกิจ คือ 1.แก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ 2.การพัฒนาชุมชนนวัตกรรม
3.การพัฒนาฐานทุนวัฒนธรรม 4.ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงระหว่างคนกับเมือง ทำให้ “เมืองมีความน่าอยู่” สำหรับทุกคน
และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ ดึงดูดผู้คนที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมพัฒนาเมืองหรือชุมชนมากยิ่งขึ้น
ด้วยกลไกการพัฒนาที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาความร่วมมือทางสังคม
2.การพัฒนาข้อมูลและองค์ความรู้ของเมือง
3.การพัฒนาเครื่องมือทางการเงินและการจัดการทุนของเมือง และ 4.
ด้านนโยบายและแผนพัฒนาของเมือง
ช่วงที่ผ่านมาสามารถผลักดันการลงทุนของเมืองในการบริหารจัดการเมือง
(ด้านการแข่งขัน) ระบบการจ้างงาน ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้เมืองเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้วยรูปธรรมความสำเร็จ 6 เรื่อง คือ
● เกิดกลไกแผนงานและแนวทางในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่
62 กลไก มีโครงการนำร่อง 2 ด้าน คือ “Smart
Environment” และ “Smart Mobility”
● พื้นที่ต้นแบบบนฐานเศรษฐกิจสีเขียวและห่วงโซ่อุปทาน
18 พื้นที่
● พื้นที่ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ จำนวน 9 พื้นที่
● เกิดตัวแบบการจัดการที่อยู่อาศัย 11 พื้นที่
● การพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาด (Livable and Smart City) ด้วยระบบการจัดการข้อมูลเมือง
12 พื้นที่
● เกิดพื้นที่ต้นแบบ Learning City ตามแนวทางปฏิบัติ
เกณฑ์และตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับแนวทางสากล ผลักดันความร่วมมือระดับนานาชาติ ASEAN+3 Learning Cities Network 38 เมือง
บพท. ได้สร้างฐานข้อมูลเมืองครอบคลุมกว่า 43 มิติ
ที่เกี่ยวพันกับวงจรการใช้ชัวิตของคนในพื้นที่ และพัฒนาเครื่องมือนวัตกรรมเพื่อการจัดการเมืองกว่า
36 เครื่องมือ ด้วยระบบ Dashboard และแพลตฟอร์ม
Open Data เพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายของเมือง พร้อมกับสนับสนุนจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมืองทั่วประเทศ
20 แห่ง และหลักสูตรนักพัฒนาเมืองระดับสูง (พมส.)
เพื่อยกระดับทักษะและศักยภาพของผู้นำท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้องทั่วไทยกว่า 70 แห่ง
ปี 2567 บพท. ริเริ่มตั้ง City Incubator and Accelerator Program (CIAP)” โครงการวิจัยบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งหน้าสู่อนาคตเมืองน่าอยู่
ภายใต้การทำงานร่วมกันของสมาคมเทศบาลนครและเมืองในพื้นที่นำร่อง 18 เมือง กับเครือข่ายมหาวิทยาลัย
เพื่อสร้างโครงสร้างองค์ความรู้พื้นฐาน บ่มเพาะและต่อยอดสู่การสร้าง “สถาบันความรู้เพื่อการพัฒนาเมือง” ด้วยชุดความรู้ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และบริบทสังคม
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การเชื่อมโยงเครือข่ายการพัฒนาเมือง
โดยยึดหลักการพัฒนาเมืองอย่างสมดุลและยั่งยืน
สำหรับ “โจทย์สำคัญ” ที่พบในการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่ฯ คือ “ประสิทธิภาพการลงทุนของท้องถิ่น” ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ตามภาวะการณ์เงินปัจจุบันเริ่มส่งสัญญาณไม่เพียงพอ และอีก 5 ปีข้างหน้า จะเห็นเมืองเริ่มถดถอยอย่างมีนัยสำคัญ จำเป็นต้องนำเอาชุดความรู้ไปช่วยยกระดับประสิทธิภาพการลงทุนของเมือง เสริมศักยภาพเข้าถึงแหล่งทุน จำเป็นจะต้องหาผู้ดำเนินการในโครงการที่สำคัญกับเมือง เช่น ขนส่งสาธารณะ การจัดการขยะ และอื่น ๆ
บพท. จะผลักดันให้เกิดขึ้น ในปีต่อไป จะเน้เมืองมีศักยภาพและมีความคุ้มค่า 4 ยุทธศาสตร์หลัก
● ยุทธศาสตร์ที่ 1 กลุ่มเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียว
●ยุทธศาสตร์ที่ 2 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับทุนวัฒนธรรม-ซอฟท์พาวเวอร์ ทุก ๆ เมืองที่มีศักยภาพสอดรับกับการท่องเที่ยว
●ยุทธศาสตร์ที่ 3 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเวลเนสธุรกิจทางด้านสุขภาพ เพราะเกือบทุกเมืองเข้าสู่ภาวะเมืองผู้สูงอายุ จะต้องออกแบบรองรับที่ดี
●ยุทธศาสต์ที่
4 การเปลี่ยนเมืองเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลโดยเร็ว
โดยเฉพาะเมืองที่มีมหาวิทยาลัย และคนรุ่นใหม่
ดร.ปุ่น กล่าวว่า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
นายกเทศมนตรี หรือผู้นำเมืองในยุคใหม่ ควรมีบทบาทสำคัญ ไม่จำกัดอยู่แค่การดูแลระบบสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐานเท่านั้น
แต่ควรมีวิสัยทัศน์ให้ความสำคัญกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจเมือง โดยมุ่งพิจารณาพื้นที่กำลังเติบโตและแนวทางเปลี่ยนแปลง
เพื่อท้องถิ่นบริหารจัดการสร้างทั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีไปด้วยกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น