วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ททท.ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยวปี’69รับเทรนด์โลกเปิด10โปรดักซ์ใหม่ “เที่ยวยั่งยืน-ปลอดภัย”

 

นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผอ.ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ททท.ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยวปี’69รับเทรนด์โลกเปิด10โปรดักซ์ใหม่

ปลุกธุรกิจทำแบรนด์มาตรฐาน“เที่ยวยั่งยืน/เวลเนส-เที่ยวปลอดภัย”

ตั้งเป้าโชว์พลังสินค้าท่องเที่ยวไทยกระหึ่ม ITB Berlin 2026 มี.ค.69

คิงเพาเวอร์รางน้ำจัดมหกรรมลด80%YEAR-END Clearance Sale

POWER PASS-GENERALI”มอบพิเศษประกันเดินทางถึง30มิ.ย.69

ททท.ต้อนรับอาร์เกียแอร์ไลน์ใหม่โกยตลาดอิสราเอล3.4หมื่นล้าน

“บางจาก”รับรางวัลพระราชทานความเป็นเลิศ+5รางวัลดีเด่นTMA

เที่ยวงานไม้ดอกอาเซียนเชียงรายรับลมหนาว18 ธ.ค.68-7ม.ค.69

6 กลุ่มอาหารกินช่วงหน้าหนาวช่วยสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรง

ททท.ปลื้มแอร์ฟรานซ์บิน“ปารีส-ภูเก็ต”ดึงฝรั่งเศสเข้าเป้า8แสนคน

รร.ชาเทรียมแกรนด์กรุงเทพจัดมื้อพิเศษพรีเมี่ยมคริสต์มาส-ปีใหม่

 

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #เที่ยวงานไม้ดอกอาเซียนเชียงราย

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/16kBtDNcNj/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี’69 ลุยจัดทัพสินค้าการท่องเที่ยวไทยสุดว้าว 10 โปรดักซ์ใหม่ตอบโจทย์เทรนด์ตลาดโลก เดินหน้าขับเคลื่อน 2 จุดขายใหญ่ “การท่องเที่ยวยั่งยืน เวลเนส+เที่ยวไทยปลอดภัยทุกเวลา” เร่งขยายฐานซัพพลาย ไซต์ ดึง “กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยทุกสาขา” ตื่นตัวเข้าร่วมโครงการทำมาตรฐานแบรนด์ยั่งยืน “STAR-STGs-Trust Thailand” นำประเทศไทยโชว์พลังแกร่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแนวใหม่ใน ITB Berlin 2026 ต้นเดือน มี.ค.69 กรุงเบอร์ เยอรมัน

นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนสินค้าการท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2569 ได้เพิ่มสินค้ามูลค่าสูงใหม่ที่จะใช้สนับสนุนการตลาดทั้งหมด 10 โปรดักซ์ ได้แก่ 


1. Luxury Voyage Thailand การท่องเที่ยวหรูหรา มี 5 ประเภท ได้แก่ ที่พัก ร้านอาหาร คลับส่วนตัว การขนส่ง เวลเนส 

 


2.Romance Experience in Thailand ตอบสนองกลุ่มคู่แต่งงาน ฮันนีมูน การจัดเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษ (Anniversary) นำร่อง 3 เส้นทาง คือ จากกรุงเทพฯ ไปยัง พระนครศรีอยุธยา สมุย เชียงใหม่ คัดเลือกสินค้าใหม่

 


3.Night Tourism Destinations  ชวนภาคธุรกิจสร้างเพิ่มมูลค่าสามารถชวนนักท่องเที่ยวมาเดินทางช่วงกลางคืนได้ รวบรวมไว้ 10 เส้นทาง  5 ธีม ได้แก่ Dark Sky, Paris Night, Sunset, Moonrise แล้วแยกย่อยเป็นอีก 60 สินค้า เพื่อไปสร้างประสบการณ์ดี ๆ ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น เช่น ดูดาว ท้องฟ้ามืดตามสถานที่ต่าง ๆ


4. Worth Life Balance (Wellness) นำเสนอสินค้าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวคุณภาพสูงอย่างแท้จริง โดยสามารถสร้างมูลค่าให้แต่ละพื้นที่นำรายได้เข้าสู่ท้องถิ่นได้ด้วย ททท.ได้จัดทำโปรดักซ์ความสมดุลแห่งชีวิต (life balance) เช่น Nature Healing :ธรรมชาติรักษาใจกายให้มีความสุข Body Wellness :สุขภาวะทางกาย Soulfull Retreat : การพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูจิตใจและกายใจ โดยภาพรวมแล้วเป็นการเดินทางไปพักผ่อนดูแลรักษากายใจ แล้วนำเศรษฐกิจเชิงภาพหรือ Wellness Economic เข้าสู่แต่ละพื้นที่ได้

 


5.Travel We Care นำร่องทำที่กระบี่เป็นต้นแบบโมเดล “การท่องเที่ยวยั่งยืน” ครบ 3 อย่าง “Nature-Body-SoulCare สอดแซกกิจกรรมฮีลใจและธรรมชาติ

 


6.Thailand’s Soul Creative &Cultural Tourism การท่องเที่ยวสร้างสรรค์เชิงวัฒนธรรม เน้น “เมืองน่าเที่ยว” ตัวอย่าง 10 จังหวัด ได้แก่ “ภาคเหนือ” ลำพูน น่าน สุโขทัย หรือภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคตะวันออก เลือกสินค้ามาจัดทำใหม่ผ่านการเล่าเรื่องเชิงลึก เช่น “จังหวัดน่าน” เป็นผลิตภัณฑ์ “ผ้าพื้นเมือง” หนึ่งเดียวคือ “ผ้าน้ำไหล” อัตลักษณ์ท้องถิ่นนำไปสู่ “ชุมชนท่องเที่ยว” ขยายต่อไปยัง “เครื่องเงิน” อำเภอปัว สามารถไปเลือกซื้อสินค้าในชุมชนนั้น ๆ

 


7.Thai Crafe Destinations  (Craft Drink) คัดสรรค์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ททท.เคยทำเรื่องของคราฟท์ สินค้าหัตถกรรม นำมาผสมผสานเข้ากับอาหารและเครื่องดื่ม สร้างสรรค์เส้นทางใหม่เป็น สายคาเฟอีนชา-กาแฟ เส้นทางผลไม้นำมาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และเครื่องดื่มสมุนไพรให้ความรู้สึกจากภูมิปัญญาชาวบ้าน  

 


8.Local Experience จากเส้นทางเครื่องดื่มนำไปสู่ “เส้นทางอาหาร :Gastronomy” จุดหมายหลัก  ๆ จันทบุรี เชียงใหม่ เชียงราย น่าน

 


9.สินค้า 5 Must Do in Thailand โดยได้รวบรวมแล้วจัดทำข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ทำเป็นอินโฟกราฟฟิกทั่วประเทศรวมทั้งหมด 77 จังหวัด 

 


10.Every Wonders of Bangkok’s Neighbors จุดหมายปลายทางการพักผ่อนในกรุงเทพฯ ที่มีเสน่ห์ความมหัศจรรย์แตกต่างกันไป โดยเฉพาะการท่องเที่ยววิถีชุมชน ร้านอาหาร คาเฟ่ และอื่น ๆ มากมาย

ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่า ได้ทำแผนงานเชิงรุกเกี่ยวกับการออกแบบประสบการณ์ รวมธีมสินค้าต่าง ๆ ข้างต้น 10 โปรดักซ์ ต่อยอดด้วย “การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน” จึงจะต้องเพิ่มมูลค่า เดินหน้าทำ “Shape Supply” ยกระดับห่วงโซ่อุปทานด้านผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้มีคุณภาพและสร้างสรรค์มากขึ้น โดยเน้นพัฒนาและสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าและความหมายให้นักท่องเที่ยว 

กรอบการทำงานตามแนว Global Issue เน้นตามมาตรฐาน Sustainable Development Goals (SDGs) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ระดับโลก 17 ข้อ ที่องค์การสหประชาชาติ (UN) กำหนดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความท้าทายเร่งด่วนที่สุด ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ททท.ได้นำมาจัดทำเป็นบริบทการท่องเที่ยวระดับประเทศไทย STGs :Sustainable Tourism Goals ย่อเหลือ 11 ข้อ ทำเป็น TAT Cirtifly Brand :การรับรองมาตรฐานโดย ททท. ประกอบด้วย

 


1.STAR (Sustainable Tourism Acceleration Rating) :ดาวแห่งความยั่งยืน หรือดาวเขียวการท่องเที่ยวยั่งยืน มีการดำเนินงานโดยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 11 ข้อ อยู่ในระดับ 3-4-5 ดาว

2.CF-Hotels เป็นเครื่องมือ แพลตฟอร์มที่ใช้กับผู้ประกอบการโรงแรม ในการใช้คำนวนคาร์บอน ฟรุตปริ๊นท์ เรื่องการผลิตคาร์บอนแล้วจะต้องนำไปลดชดเชยอย่างไร เพื่อให้ไปถึง STAR เมื่อได้รับดาวแล้ว จึงจะสามารถสมัครเข้ารับรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หรือ Thailand Tourism Awards (TTA) ได้สัญลักษณ์รูป “กินรี”

3.Trusted Thailand :มาตรฐานการท่องเที่ยวปลอดภัย ในการเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยว บริการต่าง ๆ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า จะทำเชิงรุกครบทุกมิติ

ททท.จะเดินหน้าทำ “เชิงรุก” ทั้งควบคู่กันทั้ง “2 มาตรฐาน” การท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) และความปลอดภัยในการท่องเที่ยว (Safty and Security) ทั้งทาง “ด้านการตลาด” และ “ด้านซัพพลาย ไซต์” เพื่อให้ผู้ประกอบการตื่นตัวปรับปรุง หรือมีแบรนด์ดังกล่าวอยู่แล้วจากการได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว เพื่อไปบอกต่อกับคู่ค้าหรือนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลก จึงต้องมีกระบวนการบอกเล่าถึงเครื่องมือเพื่อเช็คลิสต์คล้ายกับ “มิชลิน” ใช้คุณสมบัติเป็นตัวกำหนด

โดยมี “อินเซ็นทีฟ” เมื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าร่วมแคมเปญแล้ว จะได้สิทธิ์เพิ่มจาก ททท.ช่วยหาและทำการตลาด หาพันธมิตรโดยเสริมจุดแข็งใหม่ ๆ ที่แต่ละกลุ่มยังขาดหรือต้องการเข้าไป เช่น แหล่งเงินทุน เพื่อให้ถึงเป้าหมายร่วมกัน

ปี 2569 ททท.ตั้งเป้าจะขยาย “จำนวนผู้ประกอบการ” ดำเนินงานด้านมาตรฐานความปลอดภัย ภายใต้แบรนด์ Trusted Thailand ควบคู่กับมาตรฐาน TAT Brand ขณะเดียวกันก็มีหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (Department of Climate Change and Environment) ทำเรื่องมาตรฐาน Green Hotel และ Green Hotel Plus ตอกย้ำความมั่นใจแก่ผู้บริโภค ปลุกผู้ประกอบการตื่นตัวหันมาให้ความใส่ใจลงมือทำมาตรฐานเหล่านี้ ซึ่งเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้บริการแตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละมาตรฐานมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์นั้น 

ททท.มุ่งผลักดันธีมการท่องเที่ยว Healing is the New Luxury ตอบโจทย์เทรนด์ตลาดนานาชาติมาในแนวการดูแลรักษากายใจ ไทยมีโปรดักซ์เหล่านี้แข็งแรงมากอยู่แล้ว เพียงจะต้องนำเสนอให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ปัจจุบัน ททท.ร่วมกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) (Thai Ecotourism and Adventure Travel Association :TEATA) ผลิต “เส้นทางโลคาร์บอนส่งให้ ททท.แล้วกว่า 382 แพกเกจ ซึ่งจะได้โปรโมทต่อไปยังนักท่องเที่ยวได้เลือก

ปี 2568-2569 ททท.ได้นำสินค้าใหม่ ๆ ทยอยขึ้นเชลท์นำเสนอนักท่องเที่ยว พันธมิตรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมกับสื่อสารภาพกว้างมุ่งสู่ Thailand Sustainbility ที่ส่งเสริมพัฒนาอย่างเต็มที่ ทั้งเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ เส้นทางเวลเนสรูปแบบต่าง  ๆ เช่น การพักผ่อนเชิงสุขภาพ Myfullness : ความอิ่มเอมใจ Longeivity : อายุยืนยาว  Well Being :ความสมบูรณ์ทั้งทางกาย จิตใจ สังคม หรือ Healthy Food ,Gastronomy : อาหารเพื่อสุขภาพ

ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่า ททท.เตรียมความพร้อมนำสินค้าการท่องเที่ยวเข้าร่วมมหกรรมขายรายการใหญ่สุดของโลก ITB 2026 ไฮไลต์ทั้ง 2 โปรดักซ์หลัก ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวยั่งยืน และ 2.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการเทรนด์ตลาดยุโรป ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยจะต้องเตรียมคำตอบให้พร้อมในอนาคต ขั้นตอนการลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม “ตัวเลข” การลดคาร์บอน แล้วขณะนี้ไทยเองเริ่มประกาศใช้ 2 พระราชบัญญัติ (พรบ.)ได้แก่

1.พรบ.อากาศสะอาด เป็นกฎหมายควบคุมและจัดการมลพิษทางอากาศโดยตรง 2.พรบ.ภาษีสิ่งแวดล้อม เป็นมาตรการทางการคลังที่ใช้เพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายด้าน รวมถึงมลพิษทางอากาศ โดยอาจเก็บภาษีจากผู้ก่อมลพิษโดยตรง แล้วนำรายได้มาใช้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมประเภทนั้น ๆ โดยมีหลักฐานยืนยันเป็น“รายงานสีเขียว :Green Report 

ปี 2569 ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนจะต้องเร่งปรับตัวเรื่อง “การท่องเที่ยวสีเขียว” และการปูทางประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” ซึ่งมีสินค้าแยกย่อยหลายประเภท

ผอ.เอิบลาภ กล่าวว่าเชิญชวนให้เข้าร่วมการท่องเที่ยวสีเขียวจาก 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการ ตื่นตัวลงมือทำขั้นตอนและตัวเลขที่ตรวจสอบถาม แล้วเดินหน้าต่อยอดข้ามเครือข่ายกับกลุ่มเวลเนส เช่นอาหาร ที่พัก รองรับตลาดเวลเนสได้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าการตลาดได้เป็นอย่างดี กลุ่มที่ 2 นักท่องเที่ยว/ลูกค้า มองหาความยั่งยืนและความปลอดภัย เพื่อใช้บริการที่ยกระดับมาตรฐานบริการตามมาตรฐานสากล

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์รางน้ำจัดมหกรรมลด80%YEAR-END Clearance Sale

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำร้านค้าดิวตี้ฟรีของคนไทย และผู้นำร้านค้าปลีกเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว ที่ให้ได้ไม่สิ้นสุด ด้วยการมอบความสุขปลายปี 2568 ทุกทริป ทุกสาย สำหรับนักเดินทางทุกคนที่มีตั๋วโดยสารบินต่างประเทศ หรือเตรียมของขวัญสร้างคุณค่าทางใจกับคนครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้ใจ เลือก “คิง เพาเวอร์” เป็นจุดหมายแห่งการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดี แบรนด์ดัง ระดับโลก รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสน่ห์และคุณค่าความเป็นไทยอันทรงคุณค่า

 

YEAR-END Clearance Sale up to 80% มหกรรมใหญ่ส่งมอบความสุขโค้งสุดท้าย 2568 รับสิทธิ์ช้อปสินค้าพิเศษลดสูงสุด 80 % เริ่มแล้ว!! วันนี้ - 4 มกราคม 2569 กระตุกต่อม สายบิวตี้ สายแฟชั่น สาวกแบรนด์ดัง มุ่งหน้าตรงมาได้ทุกวันที่  “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ”  โซน Hallway ชั้น 1 และโซนบิวตี้-น้ำหอม แว่นตา ชั้น 2

 

“ราคาพิเศษ” มาก่อน ได้เลือกก่อน สินค้าพิเศษลดสูงสุด 80 % ส่งท้ายปีกระหึ่มเมืองกรุง ด้วยการเปิดให้ทุกคนได้สนุกกับการเลือกซื้อแบรนด์ความงาม น้ำหอม แว่นตา แฟชั่น และสินค้าอื่น ๆ ที่โดนใจ

 

The Power Giftivalเพลิดเพลินกับเทศกาลช้อปแบบเวอร์ ทริปนี้! ช้อปของขวัญ "ได้เยอะ" กว่าใคร ใกล้สิ้นปีแล้วลองมาเลือกสินค้าที่ชอบและที่ใช่ ได้คุ้ม ได้ครบ ทุกรายการ  

 

TO-SHOP LIST คนมีบินหยุดยาว ช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ แวะมาด่วนที่ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ต้องมาเก็บสินค้าทุกรายการให้ครบก่อนบิน เลือกใช้สิทธิ์ลดสูงสุด 80%

 

ข่าวที่ 2 -POWER PASS-GENERALI”มอบพิเศษประกันเดินทางถึง30มิ.ย.69

 

POWER PASS คิง เพาเวอร์ จับมือกับ “GENERALI มอบสิทธิพิเศษ “ประกันภัยการเดินทาง”  ให้ทุกทริปการเดินทางของทุกคนอุ่นใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยสิทธิพิเศษ วันนี้ -30 มิถุนายน 2569

 

GENERALI ร่วมมอบสิทธิพิเศษประกันการเดินทางเพื่อทำให้ทุกทริปของทุกคนท่องเที่ยวอย่างอุ่นใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยสิทธิพิเศษจากสมาชิก POWER PASS วันนี้ -30 มิถุนายน 2569

 

รับฟรี! ส่วนลดสูงสุด 18% สำหรับประกันเดินทาง พร้อมรับ E-Voucher จากสตาร์บรัคส์สูงสุด 800 บาท มอบให้เดือนละ 1,000 สิทธิ์ แต่ละคนใช้ได้ 1 สิทธิ์/สมาชิก

 

พิเศษ! สมาชิก POWER PASS คิงเพาเวอร์ ประเภท VEGA และ CROWN รับฟรี! ประกันเดินทางต่างประเทศ 7 วัน 

 

สมัครฟรีสมาชิก POWER PASS ทางเว็บไซต์ powerpass.kingpower.com  หรือสมัครทาง LINE Official Account @KINGPOWER

 

ข่าวที่ 3-ททท.รับอาร์เกียฯแอร์ไลน์ใหม่โกยตลาดอิสราเอล3.4หมื่นล้าน

 

นางสาวพรศิริ ชาติพรพันธุ์ ผู้อำนวยการกองตลาดยุโรป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ต้อนรับสายการบิน “อาร์เกีย อิสราเอล” (Arkia Israeli Airlines” เปิดปฐมฤกษ์ IZ591 เที่ยวบินตรงจาก “กรุงเทลอาวีฟ” อิสราเอล มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.50 น. รุกเจาะนักท่องเที่ยวอิสราเอลหนึ่งในตลาดระยะไกลที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่มียอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าช่วงตารางบินฤดูหนาวสูงสุด เดือนตุลาคม 2568 - มีนาคม 2569 เป็นสัญญาณบวกสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการท่องเที่ยวไทย และช่วยเพิ่มทางเลือกการเดินทางให้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งตามปกติจะมี “แอล อัล” (El Al Israel Airlines) เป็นสายการบินแห่งชาติบินตรงเพียงรายเดียวเท่านั้น

 

เมื่ออาร์เกีย อิสราเอล เปิดบินตรงครั้งนี้ สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวคุณภาพจากอิสราเอลมาไทยต่อเนื่อง เพื่อกระจายรายได้สู่เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวของไทยเพิ่มมากขึ้นได้

 

ททท.คาดการณ์ภายในสิ้นปี 2568 จะมีอิสราเอลเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยกว่า 400,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 41.94 % สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 34,562 ล้านบาท

 

อาร์เกีย อิสราเอล เปิดให้บริการเส้นทางบินตรง IZ591 ออกจากกรุงเทลอาวีฟ เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00.05 น. มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ 15.50 น. ด้วยเครื่องแอร์บัส A330-200 ขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 286 ที่นั่ง/เที่ยว  ให้บริการ 2 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันจันทร์และวันพุธ ส่วนเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้มีอินฟลูเอนเซอร์และตัวแทนสายการบินร่วมเดินทางมาด้วย

 

สำหรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ มีMs. Meytal Dahan Mizrahi ประธานฝ่ายปฏิบัติการสำนักงาน (Chief Operating Officer) กับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยวของไทยร่วมต้อนรับ เสริมความแข็งแกร่งเครือข่ายสายการบิน ตอกย้ำภาพลักษณ์ในฐานะไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลกที่มีความพร้อมและเดินทางอย่างปลอดภัย

 

ส่วน ททท. สำนักงานกรุงโรม ดูแลพื้นที่ทำการตลาดได้จัดกิจกรรม Influencer Fam Trip สำรวจสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในไทย เส้นทาง กรุงเทพฯ ชลบุรี และระยอง ระหว่าง 26 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2568 นำเสนอสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวรองรับตลาดอิสราเอล และในอนาคตอันกใล้มีแผนจัดแคมเปญร่วมกับสายการบินด้วย

 

ขณะนี้ตลาดนักท่องเที่ยวอิสราเอลเติบโตสูง ตั้งแต่กรกฎาคม 2568 หลังประกาศเปิดน่านฟ้าและประกาศยุติสงครามส่งผลให้ช่วงครึ่งหลังปี 2568 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยอย่างต่อเนื่อง สถิติวันที่ 1 มกราคม – 17 พฤศจิกายน 2568 มาเที่ยวเมืองไทยแล้ว 356,446 คน เพิ่มขึ้น 49.57 % เป็นประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางที่ทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับ 1 โดยใช้จ่ายต่อวันระดับสูงเฉลี่ยกว่า 86,406 บาท/คน/ทริป “มีวันพัก” ค่อนข้างยาวเฉลี่ย 19.17 วัน

 

นักท่องเที่ยวอิสราเอลส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางมาไทยครั้งแรก (First Visit) และกลุ่มจัดการเดินทางด้วยตนเอง (FIT) นิยมมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นหลัก เน้นพักระยะยาวใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับครอบครัว ชอบท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) และการทำงานควบคู่กับการท่องเที่ยว (Digital/Nomad Travel)

 

 

ข่าวที่ 4-บางจากปลื้มรับรางวัลพระราชทานความเป็นเลิศ+5รางวัลดีเด่นTMA

 

 

            บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้รับรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2025  ในงาน “TMA Excellence Awards 2025” ซึ่งจัดเป็นปีที่ 23 โดยบางจากได้สะท้อนบทบาทองค์กรแห่งความเป็นเลิศรอบด้าน ที่ได้รางวัลพระราชทาน สาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Excellence Award) และอีก 5 รางวัลดีเด่นระดับ Distinguished 

 

ดร. กิริฎา เภาพิจิตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีประกาศผลรางวัล  เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร เข้ารับมอบรางวัลสำหรับองค์กรที่มีการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ หรือ Thailand Corporate Excellence Awards 2025 โดยบางจากฯ ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Excellence Award) และ 5 รางวัลดีเด่น ระดับ Distinguished ได้แก่ 

 

สาขาความเป็นเลิศด้านการบริหารการเงิน (Financial Management Excellence Awards) 

 

สาขาความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Innovation Excellence Awards) 

 

สาขาความเป็นเลิศด้านผู้นำ (Leadership Excellence Awards) 

 

สาขาความเป็นเลิศด้านการตลาด (Marketing Excellence Award) 

 

สาขาความเป็นเลิศด้านสินค้า/การบริการ (Product/Service Excellence Awards)

           

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดพิธีมอบรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards   ด้วยการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อคัดเลือกและประกาศเกียรติคุณแก่องค์กรที่มีความเป็นเลิศและสร้างผลงานโดดเด่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน และเหมาะสมที่จะเป็นองค์กรต้นแบบให้องค์กรอื่น ๆ

 

ปี 2568 บางจากได้รับรางวัลดังกล่าวรวม 6 สาขา สะท้อนถึงความสำเร็จด้านการบริหารจัดการองค์กรของบางจากฯ ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ บางจากฯ ยังได้รับการประกาศรายชื่อเป็นองค์กรที่ได้รับรางวัล 2025 Thailand’s Social Power Brand หรือ รางวัลแบรนด์ในโลกโซเชียลที่ครองใจผู้บริโภค ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน การจัดอันดับแบรนด์ที่มีพลังในโลกโซเชียล

 

โดยมี BrandAge และบริษัท โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Mandala AI Engine and Solutions ร่วมกันจัดทำผลสำรวจแบรนด์ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้มากที่สุดในโลกออนไลน์ พร้อมกับเก็บผลสำรวจตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567 - 30 มิถุนายน 2568 รวม 44 กลุ่ม

 

รางวัลดังกล่าวจึงสะท้อนถึงผู้บริโภคให้การยอมรับแบรนด์ “บางจาก” จากการพูดถึงสถานีบริการน้ำมันและผลิตภัณฑ์บางจากในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เกิดจากการสื่อสารที่จริงใจ เป็นประโยชน์ และตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบางจากฯ พร้อมจะเป็นมากกว่าบริษัทพลังงาน แต่คือ “แบรนด์” ที่ร่วมขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตและความยั่งยืนของสังคมทุกมิติก้าวไปด้วยกัน

 

ช่วงที่ 2 ได้เวลาแอ่วเหนือรับลมหนาวเที่ยวงาน “ไม้ดอกอาเซียน :Chaing Rai Flower and Art Festival 2025” แบบยาวๆ 18 ธ.ค.68-7 ม.ค.69 ที่สวนไม้งามริมน้ำกก อำเภอเมือง กับอำเภอเวียงชัยและแม่สาย ในงานเดินชมฟิน 6 พิกัด แล้วต้องฟัง “6กลุ่มอาหารกินหน้าหนาว” สร้างภูมิคุ้มกันร่างกายได้ดี ห้ามพลาดข่าวดี ๆ ข่าวแรก “ททท.ปลื้มแอร์ฟรานซ์” บินปฐมฤกษ์ “ปารีส-ภูเก็ต” ช่วยดันนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสเข้าเป้า 8.46 แสนคน ข่าวที่สอง “โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ” จัดเต็มมื้อพิเศษแบบพรีเมี่ยม “คริสต์มาส-ปีใหม่” ปาร์ตี้ยาวข้ามคืน

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวงานไม้ดอกอาเซียนเชียงรายรับลมหนาว18ธ.ค.68-7ม.ค.69

 

เที่ยวไทยปลายปี 2568 ชวนขึ้นเหนือไปแอ่วงาน มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย Chiang Rai Flower and Art Festival 2025”  จังหวัดเชียงราย ชมความงดงามของดอกไม้ ศิลปะ และวัฒนธรรมล้านนาภายใต้แนวคิด “สายนทีแห่งศรัทธา ธ สถิตในใจตราบนิจนิรันดร์” เริ่มวันที่ 18 ธันวาคม 2568 – 7 ม.ค. 2569 ได้เนรมิตสวนไม้งามริมน้ำกก อำเภอเมืองเชียงราย 

 

แล้วกระจายเดินทางท่องเที่ยวงานเทศกาลไม้ดอกในอีก 2 อำเภอได้ด้วย คือ เวียงชัยกับแม่สาย ช่วงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 – 7 ม.ค. 2569 ที่สวนสาธารณะหนองหลวง (เวียงชัย) และวัดถ้ำเสาหินพญานาค (แม่สาย)

 

สัมผัสความงามทางธรรมชาติ ผสมผสานวิถีชีวิตผู้คนท้องถิ่น ได้นำ วัฒนธรร อาหารการกิน เครื่องดื่มวิถีชุมชน รอต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้เติมเต็มความสุขครบ

 

พิกัดที่ 1 เพลิดเพลินกับสวนดอกไม้ 4 ฤดู เพิ่มความสดชื่น และเช็คอินแบบฟิน ๆ โพสต์ลงโซเชียลชวนเพื่อนๆ แวะเวียนมาเที่ยว

 

พิกัดที่ 2 ชมนิทรรศการพระราชกรณียกิจ เป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้ พระราชกรณียกิจที่ทรงทำไว้ให้ปวงชนคนไทย

 

พิกัดที่ 3 ถนนคนเดิน อาหารพื้นถิ่น–ชา–กาแฟ ดอยต่าง ๆ ในเชียงราย เป็นแหล่งเพาะปลูกวัตถุดิบ ชา กาแฟ พันธุ์ดี รสชาติอร่อย จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งเมืองหลวงแห่งชากาแฟเลยทีเดียว

 

พิกัดที่ 4 ผลิตภัณฑ์ชุมชน และไม้ดอกไม้ประดับ

 

พิกัดที่ 5 โซนวัฒนธรรมล้านนา–ชาติพันธุ์กว่า 17 กลุ่ม

 

สอบถาม กองการท่องเที่ยวและกีฬา อบจ.เชียงราย : 053-175333 หรือ ททท.สำนักงานเชียงราย : 053-744674-5

 

สุขภาพ –6 กลุ่มอาหารกินช่วงหน้าหนาวเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย

 

อากาศหลายพื้นที่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้คนที่ปรับตัวไม่ทันเกิดอาการไม่สบาย แต่ก็ไม่อยากรับประทานยา จึงมีกลุ่มอาหารที่สามารถทานในช่วงนี้เพื่อช่วยเสริมภูมิต้านทานช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มาแนะนำ 6 กลุ่ม

 

กลุ่มที่ 1 อาหารที่มีไขมัน จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ย และเป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมนเพศ และฮอร์โมนต้านเครียด การบริโภคไขมันดี ย่อมส่งผลให้ภูมิต้านทานร่างกายแข็งแรง 
    อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันที่มีประโยชน์และควรรับประทาน ประกอบด้วย ปลาแซลมอน  เมล็ดถั่ว อโวคาโด น้ำมันมะกอก รำข้าว และธัญพืชต่างๆ

 

กลุ่มที่ 2 เห็ดชนิดต่าง ๆ : มีสารสำคัญมากมาย เช่น โพลิแซคาไรด์ ซึ่งกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้ดี หรือสารเบต้ากลูแคน มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งและรักษาแผลติดเชื้อ

 

กลุ่มที่ 3 วิตามินซี : จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรง และยังช่วยให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น 
    อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และควรรับประทานมักจะอยู่ ในผักและผลไม้รสเปรี้ยว อาทิ ส้ม แอปเปิ้ล

 

กลุ่มที่ 4  โปรไบโอติกส์ : หรือจุลินทรีย์ชนิดที่ดี เช่น ตระกูล Lactobacillus และ Bifidobacterium ในผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวที่เยื่อบุผนังลำไส้เล็กส่วนปลายให้ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันและการอักเสบได้

 

กลุ่มที่ 5 วิตามินดี : ช่วยสร้างสารแคทเธลิซิดิน(Cathelicidin) จากเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เม็ดเลือดขาวขยันทำงาน เพื่อออกมาต่อสู้โรคได้มากขึ้น เราสามารถรับวิตามินดีจากแสงแดด (อ่อนๆในตอนเช้าและเย็นๆ) เห็ดต่างๆ ปลาต่างๆ (โดยเฉพาะปลาแซลม่อน) นม ชีส น้ำส้ม โยเกิร์ต

 

กลุ่มที่ 6 วิตามินเอ : มีความสำคัญกับภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคติดต่อที่เกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส  ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และเพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว เราสามารถรับวิตามินเอได้จาก ตับปลา แครอท ผักโขม ฟักข้าว มะเขือเทศ เสาวรส บรอคโคลี่

 

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ททท.ปลื้มแอร์ฟรานซ์บิน“ปารีส-ภูเก็ต”ดึงฝรั่งเศสเข้าเป้า8แสนคน

 

 

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ต้อนรับสายการบิน “แอร์ฟรานซ์” เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ AF156 บินตรงจากปารีส ฝรั่งเศส มาถึง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เริ่ม 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.25 น. เดินหน้ากลยุทธ์ Airline Focus ต่อเนื่องขยายตลาดระยะไกลอย่างฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศที่มีลำดับความสำคัญที่เดินทางเข้าไทยสม่ำเสมอและต่อเนื่อง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ

 

ขณะนี้ ฝรั่งเศส เป็น 1 ใน 5 ตลาดที่มีนักท่องเที่ยวระยะไกลมาไทยมากที่สุดมากสุด รองจากอีก 4 ประเทศคือ รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และ เยอรมนี ททท. พร้อมจะขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มหรูหรา สอดคล้องกับภูเก็ตมีความพร้อมรองรับด้วยสินค้าท่องเที่ยวมูลค่าสูงและกิจกรรมสอดคล้องกับพฤติกรรมความสนใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มหรูหรา เช่น เวลเนส การนวดและทำสปา ล่องเรือยอร์ช และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามมากมาย

 

นักท่องเที่ยวฝรั่งเศสเป็นตลาดเติบโตสูง ททท.คาดภายในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสเดินทางมาไทย 846,000 คน ส่วนสถิติตั้งแต่ 1 มกราคม – 23 พฤศจิกายน 2568 มาแล้วทั้งสิ้น 710,968 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 13.8 % ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางครั้งแรก (First Visit) นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง (FIT) ใช้จ่ายเงิน 58,611 บาท/คน/ทริป มี “วันพัก” ค่อนข้างยาวเฉลี่ย 17.22 วัน เส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี  

 

Mrs.Femke Kroese ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย สายการบิน แอร์ฟรานซ์ กล่าวว่า แอร์ฟรานซ์ได้เปิดเที่ยวบินตรง ปารีส – ภูเก็ต 3 เที่ยว/สัปดาห์ ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญเชื่อมโยงจุดหมายปลายทางสำคัญ 2 จุด ด้วยศักยภาพ “จังหวัดภูเก็ต” ช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ แอร์ฟรานซ์ทำเป็นจุดหมายปลายทางแห่งที่ 2 ในไทย สร้างทางเลือกการเดินทางอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวฝรั่งเศสทุกคนได้สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลายอย่างเต็มที่

 

“แอร์ฟรานซ์” เป็นสายการบินแห่งชาติฝรั่งเศส ได้ร่วม Joint-Venture กับสายการบินเคแอลเอ็ม ปี 2547 กลายเป็นสายการบินขนาดใหญ่มีเครือข่ายการบินมากสุดในภูมิภาคยุโรป และอยู่ในกลุ่มพันธมิตร Skyteam เปิดให้บริการเส้นทางบินตรง รหัสเที่ยวบิน AF156 ออกจากปารีสเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.50 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต 09.25 น.

 

 

บริการด้วยเครื่องโบอิ้ง 777-200 ขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 328 ที่นั่ง/เที่ยว ให้บริการ 3 เที่ยว/สัปดาห์ ได้แก่ ขาออก ปารีส – ภูเก็ต ทุกวันจันทร์ วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ และขาเข้า ภูเก็ต - ปารีส ทุกวันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์ โดยให้บริการไปจนถึงปลายเดือนมีนาคม 2569

 

แอร์ฟรานซ์ยังมีเที่ยวบินตรง กรุงปารีส-กรุงเทพฯ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริการ 2 เที่ยว/วัน เป็นเที่ยวบินบริการตลอดทั้งปี

 

ดังนั้น ททท. ทำแผนกระตุ้นตลาดโดยได้ร่วมมือกับสายการบินจัดกิจกรรม “Air France Digital Campaign Inspirational Gold Package” จะประชาสัมพันธ์ข้อมูลเมืองไทยผ่านออนไลน์ของสายการบิน เพื่อสร้างการรับรู้ทั่วตลาดฝรั่งเศส

 

ข่าวที่สอง รร.ชาเทรียมแกรนด์กรุงเทพจัดมื้อพิเศษพรีเมี่ยมคริสต์มาส-ปีใหม่

 

“ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ” โรงแรมระดับลักซัวรี่ใจกลางย่านสยาม ชวนร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขที่สุดของปี กับมื้ออาหารสุดพรีเมียม ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ “วันคริสมาสต์และปีใหม่” สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

 

เฉลิมฉลองและดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งคริสต์มาสด้วยบุฟเฟต์สุดอลังการจากทั่วทุกมุมโลก กับเมนูไฮไลต์ เริ่มจาก แฮมเซอร์ราโน่เสิร์ฟกับเมลอน ค็อกเทลล็อบสเตอร์  ซีฟู้ดออนไอซ์ระดับพรีเมียม เนื้อสันในอบซอสทรัฟเฟิล ฟัวกราส์ซูชิ ไก่งวงอบซอสแครนเบอร์รี่ และเมนูนานาชาติ อื่นๆ อีกมากมาย ปิดท้ายความอร่อยด้วย ช็อกโกแลตฟาวเท่น คริสต์มาสเค้ก พุดดิ้งสูตรดั้งเดิม และไอศกรีมฮาเก้น-ดาสส์

 

บุฟเฟต์ดินเนอร์คืนคริสต์มาสอีฟ : วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 – 21.30 น. ราคา 2,999 บาทสุทธิ/คน รวมเครื่องดื่มไม่จำกัด

 

บุฟเฟต์มื้อกลางวันเพื่อเฉลิมฉลองคริสต์มาส : วันพุธที่ 25 ธันวาคม 2568  เวลา 12.00 – 14.30 น. ราคา 1,499 บาทสุทธิต่อท่าน รวมเครื่องดื่มไม่จำกัด

 

จากนั้นชวนร่วมส่งท้ายปี 2568 ที่ห้อง “Savio” ของโรงแรม เสิร์ฟอิ่มอร่อยด้วย “บุฟเฟต์พิเศษต้อนรับปีใหม่” โดยได้รวบรวมเมนูรสเลิศจากทั่วโลก พร้อมดนตรีบรรเลงสด และบรรยากาศแสนอบอุ่นมาให้ทุกคนได้ร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2569

 

บุฟเฟต์ดินเนอร์ค่ำคืนส่งท้ายปี :  วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 – 21.00 น. ราคา 3,499 บาทสุทธิ/คน

 

พิเศษ !! โปรโมชั่น Early Bird ส่วนลด 15% เมื่อจองก่อนวันที่ 15 ธันวาคม 2568

 

ปาร์ตี้เคาท์ดาวน์” สุดมันส์ที่ ห้อง “Flow : มาฉลองส่งท้ายปีแบบสุดเหวี่ยงกับปาร์ตี้ริมสระน้ำบนชั้น 7 พร้อมดนตรีสด ชมวิวเมืองที่ประดับด้วยพลุไฟสุดตระการตา และกิจกรรมลุ้นรางวัลมากมาย เพลิดเพลินกับแพ็กเกจเครื่องดื่มแบบ Free-Flow เมนูของว่างสไตล์ปาร์ตี้ได้ตลอดคืน

 

คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2568 | เวลา 21.00 – 01.00 น. รับแพ็กเกจเครื่องดื่มเริ่มต้น 1,299 บาท

บริการที่นั่ง VIP แบบคาบานา สำหรับ 4-6 คน

จองห้องพัก อาหาร ร่วมฉลองเทศกาลวันหยุดสุดพิเศษ ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ เว็บไซต์ https://www.chatrium.com/experiences/dine/festive-celebrations หรืออีเมล info.cgb@chatrium.com โทร.02126 7999  

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ศูนย์สิริกิติ์-SCIecoโดยSCGร่วมแปลงขยะเป็นพลังงานRDFทำโมเดลจัดการขยะอุตฯไมซ์สู่ศูนย์ประชุม Net Zero ปี’93

ศูนย์สิริกิติ์- SCIeco โดย SCG ร่วมแปลงขยะเป็นพลังงาน RDF ชูโมเดลจัดการขยะอุตฯไมซ์สู่ผู้นำศูนย์ประชุม Net Zero ปี ’93 ศูนย์การประชุมแห่งชา...