SEEKเปิดข้อมูลเทรนด์ตลาดหางานปี’68รับมือภัยมิจฉาชีพ
เตือน!!มุ่งเป้าหลอกคนหางานด่วน-ในไทยระวัง4กลุ่มอาชีพ
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #SEEK #Jobsdb
SEEK เปิดข้อมูลเทรนด์ “ตลาดหางาน”
รับมือภัย “มิจฉาชีพ” ในไทยและทั่วเอเชีย แปซิฟิก พุ่งเป้าหลอกผู้สมัครงานเร่งด่วน
แต่ละประเทศปรับกลยุทธ์ซับซ้อนมากขึ้น “ไทย” เตือนให้ระวัง !! งานโดนหลอกสูง 4 กลุ่มอาชีพ “งานขาย-บัญชี-สื่อโฆษณา-ศิลปะ”
ตั้ง Trust & Safety ตรวจเข้มลดความเสี่ยง
บริษัท SEEK ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Jobsdb และ
Jobstreet เปิดเผยข้อมูลเทรนด์ล่าสุดเกี่ยวกับ “แนวโน้มกลโกงการหางาน”
ในไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อรณรงค์ต้านภัยการทุจริตและฉ้อโกงสากล (International
Fraud Awareness Week) พบมิจฉาชีพ “มีแนวโน้มปรับกลยุทธ์ให้ซับซ้อน”
ยิ่งขึ้น ตามสถานการณ์เศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้สมัครงานในแต่ละประเทศ
SEEK
ใช้ระบบตรวจจับการโกงพบ “การหลอกลวงในตลาดแต่ละประเทศ” มีรูปแบบพฤติกรรมแตกต่างกันชัดเจนช่วงกรกฎาคม
2567 -มิถุนายน 2568 สะท้อนให้เห็นถึง 1.ลักษณะเฉพาะของตลาดงาน ในไทยและแต่ละประเทศ 2.มิจฉาชีพหาช่องโหว่ใหม่มาใช้หลอกลวงผู้สมัครงานชาวไทย
แพลตฟอร์ม
SEEK, Jobstreet และ Jobsdb ได้ดึงข้อมูลภายในระบบมาวิเคราะห์เทรนด์นี้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ได้แก่ ไทย ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ข้อมูลเหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างความเข้าใจการวางแนวทาง “ปกป้องแรงงาน” ที่หางานกำลังเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ
@รูปแบบการหลอกลวงแต่ละประเทศต่างกัน
ข้อมูลได้แสดงให้เห็น
“ตำแหน่งงานด้านธุรการและสำนักงาน” (Administration & Office Support)
ยังเป็นเป้าหมายหลักของมิจฉาชีพในทุกตลาด มีสัดส่วน 29% ของจำนวนประกาศงานที่หลอกลวงทั้งหมด โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ตำแหน่งเหล่านี้จะเป็นงานระดับเริ่มต้น
“อันดับประเทศที่พบการฉ้อโกง”
ได้แก่ อันดับ 1 “อินโดนีเซีย” มากที่สุด คิดเป็น 38% จากทั่วเอเชียแปซิฟิก และ 62% จากภูมิภาคเอเชีย อันดับ
2 “ฟิลิปปินส์” มีภัยคุกคามด้านการจ้างงานถึง 20% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
● “ภาพรวมตลาดเอเชีย”
พบการหลอกลวงด้านการจ้างงานส่วนมากจะมุ่งเน้น กลุ่มที่ 1 อุตสาหกรรมการผลิต การขนส่ง และโลจิสติกส์ 16% โดยมิจฉาชีพมักฉวยโอกาสจากผู้ที่กำลังต้องการหางานอย่างเร่งด่วน
กลุ่มที่ 2 ตำแหน่งงานด้านการขาย 7%
● “ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์” หรือแปซิฟิก พบมีหลอกลวง
3.กลุ่มงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
สัดส่วน 9 % เปรียบเทียบแล้วสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียซึ่งมีเพียง
2%
● “ประเทศไทย” พบปริมาณประกาศงานหลอกลวงต่ำกว่าประเทศอื่น
ๆ โดยกระจุกตัวสูงในกลุ่มงานขาย
“เมืองไทย”
มีข้อมูลบ่งชี้ว่าปริมาณการหลอกลวงการจ้างงานโดยรวมยังอยู่ “ระดับต่ำกว่า” ตลาดอื่น
ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สะท้อนให้เห็นว่าประกาศงานทั้งหมดที่อยู่บนแพลตฟอร์ม SEEK
ของไทยมีจำนวนน้อยกว่าหากเทียบกับตลาดประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก
รวมทั้งมีรูปแบบการหลอกลวงแตกต่างออกไป
“ตำแหน่งงาน”
ในไทย ที่พบการหลอกลวงตามสัดส่วนมากไปหาน้อย ได้แก่ อันดับ 1 งานด้านการขาย สัดส่วนถึง 67% ของประกาศงานที่หลอกลวงทั้งหมด
อันดับ 2 งานด้านบัญชี 17% อันดับ 3
งานด้านสื่อ โฆษณา และศิลปะ 17%
สอดคล้องกับแนวโน้มในเอเชียแปซิฟิกที่มิจฉาชีพมักมุ่งเป้าไปยัง
“กลุ่มผู้สมัครที่กำลังมองหางานอย่างเร่งด่วน” หรือ “งานที่ให้ค่าตอบแทนค่าคอมมิชชัน”
ซึ่งทำให้ผู้สมัครกลุ่มนี้มักตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงได้ง่าย จากแรงจูงใจเรื่องรายได้ดีและได้เงินไว
“ดวงพร
พรหมอ่อน” กรรมการผู้จัดการ Jobsdb by SEEK ประเทศไทย
กล่าวว่า ประเด็นที่พบมิจฉาชีทั่วทั้งภูมิภาคนี้ได้พัฒนาเทคนิคหลอกลวงให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น
โดยปรับรูปแบบการหลอกลวงให้เข้ากับแต่ละประเทศ ตำแหน่งงาน
และภาคอุตสาหกรรมที่ผู้สมัครน่าจะมีความเปราะบางมากที่สุด ในฐานะ Jobsdb by
SEEK เป็นแพลตฟอร์มหางานชั้นนำของไทย เน้น 2 เรื่อง
เรื่องที่ 1 “ความรับผิดชอบ” การสร้างตลาดงานที่ปลอดภัยและโปร่งใสยิ่งขึ้นให้แกเมืองไทย
เรื่องที่ 2 มุ่งมั่นจะพัฒนาระบบเพื่อตรวจจับกลโกงและประกาศงานที่หลอกลวงได้อย่างชาญฉลาดขึ้น
ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ต่อนายจ้างและผู้สมัครงานเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่เป็นธรรมในการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเป็นลมาจากปัญหาเรื่องประกาศงานที่หลอกลวงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบกับตัวผู้สมัครเท่านั้น
แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อภาพรวมระบบนิเวศน์การจัดหางานด้วย
@SEEK ชูมาตรการป้องกันการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม
SEEK
ในฐานะแพลตฟอร์มหางานชั้นนำได้ดำเนินมาตรการสำคัญเพื่อป้องกันการสรรหาตำแหน่งงานที่เอาเปรียบแรงงาน
กับการใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรมในยุคปัจจุบัน ตามขั้นตอนอันเข้มข้น คือ
1.ตรวจสอบผู้ว่าจ้าง ซึ่งทีม Trust & Safety ของ SEEK
จะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อยืนยันและรับรองความน่าเชื่อถือของนายจ้าง
2.กระบวนการกรองเนื้อหาของประกาศงานต่าง ๆ ซึ่งจะใช้ระบบสแกนอัตโนมัติ กรณีที่พบความเสี่ยง
เนื้อหานั้นจะได้รับการส่งต่อไปให้ทีมผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
3.แพลตฟอร์มของ SEEK เปิดโอกาสให้ผู้สมัครสามารถรายงานประกาศงานที่น่าสงสัยโดยตรงได้ด้วยเช่นกัน
“มาตรการป้องกัน”
เหล่านี้ทำให้ SEEK สร้างผลลัพธ์โดดเด่นในปีงบประมาณ 2568 ระหว่างกรกฎาคม 2567-มิถุนายน 2568 ซึ่งระบบได้สแกนประกาศงานทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก จำนวนทั้งหมดกว่า 4.3
ล้านรายการครอบคลุม 100% ของประกาศงานทั้งหมด มี
8% จากในจำนวนดังกล่าวยังส่งต่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแบบละเอียดเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
“SEEK” มีทีม Trust & Safety ตรวจสอบอย่างเข้มข้น กระทั่งสามารถป้องกันไม่ให้ผู้จ้างงานกว่า
3,600 ราย ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นเข้าสู่แพลตฟอร์ม
รวมถึงปิดบัญชีผู้จ้างงานที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงฉ้อโกงไปกว่า 650 บัญชี และลบประกาศงานที่มีความเสี่ยงหลังตรวจสอบพบไปกว่า 2,800 รายการ แล้วมีส่วนช่วยผู้สมัครงานเกี่ยวกับประกาศงานต้องสงสัยกว่าได้อีก 22,000
รายการ ซึ่งทั้งหมดล้วน
@วิธีรับมือและตามทันกลโกงที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพเริ่มใช้เทคโนโลยี
AI เข้ามาสร้างกลโกงอย่างแนบเนียนยิ่งขึ้น และยังได้แอบอ้างชื่อ
SEEK, Jobsdb หรือ Jobstreet ติดต่อผู้สมัครงานผ่านข้อความ
SMS แอปพลิเคชันรวมถึงโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ อีกด้วย เพื่อรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ SEEK
ได้ยกระดับมาตรการและพัฒนาระบบตรวจจับการฉ้อโกงอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งปรับปรุงระบบบล็อกอัตโนมัติ กระบวนการยืนยันตัวตนเข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่าง
ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางป้องกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“SEEK” มีพันธกิจหนึ่งคือ สร้างความปลอดภัยของผู้สมัคร
โดยบริษัทได้สนับสนุนการให้ความรู้สู่สาธารณะด้วย
“ศูนย์ความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัว” (Security & Privacy
Hub) รวบรวมข้อมูลการหลอกลวงในปัจจุบัน การจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม ให้คำแนะนำในการหางานอย่างปลอดภัย
เคล็ดลับการปกป้องข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์
ผู้หางานเยี่ยมชมศูนย์ข้อมูลได้ที่ https://th.jobsdb.com/th/security-hub หรือหาข้อมูล Jobsdb by SEEK ได้ที่ Facebook: JobsdbThailandOfficialPage , https://th.jobsdb.com/ และดาวน์โหลดแอป Jobsdb
by SEEK บน Google Play Store และ App
Store

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น