ททท.โหมโปรโมทเที่ยวใต้ปลายด้ามขวานไทยเสน่ห์ชายแดน
ชูจุดขายพหุวัฒนธรรม“เมืองโบราณยะรัง-ลังกาสุกะ-ศรีวิชัย”
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #GrandJourneyDeepSouth #เที่ยวใต้ปลายด้ามขวาน
ททท.ลุยโปรโมท “เที่ยวใต้ปลายด้ามขวาน”
เปิดเส้นทางเที่ยว “เมืองโบราณยะรัง” ปัตตานี เก่าแก่เกือบ 2,000 ปี ชูอัตลักษณ์ “พหุวัฒนธรรม” ให้โลกรู้ถึงคุณค่าเส้นทางวัฒนธรรม
“ยะรัง-ลังกาสุกะ–ศรีวิชัย” โชว์เสน่ห์ใต้ผ่าน 3 แนว “ประสบการณ์ใหม่ที่มีความหมายต่ออารมณ์-สัมผัสเสียงธรรมชาติ
วิถีชีวิต ศิลปะ-เที่ยวได้ลึกซึ้งกว่าทั่วไป”
นายอรรถกร
ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทีมลงพื้นที่เมืองโบราณยะรัง
จังหวัดปัตตานี ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภาครัฐภาคเอกชน
ชุมชนท่องเที่ยว เพื่อกำหนดแนวทางบูรณาการการทำงาน
ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และยกระดับทำประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ให้แพร่หลาย
ปลุกกระแสแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพบริเวณชายแดนใต้ 3 จังหวัด แหล่งท่องเที่ยวปลายด้ามขวานของไทย โดยเฉพาะ
“เมืองโบราณยะรัง – เส้นทางวัฒนธรรมลังกาสุกะ–ศรีวิชัย” สามารถผลักดันเป็นจุดหมายปลายทางระดับนานาชาติ
ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงคุณค่าและความยั่งยืน
มติที่ประชุมเมื่อวันเสาร์ที่
8 พฤศจิกายน 2568
จึงเห็นชอบให้นำเสนอ “เมืองโบราณยะรัง”
แหล่งโบราณสถานกว่า 1,900 ปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญโดยทุกฝ่ายจะร่วมมือกันโปรโมทให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ
เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ด้วยกลยุทธ์การกิจกรรมพาสื่อมวลชนไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวหรือทำ
มีเดีย แฟม ทริป ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สร้างการรับรู้ส่งเสริมท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท.พร้อมชูจุดขาย
"เสน่ห์ใต้ หลากหลายวัฒนธรรม" เดินหน้าสร้างการท่องเที่ยวในพื้นที่แห่งนี้เติบโตอย่างยั่งยืน
สามารถกระจายรายได้สู่ชุมชน เพิ่มคุณค่าประสบการณ์ ยกระดับความเชื่อมั่น ผ่าน 3
แนวคิด คือ 1.เปิดประสบการณ์ใหม่ที่สร้างความหมายทางอารมณ์ 2.สัมผัสผ่านเสียงธรรมชาติ วิถีชีวิต และศิลปะ 3
.การเดินทางที่ลึกซึ้งกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น