วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ททท.ตลาดเอเชียแปซิฟิกใส่เกียร์แรงไฮซีซั่นปี’68รับ3สัญญาณดี+7บิ๊กอีเวนต์+เพิ่มเช่าเหมาลำจีน1,000 ไฟลต์ TTM Plus2026



ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท.

ททท.ตลาดเอเชียแปซิฟิกใส่เกียร์แรงไฮซีซั่นปี’68พลิกสู่แดนบวก

รับ3สัญญาณดี+ขาย7บิ๊กอีเวนต์+เพิ่มเช่าเหมาลำจีน1,000 ไฟลต์

TTM Plus2026ปรับใหม่ดึงผู้ซื้อทั่วโลก-ผู้ขายไทยจับคู่ธุรกิจพันราย

POWER PASSคิงเพาเวอร์ฟินกินช้อปเที่ยวพักผ่อนตลอดพ.ย.68

พูลแมนคิงเพาเวอร์เสนอแพกเกจแต่งงาน 499,000-600,000บาท

ไทย-จีนชู“Trusted Thailand”เที่ยวปลอดภัย-ทำรายได้2.8ล้านล้าน

CMCบางจากหนุนACCFตลาดคาร์บอนอาเซียนปี69เพิ่มการสื่อสาร

เที่ยวเชียงราย “สีสันกาสะลอง”ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา 4 ชนเผ่า

8 สัญญาณเตือนเพื่อให้ระวังร่างกายคนเรากำลังจะแก่เร็วก่อนวัย

IATA-ATPCOชูโปรดักซ์ใหม่TFCขายแอร์ไลน์โลกเซฟต้นทุนบริการ

รร.ชาเทรียมฯจัดปังสุด“Oyster Month”กินหอยนางรมตลอดพ.ย.68

 

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก 


ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... .https://www.facebook.com/share/v/17Qfav7t3u/

 

ช่วงที่ 1 !! สัมภาษณ์ นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใส่เกียร์ลุยปลายปี68-69 พลิกเกมตลาดใหญ่ “จีน-ฮ่องกง-เกาหลี-ไต้หวัน-อาเซียน” จากติดลบสู่แดนบวก ไทยเจอ 3 สัญญาณดี “ปลอดข่าวลบในจีน-เข้าไฮซีซั่น-มีเทศกาลฮ็อตดึงดูดตลาด” ลุยขาย 7 บิ๊กอีเวนต์ “วิจิตรเจ้าพระยา-เคาน์ดาวน์-พลุพัทยานานาชาติ-2มาราธอน-ซีเกมส์-ตรุษจีน” รัฐบาลเทงบบิ๊กล็อตทำ Amazing Thailand Summer Blast ปั๊มรายได้ 3 ส่วน “เพิ่มชาเตอร์ไฟลต์จีน 1,000 เที่ยว-อินเซ็นทีฟ-ผนึกแอร์ไลน์ขยายเส้นทางความถี่บินประจำเข้าไทย” ฝ่า 5 ความท้าทาย “ภาพลักษณ์-เศรษฐกิจถดถอย-คู่แข่ง/ราคา-สงคราม-พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน” และปรับโฉมจัด TTM Plus 2026 ช่วง 10-12 มิ.ย.69 ที่สวนนงนุช “เพิ่มสัดส่วน” กลุ่มผู้ขายไทยและผู้ซื้อทั่วโลก

 

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพใหญ่รวมทั้งหมดตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ระหว่างมกราคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาไทยกว่า 26.6 ล้านคน ยังอยู่ในแดนติดลบ 7 % วิเคราะห์ตลาดระยะใกล้ (Shorthaul market) อาเซียน เอเชีย และแปซิฟิกใต้ มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 18 ล้านคน ลดลง13 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน (มกราคม-ตุลาคม 2567) ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 70 % นักท่องเที่ยวต่างประเทศมาไทยทั้งหมด

           

“ตลาดติดลบสูง” ยังคงเป็นเอเชียตะวันออ 4 ตลาด ได้แก่ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” 33 % ฮ่องกง 27 % ไต้หวัน 9 % สาธารณรัฐเกาหลี 16 %  และ “อาเซียน” ติดลบ 9 %

 

 

“ตลาดแดนบวก” ได้แก่ เอเชียตะวันออกมีตลาดเดียวคือญี่ปุ่นเพิ่ม 4 % “เอเชียใต้” มีอินเดีย เพิ่ม16 % และโอเชเนีย มีออสเตรเลีย เพิ่ม 6 %

 


5 ปัจจัยความท้าทายฉุดตลาดดิ่งลง” ประกอบด้วย 1.ภาพลักษณ์ความไม่ปลอดภัย 2.คู่แข่งขัน เพราะแต่ละประเทศที่เคยเป็นลูกค้าของไทยก็ทำท่องเที่ยวในประเทศเอง รวมทั้งมีประเทศคู่แข่งสินค้าสดใหม่ ทำให้ไทยถูกมองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเก่า แถมราคาการท่องเที่ยวไทยยังแพงกว่า จากค่าเงินบาทแข็งและเมื่อเปรียบเทียบกับบางประเทศที่สดใหม่ 3.เศรษฐกิจโลกถดถอยชะลอตัว ทุกประเทศแก้ปัญหาโดยหันมาใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว 4.สงครามต่าง ๆ ซึ่งเกิดการปะทะในแต่ละประเทศ เช่น รัสเซีย-ยูเครน ไทย-กัมพูชา และอีกหลายแห่ง 5.พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป แต่ละกลุ่มให้ความสำคัญต่างกันไปกับเรื่องราคา หรือประสบการณ์เดินทาง ส่งผลทำให้  “จำนวน” นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย “ลดลง”

3 สัญญาณเริ่มสดใสปลายปี 2568สังเกตุได้จาก สัญญาที่ 1 กระแสข่าวเชิงลบหายไปจากสื่อในตลาดหลักอย่าง สาธารณรัฐประชาชนจีน สัญญาณที่ 2 เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวไฮซีซั่น สัญญาที่ 3 มีอีเวนต์ท่องเที่ยวเทศกาลใหญ่ที่ผู้คนจากทั่วโลกนิยมมาเฉลิมฉลองส่งท้ายปี คริสต์มาส เคาน์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

 


“ททท.ใส่เกียร์แรง Summer Blash ทำมาตลอดปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567-30 กันยายน 2568) แล้วก็เพิ่มความแรงต่อเนื่องปีงบประมาณ 2569 ( 1 ตุลาคม 2568 - 30 กันยายน 2569) โดยพิจารณาตามพฤติกรรมของแต่ละตลาดมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะตั้งแต่ตุลาคม 2568 รัฐบาลเพิ่มยาแรงด้วยการใส่งบประมาณเพิ่มเพื่อเร่งให้ทำแคมเปญ “Thailand Summer Blast” พุ่งเป้าใช้เงินสนับสนุน

1.งบสนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวจัดทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) ตั้งเป้าไว้ 1,000 เที่ยวบิน ภายในเวลาเพียงเดือนเศษมี “เมืองรอง” จากสาธารณรัฐประชาชนจีนลงทะเบียนสมัครจนเต็มแล้ว ทั้ง ซีอาน ซินหนิง เหอเป่ย หวงซาน จี่หนาน และอีกหลากหลายเมือง โดยทยอยเดินทางต่อเนื่องตั้งแต่ตุลาคม 2568 ไปจนถึงปี 2569

2.กระตุ้นกลุ่มได้รางวัลการเดินทางท่องเที่ยว (Incentive) มีบริษัทตัวแทนจากหลากหลายประเทศ ทั้งธุรกิจตัวแทนยา/เภสัชกรรม เทคโนโลยี นวัตกรรม อื่น ๆ สนใจสมัครเข้าร่วมจำนวนมากทั้งจาก จีน เกาหลี ไต้หวัน ดูไบ(สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) แต่ละเดือนมีกรุ๊ปหลายขนาด ตั้งแต่ 200-3,000 คน/กรุ๊ป

 


ล่าสุด ททท.ได้ต้อนรับกลุ่มอินเซ็นทีฟจากบริษัทตัวแทนสมุนไพรจีนนำตัวแทนขายที่ได้รางวัลการเดินทางมาพักที่พัทยา ขนาดกว่า 3,000 คน จากนั้นเดือนมีนาคม 2569 จะมีอินเซ็นทีฟตลาดจีนกว่า 10,000 คน

3.ส่งเสริมสายการบินนานาชาติทำตารางบิน (Schedule Flight) เพิ่มเส้นทางและความถี่เที่ยวบินประจำ (Regular flight) เข้ามายังไทย สอดคล้องตามความต้องการของนักเดินทาง 

4.จัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมตลาดการขายสร้างแรงจูงใจเพิ่มจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวเป้าหมายตั้งแต่ปลายปี 2568 ต่อเนื่องปี 2569 เช่น


-“หนี ห่าว มันธ์” ให้สิทธิพิเศษนักท่องเที่ยวจีน ระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568

- Amazing Thailand Passport Privileges ช่วงพฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 มอบสิทธิพิเศษและของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเข้าร่วมกิจกรรมโดยแสดงหนังสือเดินทางที่บูท 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต รับ กระเป๋าของที่ระลึกและสแกน QR Code รับคูปองส่วนลดจากพันธมิตรการท่องเที่ยวทั่วประเทศ

 


-สำนักงาน ททท.แต่ละพื้นที่ในตลาดเอเชีย และแปซิฟิก ดำเนินการโดยตรงในแต่ละประเทศ

-Amazing Thailand Marathon 2025 ปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 มีนักวิ่งจาก จีน เกาหลี สิงคโปร์ เวียดนาม เข้ามาร่วมด้วยจำนวนมาก

-จัดเทศกาลท่องเที่ยวตรุษจีน เดือนกุมภาพันธ์ 2569 เตรียมกิจกรรมเป็นแคมเปญพิเศษอย่างการจัดทำ “อี-อั่งเปา” และอื่น ๆ ร่วมกับแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA)

นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่า ปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 มีสัญญาณที่ดีเพิ่มมากขึ้น จาก สายการบินต่าง ๆ ทยอยนำ “เที่ยวบินเช่าเหมาลำ” จากต้นทางเมืองรองของจีนเข้ามายัง กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ สมุย/สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเที่ยวบินเชิงพาณิชย์แบบประจำ ก็มีด้วยเช่นกัน เช่น “สายการบินฟลายเออร์ฟลาย” ( Firefly Ailine) โลว์คอสต์แอร์ไลน์ของมาเลเซีย บินตรง กัวลาลัมเปอร์-กระบี่ กลางเดือนพฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป หรือ “ซิตี้ ลิงค์” (Citilink) โลว์คอสต์แอร์ไลน์ของสายการบินการูด้า อินโดนีเซีย จะเปิดบิน ไป-กลับ จาการ์ตา-กรุงเทพฯ(ดอนเมือง) กลางเดือนธันวาคม 2568 และ “จีเอส แอร์ไลน์” ทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากจีน “เมืองไหโข่ว-อุดรธานี” เป็นครั้งแรกการเชื่อมโยงจีนมายังภาคอีสานของไทย นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวทะเลบัวแดง ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป

 


“อีเวนต์กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยวไฮซีซั่นปี 2568 ททท.เดินหน้าลุยเต็มที่ช่วงเร่งด่วน 7 กิจกรรม

กิจกรรมที่ 1  Vijit Chaophraya 2025เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ -23 ธันวาคม 2568 ความสวยงามแสง สี เสียง ไฟสวยงาม ลัดเลาะตามโค้งน้ำริมสองฝั่งเจ้าพระยา 15 จุด

กิจกรรมที่ 2 เทศกาลพลุนานาชาติพัทยา : Pattaya International Fireworks Festival 2025วันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2568 บริเวณชายหาดพัทยา ชมการแสดงพลุสวยงามจากนานาประเทศ ชิมอาหาร ช้อปร้านค้าต่าง  ได้ทั้ง 2 วัน เริ่มเวลา 19.45 น. เป็นต้นไป ในธีม "แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์"  ไฮไลต์พลุแสดงพระราชกรณียกิจต่าง 

กิจกรรมที่ 3 Chiangmai Thailand by UTMB - UTMB World Series จัด 2 สัปดาห์ วันที่ 29–30 พฤศจิกายน 2568 บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และ4–7 ธันวาคม 2568 ที่สวนสาธารณะ อบจ.เชียงใหม่

 


กิจกรรมที่ 4 Amazing Thailand Bangkok Marathon 2025 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568  บริเวณเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ โดยมี “เอเลียด คิปโชเก้” ชาวเคนย่าตำนานนักวิ่งมาราธอนแชมป์เมเจอร์ 11 สมัย มาสร้างความคึกคักร่วมวิ่งกับอีกหลายหมื่นคน

กิจกรรมที่ 5 มหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 จัดขึ้นที่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา ไทยจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับนักกีฬาหลายหมื่นคน และกองเชียร์จากประเทศต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมากนับแสนคน


กิจกรรมที่ 6 Amazing Thailand Countdown 2026 วันที่ 29-31 ธันวาคม 2568 จนถึง 1 มกราคม 2569 ปีนี้ ททท.ยังได้เพิ่มการจัดงานเคาน์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “2 เมืองน่าเที่ยว” คือ ภาคเหนือ กว๊านพะเยา จ.พะเยา และภาคใต้ จ.นราธิวาส  ส่วนในกรุงเทพฯ สถานที่ไฮไลต์มีเอกชนจัดยิ่งใหญ่อย่าง ไอคอนสยาม กับลานเซ็นทรัล เวิลด์

กิจกรรมที่ 7 เทศกาลตรุษจีน เดือนกุมภาพันธ์ 2569 ททท.จะร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน จัดให้ยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นทุกปี

 


นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.กำลังเตรียมขับเคลื่อนเทรดโชว์การท่องเที่ยวอีเวนต์ใหญ่ Thailand Travel Mart Plus :TTM+2026” ระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2569 ที่สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี นำเสนอภายใต้ธีมแคมเปญสื่อสารการตลาดใหม่ “Amazing Thailand: Unforgettable Experiences Healing is The New Luxury” ตั้งเป้าคัดเลือก “ตัวแทนขายในไทย” 400 ราย “ผู้ซื้อจากต่างประเทศ” 400 ราย ปี 2569 จะเพิ่มพิเศษเชิงคุณภาพมากขึ้น ในกลุ่มผู้ขายจะขยายจากเดิมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงแรม/รีสอร์ต เพิ่มสัดส่วนใหม่ให้สิทธิมากขึ้นกับตัวแทนบริหารจัดการเส้นทางท่องเที่ยว (DMC) สปา กอล์ฟ ส่วน “ผู้ซื้อ” เล็งหาบริษัทที่ยังไม่เคยขายท่องเที่ยวเมืองไทยแต่สนใจจะขายก็คัดเข้ามาร่วมงานด้วย จากกลุ่มที่มีตัวแทนผู้ซื้อเข้าร่วมงานจำนวนมาก 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน อินเดีย ฮ่องกง เกาหลี ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง อังกฤษ อิตาลี

“การเปิดรับสมัคร” ผู้ขายและผู้ซื้อ ททท.จะเริ่มเปิดหลังปีใหม่มกราคม 2569 รวมทั้ง ททท.จะมีแพกเกจต้อนรับพันธมิตรที่พร้อมเป็นสปอนเซอร์งานด้วย ติดตามได้ทางเว็บไซต์ www.thailandtravelmartplus.com

ภายในงาน TTM +2026 ที่จะเป็นพลังเทรดโชว์กระตุ้นรายได้เข้าประเทศ กิจกรรมหลัก ๆ ได้แก่

1.การจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่าง “ตัวแทนขายท่องเที่ยวของไทย” กับ “บริษัทผู้ซื้อท่องเที่ยว” จากตลาดนานาชาติ

2.จัดทำแฟมทริปให้ผู้ซื้อและสื่อของแต่ละประเทศเดินทางก่อนและหลังเพื่อสำรวจสินค้ากับบริการท่องเที่ยวพื้นที่ตามเส้นทางเป้าหมาย ตอกย้ำประเทศไทยในปี 2569 เป็นจุดหมายปลายทางการฮีลกายและใจ โดยเฉพาะ “พัทยา” มีสินค้าบริการและกิจกรรมพร้อมรองรับทั้งการล่องทะเล ทำสปา ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาบป่า สัมผัสธรรมชาติ

นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่า ททท.มีข้อแนะนำ “ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว” ต้องเร่งทำ เรื่องที่ 1 ตื่นตัวเปลี่ยนแปลงแผนตลาด ล่าสุด ททท.จัด Focus Group คัดตัวแทนที่ได้รับผลกระทบจากตลาดที่มีนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น จีน เวียดนาม ได้คุยกับผู้จัดการการตลาด เพื่อรวบรวมชุดข้อมูล  นำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลของ ททท.แต่ละสำนักงาน รวบรวมสรุป นำเสนอ “คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ” ดำเนินนโยบายแก้ไขจุดอ่อนต่าง ๆ มากขึ้น ตัวอย่าง นักท่องเที่ยวตลาดจีนไม่มั่นใจด้านความปลอดภัย ททท.กำลังใช้โครงการ “Trusted Thailand” ทำโลโก้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมาสมัครเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว

 

เรื่องที่ 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว เน้นใช้โซเชียล มีเดีย เพิ่มขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงมูลค่าและประสบการณ์ ก็ควรจะออกแบบโปรแกรมให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว รวมทั้งการร่วมแลกเปลี่ยนและแชร์ข้อมูล

 

ขณะที่ “คนไทย” ก็พยายามรักษาการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ด้วยมิตรไมตรีตามที่คนไทยทั้งประเทศได้ทำดีมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ ก็จะสามารถช่วยกันทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกประทับใจเสน่ห์ไทยตลอดไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1- POWER PASSคิงเพาเวอร์ฟินกินช้อปเที่ยวพักผ่อนตลอดพ.ย.68

 

POWER PASS” บัตรสมาชิกพรีเมี่ยมไร้พรมแดนของ คิง เพาเวอร์ เนรมิตให้เดือน11  ตั้งแต่วันนี้ -30 พฤศจิกายน 2568 สมาชิกจะได้มีความสุขให้แลกได้ทุกวันกับ CARAT REWARDS แลกได้ครบทุกไลฟ์สไตล์ กิน | ช้อป| เที่ยว | พักผ่อน

 

สมาชิก POWER PASS

-สะสม CARAT ไว้แลกฟิน ๆ ได้ง่ายกว่าเดิม! ทุกๆ การช้อป 25 บาท รับ 1 CARAT และรับสูงสุด 3 เท่า ตามสถานะสมาชิก

-ใช้ CARAT แลกได้คุ้มกว่าเดิม! 400 CARAT = 100 บาทใช้แทนเงินสดในการช้อปสินค้าภายในเครือ คิง เพาเวอร์ หรือแลกสิทธิพิเศษ CARAT REWARDS ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์

 

ยังไม่เป็นสมาชิก? สมัครสมาชิก NAVY ฟรี!

-รับเลย E-PURSE 100 บาท* เข้าบัญชีสมาชิกฯ ใช้ช้อปได้เลย พร้อมรับเซ็ตคูปองพิเศษ

 

วันนี้ !!สมัครสมาชิกได้เลย พร้อมลุยรับสิทธิประโยชน์มากมายจาก POWER PASS คลิกสมัครที่ : https://kp.group/OLTQs1  หรือสมัครผ่าน LINE Official Account @KINGPOWER

 


ข่าวที่ 2 -พูลแมนคิงเพาเวอร์เสนอแพกเกจแต่งงาน 499,000-600,000บาท

 

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำเสนอแพ็คเกจแต่งงานแบบครบวงจร ในราคาเพียง 499,000 บาทสุทธิ แพ็คเกจที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและครอบคลุมทุกความต้องการ รวมทุกสิ่งที่คุณต้องการไว้ในแพ็คเกจเดียว ตั้งแต่พิธีหมั้นแบบไทยหรือพิธียกน้ำชา ไปจนถึงงานเลี้ยงฉลองสุดหรู จากทีมเวดดิ้ง และแพลนเนอร์มากประสบการณ์  รองรับแขกได้สูงสุดถึง 500 คน

 

“บริการระดับพรีเมียมดูแลครบทุกขั้นตอน”โดยทีมเวดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพ

 

ขบวนขันหมาก (ไซส์ S) สำหรับพิธีหมั้น แบคดรอปพร้อมตกแต่งดอกไม้ (ขนาด 6 x 3 เมตร) มุมแกลเลอรีภาพถ่าย ฉากหลังดิจิทัลแบบเคลื่อนไหวบนจอ LED พร้อมดีไซน์ 4 แบบ บริการจัดคิวอย่างมืออาชีพ สำหรับพิธีหมั้นและพิธีมงคลสมรส   ช่างภาพมืออาชีพสำหรับ 2 พิธีการ – พิธีหมั้นและแต่งงาน

 

แพ็คเกจแต่งงาน ราคา 450,000 บาท

-ห้องพักสำหรับทริปฮันนีมูน 3 วัน 2 คืน ณ โรงแรม พูลแมน ในภูมิภาคเอเชีย

-คูปองแทนเงินสดมูลค่า 10,000 บาท สำหรับห้องอาหารและสปาภายในโรงแรม

-ยกเว้นค่านำเข้าตกแต่งดอกไม้และวงดนตรี

-เลือกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม 1 รายการ

 

แพ็คเกจแต่งงาน ราคา 500,000 บาท

-ห้องพักสำหรับทริปฮันนีมูน 3 วัน 2 คืน ณ โรงแรม พูลแมน ในภูมิภาคเอเชีย*

-คูปองแทนเงินสดมูลค่า 15,000 บาท สำหรับห้องอาหารและสปาภายในโรงแรม*

-ยกเว้นค่านำเข้าตกแต่งดอกไม้และวงดนตรี

-เลือกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม 2 รายการ (จากลิสต์ด้านบน)

 

แพ็คเกจแต่งงาน ราคา 600,000 บาท

-ห้องพักสำหรับฮันนีมูน 3 วัน 2 คืน ณ โรงแรม พูลแมน ในภูมิภาคเอเชีย

-คูปองแทนเงินสดมูลค่า 20,000 บาท สำหรับห้องอาหารและสปาภายในโรงแรม*

-ยกเว้นค่านำเข้าตกแต่งดอกไม้และวงดนตรี

-เลือกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม 3 รายการ

 

โรงแรม พูลแมน ในภูมิภาคเอเชีย เลือกได้จาก Pullman Tokyo Tamachi, Pullman Bali Legian Beach, Pullman Danang, Pullman Singapore Orchard, Pullman Panwa Beach Resort

 

ข่าวที่ 3-ไทย-จีนชู“Trusted Thailand”เที่ยวปลอดภัย-ทำรายได้2.8ล้านล้าน

 

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ร่วมกับนายหยาง เสี่ยวหลง ที่ปรึกษาแผนกวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานพันธมิตร แสดงพลังด้วยการแถลงยืนยันความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนและนานาชาติ รวมทั้งมอบตราสัญลักษณ์ “Trusted Thailand” ให้สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการรับรองมาตรฐานคุณภาพด้านความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นใจในการเดินทางกับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

 

ขณะนี้ไทยมีต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อเนื่อง 10 เดือน ระหว่างมกราคม-ตุลาคม 2568 รวม 26.7 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจีน 3.7 ล้านคน คิดเป็น 15% ของทั้งหมด รัฐบาลจึงได้เร่งทำมาตรการสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทุกมิติ ล่าสุด ททท. ได้จัดทำโครงการโดยมอบตราสัญลักษณ์ “Trusted Thailand” เสริมความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเลือกสถานประกอบการ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว เป็นเครื่องหมายตอกย้ำเรื่องความปลอดภัยสร้างความมั่นใจโดยเฉพาะ “ตลาดนักท่องเที่ยวจีน” ให้กลับมาเดินทางเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง

 

ประเทศไทยได้จัดทำ Trusted Thailand ควบคู่กับโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.การยกระดับมาตรฐานสถานที่ท่องเที่ยว 2.การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง 3.การสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง 4.อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว

 

“นายหยาง เสี่ยวหลง” ที่ปรึกษาแผนกวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตลอด 50 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทยเติบโตอย่างมั่นคงและลึกซึ้ง มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นด้านการท่องเที่ยว โดยมีเรื่อง“ความปลอดภัย” ที่นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นปัจจัยสำคัญการตัดสินใจเดินทาง เมื่อประเทศไทยได้ริเริ่มโครงการ “Trusted Thailand” เป็นเรื่องน่าชื่นชมอย่างยิ่ง คือสัญลักษณ์ที่เข้มแข็งทั้งด้าน ความร่วมมือ ความรับผิดชอบ และความตั้งใจจริงสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวปลอดภัย มีคุณภาพให้นักท่องเที่ยวจีน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปี 2568 การนำเสนอข้อมูลเชิงลบส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมท่องเที่ยวโดยเดินทางอิสระ (FIT) มากขึ้น ทำให้เกิดแนวโน้มการเลือกจุดหมายที่มีการจัดการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น โครงการ “Trusted Thailand” จึงเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐแลเอกชนที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ “ฟื้นฟูความเชื่อมั่นการเดินทางท่องเที่ยวไทย” ตอกย้ำภาพลักษณ์ไทยเป็นจุดหมายปลายทาง “ปลอดภัย คุณภาพสูง และเชื่อถือได้” และยังคงติดอันดับต้น ๆ ครองใจนักท่องเที่ยวจีน (Top of Mind Destination) ด้วยพลังแห่งรอยยิ้ม มิตรภาพ วัฒนธรรมที่งดงามไม่สิ้นสุด จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นจีนให้ฟื้นคืนกลับมาเติบโตได้ สร้างรายได้การท่องเที่ยวปี 2569 ของไทยเข้าสู่เป้าหมาย 2.8 ล้านล้านบาท

 

ททท. เปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้ารับการประเมินรับตราสัญลักษณ์ “Trusted Thailand” ทางเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/trustedthailand แบ่งสถานประกอบการ 4 ประเภท ได้แก่ โรงแรมและที่พัก ภัตตาคารและร้านอาหาร นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า โดยเกณฑ์ประเมินคุณภาพ 4 ด้าน 4 มาตรการหลัก ได้แก่

 

มาตรการที่ 1 การรักษาความปลอดภัยทั่วไปสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน การวางแผนการจัดการพื้นที่อย่างปลอดภัย การเข้าถึงของเจ้าหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยว การควบคุม  การเข้า – ออก รวมถึงการซักซ้อมแผนรองรับภัยพิบัติหรือเหตุไม่คาดฝัน

 

มาตรการที่ 2 การควบคุมความปลอดภัยในการชำระเงิน การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการเงินที่ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในตลาดหลัก (เช่น Alipay, WeChat Pay) การจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างปลอดภัย การป้องกันการถูกแฮกหรือแอบอ้างข้อมูล การแสดงข้อมูลค่าใช้จ่ายอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้

 

มาตรการที่ 3 การสื่อสารภาษาต่างประเทศ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน และการดูแลนักท่องเที่ยวด้วย ความเอาใจใส่และเป็นมืออาชีพ

 

มาตรการที่ 4 ความปลอดภัยในการเดินทางเข้าถึง เส้นทางที่ปลอดภัยมีจุดที่ตั้งที่ชัดเจนสำหรับนักท่องเที่ยว การติดตั้งป้ายหรือจุดให้ข้อมูล การเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอย่างปลอดภัย

 

ททท. คาดจะมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสนใจเข้าร่วมรับการประเมินรับตราสัญลักษณ์ “Trusted Thailand” ไม่น้อยกว่า 5,000 ราย ซึ่งผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับสิทธิประโยชน์จากพันธมิตรร่วมของ ททท. เช่น การขึ้นตราสัญลักษณ์ Trusted Thailand บนแพลตฟอร์ม Trip.com การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ต่างๆ ของ ททท.

 

ข่าวที่ 4-CMCบางจากหนุนACCFตลาดคาร์บอนอาเซียนปี69เพิ่มการสื่อสาร

 

            บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ล่าสุด กรอบความร่วมมือด้านตลาดคาร์บอนอาเซียน (ASEAN Common Carbon Framework: ACCF) เป็นหนึ่งในประเด็น “อาเซียน พาวิลเลียน” ได้ให้ความสนใจในการประชุม UNFCCC COP30 ที่เมืองเบเลง ประเทศบราซิล พร้อมร่วมเสวนาหัวข้อ “ASEAN Common Carbon Framework: Bridging National Priorities with Regional Goals”  และมีองค์กรเครือข่ายสมาชิก คาร์บอน มาร์เก็ต คลับ เป็นผู้ลงนาม ได้แก่ Malaysia Carbon Market Association (MCMA) ASEAN Alliance on Carbon Markets (AACM) และ Singapore Sustainable Finance Association (SSFA) ร่วมเป็นเจ้าภาพ

           

ส่วนประเทศไทยทาง Carbon Markets Club (CMC) และอินโดนีเซีย Indonesia Carbon Trade Association (IDCTA) แม้ปีนี้ 2568 จะไม่ได้ร่วมประชุมเวทีดังกล่าว  แต่ทั้ง 2 องค์กรยังคงยืนหยัดมีส่วนร่วมกับACCF ทั้งกระบวนการพัฒนาและดำเนินงานต่าง ๆ

 

“นางกลอยตา ณ ถลาง” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธาน Carbon Markets Club (CMC) เปิดเผยว่า เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาในฐานะผู้ร่วมลงนามข้อตกลงกับ ACCF ได้เห็นความคืบหน้าทั้งด้านการประสานนโยบาการพัฒนาแนวทางร่วมกัน และการขยายความร่วมมือในอาเซียน รวมทั้ง ACCF อยู่ระหว่างจัดวางระบบการสื่อสารหลักให้สมบูรณ์มากขึ้น ทางCMC พร้อมร่วมสนับสนุนภารกิจด้านการสื่อสารและเสริมสร้างศักยภาพ ACCF ปี 2569 เพื่อแนะนำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ควบคู่รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงาน เตรียมความพร้อมขับเคลื่อนตลาดคาร์บอนให้เชื่อมโยงกันในอนาคตทั่วภูมิภาคอาเซียน ทาง CMC พร้อมเป็นพันธมิตรกับทั้ง ACCF หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งในไทยและทั่วภูมิภาค

           

“ภารกิจ ACCF มีความก้าวหน้า” อาเซียนเริ่มให้การยอมรับอย่างเป็นทางการ ด้วยการกล่าวถึงในงานแถลงข่าวร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 57 แถลงการณ์ร่วมอาเซียนต่อ COP30 และเอกสาร Guidance for an ASEAN Voluntary Carbon Market ของ ASEAN Capital Markets Forum ซึ่งสะท้อนถึงเรื่อง “กรอบความร่วมมือ” นี้กำลังได้รับการพิจารณาในฐานะหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาตลาดคาร์บอนของภูมิภาค

 

“แผนการดำเนินงาน ACCFมี  3 ด้านหลัก คือ 1.การจัดทำข้อมูลอุปสงค์–อุปทาน 2.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตลาด 3.การสื่อสารควบคู่กับการเสริมสร้างศักยภาพของผู้เกี่ยวข้อง แล้วยังมีงานสนับสนุนทำไปพร้อมกัน เช่น การประสานนโยบายและกฎระเบียบ การทดลองโครงการนำร่องต่าง ๆ มีเป้าหมายสำคัญด้านการพัฒนาตลาดคาร์บอนในอาเซียน คือการดำเนินงานให้สอดคล้องกับ Article 6 ความตกลงปารีส และการออกแบบระบบซื้อขายให้ประเทศต่าง ๆ ใช้ร่วมกันได้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

 

“ภารกิจต่อเนื่องของ ACCF ประกอบด้วย 1.มุ่งขยายการมีส่วนร่วมของประเทศสมาชิกอาเซียนให้กว้างขึ้น 2.เสริมความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานเฉพาะทางของอาเซียน 3.สร้างการยอมรับหรือการรับรองหลักการในระดับภูมิภาคเมื่อมีความพร้อม 4.ร่วมกันพัฒนาโครงการสาธิตเพื่อทดสอบระบบและโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ 5.กำหนดรูปแบบการสืบทอดบทบาทผู้นำหลังครบกรอบเวลาบันทึกความร่วมมือ 2 ปีแรก อาจใช้วิธีหมุนเวียนในหมู่สมาคมสมาชิก เพื่อให้ ACCF ดำเนินต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปีนี้ 2568 ทางผู้ร่วมเสวนาได้สรุปว่า ความสำเร็จของ ACCF ช่วงต่อไปจะสะท้อนผ่านหลักเกณฑ์ระดับภูมิภาคอย่างชัดเจน มีโครงการสาธิตพิสูจน์ความเชื่อมโยงของระบบได้จริง และสัญญาณการลงทุนแข็งแรงขึ้น จะช่วยผลักดันเงินทุนเข้าสู่ “โครงการคาร์บอนคุณภาพสูง” ทั่วภูมิภาคอาเซียน

 

          ช่วงที่ 2 เข้าหน้าหนาวแล้ว ไปแอ่วเหนือกันเที่ยวงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2025” ที่เชียงราย ชมต้นคริสต์มาสหมอกพันวา 4 ชนเผ่า ได้ตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2568 แล้วฟัง “8 สัญญาณเตือน” ระวังร่างกายแก่ก่อนวัย พร้อมฟังสดใหม่ท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “IATAจับมือ ATPCO” งัดโปรดักซ์ใหม่ TFC ช่วยลดต้นทุนแอร์ไลน์โลก และ “โรงแรมชาเทรียม กรุงเทพฯ” จัดมหกรรมเดือนแห่งการกินหอยนางรมโลก

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวเชียงราย“สีสันกาสะลอง”ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา4ชนเผ่า

 

ลมหนาวลอยมาแล้ว เตรียมวงปฏิทินไปแอ่วเหนือชม “เทศกาลสีสันกาสะลอง 22025" ทางมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับ เซ็นทรัล เชียงราย สืบสานพระปณิธานสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถ่ายทอดภูมิปัญญา 4 ชนเผ่าล้านนา สู่งานศิลป์ “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” ได้ตั้งแต่วันนี้ -31 มกราคม 2568 บริเวณลานกาสะลอง ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เชียงราย

 

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย สืบสานพระปณิธานและเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ่านงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2025” ปีที่ 5 เผยแพร่ภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรมล้านนา 4 ชนเผ่า รวมพลังกันสร้างสรรค์สู่ผลงานศิลป์ “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” สัญลักษณ์แห่งความงามบนผืนดอย

 

นักท่องเที่ยวและประชาชน มาร่วมสัมผัสความงดงามของผลงานแห่งศิลป์ล้านนา ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2569 ที่ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

 

ตื่นตากับ “ต้นคริสต์มาสไม้ไผ่สาน” สูงกว่า 15 เมตร ที่ชาวดอยตุงบนภูเขาหมอกแรงบันดาลใจสร้างสรรค์อย่างสวยงาม รายล้อมด้วยต้นคริสต์มาสหลากหลายขนาดอีก 6 ต้น สะท้อนอัตลักษณ์ชนเผ่าบนพื้นที่สูงและวัฒนธรรมล้านนาอันงดงาม

 

“ยอดคริสต์มาส” ประดับด้วยริบบิ้นสีทอง แทนความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ผู้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อศิลปหัตถกรรมไทย

 

เที่ยวงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2025” พลังขององค์กรและท้องถิ่นร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว นำเสนอเชียงราย “เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ หรือ City of Design” ของยูเนสโก เป็นการท่องเที่ยวไฮซีซั่นกับประสบการณ์ท่องเที่ยวท้องถิ่นเต็มรูปที่เชียงราย

 

ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นต้นแรก เป็นต้นแบบ (Prototype) ให้โครงการสร้างสรรค์ต้นคริสต์มาสกระจายไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ แล้วผลงาน 7 ต้นนี้ เกิดจากการออกแบบและร่วมสร้างสรรค์โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ภายใต้แนวคิด “The Magic of Chiang Rai” ถ่ายทอดภูมิปัญญาและรากเหง้าวัฒนธรรมแห่งล้านนาที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน

 

ด้วยฝีมือของงานศิลป์แห่งเชียงรายของ 4 ชนเผ่า ได้แก่ อาข่า ลาหู่ ลัวะ และไทยใหญ่ ได้ผสมผสานเป็นงานหัตถศิลป์ไทยประณีตบรรจงบนโครงสร้างไม้ไผ่สาน สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “มนุษย์กับธรรมชาติ” ด้วยวัสดุจากท้องถิ่น เครื่องประดับผ้าทอ ลูกปัด และงานฝีมือพื้นบ้าน — สะท้อนพลังแห่งการสร้างสรรค์จาก Local สู่ Global อย่างงดงามและทรงคุณค่า

 

ร่วมสัมผัสความงดงามแสงแห่งศิลป์ล้านนา ในพิธีเปิดไฟ “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” สัญลักษณ์แห่งแรงบันดาลใจและความผูกพันระหว่างผู้คนกับขุนเขา พร้อมมินิคอนเสิร์ตจากดีว่า “แก้ม วิชญาณี” วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป มาพบกันได้ที่ ลานกาสะลอง หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย แล้วจะรู้เมืองไทย เที่ยวได้ทุกเทศกาล

 

สุขภาพ –8 สัญญาณเตือนให้ระวังร่างกายคนเรากำลังแก่เร็วก่อนวัย

 

เราทุกคนต้องตื่นตัว “ดูแลสุขภาพตัวเอง” เป็นอย่างดี แล้วปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยชะลอความชราให้ช้าลงได้อีกด้วย ส่วน “ความเสื่อมหรือความแก่” ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้  จึงมีคำแนะนำให้ลองสังเกตตัวเองได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเสื่อมที่เกิดขึ้นได้

 

“วิธีวัดความแก่” -ไม่ได้วัดกันที่ใบหน้าหรืออายุ  แต่วัดกนที่ 1.การทำงานของร่างกาย หรือ 2.อายุของหลอดเลือด  ถ้าเกิดการไหลเวียนเลือดไม่ดี แม้จะคนที่อายุยังน้อย แต่ปล่อยให้ร่ายกายทรุดโทรม ไม่ดูแลสุขภาพ ก็จะมีอาการแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน

 

“8 สัญญาณเตือนว่าร่ายกายกำลังแก่” ที่ต้องรีบแก้ไขตั้งแต่เนิ่น  ๆ มีดังนี้

 

1. อ่อนเพลียง่าย แม้จะไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก

2. รู้สึกไม่สดชื่น แม้จะนอนหลับเต็มที่แล้ว

3. น้ำหนักขึ้นหรือควบคุมน้ำหนักไม่ได้ แม้จะพยายามควบคุมอาหาร

4. ความจำแย่ลง ลืมง่าย คิดอะไรไม่ออก

 

5. ปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหลังและข้อ

 

6. รู้สึกเครียด กระวนกระวาย และวิตกกังวลบ่อย

 

7. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เป็นหวัดหรือเจ็บป่วยง่าย

 

8. สมรรถภาพทางเพศลดลง รู้สึกไม่มีแรงจูงใจทางเพศเหมือนเคย

 

ผู้ที่เริ่มมีอาการเหล่านี้ แสดงว่าร่างกายของเรากำลัง "แก่" แล้ว ตอนนี้ทางการแพทย์สามารถใช้เทคโนโลยีช่วยให้ความเสื่อมเหล่านี้เกิดขึ้นได้ช้าลง ประการสำคัญเราจะได้เริ่มหันมาดูแลป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพกายใจ “ไม่ให้แก่ก่อนวัย” ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –IATA-ATPCOชูโปรดักซ์ใหม่TFC ขายแอร์ไลน์โลกลดต้นทุนบริการ

 

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) จับมือกับ ATPCO ประกาศความร่วมมือรวบรวมโซลูชัน “ภาษี -ค่าธรรมเนียม-ค่าบริการตั๋วโดยสาร” (ticket taxes, fees, and charges :TFC) เพื่อช่วยลดต้นทุนควบคู่การจะทำให้สายการบินนานาชาติเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อถือได้เพื่อนำมาใช้กำหนดอัตราค่าบริการดังกล่าวได้สะดวกมากขึ้น

 

“บทบาท” ปัจจุบัน IATA นำเสนอข้อมูลโซลูชั่นภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าบริการตั๋วโดยสารให้สายการบิน ส่วน “ATPCO” มีหน้าที่นำเสนอโซลูชันระบบอัตโนมัติเพื่อบูรณาการข้อมูลดังกล่าวเข้ากับกระบวนการที่นำไปใช้ “กำหนดราคาและการชำระเงิน” แต่ละกระบวนการจำเป็นต้องใช้ “บริการสมัครสมาชิก” และ “ข้อมูล”แยกจากกัน ภายใต้ความร่วมมือใหม่บริการเหล่านี้จะถูกนำมารวมเป็นบริการเดียวแบบครบวงจร ประกอบด้วย

 

“ภาษีมูลค่าเพิ่ม” (TFC) -ครอบคลุมค่าธรรมเนียม และภาษีอื่น ๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมการรักษาความปลอดภัย ค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร ค่าธรรมเนียมบริการสนามบิน ซึ่งสายการบินเรียกเก็บจากผู้โดยสารในนามของรัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลก

 

IATA ระบุว่าสถิติค่าภาษีมูลค่าเพิ่มกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เรียกว่า TFC ปัจจุบันคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้โดยสารทั่วโลกประมาณ 20% ซึ่งทาง “สายการบินนานาชาติ” เรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวรวมมูลค่าปีละประมาณ 147,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นก็จะ “โอนค่าธรรมเนียม” เหล่านี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งเป็นภาระของสายการบินอย่างมาก ดังนั้นจึงได้พยายามหากลยุทธ์ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าวลงให้ได้มากที่สุด คือ

 

@บรรเทาภาระให้กับสายการบิน ทาง IATA และ ATPCO จะนำโซลูชันใหม่มาใช้แบ่งเป็น 3 เฟส :

 

เฟสที่ 1 ตั้งแต่ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป สายการบินสมาชิก ATPCO Community Participation ทุกแห่งจะได้รับลิงก์เชื่อมเข้าถึง “บริการกล่องภาษีตั๋ว IATA (TTBS) ของประเทศตนโดยตรง “TTBS” คือไดเรกทอรีแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ให้ข้อมูลค่าภาษีและค่าธรรมเนียมบริการหรือ TFC อัพเดทล่าสุดที่เผยแพร่อยู่ทั่วโลก

 

เฟสที่ 2 ช่วงไตรมาส 1 ปี 2569 IATA และ ATPCO จะรวมโซลูชัน TFC ของตนให้เป็นผลิตภัณฑ์เดียว เป็นผลิตภัณฑ์ปัจจุบันทั้งหมดแล้ว IATA จะเป็นผู้จำหน่ายโดยตรง ส่วน ATPCO จะให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาและด้านเทคนิคในกลุ่มผลิตภัณฑ์ การดำเนินงานครั้งนี้จะสร้างกระบวนการเป็นหนึ่งเดียวเพื่อการรายงานและการจัดการข้อมูล TFC ควบคู่กับทำให้มั่นใจว่าสายการบินได้รับข้อมูล TFC ที่สอดคล้องกัน

 

เฟสที่ 3 ในระยะยาว IATA และ ATPCO จะพัฒนาโซลูชัน TFC ขั้นสูงยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและการบัญชี TFC ในส่วนหลัก ๆ คือ 1.ค่าโดยสารเครื่องบิน 2.บริการเสริมที่เกี่ยวข้อง โซลูชันเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญสนับสนุนสายการบินและพันธมิตร ในจังหวะที่อุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบข้อเสนอและคำสั่งซื้อใหม่ ๆ

 

ข่าวที่สอง รร.ชาเทรียมฯจัดปัง“Oyster Month”กินหอยนางรมตลอดพ.ย.68

 

โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ เฉลิมฉลองใหญ่สุดงาน Chatrium Grand X Trip.best Oyster Month นำเสนอกิจกรรมการแข่งขันประชันทั้ง ทักษะ ความเร็ว ความแม่นยำ มหกรรม “เปิดหอยนางรม”  พร้อมผู้มาเยือนคือ “เชฟระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว”  ในฐานะแชมป์แกะหอยนางรมระดับโลกม และมิกโซโลจิสต์ชื่อดัง ที่ห้องอาหารซาวิโอ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ

 

โรงแรมใช้งานนนี้เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ Oyster Month: A Symphony of the Sea” อย่างเป็นทางการ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2568 นำทัพหอยนางรมชั้นเลิศจากทั่วโลกมาเสิร์ฟแขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มลองหลากหลายรูปแบบ ทั้งเมนูสดใหม่ เสิร์ฟคู่ไวน์พรีเมียม เมนูพิเศษจากเชฟ Alvin Leung : Demon Chef” เชฟมิชลิน 3 ดาว ลัดฟ้ามาร่วมรังสรรค์ประสบการณ์อาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียงวันเดียวเท่านั้น

ผลการแข่งขัน ชนะเลิศอันดับ 1: นายธีรภัทร ใจพร จาก The Oyster bar x TRIBE Sky Beach Club รองชนะเลิศอันดับ 1: นายเบญจพล เอี่ยมวัชรินทร์ จาก The Oyster bar x TRIBE Sky Beach Club รองชนะเลิศอันดับ 2: นายชาญวิทย์ แซ่ลี้ จาก โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ

 

“ผู้ชนะเลิศอันดับ1 จะได้รับเกียรติเป็นตัวแทนประเทศไทยคนแรกเข้าร่วมการแข่งขัน China Shuck Off World Cupที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเดือนพฤษภาคม 2569 พร้อมรับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป–กลับและที่พักตลอดช่วงการแข่งขัน

มาร่วมสัมผัสรสชาติแห่งท้องทะเลเลิศรสได้แล้วตั้งแต่วันนี้- 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องอาหาร Savio, Flow และ Lobby Lounge

 

พิเศษสุด !! โรงแรมชาเทรียม เชิญชวนทุกคนมาร่วมดื่มด่ำกับความสดใหม่ของท้องทะเล กับเมนูสุดพิเศษ “Seafood Tower” เสิร์ฟความอร่อยหลากหลายชั้น อัดแน่นด้วย ล็อบสเตอร์แคนาเดียน กุ้งขาวตัวโต หอยเชลล์สด และหอยนางรมพรีเมียมจากฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา

 

ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2568 ให้บริการเฉพาะวัน ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ในราคาดังนี้

Seafood Tower สองชั้น ราคา 2,399 บาทสุทธิ

Seafood Tower สองชั้น พร้อมคาเวียร์ ราคา 5,999 บาทสุทธิ

Seafood Tower สามชั้น ราคา 3,399 บาทสุทธิ

Seafood Tower สามชั้น พร้อมคาเวียร์ ราคา 6,999 บาทสุทธิ

 

รวมทั้งมีช่วง Oyster Cocktail Hour เมนู Oyster à la carte ให้ผู้ที่ชื่นชอบหอยนางรมได้ลิ้มลองสายพันธุ์พิเศษส่งตรงจากฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา หอยนางรม 6 ตัว ราคา 899 บาทสุทธิหอยนางรม 12 ตัว ราคา 1,599 บาทสุทธิ

 

สอบถามเพิ่มทาง www.chatrium.com/grandbangkok หรืออีเมล info.cgb@chatrium.com โทรศัพท์ +66 (0) 2126 7999  ติดตามได้ทาง Facebook และ Instagram

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

“Carbon Markets Club-MEX”ผนึกตลาดคาร์บอนมาเก๊า-ไทย ลุยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

  “ Carbon Markets Club - MEX ”ผนึกตลาดคาร์บอนมาเก๊า-ไทย เพิ่มศักยภาพตลาดคาร์บอนเอเชีย-ดันเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ   เรื่องโดย... # เพ็ญรุ่ง...