ไทยเฮ!!ต.ค.68เงินลงทุนกองถ่ายโลกทุบสถิติ2.5พันล้าน 8เดือนอเมริกาครองแชมป์เกือบ4,000ล้าน

ไทยเฮ!!ต.ค.68เงินลงทุนกองถ่ายโลกทุบสถิติ2.5พันล้าน

8เดือนอเมริกาครองแชมป์ลงทุนมากสุดเกือบ4,000ล้าน

ไทยทำสถิติ ต.ค.68 มีกองถ่ายหนงทั่วโลกลงทุนมากสุด 2,500 ล้าน 8 เดือนแรกอเมริกาแชมป์3,912 ล้าน

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #กรมการท่องเที่ยว  

ไทยตีปีกเดือน ต.ค.68 ดึงเงินลงทุน “กองถ่ายทำหนังทั่วโลก” หอบเงินไหลเข้าประเทศพุ่งสูงสุด 2,500 ล้านบาท 56 เรื่อง “จีน” นำโด่ง 51 เรื่อง 8เดือนแรก “อเมริกา” ลงทุนมากสุดเกือบ 4,000 ล้าน

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ ได้เปิดสถิติการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในเมืองไทยตลอดเดือนตุลาคม 2568 มีภาพยนตร์ต่างประเทศได้รับอนุญาตให้เข้ามาถ่ายทำรวม 56 เรื่อง มูลค่าการลงทุนสูงสุดรอบปีนี้รวมแล้วกว่า 2,586 ล้านบาท

“สถานการณ์” ระหว่างมกราคม – ตุลาคม 2568 ภาพรวมตลอด 8 เดือน มีกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเลือกมาถ่ายทำในไทยแล้ว 451 เรื่อง สร้างรายได้จากการใช้จ่ายเงินถ่ายทำกว่า 6,786 ล้านบาท สะท้อนถึงผู้สร้างภาพยนตร์นานาชาติมีความเชื่อมี่นต่อศักยภาพเมืองไทย

เมื่อพิจารณาจำนวนกองถ่ายปี 2568 (มกราคม–ตุลาคม) พบว่า “ประเทศ”ที่เข้ามาถ่ายทำในเมืองไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน  51 เรื่อง อันดับ 2 อินเดีย 49 เรื่อง อันดับ 3สาธารณรัฐเกาหลี 46 เรื่อง

ขณะที่ประเทศที่มี “มูลค่าการลงทุนสูงสุด” 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา รวมกว่า 3,912 ล้านบาท อันดับ 2 สาธารณรัฐประชาชนจีน มูลค่ากว่า 348 ล้านบาท อันดับ 3 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มูลค่ากว่า 344 ล้านบาท

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เดือนตุลาคม 2568 มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดของปี เป็นสัญญาณที่ดีของเมืองไทยกองถ่ายทำภาพยนตร์จากทั่วโลกยังคงเลือกเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ทั้งทางด้าน 1.สถานที่ถ่ายทำสวยงามและหลากหลาย 2.ทีมงานมืออาชีพ 3.มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำของภาครัฐ โดยเฉพาะ มาตรการคืนเงินกองถ่ายต่างประเทศ (Cash Rebate) สูงสุดถึง 30% เป็นแรงจูงใจหลักช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่เมืองไทยต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ดังนั้นกรมการท่องเที่ยวพร้อมเดินหน้าส่งเสริม สนับสนุน และอำนวยความสะดวกกองถ่ายทำต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับ “ไทย” เป็นประเทศศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก (World-class Film Destination) สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนทางตรงแล้ว ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เกิดการจ้างงานทีมงานคนไทยหลายสาขา และต่อยอดส่งเสริมการท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ที่ดีให้เมืองไทยในระยะยาวเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้